วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 09:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2016, 22:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตย.ปรโตโฆสะ

อ้างคำพูด:
ใครเป็นเหมือนเราบ้าง เรียนโรงเรียนเอกชนที่นับถือศาสนาคริสต์เลยทำให้ชอบศาสนาคริสต์

บอกไว้ก่อนเลยนะคะว่า จขกท. นับถือศาสนาพุทธ (แล้วกระทู้นี้ก็ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีหรือก่อให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนาแต่อย่างใด)

เข้าเรื่องเลย ตั้งแต่ ม.1-ม.3 เราเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ แล้วก็เป็นโรงเรียนที่นับถือศาสนาคริสต์ ทางโรงเรียนจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับวันสำคัญต่างๆของทางศาสนาคริสต์ แต่ส่วนใหญ่วันสำคัญทางศาสนาพุทธทางโรงเรียนก็จัดเหมือนโรงเรียนอื่นปกตินะคะ เพราะเด็กส่วนใหญ่ที่มาเรียนโรงเรียนนี้70% เป็นคนพุทธ 20%เป็นอิสลาม อีก10%เป็นคริสต์

เรารู้สึกเหมือนโดนปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ทั้งคำสอน ทั้งเพลงต่างๆ ประวัติความเป็นมา เราชอบคำสอนของศาสนาคริสต์นะหลักความรัก ที่เขาสอนให้รักเรารักทุกคนแม้กระทั่งศัตรู รู้จักการให้อภัย ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนศาสนาแต่อย่างใด แค่รู้สึกชอบเฉยๆ เลยอยากถามว่ามีใครเป็นเหมือนเราบ้าง??


พุทธธรรมมีแยอะแยะ ผู้สอนควรหยิบหัวข้อธรรมให้เหมาะกับวัยภูมิรู้ของผู้ฟัง มิใช่เอะอะอะไรก็อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่ใช่ตัวใช่ตน ปล่อยวาง :b32:

แบบนั้นตัวขนาดนี้ไหวหรอ

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2016, 05:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตย.ปรโตโฆสะ = สภาพแวดล้อม การเลี้ยงดูช่วงเยาว์วัย มีความสำคัญต่อชีวิตมากๆ

คือ พุทธธรรมว่าด้วยเรื่องชีวิตจิตใจ นี่แหละคือพระพุทธศาสนา ละเอียดลึกซึ้งมากๆ

ยาวหน่อย แต่เห็นพุทธธรรมข้อปรโตโฆสะ โยนิโสมนสิการ (= รู้จักคิด คิดเป็น คิดถูกวิธี คิดมีเหตุผล...) ชัด



อ้างคำพูด:
นี่คือสิ่งที่อยากรู้ มากที่สุด ตลอดชีวิต 37 ปี เราอาจจะมีอายุเกือบครึ่งของชีวิต หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องแค่นี้ คิดไม่ได้หลอ แต่จริงๆสำหรับเรามันเป็นเรื่องคาใจตลอดเวลา งั้นเราจะเริ่มเรื่องเลยแล้วกัน

คือ เรามาอยู่กับยายตั้งแต่เราอายุได้ 1ขวบ แต่พี่ของเราแม่เอามาให้ยายเลี้ยงตั้งแต่แรกคลอด แล้วแม่ของเราก็ไปมีครอบครัวใหม่ ช่วงระยะเวลานั้น ระหว่างเรา 6-7ขวบ หรือก่อนหน้านั้น เราจำได้ทุกเรื่อง ซึ่งจริงๆแล้ว มันไม่น่าจะจำได้ เพราะเด็กมาก ให้หลังจากที่แม่ทิ้งเราไป ประมาณ 7 ปี แล้วแม่กลับมาพร้อมน้องต่างพ่อ 2 คน

นั้น เป็นครั้งแรกที่เราเจอแม่อีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ ยายบอกบอกแม่อาจจะเสียไปแล้ว เพราะช่วงนั้น ทางใต้มีพายุเกล์ แล้วก็ไม่มีการติดต่อจากแม่ถึงยายเลย
ส่วนครั้งแรกที่เจอแม่ในช่วงที่เรายังเด็ก แล้วในความคิดว่าแม่เสียชีวิตไปแล้ว แต่มาเจอแม่อีกที แม่มีน้องอีก 2 คน แต่เราดีใจมาก อยากไกล้แม่ อยากคุยกับแม่ แต่... มันมีอะรัยบางอย่าง กับคำพูดของแม่ แล้วทำให้เราจำได้จนทุกวันนี้

หลังจากนั้นก็ไม่เจอแม่อีกเลย แต่รู้ว่าแม่อยู่ที่ใหน จนมาเจอแม่อีกทีช่วงเราอายุ 20 ปี แต่ไม่ขอบอกแล้วกัน เพราะมันอาจจะไม่ดี เหมือนขายบุพการี จริงๆแล้วมันมี detail มากกว่านี้

ตลอดระยะจากตอนนั้นจนช่วงเข้าหัวเลี่ยวหัวต่อของชีวิต คือหลายๆคนอาจเคยเจอ แล้วมันก็กลายเป็นปมจากเล็กๆที่สะสมกลายเป็นปมใหญ่ของชีวิต บอกเลยว่าเราทำตัวไม่ดีช่วงอายุ 13 จน 15 ทำให้ยายปวดหัว ทุกข์ นะ อันนี้พึ่งมารู้ตอนโต (จริงๆแล้วเราไม่ใช่หลานรักอ่ะนะพูดเลย) แต่จนเราโตมานี้ เราเรียกยายว่าแม่ เพราะเรื่องที่ผ่านมาระหว่างเรากับยาย ตัวเราเองที่ผิด ที่คิดว่าปมที่เรามี มันใหญ่จนคิดไปเองว่าตัวเราไม่มีค่า ไม่สำคัญ . เราพูดเลยว่าเคยเกลียดแม่ เคยคิดว่าทำไมแม่ไม่ตายไปจริงๆ เหมือนที่ยายเคยบอก (หลังจากมีคำพูดบางคำจากแม่ที่พึ่งเจอกันครั้งแรก)

นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี ที่คิดแล้วอคติกับแม่แบบนั้น พึ่งมาคิดได้ตอนเรามีลูก ว่ามันบาปมากที่คิดแบบนั้นๆ พอยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งคิดได้ ในใจให้อภัยแม่แล้ว คิดได้ว่า ทุกคนย่อมพยายามเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้ชีวิตตัวเอง เราโตมาขนาดนี้

ล่าสุดที่คุยกับแม่ และเคยพูดว่ารักแม่นะ บอกตรงๆเลย ว่านั้นเป็นคำที่อยากให้แม่ได้ยินแล้วรู้สึกดี แต่ขอพูดแบบไม่โกหก คือเราไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เราไม่ได้รักแม่ เรารักยาย ยายเป็นที่สุดของความรัก ความผูกพันธ์ ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่า ทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอง ขอเข้าคำถามกับสิ่งที่อยากรู้มานานมาก

คือ 1. เรารักยายมาก ในความคิดยายคือแม่ ศาสนาพุทธ คือคุณต้องตอบแทน บุพการี ชีวิตคุณถึงเจริญ รุ่งเรือง แต่เราดูแลยาย เรารักยาย ยายคือแม่ แล้วแม่เราเค้าก็ไม่ได้อยู่ไกล้ หรือ ทำให้เรามีโอกาสทำสิ่งๆนั้นเลย แล้วเราจะตกนรกมั้ย นี่คือคำถามที่ serious มาก

2. เราโกหกแม่ ว่าเรารักเค้า เพราะเราแค่อยากให้แม่รู้สึกดี ไม่ต้องรู้สึกผิดกับเรา (อันนี้เราคิดเองว่าแม่อาจจะรู้สึกแบบนั้น) เราบาปมากมั้ยที่โกหกกับแม่แบบนั้น

3. ทุกปีไม่ว่าวันเกิดเรา สงกรานต์ เราจะลดน้ำยาย ล้างเท้าให้ยาย ยายก็จะให้พร อันนี้เราอยากทำ แต่ถ้าเป็นไปได้อยากทำให้แม่ด้วย อยากขออโหสิกรรม ที่เคยคิดไม่ดีกับแม่ คือ เราจะเข้าข่ายเนรคุณ กับบุพการีมั้ย ที่ไม่ทำกับแม่แต่มาทำกับยาย เราจะเป็นคนบาปหรือเปล่า เราต้องตกนรกใช่มั้ย .

สำหรับใครหลายคนนี่อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะคิดยาก แต่เมื่อไหร่ ที่คุณมาอยู่ตรงที่เราเป็น คุณจะรู้ว่า มันไม่ง่ายเลยจริงๆ เหมือนเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต คุณผ่านอะไรมาได้ร้อยแปด แต่เรื่องแบบนี้ มันทำให้คุณต้องหยุด เพราะมันเป็นทางแยกที่คุณ ตัดสินใจเองไม่ได้เลย..


http://pantip.com/topic/35023595

คนมัวแต่คิดมองแต่นรกข้างนอก นรกในใจปมในใจมองไม่ออกแก้ไม่ได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2016, 06:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ขอบคุณทั้งสองท่านข้างบนที่แสดงความคิดเห็น

ยังมีอีก รอฟัง กบ เช่นนั้น อโศกะ ลุงหมาน ด้วย :b20:

:b8:
คุณกรัชกายก้าวหน้าไปในการเผยแพร่ธรรมเยอะมาก ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
smiley
2 ภาพแรกเป็นธรรมะขั้นพื้นฐานเรื่องทาน เรื่องการอบรมสั่งสอนเด็กเยาวชนให้เข้าหาและเข้าถึงศาสนา เป็นเรื่องมงคลด้วย ข้อการได้เห็นสมณะ เป็นเรื่องปริยัติศึกษาด้วยเพราะเห็นเด็กทำท่าถามพระ ฯลฯ
s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2016, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในเพศใดภาวะใด การกระทำที่นึกขึ้นภายหลัง แล้วต้องเสียใจนั้นควรเว้นเสีย เพราะฉะนั้น แม้จะประสบความทุกข์ยากลำบากสักปานใด ก็ต้องไม่ทิ้งธรรม มนุษย์ที่ยังมีอาสวะอยู่ในใจนั้น ย่อมจะมีวันพลั้งเผลอประพฤติผิดธรรมไปบ้าง เพราะยังมีสติไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อได้สติภายหลังแล้ว ก็ต้องตั้งใจประพฤติธรรมสั่งสมความดีกันใหม่..."

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2016, 18:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จากคนร่าเริงอารมณ์ดีสนุกสนาน เมื่ออยู่ในท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ทางธรรมเรียกว่า ปรโตโฆสะที่ไม่ดี จิตใจจึงเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมเช่นนั้นๆ

อ้างคำพูด:
ทางบ้านไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน
แต่จะมีปัญหาเรื่องการกระทบกระทั่งเสมอ กับแม่ของสามีที่รักลูกชายเขามาก
เมื่อมีเรื่องอะไร แม่สามีก็จะด่าว่าพี่สาวด้วยคำเหน็บแนม และเห็นว่าลูกของเขาทำถูกเสมอ

สามีเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเผด็จการ และจะตัดสินใจทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องลูก เรื่องอื่นๆ
โดยไม่รับฟังความเห็นของคนอื่น และหากมีปัญหาผิดพลาด
มักจะโทษว่าเป็นความผิดของพี่สาวเสมอๆ โดยมีแม่สามีคอยกล่าวย้ำซ้ำเติม

พี่สาวจึงต้องทนอยู่ในความกดดันแบบนี้มาตลอด 15 ปี
ที่อยู่ได้ก็เพียงเพราะความรักที่มีต่อลูกทั้งสองคน

เมื่อก่อนที่จะแต่งงาน พี่สาวจะเป็นคนที่ชอบทำทาน
ใจเย็น เป็นคนไม่พูดคำหยาบเลย อารมณ์ดีสนุกสนาน
สนใจธรรมะในด้านการทำทาน รักษาศีลบ้าง

หลังจากแต่งงานมาหลายปี พี่เปลี่ยนเป็นคนซึมเศร้าง่าย
นานทีบางครั้งก็ใจร้อนเกรี้ยวกราด
แล้วก็จะมารู้สึกผิดเสียใจกับการกระทำที่ทำลงไปเสมอ
เวลาที่มีเหตุการณ์อะไรที่มีความผิดพลาด
ก็มักจะชอบคิดอยู่คนเดียวว่าความผิดพลาดมาจากตนเอง
เริ่มเป็นคนท้อแท้ง่าย แต่ไม่ได้ถึงกับเป็นคนซึมเศร้า

เพราะก็ยังทำงานต่างๆ ได้ และดูแลเลี้ยงลูกได้ปกติไม่บกพร่อง
แต่อาจเป็นคนเก็บตัวมากขึ้นจากที่เคยร่าเริง

หากเมื่อกลับมาบ้านก็จะมีแต่ความหดหู่ ร้องไห้ง่ายๆ กับเรื่องราวเล็กน้อย
แต่ภายนอกที่แสดงออกกับคนอื่น จะเหมือนดูเข้มแข็ง

หลังๆ ดิฉันต้องคุยกันเกือบทุกวันเพราะเป็นห่วงจิตใจ
จะชวนให้ไปปฏิบัติธรรมก็เป็นไปได้ยากเพราะมีลูกยังติดอยู่สองคน
ดิฉันเองก็อยู่ห่างไกลและมักจะใช้เวลาอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ ก็ไม่สะดวก

ปัจจุบันพี่ก็ใช้การอ่านหนังสือธรรมะเล็กน้อยบ้างก่อนนอน
แต่บางครั้ง พออ่านไปบางเรื่องเช่นกฏแห่งกรรม
แกก็มักจะรู้สึกผิดขึ้นมาอีกว่า ที่มาเจอแบบนี้ก็คงเพราะตนเองทำกรรมไว้มาก

http://pantip.com/topic/35049746

ฟังนิทานชาดกเรื่องนกแขกเต้าสองพี่น้องประกอบความเข้าใจ

https://www.youtube.com/watch?v=p1Xwo5yq_X0

ตัวพี่อยู่กับฤาษี ตัวน้องอยู่กับโจร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 159 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร