ระยะนี้ (อนาคตจะชุกกว่านี้) มีคนนอกพุทธศาสนา แปลงกายเป็นพระเณรในพระพุทธศาสนากันรัวถี่ๆ ยิ่งมีการรณรงค์บรรจุพระพุทธศาสนาในรัฐธรรมนูญด้วยรัวๆเลย (เพื่ออะไร? คิดสิคิดเอง)

เมื่อไม่นานก็มีข่าวจับคนภาคใต้นอกศาสนา แต่งตัวเป็นพระนั่งดื่มของเมากันแล้วถ่ายคลิปแพร่กันเอง

ลงด่าในเฟสบุ๊ค คือ มีคนแต่งกายแบบพระนั่งเลือกรองเท้าซ้นสูงกันอยู่

กับที่นี่บนรถไฟฟ้า (ไม่ชัดว่าในไทยป่าว)

https://www.facebook.com/93578672984990 ... =3&theater

ระยะนี้ (อนาคตจะชุกกว่านี้) มีคนนอกพุทธศาสนา แปลงกายเป็นพระเณรในพระพุทธศาสนากันรัวถี่ๆ ยิ่งมีการรณรงค์บรรจุพระพุทธศาสนาในรัฐธรรมนูญด้วยรัวๆเลย (เพื่ออะไร? คิดสิคิดเอง)

เมื่อไม่นานก็มีข่าวจับคนภาคใต้นอกศาสนา แต่งตัวเป็นพระนั่งดื่มของเมากันแล้วถ่ายคลิปแพร่กันเอง

ลงด่าในเฟสบุ๊ค คือ มีคนแต่งกายแบบพระนั่งเลือกรองเท้าซ้นสูงกันอยู่

กับที่นี่บนรถไฟฟ้า (ไม่ชัดว่าในไทยป่าว)

https://www.facebook.com/93578672984990 ... =3&theater

ระยะนี้ (อนาคตจะชุกกว่านี้) มีคนนอกพุทธศาสนา แปลงกายเป็นพระเณรในพระพุทธศาสนากันรัวถี่ๆ ยิ่งมีการรณรงค์บรรจุพระพุทธศาสนาในรัฐธรรมนูญด้วยรัวๆเลย (เพื่ออะไร? คิดสิคิดเอง)

เมื่อไม่นานก็มีข่าวจับคนภาคใต้นอกศาสนา แต่งตัวเป็นพระนั่งดื่มของเมากันแล้วถ่ายคลิปแพร่กันเอง

ลงด่าในเฟสบุ๊ค คือ มีคนแต่งกายแบบพระนั่งเลือกรองเท้าซ้นสูงกันอยู่
กับที่นี่บนรถไฟฟ้า (ไม่ชัดว่าในไทยป่าว)

คุณถามเขาหรือยังว่าที่เขาแต่งตัวอย่างนั้นมีจุดประสงค์อะไร
ถ้าเขาตอบว่า แต่งเป็นแฟชั่น แบบนี้จะไปว่าเขาแปลงกายเป็นพระเณรได้อย่างไร

แล้วเรื่องการจะบรรจุอะไรเข้าไปในรัฐธรรมนูญ ถ้าทำให้เกิดความแตกแยก
หรือแม้แต่รู้ก่อนว่าอนาคตต้องเกิดปัญหาแน่ๆ....ผมว่าคณะร่างฯคงไม่บ้าจี้มั้งครับ



ประเด็นคือพวกนั้นใช่พระหรือเปล่า ไม่ใช่เพียงแค่แต่งตัวคล้ายพระแล้วก็หยิบเอามาเป็นประเด็น
แบบนี้ผมว่า ประเทศไทยคงไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ

คนมันอาศัยผ้าเหลืองกระทำไม่ดี ย่อมไม่ใช่พระอยู่แล้ว ถ้าจะเอากหมายมาจัดการ
มันต้องไปแก้ไขกฎหมายอาญา ไม่ใช่ไปแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ......มันคนละเรื่องครับ



ตัวเองยังไม่รู้ชัดว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า ยังเอามาพูดเสียเป็นตุเป็นตะ
เอากันถึงขนาดต้องไปวุ่นวายกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ
แบบนี้ผมว่า อีกหน่อยกฎหมายรัฐธรรมนูญ คงต้องมีมาตราเป็นหมื่นๆข้อกระมัง

แล้วโฮฮับว่า รถไฟในประเทศไทยมั้ย

ใช่/ไม่ใช่

มันไม่ใช่รถไฟ ลักษณะมันเป็นรถไฟฟ้า และที่สำคัญไม่ใช่รถไฟฟ้าของไทย
เอาเป็นว่ามันจะใช่หรือไม่ ไม่สำคัญประเด็นมันอยู่ที่ตัวคนแต่งกาย ใช่พระหรือไม่

ฉะนั้นควรจะเปลี่ยนคำถามใหม่ว่า ภาพที่เห็นใช่พระสงฆ์หรือไม่และเป็นสงฆ์สายเถรวาทไทยมั้ย
นิสัยคนไทยเรามักจะสอดส่ายหาสิ่งที่เอามาเป็นประเด็นด่าเพื่อความสะใจ
ด่าต่างชาติไม่ได้ก็คนไทยด้วยกัน ช่วงนี้ไม่มีนักการเมืองให้ด่า ก็ตั้งหน้าตั้งตาหาเรื่องจับผิดศาสนา
เป็นเช่นนี้แล้วเห็นข่าวอะไรในอินเตอร์เน็ท จะต้องพินิจพิจารณาให้รอบคอบ

รูปที่จขกทไปแชร์มาก็เช่นกัน มองอย่างไรก็ไม่ใช่พระสงฆ์สายเถรวาทไทย
การครองผ้าก็ไม่ใช่......เมื่อไม่ใช่ก็อย่าเอามาเป็นประเด็น ผมรู้สึกอายแทนคนไทยด้วยกัน

(มุมมองของคนเราต่างกัน เรียกต่างจิตต่างใจ มองลึกลงไป ก็เป็นการเข้าใจพุทธธรรมด้วย)

ประเด็นที่หนึ่ง โฮฮับยืนยันว่ารถไฟฟ้าไม่ใช่ประเทศไทย ก็แสดงว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เกิดที่ประเทศไทยนะ (โฮฮับดูตรงไหนว่าไม่ใช่รถไฟฟ้าในประเทศไทย)

"แต่งกายเลียนแบบ" นี่บอกแต่ต้นว่า เคยมีข่าวที่ภาคใต้ คนมุสลิ่มแต่งตัวเลียนแบบพระ (ไม่ใช่พระแต่นุ่งห่มเลียนแบบ) นั่งเหล้าดื่มเบียร์ แล้วถ่ายคลิปแพร่กันเอง
เขาทำเพื่ออะไร ? ให้มองในแง่นี้ ทำเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา (เข้าใจนะ )
ทำเพื่อทำลายศรัทธาของพุทธศาสนิกชน คือคนพุทธที่พบเห็น ให้หมดศรัทธาให้เสื่อมศรัทธาต่อพระภิกษุ ต่อพระพุทธศาสนา (ประเด็นนี่แหละสำคัญ)

นอกนั้นเป็นการรำพันส่วนตัว ผ่านไป

ก็ใช่ไงมุมมองเราคนมันต่างกัน การที่จะหยิบยกเอาการกระทำของคนอื่น มาชี้ถูกผิดตามใจตนเองมันถูกแล้วหรือ........

ถ้ากรัชกายเข้าใจคำว่า"มุมมองคนต่างกัน" ก็คงไม่เจตนาตั้งกระทู้จับผิดคนอื่นแบบนี้หรอก

ปัญหาหญ้าปากคอก รถไฟฟ้าของไทยมีเฉพาะในกรุงเทพ
ผมถามหน่อย ถ้าขืนมีคนแต่งกายแบบนั้นขึ้นรถไฟฟ้า ชาวบ้านเขาจะปล่อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือ
ผมว่าไม่คางเหลืองก็ถูกเชิญไปโรงพักแล้ว

ถามหน่อยมันประเด็นเดียวกันมั้ย เอารูปบนรถไฟฟ้ามาโพส แต่ดันโยงไปเรื่องภาคใต้มุสลิม

ขนาดเรื่องภาคใต้ยังรู้ว่าเขาเจตนาทำลายพุทธศาสนา
แล้วทำไมแค่เครื่องแต่งกายถึงไม่รู้จักแยกแยะ

ถ้าเขาเอาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ มาวิจารณ์ในแง่ลบก็ว่าไปอย่าง

แต่นี้มันเป็นเรื่องของคน มันห้ามกันไม่ได้.....เรื่องของคนก็ของคน
เรื่องพระธรรมคำสอนก็เป็นเรื่องพระธรรม อย่าเอาไปผสมปนเปกันจะทำให้ตัวไม่มีความสุข

ก็ใช่ไงมุมมองเราคนมันต่างกัน การที่จะหยิบยกเอาการกระทำของคนอื่น มาชี้ถูกผิดตามใจตนเองมันถูกแล้วหรือ........

ถ้ากรัชกายเข้าใจคำว่า"มุมมองคนต่างกัน" ก็คงไม่เจตนาตั้งกระทู้จับผิดคนอื่นแบบนี้หรอก

"จับผิดคนอื่น" คิกๆๆ นี่คือมุมมองต่างกัน มุมของกรัชกาย คือ จะบอกว่า ปัจจุบันมีคน แต่งตัวเลียนแบบภิกษุไปทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่พระศาสนาอยู่มาก

โลกสวยจัง นี่ก็มุมมองต่างกัน ในกทม.นี่แหละ มีคนปลอมเป็นพระเข้ามาบิณฑบาตยืนเก้ๆกังๆบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้า เป็นต้น บ้าง

โฮฮับ ผู้นับถือมุสลิม มีอยุ่ทุกภาคของประเทศไทย บนยอดดอยยังมีเลย (นั่นก็เรื่องของเขา) แต่บอกว่า เคยมีคนมุสลิม แต่งตัวเป็นภิกษุดื่มเหล้าดื่มเบียร์ ทำลายภาพลักษณ์ของภิกษุของพระพุทธศาสนา
ก็เขารู้จักแยกแยะไง ถึงรู้ว่า แต่งตัวเลียนแบบ เช่นใส่รองเท้า เป็นต้น

ดูเหมือนกรัชกายเคยว่า ว่าคนอย่างโฮฮับนี่แหละรักษาศาสนาไว้ไม่ได้
ศาสนาต้องประกอบด้วย วัตถุคือวัดวาอารามโบสถ์วิหาร (ศาสนวัตถุ)
บุคคล เช่น พระภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา (ศาสนบุคคล)
คำสอนของพระศาสดา (ศาสนธรรม คำสอน)
บุคคลนี่แหละสำคัญ ถ้าไร้บุคคลสืบทอดกันเป็นรุ่นต่อรุ่นมาอย่างนี้ พระพุทธศาสนาคงไม่ยืนยาวมาจนป่านนี้หรอก จริงไม่จริง
ดังนั้น บุคคลนี่สำคัญนะจ๊ะ