การทำให้ใจยอมรับสภาพนั้น

หากเป็นแนวทางการแก้ปัญหาทางพุทธศาสนาแล้วจะเห็นได้ว่า มีแนวทางแก้ไขปัญหา3ทางคือ

1 ศีล

2 สมาธิ

3 ปัญญา

ในกรณีเช่นนี้ แก้ไขได้ด้วยแนวทางด้านปัญญาครับ

คือการเห็นว่าทุกข์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นของจริง เป็นสัจธรรม

ร่างกายเราก็ไม่เที่ยง วันนี้ป่วย เดือนหน้าดีขึ้น เดือนถัดไปเป็นอีกแล้ว เพราะร่างกายไม่เที่ยง
เพราะถ้าเที่ยง มันต้องไม่เจ็บ ไม่ป่วย

และร่างกายก็เป็นอนัตตา บังคับไม่ได้ บังคับ หรืออกคำสั่งไม่ให้เจ็บให้ป่วยก็ไม่ได้ บังคับอะไรไม่ได้เลยเพราะร่างกายแท้จริงแล้วไม่ใช่ของใคร เราไปยึดเอาเองว่าร่างกายเรา

ตามหลักของพระไตรลักษณ์ครับ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา หรือ วิปัสสนาปัญญานั่นเอง

เราเรา..ต้องตาย..แน่นอน..ทุกคน

คนป่วยกระเซาะกระแซะ...หรือคนที่แข็งแรง...ก็ต้องตายกันทุกคน

นี้แหละ....การเกิด..มีร่างกาย...เป็นอย่างนี้กันทุกคน

รำคาญ..เป็นทุกข์ใจ...มั้ยละ??

ตอนนี้..แก้ไขอะไรไม่ได้...เพราะเกิดมาแล้ว...

แต่คราวหน้า..แก้ได้..คือ...ไม่ให้มีอาการอย่างนี้อีกได้...โดยตั้งใจทำตามพระองค์สอน

ตอนนี้..แก้ไม่ได้ก็จริง...แต่บรรเทาได้..นะครับ

ไอ้ร่างกายนี้มันก็แปลก..นะครับ...เอาใจมันมาก..มันกลับชอบเล่นแง่อ่อนแอขี้อ้อน

แต่กับคนที่ทำใจตายได้...เพราะเขารู้ว่าอะไรตาย..อะไรไม่ตาย..ไอ้ร่างกายนี้กลับแข็งแรง..

อันวัฏฏะสงสารมีความหมุนเวียนด้วยการเริ่มต้นตั้งอยู่ และดับไปเช่นเดียวกันกับทุกสรรพสิ่งในโลกที่ไม่มีสิ่งใดๆเลยจะคงอยู่ในสภาพเดียวอย่างเดิมได้..ความเสื่อมอันเกิดขึ้นตามมาจากการเกิดเป็นเรื่องที่ไม่มีสิ่งใดห้ามไม่ให้เป็นได้มันต้องเป็นไปอย่างนั้นหากท่านมีร่างกายอันเจ็บป่วยเพราะความที่สังขารล่วงไปเพราะความเสื่อมแห่งวัย กิจการงานต่างๆของกาดำรงชีวิตย่อมยากขึ้น หากเราวางภาระนั้นลงเสียโดยคิดว่าเรากำลังเปลี่ยนร่างกายอันหยาบหากำลังมิได้นี้ให้เป็นของละเอียดขึ้นด้วยการกระทำปัญญาให้แจ้งรู้ถึงความไม่อยู่ในวังวนแห่งวัฏฏะนี้..ย่อมมีประโยชน์กว่าการเป็นทุกข์กับสิ่งที่ไม่มีทางหลีกพ้น ก็จะทำให้ท่านได้มองไปข้างหน้าหรือก็คือความไม่ประมาทในภพหน้า.. อันเป็นการพิจารณาธรรมที่เป็นการสร้างปัญญาให้กับท่านเอง..

กฎไตรลักษณ์ สรรพสิ่งล้วน เป็นทุกข์ เปลี่ยนแปลงไม่คงทน ไม่ควรยึดมั่นหมายมั่น