ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=51435 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | idea [ 16 พ.ย. 2015, 19:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
![]() เขาพูดกันว่า..น้อยคนนักจะทำได้ ถ้าหากไม่มีครูบาอ.แนะนำใกล้ชิด ใครมีประสบการณ์หรือความรู้ในด้านนี้..ชวนคุยหน่อยจิ.. ![]() ![]() จากคำสอนพระพุทธเจ้ามีละเอียดใหม ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 17 พ.ย. 2015, 05:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
![]() ผมเคยรู้เรื่องพระที่ทำกสิณดิน หรือปฐวีกสิณ ท่านอยู่ที่เมืองต้างยานประเทศเมียนม่าตอนเหนือ หรือเมืองไทยใหญ่ ท่านก็เอาดินมาปั้นเป็นก้อนอย่างที่มีแนะนำในตำรานั่นแหละแล้วเพ่งพร้อมบริกรรมตามภาษาของท่าน จนได้ฌาณและผลของฌาณจากกสิณดิน โดยท่านสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆที่ฝังอยู่ในดินลึกตั้ง หลายเมตร แต่ภายหลังท่านกลับมาเรียนและเจริญปัญญาวิปัสสนาตามแบบของเจ้ามาวหลวงและบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในเวลาไม่นาน (เจ้ามาวหลวงเป็นฆราวาสสอนธรรมที่มีชื่อเสียงมากในเมืองต้างยาน) ท่านมรณะแล้ว พอเผาเสร็จปั๊บกระดูกของท่านกลายเป็นอัฐิธาตุทันที น่าอัศจรรย์ใจและน่าอนุโมทนาสาธุ อยากรู้เรื่องนี้โดยละเอียดให้ไปค้นหาและพบปะกับท่านอาจารย์ อริยะวังโส (ไทยใหญ่) ท่านไปๆมาๆระหว่างประเทศเมียนม่า ท่าขี้เหล็ก กับบ้านหาดชมพู ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ครับ ![]() |
เจ้าของ: | idea [ 17 พ.ย. 2015, 08:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
ขอบคุณค่ะ..คุณอโศกะ ![]() ![]() คือ..ไอเดียแค่คิดอยู่ว่า ทางกสิณนี่ก็น่าจะเจริญปัญญาได้นะ ![]() ![]() ![]() เพิ่งตั้งกระทู้..ก็พอดีเป๊ะอีกละ ![]() เมื่อใกล้รุ่ง..ฝัน.. ![]() ![]() ถึงหลวงปู่เปลี่ยน วัดอรัญญวิเวก แม่แตง ![]() ท่ามกลางป่าสักเหมือนๆในวัดท่านแหละ ท่านเดินมาทางที่เรายืนอยู่และทรุดนั่งตรงขอบฟุตบาตเป็นปูนนะ เราจึงนั่งไหว้กับพื้น...คำถามคำตอบประมาณว่า... "หนูขออนุญาติถามหน่อยได้ใหมคะ" "เอ้า ว่ามาสิ" {ท่านดูสูงอายุแต่ยังไม่แก่เท่าปัจจุบัน ยิ้มแย้มดูมีเมตตามาก}... "กสิณไฟ ทำยากมั้ยคะ" "ตั้งใจทำจริงๆแล้วเหรอ" .........มันไม่เหมือนเป็นแค่ความฝันอ่ะ เหมือนได้ไปคุยกับท่านซึ่งหน้าจริงๆ...... และสะดุ้งเลยกับคำนี้ ![]() เราก็ถามไปอีกว่า "แล้วควรจะเริ่มทำยังไง หนูจะทำได้ดีมีอุปสรรคยังไงใหม" ท่านทำหน้านิ่งเหมือนคิดอะไร "................."ตอบเป็นประโยคยาว ได้ยินเสียงแต่จับใจความไม่ได้ "คะ" เราทวนแต่ท่านยิ้มๆกว้าง....พูดไปยิ้มไป..เหมือนพูดเล่นๆ แต่ประโยคยาวกว่าเดิม...ซึ่งได้ยินเสียงแต่จับใจความไม่ได้อีกแหละ "แล้วเวลาจะลาก็จะต้องมาที่นี่..............................." ได้ยินแค่นี้อ่ะ ก็พยายามจะถามนะ"อะไรนะคะๆๆ" ท่านก็ยิ้มแล้วลุกเดินหายไป แว๊บเดียวเราก็มาอยู่ริมน้ำ คนมากมายเล่นจุดพุสวยงามมาก ทั้งพุใหญ่ๆแตกบนท้องฟ้า ทั้งโยนแตกระดับบนศรีษะ ทั้งจุดแล้วพุ่งข้ามน้ำไปแตกเป็นพุ ทั้งสวยสุดเป็นพุแบบ..ลายผีเสื้อบินติดกันเป็นกลุ่มเป็นสายสีสวยๆ จะบินระดับลำตัวผ่านไปสวยงามมากๆ จุดกันเล่นแบบโยนไปโยนมาแบบไม่เหมือนจะเกิดอันตรายได้อย่างนั้นแหละ เป็นพุแบบไม่น่ากลัว..เป็นไฟแบบไม่ร้อน |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 17 พ.ย. 2015, 08:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
แฮ่ม...ฝันดี... |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 17 พ.ย. 2015, 16:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
idea เขียน: Kiss เขาพูดกันว่า..น้อยคนนักจะทำได้ ถ้าหากไม่มีครูบาอ.แนะนำใกล้ชิด ใครมีประสบการณ์หรือความรู้ในด้านนี้..ชวนคุยหน่อยจิ.. ![]() ![]() จากคำสอนพระพุทธเจ้ามีละเอียดใหม ![]() พระพุทธองค์ ไม่สอน การทำวงกสิณต่างๆ สิ่งที่พระองค์สอน มีสรุปในมหาสติปัฏฐานสูตร กสิณอื่นใดนอกจากที่ปรากฏในมหาสติปัฐฐานสูตร ไม่มีประโยชน์ต่อการพ้นทุกข์เลย ศึกษาการปฏิบัตินอกพระศาสนา นอกพระธรรมพระวินัย ย่อมไม่มี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ เสียเวลาเปล่าครับ อายุคนเรามีน้อยนิด .... จะมัวหลงเก็บดอกไม้ริมทางไปใย |
เจ้าของ: | idea [ 17 พ.ย. 2015, 18:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
อ้างคำพูด: . พระพุทธองค์ ไม่สอน การทำวงกสิณต่างๆ สิ่งที่พระองค์สอน มีสรุปในมหาสติปัฏฐานสูตร กสิณอื่นใดนอกจากที่ปรากฏในมหาสติปัฐฐานสูตร ไม่มีประโยชน์ต่อการพ้นทุกข์เลย ศึกษาการปฏิบัตินอกพระศาสนา นอกพระธรรมพระวินัย ย่อมไม่มี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ เสียเวลาเปล่าครับ อายุคนเรามีน้อยนิด .... จะมัวหลงเก็บดอกไม้ริมทางไปใย ![]() เตือนหลายรอบละ..แหะๆ ![]() ![]() ขอโทษค่ะที่ยังดื้อ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 18 พ.ย. 2015, 03:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
พิจารณาดูพระสูตรนี้ : เรื่องราวเกิดที่ กรุงสาวัตถี เรื่อง พระพาหิยะทูลขอพระพุทธองค์แสดงธรรมแต่ย่อๆ ก่อนที่จะออกไปอยู่ผู้เดียว เป็นผู้ไม่ประมาท เพียรเผากิเลส มีตนส่งไปในแนวธรรมนั้น ครับ Quote Tipitaka: [๗๔๗] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น ท่านพระพาหิยะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อแก่ ข้าพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์ได้ฟังแล้ว จะพึงเป็นผู้หลีกออกจากหมู่ อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความ เพียร มีใจเด็ดเดี่ยวเถิด พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพาหิยะ เพราะฉะนั้น เธอจงชำระเบื้องต้นในกุศลธรรมให้บริสุทธิ์เสียก่อน ก็อะไรเป็นเบื้องต้นของกุศลธรรม คือศีลที่บริสุทธิ์ดี และความเห็นอันตรง. [๗๔๘] ดูกรพาหิยะ เมื่อใดแล ศีลของเธอจักบริสุทธิ์ดี และความเห็นของเธอจักตรง เมื่อนั้น เธอพึงอาศัยศีล ตั้งมั่นในศีล แล้วเจริญสติปัฏฐาน ๔ สติปัฏฐาน ๔ เป็นไฉน? ดูกรพาหิยะ เธอจงพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ... พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ... พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสใน โลกเสีย เมื่อใด เธออาศัยศีล ตั้งมั่นอยู่ในศีลแล้ว จักเจริญสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้ อย่างนี้ เมื่อนั้น เธอพึงหวังความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายได้ทีเดียว ตลอดราตรีหรือวันที่จักมาถึง ไม่มี ความเสื่อมเลย. [๗๔๙] ครั้งนั้น ท่านพระพาหิยะชื่นชม อนุโมทนา ภาษิตของพระผู้มีพระภาค แล้วลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค กระทำประทักษิณแล้วหลีกไป ท่านพระพาหิยะ หลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ไม่นานนักก็กระทำให้แจ้ง ซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยม ที่กุลบุตรทั้งหลายออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี และท่านพระพาหิยะเป็นพระอรหันต์องค์ หนึ่งในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลาย. |
เจ้าของ: | idea [ 18 พ.ย. 2015, 04:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
อ้างคำพูด: [๗๔๗] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น ท่านพระพาหิยะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อแก่ ข้าพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์ได้ฟังแล้ว จะพึงเป็นผู้หลีกออกจากหมู่ อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความ เพียร มีใจเด็ดเดี่ยวเถิด พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพาหิยะ เพราะฉะนั้น เธอจงชำระเบื้องต้นในกุศลธรรมให้บริสุทธิ์เสียก่อน ก็อะไรเป็นเบื้องต้นของกุศลธรรม คือศีลที่บริสุทธิ์ดี และความเห็นอันตรง. [๗๔๘] ดูกรพาหิยะ เมื่อใดแล ศีลของเธอจักบริสุทธิ์ดี และความเห็นของเธอจักตรง เมื่อนั้น เธอพึงอาศัยศีล ตั้งมั่นในศีล แล้วเจริญสติปัฏฐาน ๔ สติปัฏฐาน ๔ เป็นไฉน? ดูกรพาหิยะ เธอจงพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ... พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ... พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสใน โลกเสีย เมื่อใด เธออาศัยศีล ตั้งมั่นอยู่ในศีลแล้ว จักเจริญสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้ อย่างนี้ เมื่อนั้น เธอพึงหวังความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายได้ทีเดียว ตลอดราตรีหรือวันที่จักมาถึง ไม่มี ความเสื่อมเลย. [๗๔๙] ครั้งนั้น ท่านพระพาหิยะชื่นชม อนุโมทนา ภาษิตของพระผู้มีพระภาค แล้วลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค กระทำประทักษิณแล้วหลีกไป ท่านพระพาหิยะ หลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ไม่นานนักก็กระทำให้แจ้ง ซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยม ที่กุลบุตรทั้งหลายออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี และท่านพระพาหิยะเป็นพระอรหันต์องค์ หนึ่งในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลาย. ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 18 พ.ย. 2015, 17:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
![]() ความว่า กสิณนั้นถ้าไม่มองในมุมลบด้านเดียวเราก็อาจใช้กสิณให้เป็นประโยชน์ทำให้บรรลุธรรมได้เร็วเสียอีก กสิณ ไม่ได้หมายความแค่การเพ่งดิน เพ่งน้ำ เพ่งลม เพ่งไฟ เท่านั้น สมัยผมเริ่มเรียนปฏิบัติกรรมฐานใหม่ๆได้มีโอกาสไปสอบอารมณ์กับหลวงพ่อครูบาอินทจักร์แห่งวัดน้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 1 ครั้ง ผมกราบเรียนหลวงพ่อว่า ผมได้แต่บริกรรมปวดหนอๆๆๆๆอยู่แทบทุกวันเพราะมันมีแต่ความเจ็บปวดในหัว หลวงพ่อบอกว่าเออ ได้เวทนากสิณ (เพราะจิตไปติดอยู่กับเรื่องความปวดหรือ ทุกขเวทนาอยู่ตลอดเวลา มากกว่าเรื่องอื่น) ในการทำภาวนาถ้าจิตใจและสติไปผูกแน่นอยู่กับอารมณ์ใด ก็เรียกอารมณ์นั้นเป็นกสิณก็ได้ กสิณมันดีอย่างไร มันดีตรงที่อารมณ์นั้นจะชัดขึ้นๆ จนชัดมาก จนขยายได้ ย่อได้ ทำให้เกิดขึ้นมาได้ ทำให้หายไปได้ ถ้าเป็นทุกขสัจจะ ทุกข์นั้นก็จะชัดมากชัดแรงจนอาจทำให้เกิดความกลัวทุกข์ เห็นภัยในทุกข์ เบื่อหน่ายในทุกข์ ดิ้นรนที่จะพ้นทุกข์นั้นอย่างแรงกล้า จึงส่งให้หลุดพ้นไปได้ด้วยความเห็นทุกขังชัด ออกสู่นิพพานได้ด้วยประตูทุกขัง อัปปนิหิตตนิพพาน ![]() |
เจ้าของ: | idea [ 18 พ.ย. 2015, 19:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
อ้างคำพูด: . กสิณมันดีอย่างไร มันดีตรงที่อารมณ์นั้นจะชัดขึ้นๆ จนชัดมาก จนขยายได้ ย่อได้ ทำให้เกิดขึ้นมาได้ ทำให้หายไปได้ ถ้าเป็นทุกขสัจจะ ทุกข์นั้นก็จะชัดมากชัดแรงจนอาจทำให้เกิดความกลัวทุกข์ เห็นภัยในทุกข์ เบื่อหน่ายในทุกข์ ดิ้นรนที่จะพ้นทุกข์นั้นอย่างแรงกล้า จึงส่งให้หลุดพ้นไปได้ด้วยความเห็นทุกขังชัด ออกสู่นิพพานได้ด้วยประตูทุกขัง อัปปนิหิตตนิพพาน ![]() ก็มีเรื่องขำๆประมาณนี้มาเล่าสู่กันฟัง ก่อนที่จะตั้งกระทู้นี้มีทดลอง ![]() ก็ว่าจะลองนั่งเพ่งกสิณดูสักหน่อย.. จะตั้งอารมณ์ไว้ให้อยู่กับภาพกสิณอย่างเดียว ![]() ![]() แต่ไหงมันก็คอยแต่พิจารณาลงทุกขัง..อนิจจัง มันจะลงเอาแต่แบบนี้ท่าเดียว จนเหนื่อยหน่าย..ถอดถอนใจออกมาด้วยนะ..มันห้ามไม่ได้เลย.. มันไปเองค่ะ..คงจะชิน ![]() หนูเอาภาพไฟเป็นที่ตั้ง..หลับตามองภาพไฟไป.. แต่จิตกลับมาคอยเช็คอารมณ์ยึด..อยาก..ไม่อยาก จนเห็นความทุกข์ที่จิต.. แบบจิตมันทุกข์เหลือเกินแบบนั้นเลย.......ไม่เห็นนานละนะแบบนี้ ![]() แถมนั่งได้นานกว่าปกติซะด้วย ออกจากสมาธิมาแล้วก็ขำๆ แต่ใจหนึ่งก็คิด..ถือซะว่า..เพียรใช้ไฟเผากิเลส ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 19 พ.ย. 2015, 14:09 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ | ||
idea เขียน: อ้างคำพูด: . กสิณมันดีอย่างไร มันดีตรงที่อารมณ์นั้นจะชัดขึ้นๆ จนชัดมาก จนขยายได้ ย่อได้ ทำให้เกิดขึ้นมาได้ ทำให้หายไปได้ ถ้าเป็นทุกขสัจจะ ทุกข์นั้นก็จะชัดมากชัดแรงจนอาจทำให้เกิดความกลัวทุกข์ เห็นภัยในทุกข์ เบื่อหน่ายในทุกข์ ดิ้นรนที่จะพ้นทุกข์นั้นอย่างแรงกล้า จึงส่งให้หลุดพ้นไปได้ด้วยความเห็นทุกขังชัด ออกสู่นิพพานได้ด้วยประตูทุกขัง อัปปนิหิตตนิพพาน ![]() ก็มีเรื่องขำๆประมาณนี้มาเล่าสู่กันฟัง ก่อนที่จะตั้งกระทู้นี้มีทดลอง ![]() ก็ว่าจะลองนั่งเพ่งกสิณดูสักหน่อย.. จะตั้งอารมณ์ไว้ให้อยู่กับภาพกสิณอย่างเดียว ![]() ![]() แต่ไหงมันก็คอยแต่พิจารณาลงทุกขัง..อนิจจัง มันจะลงเอาแต่แบบนี้ท่าเดียว จนเหนื่อยหน่าย..ถอดถอนใจออกมาด้วยนะ..มันห้ามไม่ได้เลย.. มันไปเองค่ะ..คงจะชิน ![]() หนูเอาภาพไฟเป็นที่ตั้ง..หลับตามองภาพไฟไป.. แต่จิตกลับมาคอยเช็คอารมณ์ยึด..อยาก..ไม่อยาก จนเห็นความทุกข์ที่จิต.. แบบจิตมันทุกข์เหลือเกินแบบนั้นเลย.......ไม่เห็นนานละนะแบบนี้ ![]() แถมนั่งได้นานกว่าปกติซะด้วย ออกจากสมาธิมาแล้วก็ขำๆ แต่ใจหนึ่งก็คิด..ถือซะว่า..เพียรใช้ไฟเผากิเลส ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() จิตวิปัสสนา ๆ ๆ ๆ เป็นจิตใจของผู่ที่สร้างสมบุญบารมีมาทางปัญญา เหมาะกับ การปฏิบัติโดยเอาวิปัสสนานำหน้าสมถะ (สติปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์) หรือ เอาวิปัสสนาเจริญไปควบคู่กับสมถะ(อานาปานสติ 16 ขั้นตอน) ![]()
|
เจ้าของ: | idea [ 19 พ.ย. 2015, 18:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้ที่สำเร็จกสิณ..อาศัยจากตำราเป็นไปได้ยากจริงหรือ |
![]() ขอบคุณคุณอโศกะมากค่ะ... ทำให้ได้ข้อคิดอะไรดีๆเลย... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |