ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิกาย”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=51156
หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  Duangtip [ 05 ต.ค. 2015, 12:59 ]
หัวข้อกระทู้:  พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิกาย”

พระไพศาล วิสาโล
“ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิกาย”


รูปภาพ

โดย ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
7 มีนาคม 2558 06:23 น.

พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นพระนักเผยแผ่ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ได้ให้สัมภาษณ์แก่ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ เพื่อให้ข้อคิดและเสนอทางปฏิรูปศาสนาที่ถูกต้องแก่สังคม อันจะช่วยให้สถาบันสงฆ์เข้มแข็ง ประชาชนเข้าใจหลักธรรม จนนำสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป

:b39: ทำไมจึงมีคนศรัทธาในพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่รู้ว่า วัดพระธรรมกายบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า

อาตมาเชื่อว่าผู้คนจำนวนมากศรัทธาในผู้นำวัดพระธรรมกาย โดยไม่รู้ว่ามีการสอนคลาดเคลื่อนจากหลักธรรมของพระพุทธเจ้า หรือมีการบิดเบือนคำสอนของพระองค์ ศรัทธาอาจเกิดจากความเชื่อในอำนาจพิเศษของผู้นำสำนัก หรือเห็นว่าคำสอนและการปฏิบัติของสำนักนี้ถูกกับจริตของตน รวมทั้งสอดคล้องหรือสามารถตอบสนองกิเลสของตนได้ (เช่น อยากร่ำรวย มีชื่อเสียง) ดังนั้นถึงแม้วัดพระธรรมกายแยกออกไปจากคณะสงฆ์ไทย อาตมาเชื่อว่าก็ยังมีคนศรัทธามากมาย ดังที่เกิดกับอดีตพระภาวนาพุทโธที่แม้ทุกวันนี้ถูกคุมขังในข้อหาพรากผู้เยาว์ ก็ยังมีผู้คนไปกราบไหว้เยี่ยมเยียนในเรือนจำ เพราะเชื่อว่าเขาเป็น “ผู้วิเศษ”


:b39: อยากให้สรุปให้เห็นชัดๆ ว่า คำสอนของวัดพระธรรมกายที่บิดเบือนคืออะไร และคำสอนที่ถูกต้องคืออะไร เช่น “วิชชาธรรมกาย” ของวัดพระธรรมกาย ถือว่าใช่แนวทางที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนาหรือไม่ อย่างไร หรือวัดธรรมกายสอนว่า “นิพพานเป็นอัตตา” ตรงนี้จริงหรือไม่ หากไม่ใช่พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่างไร

คำสอนของวัดพระธรรมกายที่ไม่ตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา ที่สำคัญได้แก่คำสอนเกี่ยวกับบุญ เช่น ถวายเงินมากเท่าไร ก็ได้บุญเท่านั้น มีการกระตุ้นให้ถวายเงินมากๆ ยิ่งมากยิ่งดี จนถึงกับเชียร์ให้ทุ่มสุดตัว อาทิ “ปิดบัญชีทางโลก เพื่อเปิดบัญชีทางธรรม” ใครที่ถวายเงินมากๆ ก็จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเจ้าสำนัก จนอาจได้รับโอกาส “อัดวิชาธรรมกาย” ให้

นอกจากนั้น ก็ได้แก่คำสอนเรื่อง “ธรรมกาย” ซึ่งมีความหมายแตกต่างจากคำสอนในพระไตรปิฎก (ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้าหรือจิตที่เข้าถึงโลกุตรธรรม) หรือการสอนว่า จะบรรลุธรรมก็ต่อเมื่อเห็นองค์พระ มิใช่เพราะมีปัญญาเห็นแจ้งในสัจธรรม ดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสสอน

คำสอนว่านิพพานเป็นอัตตา ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่สอนคลาดเคลื่อนจากพระไตรปิฎก ทั้งนี้ยังไม่ต้องพูดถึงการอวดอ้างเป็นการภายในว่า เจ้าสำนักเป็น “ต้นธาตุ ต้นธรรม” คือเหนือกว่าพระพุทธเจ้า โดยที่แนวคิดดังกล่าวก็หามีในพระไตรปิฎกไม่



:b39: การที่วัดพระธรรมกายสอนว่า “ยิ่งบริจาคเงินมาก ยิ่งได้บุญมาก” พระอาจารย์มองว่าอย่างไร

การให้ทานที่ถูกต้องในพุทธศาสนา หรือสัปปุริสทาน มีองค์ประกอบดังนี้ ๑) ให้ของสะอาด ๒) ให้ของประณีต ๓) ให้ถูกเวลา ๔) ให้ของสมควร ๕) ให้ด้วยวิจารณญาณ ๖) ให้เนืองๆ ๗) เมื่อให้จิตผ่องใส ๘) ให้แล้วเบิกบานใจ จะเห็นได้ว่าไม่มีข้อใดที่กล่าวว่า ยิ่งบริจาคเงินมาก ยิ่งได้บุญ จะว่าไปแล้วการให้ด้วยของหรือทานนั้นเป็นการทำบุญประเภทหนึ่งเท่านั้น ยังมีการทำบุญอีก ๙ ประเภท โดยไม่ต้องใช้เงินเลย เช่น รักษาศีล เจริญภาวนา ฟังธรรม อ่อนน้อมถ่อมตน ทำความเห็นให้ตรง เป็นต้น ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีอานิสงส์ยิ่งกว่าการให้ทานด้วยซ้ำ


:b39: หลายคนมองว่าวัดพระธรรมกายอวดอุตริมนุสธรรม ท่านคิดอย่างไรในเรื่องนี้

อาตมามองว่าการอุตริมนุสธรรมทำให้เกิดความงมงาย ทำให้การปฏิบัติธรรมของชาวพุทธผิดไป คือ ไม่ได้มุ่งทำบุญเพื่อขจัดกิเลส หรือฝึกฝนตนให้เกิดปัญญานำชีวิต การหลงทางไปเรื่อยๆ อย่างนี้ จะทำให้เกิดผลเสียต่อผู้ปฎิบัติ และยิ่งถ้าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ก็จะทำให้สังคมผิดเพี้ยน หรือหลงทิศหลงทางกันมากขึ้น

ส่วนประเด็นว่าอวดอุตริมนุสธรรมหรือไม่ มีเกณฑ์วัดหลายระดับ การที่อ้างว่าตัวเองมีญาณทิพย์วิเศษอย่างนั้นอย่างนี้ ก็อาจเข้าข่ายว่าอวดอุตริมนุสธรรมได้ แต่ว่าจะไม่ร้ายแรงเท่ากับบอกว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์หรือบอกว่าตนเองเป็นพระอริยเจ้า ซึ่งตรงนี้อาจถึงขั้นปาราชิกได้

ถามว่าพระธัมมชโยอวดอุตริมนุสธรรมถึงขั้นปาราชิกหรือยัง ตรงนี้เรายังไม่ทราบแน่ชัด เพราะบางอย่างยังเป็นคำร่ำลือ แต่ประเด็นที่อ้างว่าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ อาจเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน แต่ถ้าเกิดว่าทำด้วยเจตนาดีหรือเชื่อด้วยความศรัทธาได้นั้น ก็อาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เหตุที่จะทำให้พระสงฆ์ปาราชิกได้นั้น ก็คือผิดศีล ๕ คือ ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓

ประเด็นวัดพระธรรมกายอาจผิดศีลข้อ ๒ ตรงที่ขโมยเอาของส่วนรวมมาเป็นของตน คือการเอาเงินของพระพุทธบริษัทมาเป็นของส่วนตัว ก็เข้าข่ายลักทรัพย์ ในทางโลกว่าผิดแล้ว ในทางธรรมก็ถือว่าผิดเช่นเดียวกัน



:b39: หากวัดพระธรรมกายยังสอนคำสอนที่บิดเบือนต่อไป จะเกิดผลเสียอย่างไรต่อสังคมบ้าง

หากวัดสอนผิดๆ ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าจุดมุ่งหมายของการสอนคืออะไร ถ้าหากสอนในลักษณะที่ไปกระตุ้นกิเลส ทำให้เกิดความหลง หรือเพื่อเป็นการไปปรนเปรอสนับสนุนวัดพระธรรมกาย แต่เกิดปัญหาต่อส่วนรวมนั้น ก็จะทำให้เกิดความเดือดร้อน เช่น มีญาติโยมบางคนบริจาคเงินจนหมดเนื้อหมดตัว ทำให้เขาเดือดร้อน และถ้าหากเกิดขึ้นกับคนเป็นแสนเป็นล้าน ก็นับว่าเป็นเรื่องใหญ่

นอกจากนั้นคำสอนของวัดพระธรรมกายยังทำให้คำสอนของพระพุทธเจ้าแปรผันไป หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดพลาดในพระพุทธศาสนาต่อเนื่องต่อไปเป็นเวลายาวนาน นี่คือเรื่องเสียหาย เพราะจะทำให้พระธรรมวินัยเลือนหายไปได้ง่าย

นอกจากนั้นการปฏิบัติผิดๆ การสอนให้ไปปรนเปรอกิเลส คิดว่าทุกอย่างเพื่อความร่ำรวย และเรื่องปาฏิหาริย์งมงาย นี่เองจะเป็นผลเสียต่อผู้ปฎิบัติเองด้วย ไม่ใช่เฉพาะแค่พระพุทธศาสนาโดยรวมอย่างเดียว



:b39: หลังเกิดกรณีวัดพระธรรมกาย มีพระผู้ใหญ่หลายคนออกมาปกป้องวัดพระธรรมกาย มีขบวนการเคลื่อนไหวต่างๆ นานาเพื่อปกป้องมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งปกป้องวัดพระธรรมกายอีกครั้ง พระอาจารย์มีความเห็นต่อปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างไร และทำไมมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ไทยจึงไม่จัดการกับพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย

ตลอด ๓๐ ปีที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายได้สร้างสัมพันธ์อันดีกับพระผู้ใหญ่ในคณะสงฆ์ รวมทั้งกรรมการมหาเถรสมาคมทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยเฉพาะฝ่ายมหานิกาย มีการนิมนต์มาร่วมงานสำคัญของวัด และให้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นอันมาก ดังนั้นพระผู้ใหญ่และกรรมการมหาเถรสมาคมเป็นส่วนใหญ่จึงมีความรู้สึกที่ดีต่อวัดพระธรรมกาย

นอกจากนั้นยังมีการเมืองในคณะสงฆ์ระหว่างมหานิกายกับธรรมยุตเข้ามาเกี่ยวข้อง กล่าวคือ กรรมการมหาเถรสมาคม รวมทั้งพระผู้ใหญ่โดยเฉพาะฝ่ายมหานิกาย ต้องการเห็นสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ฝ่ายมหานิกาย ขึ้นเป็นสังฆราช แต่หากพบว่าผู้นำวัดพระธรรมกายผิดตามข้อกล่าวหา ก็อาจส่งผลให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์พลาดจากตำแหน่งสังฆราช เนื่องจากเป็นผู้สนับสนุนผู้นำวัดพระธรรมกายมาโดยตลอด ผลที่ตามมาก็คือ ตำแหน่งสังฆราชก็จะตกแก่สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุต

ประเด็นที่สืบเนื่องกันก็คือ กรรมการมหาเถรสมาคมและพระผู้ใหญ่ฝ่ายมหานิกายเห็นว่า วัดพระธรรมกายมีผลงานโดดเด่น เป็นที่เชิดหน้าชูตาของฝ่ายมหานิกาย และสามารถถ่วงดุลกับอิทธิพลของฝ่ายธรรมยุตได้ จึงพยายามปกป้องและสนับสนุนวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่อง ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมืองระหว่างมหานิกายกับธรรมยุตซึ่งยังคงความเข้มข้นถึงปัจจุบัน มีส่วนไม่น้อยกับประเด็นนี้



:b39: มีนักวิชาการบอกว่า กรณีวัดพระธรรมกายควรให้สังคมเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกหรือศรัทธาหรือไม่อย่างไร พระอาจารย์เห็นด้วยหรือไม่

อาตมาเห็นด้วยว่า ศรัทธาเป็นสิ่งที่บังคับไม่ได้ ดังนั้นสังคมจึงเป็นผู้ตัดสินว่าจะเลือกศรัทธาวัดพระธรรมกายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การวิพากษ์วิจารณ์สำนักนี้เป็นสิทธิที่พึงกระทำได้ และหากเห็นว่าสำนักนี้สอนผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากพระธรรมวินัย ก็เป็นหน้าที่ของชาวพุทธที่จะพึงทัดทาน ตราบใดที่สำนักนี้ยังประกาศตนว่าเป็นพุทธศาสนานิกายเถรวาท


:b39: ค่านิยม “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์” ควรปล่อยให้พระจัดการกันเอง เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ทั้งๆ ที่พุทธศาสนิกชนเป็น ๑ ใน ๔ พุทธบริษัทที่ช่วยรักษาพุทธศาสนาตามพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าที่ตรัสต่อพระอานนท์

พุทธบริษัทมีหน้าที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และมีหน้าที่อุปถัมภ์บำรุงพุทธศาสนา เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำไม่ถูกต้อง ก็ควรถือเป็นหน้าที่ท้วงติง นี้เป็นธรรมเนียมของชาวพุทธมาตั้งแต่พุทธกาล นอกจากนั้นคนไทยแต่ก่อนถือว่าพระเป็นของชาวบ้าน นอกจากชาวบ้านมีหน้าที่อุปถัมภ์ท่านแล้ว หากเห็นท่านประพฤติตนไม่ถูกต้องตามพระวินัย ก็จะท้วงติง ไม่นิ่งเฉย ในอดีตการที่ชาวบ้านจับพระสึกเพราะต้องอาบัติปาราชิก หรือแม้แต่กินเหล้าเมามาย เป็นเรื่องธรรมดามาก


:b39: ณ เวลานี้ สังคมเห็นว่าควรจะมีการปฏิรูปศาสนา ปฏิรูปมหาเถรสมาคม ปฏิรูป พ.ร.บ.ปกครองคณะสงฆ์ไทย พระอาจารย์เห็นว่า ควรปฏิรูปในแนวทางใด และอะไรคือปัญหาใหญ่ที่สุดของพุทธศาสนาในประเทศไทย

ปัญหาสำคัญของพุทธศาสนาไทยในเวลานี้คือ ๑) พระภิกษุสงฆ์ย่อหย่อนในพระวินัย ขาดความรู้ในทางธรรม ประพฤติตนไม่น่าศรัทธา อีกทั้งสอนคลาดเคลื่อนจากหลักธรรม ๒) ประชาชนเสื่อมถอยในทางจริยธรรม ดังเห็นได้จากอาชญากรรมและคอร์รัปชันแพร่ระบาด การหมกมุ่นสำส่อนทางเพศและอบายมุขเฟื่องฟู บ่งชี้ว่าพุทธศาสนาไม่สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน สะท้อนถึงความล้มเหลวด้านการศึกษาธรรมของชาวพุทธและการเผยแพร่แผ่ของพระสงฆ์ ๓) ความเหินห่างระหว่างพระสงฆ์กับประชาชน ประชาชนไม่ใส่ใจในพฤติกรรมของพระสงฆ์ ปล่อยให้ประพฤติผิดธรรมวินัยอย่างกว้างขวาง หาไม่ก็หาประโยชน์จากพระสงฆ์ หรือบำรุงบำเรอท่านอย่างผิดสมณสารูป

การปฏิรูปการพระศาสนาในไทย จะต้องเริ่มต้นที่การปฏิรูปคณะสงฆ์ ทั้งในด้านการปกครองและการศึกษา กล่าวคือ ปฏิรูปให้การปกครองคณะสงฆ์มีการกระจายอำนาจมากขึ้น ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากพระสงฆ์ทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆ อย่างรวดเร็วฉับไวและมีประสิทธิภาพ แทนที่จะรวมศูนย์อยู่ในมือคนไม่กี่คน อีกทั้งขาดความโปร่งใส ไม่มีกระบวนการตรวจสอบ และไม่มีการรับผิด (accountability) ต่อใคร

ส่วนการศึกษาคณะสงฆ์ ซึ่งไม่มีการปฏิรูปอย่างจริงจังมาร่วมร้อยปี ควรมีการปรับปรุงยกเครื่องอย่างจริงจัง องค์กรปกครองสงฆ์จะต้องไม่เพียงจัดการสอบให้ครบทุกชั้น แต่จะต้องดำเนินการให้มีการศึกษาธรรมวินัยอย่างทั่วถึงทั่วสังฆมณฑล ไม่ใช่ปล่อยให้แต่ละวัดดำเนินการไปตามยถากรรม จะต้องระดมกำลังสนับสนุนทั้งด้านการเงินและบุคคลากรเพื่อสนับสนุนการศึกษาของสงฆ์ทั่วทุกระดับ รวมทั้งปรับปรุงหลักสูตร ไม่เน้นการท่องจำ แต่ให้พระเณรรู้จักคิด เข้าใจหลักธรรม และรู้จักเลือกสรรหลักธรรมให้สอดคล้องกับปัญหาของญาติโยม รวมทั้งไม่จำกัดเฉพาะปริยัติศึกษา แต่ส่งเสริมการปฏิบัติ บำเพ็ญภาวนา เพื่อมีชีวิตที่สงบเย็น เป็นแบบอย่างของญาติโยม และสามารถครองเพศพรหมจรรย์ได้อย่างมีความสุขท่ามกลางกระแสบริโภคนิยม มิใช่หลงใหลในลาภสักการะและวัตถุจนประพฤติผิดพระวินัยอย่างแพร่หลาย

นอกจากนั้นควรส่งเสริมให้สถาบันสงฆ์ใกล้ชิดกับประชาชนให้มากขึ้น ไม่ควรให้สถาบันสงฆ์พึ่งพารัฐมากเกินไปอย่างที่เป็นอยู่ แต่ควรส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอุปถัมภ์คณะสงฆ์และการพระศาสนา เริ่มจากการทำให้วัดเป็นของชุมชนมากขึ้น ตามมาด้วยการมีองค์กรชาวพุทธเพื่อสนับสนุนการพระศาสนาและคณะสงฆ์ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด จนถึงระดับประเทศ



:b39: มองว่ากรณีวัดพระธรรมกาย สอนบทเรียนอะไรให้แก่สังคมได้บ้าง

คือ กรณีวัดพระธรรมกายสะท้อนให้เห็นวิกฤตปัญหาของสถาบันสงฆ์ ทั้งด้านการปกครอง และการศึกษาของคณะสงฆ์ รวมถึงวิกฤตในเรื่องของการเมืองการธรรม ที่ทำให้คนไปหลงเชื่อวัดพระธรรมกาย ทั้งที่สอนธรรมะคลาดเคลื่อนจากพระไตรปิฎก นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่ากำลังเกิดขึ้น และเราควรแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้หมดไป


:b39: ทำอย่างไร พุทธศาสนิกชนจึงจะดำรงอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องหลงผิดในคำสอนที่ไม่ถูกต้อง

ประชาชนควรมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักธรรม รวมทั้งมีความรู้เกี่ยวกับพระวินัย สามารถแยกแยะพระดีและพระไม่ดีหรืออลัชชีออกจากกันได้ นอกจากนั้นยังมีการปฏิบัติที่ถูกต้องจนเห็นผลด้วยตนเอง จะทำเช่นนั้นได้การศึกษามีความสำคัญมาก ซึ่งไม่ควรจำกัดที่โรงเรียนเท่านั้น หากควรได้รับการศึกษาในครอบครัว หากครอบครัวมั่นคง ชุมชนเข้มแข็ง และใกล้ชิดกับศาสนาหรือพระสงฆ์ ก็จะสามารถส่งผ่านหลักธรรมสู่สำนึกของผู้คนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

ควบคู่กันไปก็คือความเข้มแข็งของสถาบันสงฆ์ กล่าวคือ พระภิกษุสงฆ์มีคุณภาพทั้งในทางสติปัญญาและคุณธรรม นอกจากมีความรู้ถูกต้องในทางธรรมแล้ว ยังปฏิบัติถูกต้องตามพระวินัย เป็นที่ศรัทธานับถือของประชาชน และสามารถสอนธรรมให้ประชาชนเข้าใจได้ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง สามารถน้อมใจให้ผู้คนมีศรัทธาในธรรมได้ เรียกว่าสอนด้วยการทำให้ดู อยู่ให้เห็น เย็นให้สัมผัสได้ จะทำเช่นนั้นได้กรรมฐานหรือการฝึกจิตสำคัญมาก หากพระไม่ทิ้งกรรมฐาน ก็จะสามารถเป็นกำลังสำคัญในการนำพาผู้คนเข้าถึงธรรม อย่างน้อยก็มีความเข้าใจที่ถูกต้องในทางธรรม



:b8: :b8: :b8:


:b45: รวมคำสอน “พระไพศาล วิสาโล”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=42477

:b45: ประวัติและปฏิปทา “พระไพศาล วิสาโล”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=22853

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 05 ต.ค. 2015, 14:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  student [ 06 ต.ค. 2015, 01:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

อ่านแล้วอยากให้เกิดข้อคิดมากกว่า อารมณ์เนาะ

เจ้าของ:  แสงแห่งพระธรรม [ 06 ต.ค. 2015, 18:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

คำว่าประเทศ ประเทศหนึ่งก็คือสังคมที่มีขนาดใหญ่ ถ้าเป็นประเทศไทยก็เรียกว่าสังคมไทย
ในสังคมที่มีขนาดใหญ่ที่เรียกว่าประเทศนั้นก็จะแบ่งเป็นสถาบันองค์กรหน่วยงานต่างๆเริ่มตั้งแต่สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันพระสงฆ์ หน่วยงานรัฐ การเมือง การปกครอง
ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนอยู่ในสังคมที่เรียกว่าประเทศ เมื่อคนในสังคมมีลักษณนิสัยเป็นอย่างไร
ผู้ที่เข้าไปอยู่ในสังคมเล็กคือสถาบัน องค์กร หรือหน่วยงาน ก็จะเป็นแบบเดียว เพราะทุกคนล้วน
เป็นคนในสังคมเดียวกัน เมื่อคนในสังคมมีลักษณะนิสัยเป็นแบบไหนพอเข้าไปเกี่ยวข้องกับสังคมเล็กก็จะก่อให้เกิดปัญหาแบบเดียวกัน คือทุกองค์กร หน่วยงาน สถาบัน ย่อมมีทั้งคนดีและไม่ดี
คงเป็นไปได้อยากที่จะให้สังคมเล็กๆปลีกย่อยสังคมใดสังคมหนึ่งเป็นสังคมที่มีแต่ขาวสอาด
เพราะคนที่มาอยู่ในสังคมเล็กก็มาจากสังคมใหญ่ไม่ใช่มาจากสวรรค์วิมานที่ใหน เหมือนน้ำใน
แม่น้ำชาวประมงอาจกั้นเป็นกระชังช่องหนึ่งอาจเลี้ยงปลา ช่องหนึ่งอาจเลื้ยงกบเมื่อน้ำในแม่น้ำเป็นแบบใหนน้ำที่อยู่ในกระชังก็จะเป็นแบบเดียวกัน
เป็นไปไม่ได้ที่จะให้นำ้ที่อยู่ในกระชังช่องใดช่องหนึ่งเป็นน้ำที่ใส่สะอาดเพราะน้ำในกระชังก็อยู่ในแม่น้ำ
ที่ยกมานี้เพื่อจะให้มองเห็นถึงต้นเหตุของปัญหา ว่าสังคมพระสงฆ์ก็เป็นสังคมหนึ่งที่อยู่ในสังคมไทย
คนที่มาอยู่ในสังคมพระสงฆ์ก็ล้วนมาจากคนในสังคมไทยไม่ใช่มาจากสวรรค์วิมานที่ไหน เมื่อมองเห็นต้นเหตุของปัญหาแล้วช่วยกันแก้ปัญหานั้นแหละคือการแก้ปัญหาที่แท้จริง
แต่คนในสังคมไทยไม่รู้จักพิจารณาถึงต้นเหตุของปัญหา โทษแต่คนอื่นมองแต่คนอื่นเป็นตัวปัญหา
โทษว่านักการเมืองชั่วคอรัปชั่นทำให้ประเทศไม่เจริญ พระรูปนี้ไม่ดี ทำเสื่อมเสีย ทำให้ศาสนาเสื่อมทั้งๆที่ถ้าตัวเองได้เป็นนักการเมืองหรือมาบวชก็อาจจะทำเสื่อมเสียคอรัปชั่นได้เหมือนกันเพราะนี้คือคนในสังคมไทย
เมื่อคนในสังคมไม่รู้จักพิจารณาถึงต้นเหตุของปัญหาก็จะไม่สามารถแก้ไข้ปัญหาได้กลับกลายเป็น
ก่อให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาต่อเนื่องจากปัญหาที่มีอยู่
คนในสังคมไทยต้องจักรู้พิจารณาเห็นถึงความดีความชั่วที่ มีอยู่ในตนยอมรับแล้วก็ช่วยกันปลูกจิตใต้สำนึกให้เกิดขึ้นในตนเท่านั้นที่จะสร้างสังคมแห่งสันติสุขได้ :b1: :b27:

onion
rolleyes

เจ้าของ:  nongkong [ 06 ต.ค. 2015, 23:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

คุนน้องมองว่า สังคมไทยเป็นประเภท...นึกถึงสำนวนนี้ค่ะ โทษคนอื่นแบเห็นเท่าภูเขา โทษของเราแลไม่เห็นเท่าเส้นผม(บังตา) ตดคนอื่นเหม็นเหลือทน ตดของตนถึงเหม็นไม่เป็นไร :b32: :b32: คือคุนน้องก็เรียนรู้นิสัยสังคมจากเหล่าชาวเฟสบ้าง จากเวปดังๆบ้าง จากคนรอบข้างบ้าง..
คือ แปลกอยู่อย่าง คนไทยมีน้ำใจนะ ขี้สงสารเห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจคนอื่น..แต่ถ้าเจอคนที่เหนือกว่า หรือเห็นใครทำดีกว่า จะอิจฉาริษยา จะมีคำพูดแขวะเค้า ยกตัวอย่างคู่รักคนรวยทำบุญปล่อยปลา 5 ล้านตัว แทนที่พวกเค้าจะอนุโมทนา แบบคุนน้อง
แต่ดันบอกว่า น่าจะไปช่วยเด็กกำพร้า น่าจะไปช่วยคนยากไร้ บลาๆ ทำบุญเอาหน้า.. :b14: แต่ในทางกลับกัน มีเพจพระอาจารย์ถ่ายรูป ปล่อยปลา โพสลงเฟสชวนทำบุญ คนพวกนี้จะดัดจริต อนุโมทนาครับ สาธุค่ะ 55555 :b32: :b32: บางครั้งคุนน้องก็ขำๆ และเกิดคำถามในใจ ไม่มีใครจะกล้าแสดงความเห็นอะไร นอกจาก สาธุ เลยหรอ แบบนี้ไงปัญญาเลยไม่เกิด
ทำไมที่กับพระปล่อยปลา ไม่มีใครกล้าวิจารย์..?
ในเมื่อการกระทำเหมือนกันในเรื่องการทำบุญ..แต่กลับไม่มีความเป็นกลาง..กับพระ อนุโมทนาสาธุ กับฆราวาส ดันบอกทำบุญสร้างภาพ หรือประเภท คู่รักไฮโซคนนึง พวกขี้อิจฉาจะแสดงความเห็นแนวว่าเค้า อวดรวย สร้างภาพ บลาๆ ถ้าเค้าจะอวดรวย ก็เงินเขานิ ถ้าเค้ารวยจริง ไปเดือดร้อนไร.. :b32: :b32: คุนน้องเชื่ออย่างนะ ว่าวัดธรรมกายไม่ได้มีพิษภัยร้ายแรงกับศาสนาพุทธ..แต่จริตคนส่วนใหญ่ อยากทำบุญก็เพื่อหวังผล ในเมื่อจริตแบบนั้นก็จัดให้ แล้วไง ทำบุญด้วยความศรัทราจะมากจะน้อยก็ได้ไปสวรรค์..จิตวิทยาชั้นยอด ที่จะทำให้มนุษย์กิเลศหนา ได้มีอริยทรัพย์ติดตัวไปภพหน้า น่าอนุโมทนาด้วย..จริงๆนะ มิน่าวัดถึงเจริญรุ่งเรืองขนาดนั่น :b13:

เจ้าของ:  asoka [ 07 ต.ค. 2015, 05:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

:b12:
ผมก็ไม่ชอบเหมือนกันที่ทางธรรมกายบิดเบือนคำสอนบางส่วนของพระพุทธเจ้าไปสนับสนุนความเห็นของตนเอง เหมือนไม้ต้นตรงแต่คดปลาย

แต่ถ้ามองในแง่ดีบ้าง จะเห็นผลงานอันชัดเจนของธรรมกายที่ดึงผู้คนมาศรัทธาในพระพุทธศาสนาและปฏิบัติภาวนาจนจิตสงบตั้งมั้นได้จำนวนมหาศาล

สิ่งก่อสร้างรูปจานบินมหึมาสามารถรวมผู้คนมาทำกิจกรรมทางพุทธศาสนาได้พร้อมกันเป็นแสนคนและเพื่อเป็นปูชนียวัตถุปูชนียสถานแห่งยุคสมัยก็น่าทึ่งอีกหน่อยก็อาจเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้อีกอย่างหนึ่ง

แล้วถ้าเราจะมาวิเคราะห์หามุมลบของอีกฝ่ายหนึ่งที่กำลังมอมเมาพุทธศาสนิกชนด้วยเรื่องผลทาน ประเพณี พิธีกรรม ปลุกเสกลงเลขยันต์ ของขลัง พุทธพาณิชย์ สิ่งศักดิสิทธิ์วัตถุมงคลทั้งหลายอันร้ายกาจยิ่งกว่าแล้ว มันก็น่าคิดว่าควรจะปฏิรูปแก้ไขอะไรกันก่อนเพื่อรักษาและจรรโลงพุทธศาสนาที่ถูกต้องให้ยั่งยืนต่อไปในเมืองไทยและในโลก

s004
s006

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 07 ต.ค. 2015, 05:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

student เขียน:
อ่านแล้วอยากให้เกิดข้อคิดมากกว่า อารมณ์เนาะ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 07 ต.ค. 2015, 05:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

asoka เขียน:

แล้วถ้าเราจะมาวิเคราะห์หามุมลบของอีกฝ่ายหนึ่งที่กำลังมอมเมาพุทธศาสนิกชนด้วยเรื่องผลทาน ประเพณี พิธีกรรม ปลุกเสกลงเลขยันต์ ของขลัง พุทธพาณิชย์ สิ่งศักดิสิทธิ์วัตถุมงคลทั้งหลายอันร้ายกาจยิ่งกว่าแล้ว มันก็น่าคิดว่าควรจะปฏิรูปแก้ไขอะไรกันก่อนเพื่อรักษาและจรรโลงพุทธศาสนาที่ถูกต้องให้ยั่งยืนต่อไปในเมืองไทยและในโลก

s004
s006


อีกฝ่ายหนึ่ง....นั้น...ฝ่ายไหนคับ? s006 s006

คนวิจารณ์ธรรมเกิน

รึฝ่ายถูกวิจารณ์??

เจ้าของ:  asoka [ 07 ต.ค. 2015, 14:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

:b12:
เขียนให้เกิดข้อคิดแล้วยังทำไก๋คิดไม่ออกอีกเหรอกบ

ในมหานิกายตอนนี้ก็มี 3 ฝ่ายใหญ่ๆ

1.ฝ่ายธรรมกาย

2.ฝ่ายประเพณีพิธีกรรม เครื่องรางของขลังสิ่งศักดิ์สิทธิ พุทธพาณิชย์ สะเดาะเคราะห์เสดาะโศรก โชคลาง หมอดูฤกษ์ยาม พราหมณ์พิธี

3.ฝ่ายปฏิบัติธรรมสำนักวิปัสสนากรรมฐานต่างๆ
onion

เจ้าของ:  nongkong [ 07 ต.ค. 2015, 17:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

asoka เขียน:
:b12:
เขียนให้เกิดข้อคิดแล้วยังทำไก๋คิดไม่ออกอีกเหรอกบ

ในมหานิกายตอนนี้ก็มี 3 ฝ่ายใหญ่ๆ

1.ฝ่ายธรรมกาย

2.ฝ่ายประเพณีพิธีกรรม เครื่องรางของขลังสิ่งศักดิ์สิทธิ พุทธพาณิชย์ สะเดาะเคราะห์เสดาะโศรก โชคลาง หมอดูฤกษ์ยาม พราหมณ์พิธี

3.ฝ่ายปฏิบัติธรรมสำนักวิปัสสนากรรมฐานต่างๆ
onion

ใช่ค่ะ ชาวพุทธจริตแบบไหนมักจะหลั่งไหลไปกองรวมกันตรงนั้น ถึงได้เกิดสำนักปฏิบัติธรรมมากมาย หลายสาขาววิชา แล้วก็โทษกันไปติกันมา ข้าดีเอ็งชั่ว ข้าถูกเองผิด ข้าของจริงเอ็งของปลอม บลาๆ แล้วแต่เมล็ดพันธ์เหล่านั้น..
ชาวพุทธจริตศรัทรามากแต่ขาดปัญญา มีความเชื่อเรื่อง บาปบุญ ก็จะแห่ไปวัดที่สอนถูกจริตหน่อย เพราะตนก็แบบว่า ยังมีกิเลศ แต่ทำไงได้ก็อยากทำบุญ อยากไปสวรรค์ ไม่อยากลงนรกนะ :b14: วัดไหนสอนถูกจริตก็ต้องไปพึ่งวัดนั้น
ส่วนประเภทชอบเรื่อง ปาฏิหารย์ ฝึกมโนยิท ท่องนรกสวรรค์ คนเหล่านั้นชอบเรื่องแบบนั้นเขาก็ต้องแห่ไปสถานที่ปฏิบัติแห่งนั้น หรือจะแนว เสริมดวงโชคลาภ ของขลัง ชาวพุทธสนใจแบบไหนเขาก็แห่ไปที่นั้น หรือจะพวกคลั่งพุทธวจน จนปฏิเสธความจริงของมนุษย์ ไม่ยอมรับความจริงจนกลายเป็นอัตตา มานะทิฏฐิพอกพูน ก็ว่ากันไปตามจริตของตน.. onion
แต่แปลกจริงวัดที่เจริญถึงขีดสุด ผู้คนศรัทธาอย่างล้นหลาม โดนโจมตีจากทุกฝ่ายอย่างหนักหน่วง..เห็นแล้วจากที่เคยไม่ชอบวัดนี้ เลยอดเห็นใจไม่ได้ :b32: :b32: มารนี้ฤทธิเยอะจริงๆ :b13: :b13:

เจ้าของ:  ศิริพงศ์ [ 07 ต.ค. 2015, 19:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

ตาบอดคลำช้าง. บางคนคลำที่ขา. บางคนคลำที่หาง. ก็ว่ากันไป

เจ้าของ:  asoka [ 08 ต.ค. 2015, 05:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

ศิริพงศ์ เขียน:
ตาบอดคลำช้าง. บางคนคลำที่ขา. บางคนคลำที่หาง. ก็ว่ากันไป

:b12:
คนตาดีกรุณาช่วยชี้ทางหน่อยสิครับ จะเป็นพระคุณ

:b8:

ไฟล์แนป:
dd141_resize.jpg
dd141_resize.jpg [ 44.8 KiB | เปิดดู 5472 ครั้ง ]

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 08 ต.ค. 2015, 05:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

ถามผมเหรอ?..... :b32:

เจ้าของ:  asoka [ 08 ต.ค. 2015, 05:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

กบนอกกะลา เขียน:
ถามผมเหรอ?..... :b32:

s004

อ้อ!!!!!! กบตาดีแล้วหรือครับ

เชิญๆๆๆ

ผมไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นท่านใด ใครตาดีแล้วก็ขอเชิญครับ

smiley

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 08 ต.ค. 2015, 05:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระไพศาล วิสาโล “ธรรมกาย” เป็นที่เชิดหน้าชูตาของ “มหานิก

asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ถามผมเหรอ?..... :b32:

s004

อ้อ!!!!!! กบตาดีแล้วหรือครับ

เชิญๆๆๆ

ผมไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นท่านใด ใครตาดีแล้วก็ขอเชิญครับ

smiley


โอ้ย...ตาดีมานานแล้วลุง... :b32: :b32:

หน้า 1 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/