ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=51111 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 29 ก.ย. 2015, 07:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
วันเปิดโลก 3 โลก....แรม 1 เดือน 11...วันเทโวโรหณะ..หลังวันออกพรรษา 1 วัน พระศรีอาริยเมตตรัย...จะไม่ได้เปิดโลกอย่างนี้.. ทำไมพระพุทธเจ้าเรา..ถึงเปิดโลก..3 โลกให้ได้เห็นกัน..? โลกทั้ง 3 ได้อะไรจากวันเปิดโลก...รึคับ? ผลที่ตามมาหลังการเปิดโลก...เกิดอะไรขึ้น? |
เจ้าของ: | bigtoo [ 29 ก.ย. 2015, 07:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
![]() กบนอกกะลา เขียน: วันเปิดโลก 3 โลก....แรม 1 เดือน 11...วันเทโวโรหณะ..หลังวันออกพรรษา 1 วัน พระศรีอาริยเมตตรัย...จะไม่ได้เปิดโลกอย่างนี้.. ทำไมพระพุทธเจ้าเรา..ถึงเปิดโลก..3 โลกให้ได้เห็นกัน..? โลกทั้ง 3 ได้อะไรจากวันเปิดโลก...รึคับ? ผลที่ตามมาหลังการเปิดโลก...เกิดอะไรขึ้น? ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 29 ก.ย. 2015, 07:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
งง....งง... น่านแหละ....ไม่รู้..ก็งง... ไม่รู้จึงถามนี้งัย...รอคนมาบอกก็แล้วกัน... |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 30 ก.ย. 2015, 08:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
หลังจากพระองค์แสดง "ยมกปาฏิหาริย์" แล้ว เสด็จยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อโปรดพุทธมารดา เมื่อเสด็จกลับ ก็แสดง "โลกวิวรรณปาฏิหาริย์" เปิดโลก - เทวดาในสวรรค์จะมองเห็นมนุษย์ เห็นยมโลก เห็นนรก - มนุษย์ก็มองเห็นเทวดา เห็นสัตว์นรก - สัตว์นรกก็มองเห็นมนุษย์ ตลอดเทวดาในสวรรค์ พระพุทธเจ้าทรงสำแดงปาฏิหาริย์เปิดโลก พร้อมกับเปล่งฉัพพัณณรังษี พระรัศมี ๖ ประการเป็นอัศจรรย์ "สามารถยังประชาชน เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระองค์และมุ่งปฏิบัติธรรม ประชาชนอีกส่วนหนึ่ง เกิดความปรารถพุทธภูมิ ปรารถนาบำเพ็ญบารมี ๑๐ ตามอย่างพระองค์" ![]() |
เจ้าของ: | student [ 30 ก.ย. 2015, 13:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
กบนอกกะลา เขียน: วันเปิดโลก 3 โลก....แรม 1 เดือน 11...วันเทโวโรหณะ..หลังวันออกพรรษา 1 วัน พระศรีอาริยเมตตรัย...จะไม่ได้เปิดโลกอย่างนี้.. ทำไมพระพุทธเจ้าเรา..ถึงเปิดโลก..3 โลกให้ได้เห็นกัน..? โลกทั้ง 3 ได้อะไรจากวันเปิดโลก...รึคับ? ผลที่ตามมาหลังการเปิดโลก...เกิดอะไรขึ้น? พระพุทธเจ้ากลับลงมายังโลก มีผู้บรรลุธรรมเป็นจำนวนมหาศาล และเป็นครั้งสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าแสดงอภินิหาร |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 01 ต.ค. 2015, 04:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
![]() อนุโมทนากับทุกท่าน.. |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 01 ต.ค. 2015, 04:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
วิริยะ เขียน: "สามารถยังประชาชน เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระองค์และมุ่งปฏิบัติธรรม ประชาชนอีกส่วนหนึ่ง เกิดความปรารถพุทธภูมิ ปรารถนาบำเพ็ญบารมี ๑๐ ตามอย่างพระองค์" ![]() ![]() ![]() ![]() นอกจากมนุษย์..แล้ว... มด..หนู...หมู..หมา..กา...ไก่...ไม่ทราบว่า..อยากจะเป็น..ได้ป่าวนะ เคยได้ยินเขาพูด ๆ กัน..แต่ไม่มีหลักฐาน..นะ..ว่า...ทำให้สัตว์ในอบายภูมิพ้นโทษได้เร็วขึ้น... |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 01 ต.ค. 2015, 04:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
http://www.dhammathai.org/buddha/g75.php "ทรงเปิดโลกเสด็จลีลาลงจากดาวดึงส์สวรรค์" เมื่อพรบรมศาสดาเสด็จขึ้นไปประทับพรรษานดาวดึงส์สวรรค์ ชั้นที่ ๒ แสดงธรรมโปรดพระพุทธมารดาได้บรรลุอริยมรรคผลสมดั่งพระกมลที่ทรงพระอุตสาหะ และในครานั้นพระรรมเทศนาของพระบรมศาสดาได้ยังประโยชน์เป็นอเนกอนันต์แก่บรรดาทวยเทพทั่วทุกทิศที่เข้าเฝ้าสถิตแห่แหนเป็นจำนวนมาก ครั้นใกล้ครบเวลาสามเดือนครั้นเวลาจวนใกล้จะออกพรรษาเข้าแล้ว ชาวประชามหาชนกทั้งหลายที่ตั้งตาคอยจะเผ้าพระบรมศาสดา สุดที่จะทนทานการรอคอย จึงพากันเข้าไปหาพระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า เนื่องจาก เมื่อครั้นการเสด็จสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระบรมศาสดาในเวลาเสร็จการแสดงยมกปกาฏิหาริย์โดยฉับพลัน ซึ่งมหาชนทั่วทุกทิศกำลังใส่ใจแลดูอยู่ด้วยความเลื่อมใส จึงเป็นเหมือนเดือนตกหรือตะวันตกหายวับลับไปจากโลกเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก เพราะฉะนั้นชนทั้งหลายจึงพากันคร่ำครวญว่า พระศาสดาผู้เลิศในโลกเสด็จไปแห่งหนใดกันหนอ พวกเราจึงไม่เห็นพระองค์ ชนเหล่านั้นได้พากันเข้าไป ถามพระมหาโมคคัลลานะเถระว่า พระศาสดาเสด็จไปที่ไหนเสียเล่าพระคุณเจ้าพระมหาโมคคัลลานะแม้จะรู้ดีอยู่ แต่เพื่อถวายความเคารพแก่พระอนุรุทธะ จึงได้บอกแก่ชนเหล่านั้นไปว่า พวกท่านจงไปถามพระอนุรุทธะเถระดูเถิด คนเหล่านั้นจึงพากันไปถามพระอนุรุทธะเถระ ๆ ตอบว่า พระศาสดาเสด็จขึ้นไปจำพรรษาในสรวงสวรรค์ดาวดึงส์ เพื่อแสดงพระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา เมื่อไรจักเสด็จมาเล่า พระคุณเจ้า ? สามเดือนอุบาสก พระเถระกรุณาบอก และจะเสด็จมาวันมหาปวารณาด้วย คนเหล่านั้นปรึกษากันว่า พวกเราจักรอเฝ้าพระบรมศาสดาอยู่ที่นี่แหละ หากไม่ได้เห็นพระบรมศาสดาแล้วก็จักไม่ไป แล้วจัดแจงทำที่พักอยู่ในที่นั้นเอง ท่านจุลละอนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้มีกำลังทรัพย์มากไดกรุณาให้ความอนุเคราะห์แก่คนเหล่านั้นพอสมควร แม้พระมหาโมคคัลลานะก็ได้กรุณา แสดงธรรมให้กำลังใจ เจริญความเลื่อมใสแก้ความข้องใจของมหาชนที่ติดตามมาเพื่อชมปาฏิหาริย์ในภายหลังอีก ครั้นเวลาเนิ่นนานมาถึงปานนี้ มหาชนจึงเจ้าไปหาพระมหาโมคคัลลานะเรียนถามว่า พระพุทธเจ้าจะเสด็จลงจากสวรรค์เมื่อใด และจะเสด็จลงที่ไหน เมื่อข้าพเจ้าทั้งหลายจะได้พากันไปเฝ้าพระองค์ ณ ที่นั้นพระมหาโคคัลลานะเถระตอบว่า จะต้องขึ้นไปเฝ้าทูลถามพระบรมศาสดาดูก่อน ได้ความอย่างไรจากพระองค์แล้วจึงจะแจ้งให้ทราบ แล้วพระเถระก็สำแดงอานุภาพแห่งสมาบัติขึ้นไปสู่ดาวดึงส์เทวภพ สำแดงกายให้ปรากฏแก่มหาชนในขณะขึ้นไปเฝ้าพระบรมศาสดาด้วยฤทธิ์แห่งอภิญญา ครั้นพระเถระเจ้าเข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดาแล้วก็กราบทูลตามเรื่องที่มหาชนมีความประสงค์ พระบรมศาสดารับสั่งว่า โคคัลลานะ บัดนี้ สารีบุตรพี่ชายเธออยู่ ณ ที่ได พระมหาโมคคัลลานะก็กราบทูลว่า เวลานี้สารีบุตรเถระเจ้าจำพรรษาอยู่ที่เมืองสังกัสสนคร พระเจ้าข้า ถ้าเช่นนั้น ตถาคตก็จะลงที่ประตูเมืองสังกะสะนครในวันมหาปวรณา โมคคัลลานะจงแจ้งให้มหาชนทราบตามนี้ ผู้ใดประสงค์จะเห็นตถาคต ก็จงพากันไปยังที่นั้นเถิด พระมหาโมคคัลลานะรับพระพุทธบัญชาแล้ว ก็ลงมาแจ้งข้อความนั้นแกมหาชนทั้งหลายผู้ต้องการทราบเรื่องนี้อยู่ ฝ่ายมหาชนทั้งหลายที่ตั้งใจคอยเฝ่าพระบรมศาสดเสด็จลงจากดาวดึงส์สวรรค์ เมื่อได้ทราบข่าวจากพระมหาโมคคัลลานะเถระเจ้าก็ดีใจพร้อมกับออกเดินทางไปยังเมืองสังกัสสนคร ร่วมประชุมกันอย่างคับคั่งตลอดพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายอันมีประสารีบุตรเถระ อัครสาวกเบื้องขวาเป็นประธาน มาประชุมต้อนรับพระบรมศาสดา อยู่ ณ ที่นั้นอย่างพร้อมเพรียง ครั้นถึงวันปรุณมีแห่งอัสสยุชมาส เพ็ญเดือน ๑๑ พระพุทธเจ้าทรงปวารณาพระวัสสาแล้ว ทรงรับสั่งแก่ท้าวสักกเทวราชว่า ตถาคตจะลงไปสู่มนุษยโลกในวันนี้ เมื่อท้าวโกสีย์ทราบพุทธประสงค์แล้วจึงทรงนิรมิตบันไดทิพย์ ๓ บันได สำหรับพระพุทธดำเนินเสด็จลงสู่มนุษยโลกบันไดแก้วอยู่กลาง บันไดทองอยู่ข้างขวา บันไดเงินอยู่ข้างซ้าย เชิงบันไดทั้ง ๓ นั้นประดิษฐานอยู่ภาคพื้นปฐพีที่ใกล้ประตูเมืองสังกัสสนครศีรษะบันไดเบื้องบนจนยอดภูเขาสิเนรุ บันไดแก้วนั้นเป็นที่พระพุทธเจ้าเสด็จลง บันใดทองเป็นที่เทพยดาทั้งหลายตามส่งเสด็จ บันไดเงินเป็นที่พรหมทั่งหลายตามส่งเสด็จ ขณะนั้นเทพยดาและพรหมทั้งหลาย ได้มาประพร้อมกันบูชาพระบรมศาสดาเต็มทั่วจักวาล เมื่อได้เวลาเสด็จ พระพุทธเจ้าก็เสด็จมาประทับยืนที่ฐานศีรษะบันได ในท่ามกลางเทพพรหมบริษัทซึ่งแวดล้อมเป็นบริวาร จึงได้ทรงทำ "โลกวิวรรณปาฏิหาริย์" เปิดโลก โดยพระอาการทอดพระเนตรไปในทิศต่าง ๆ รวมทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง รวมเป็น ๑๐ ทิศด้วยกันและด้วยพุทธานุภาพ ในทันใดนั้นทุกทิศทกทางจะแลโล่งตลอดหมดไม่มีอันใดกีดบัง เทวดาในสวรรค์จะมองเห็นมนุษย์ เห็นยมโลก เห็นนรกและมนุษย์ก็มองเห็นเทวดาเห็นสัตว์นรก แม้สัตว์นรกก็มองเห็นมนุษย์ตลอดเทวดาในสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดปิดบัง พระพุทธเจ้าทรงสำแดปาฏิหาริย์เปิดโลก พร้อมกับเปล่งฉัพพัณณรังษี พระรัศมี ๖ ประการเป็นมหาอัศจรรย์ ครั้นนั้น เทพยดาในหมื่นจักรวาลได้มาประชุมกันในจักรวาลนี้เพื่อชื่นชมพระบารมีพระบรมศาสดาทรงทำปาฏิหาริย์ พร้อมกันทำสักการบูชาสมโภชพระพุทธเจ้าด้วยทิพย์บุปผามาลัยเป็นอเนกประการ พระบรมศาสดาได้เยื้องย่างลีลาเสด็จลงจากดาวดึงส์ โดยบันไดแก้วมณีมัย ท่ามกลางเทพยดาในหมื่นจักวารมีท้าวสักกะเป็นต้น โดยบนไดทองสุวรรณมัยในเบื้องขวา ท้าวสหัมบดีพรหมกับหมู่พรหมเป็นอันมากลงโดยบันไดเงินหิรัญญมัยในเบื้องซ้าย ปัญจสิขรคนธรรมพ์เทพบุตรทรงพิณมีสีดังผลมะตูมสุก ดีดขับร้องด้วยมธุรเสียงอันไพเราะมาใบเบื้องหน้าพระบรมศาสดา ท้าวสันตุสิตเทวราชกับท้ายสุยามเทวราชทรงทิพย์จามรถวายพระบรมศาสดาทั้ง ๒ ข้าง ท้าวมหาพรหมปชาบดี ทรงทิพย์เศวตฉัตรกั้นถวายพระบรมศาสดา ท้าวโกสีย์อมรินทราธิราชประคองบาตรเสลมัยของพระบรมศาสดา เสด็จเป็นมัคคุเทศก์นำพระบรมศาสดาลงมา ในท่ามกลางทวยเทพยดาแลพรหมทั้หลายพากันแวดล้อมแห่ห้อมเป็นบริวาร เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จลีลาลงจากดาวดึงส์สวรรค์ โดยบันไดแก้วลงมาถึงเชิงบันได มหาชนทั้งหลายได้เห็นพระรูปโฉมของพระบรมศาสดา ได้เห็นการเสด็จลีลาลงจากสวรรค์ในท่ามกลางเทพยดาและพรหมเป็นอันมาก ครั้นนั้นงามจับอกจับใจอย่างที่ไม่เคยคิดเคยเห็นมาแต่ก่อน ก็พากันลิงโลดแซ่ซ้องสาธุการเสียงสนั่นหวั่นไหว แม้แต่พระสารีบุตรพุทธสาวกยังได้กล่าวคาถาสรรเสริญด้วยความยินดีความว่าข้าพระองค์ไม่เคยได้เห็น ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งงามด้วยสิริโสภาคยิ่งกว่าเทพเจ้าทั้งมวล มีพระสุรเสียงอันไพเราะอย่างนี้ เสด็จลงมาจากสวรรค์ ขณะนั้น พระบรมศาสดาซึ่งมีพระทัยมากด้วยพระมหากรุณาจึงได้แสดงธรรมโปรดพุทธบริษัท ผู้กำลังมีความโสมนัสพึงตาพึงใจชมในพระรูปพระโฉม อยู่ในท่ามกลางเทพเจ้าและหมู่พรหมที่พร้อมกันถวายสักการบูชา ด้วยทิพยบุปผานาวรามิสให้เกิดกุศลจิตสัมประยุตด้วยปรีชาญาณ หยั่งรู้ในเทศนาบรรหารตามควรแก่อุปนิสัย เมื่อจบเทศนานัยธรรมานุสรธ์ ต่างก็ได้บรรลุอริยมรคอริยผล ตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงเบื้องปลาย ตามอริยอุปนิสัยได้สั่งสมมา ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 01 ต.ค. 2015, 05:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
กบนอกกะลา เขียน: วิริยะ เขียน: "สามารถยังประชาชน เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระองค์และมุ่งปฏิบัติธรรม ประชาชนอีกส่วนหนึ่ง เกิดความปรารถพุทธภูมิ ปรารถนาบำเพ็ญบารมี ๑๐ ตามอย่างพระองค์" ![]() ![]() ![]() ![]() นอกจากมนุษย์..แล้ว... มด..หนู...หมู..หมา..กา...ไก่...ไม่ทราบว่า..อยากจะเป็น..ได้ป่าวนะ เคยได้ยินเขาพูด ๆ กัน..แต่ไม่มีหลักฐาน..นะ..ว่า...ทำให้สัตว์ในอบายภูมิพ้นโทษได้เร็วขึ้น... ลุงหมาน เขียน: ขอยืนยันด้วยคนว่า สัตว์เหล่านั้นเมื่อได้เห็นพระพุทธเจ้าแล้วมีความเลื่อมใส เกิดตายในขณะนั้นสามารถพ้นจากอบายได้ เพราะบุญเก่าของสัตว์เหล่านั้นมีอยู่ เมื่อเห็นพระพุทธเจ้าแล้วเกิดความเลื่อมใส....ตรงนี้เป็นกรรมใหม่ที่หมู่สัตว์เหล่านั้น..ได้กระทำ..กุศลบุญอันใหม่... ใช่มั้ยคับ? ส่วนบุญเก่า...สัตว์มีกันทุกตัวตน..นะ... แม้แต่สัตว์นรก..กระผมก็คิดว่า...ก็มีบุญเก่าอยู่...ปราศจากบุญเลยนั้นคงหาได้ยาก.. มีบุญ...ทำไมยังอยู่ในนรก..?? ![]() ![]() ![]() กระผมว่าอภิธรรม..อธิบายได้นะ ส่วนที่ผมใช้คำว่าพ้นโทษได้เร็วขึ้น...(.อาจทำให้ดูเหมือนบุญกรรมเป็นก้อนเป็นอัตตา..มีการชดใช้ชำระกันได้อะไรอย่างนั้น.)..ก็เพื่อ.หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า..พ้นโทษทันทีได้...ซึ่งดูท่าจะรับกันได้ยาก ![]() ซึ่งลุงหมานก็ว่า..เกิดตายขณะนั้นสามารถพ้นจากอบายได้....เห็นมะ ก็การเกิดตาย..เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา..นิ... อย่างนี้..อภิธรรมก็สามารถอธิบายได้ว่า..ทำไมถึงพ้นโทษได้ทันที.. ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 01 ต.ค. 2015, 17:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
กบนอกกะลา เขียน: อ้างคำพูด: ส่วนบุญเก่า...สัตว์มีกันทุกตัวตน..นะ... แม้แต่สัตว์นรก..กระผมก็คิดว่า...ก็มีบุญเก่าอยู่...ปราศจากบุญเลยนั้นคงหาได้ยาก.. มีบุญ...ทำไมยังอยู่ในนรก..?? กระผมว่าอภิธรรม..อธิบายได้นะ ลุงหมาน เขียน: คนทำบุญมาเยอะก็ยังลงอบายได้ มันอยู่ตรงที่ว่าเวลาที่ดับจิตลงตรงนั้น เขาได้ใช้จิตที่เป็นกุศลหรืออกุศลต่างหาก เพื่อจะไปปฏิสนธิใหม่ในภูมิที่เกิดขึ้นต่อไป คนชั่ว คนเลว ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคยทำบุญ ทำกุศลมาก่อนเลย คนดีมีศีลธรรม ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคยกระทำความชั่วทำบาปมาก่อนเช่นกัน ดังนั้นคนดีกับคนชั่วย่อมจะต้องมีทั้งกุศลและอกุศลในชาตินั้นๆด้วย มันขึ้นอยู่กับว่าตอนตายกุศล หรืออกุศลให้ผลก่อนกัน ถ้าอกุศลมาให้ผลก่อนก็ลงอบาย กุศลมาให้ผลก่อนก็ไปสวรรค์ บุคคลที่ลงอบายก็ใช่ว่าบุญที่เคยทำไว้มันจะหมดไป ยังติดตามตัวไปยังภพที่ไปเสวยในภพอบายภูมิด้วย ฉะนั้นเราจึงเรียกว่าบุญเก่าที่เขามีอยู่ คนที่ขึ้นสวรรค์ไปเสวยความสุข ก็ใช่ว่าเขาจะไม่มีบาปติดตัวไปด้วย เพียงแต่บาปที่เคยมี ยังไม่มาส่งผลเขาได้เท่านั้น เพราะเขายังเสวยผลของบุญที่เขากำลังได้รับอยู่ เมื่อรับผลผลของบุญ ได้หมดลง เขาก็ต้องมารับผลของบาปคือจะต้องกลับมาเกิดในมนุษย์หรือลงอบายไปเลย กล่าวได้ดีแล้ว...ดีแล้ว ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 01 ต.ค. 2015, 19:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
และที่น่าคิด...คือ...มีผลบางอย่าง..ปรากฏขึ้นในกึ่งพุทธกาล คือ..ยุคที่เรากำลังเป็นอยู่นี้.. |
เจ้าของ: | bigtoo [ 01 ต.ค. 2015, 21:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
กบนอกกะลา เขียน: และที่น่าคิด...คือ...มีผลบางอย่าง..ปรากฏขึ้นในกึ่งพุทธกาล คือ..ยุคที่เรากำลังเป็นอยู่นี้.. มีแน่ๆอย่างน้อยก็มีกบท่องคาถาเรียกเงิน |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 02 ต.ค. 2015, 20:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
เป็นชาวบ้านธรรมดา..ท่องอะไรก็ไม่เสียหาย... แต่..จิบเหล้าเข้าสังคม...แล้วว่าตนบรรลุแล้ว...นี้ดิ...คือปรากฏการณ์กึ่งพุทธกาล...ละ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 02 ต.ค. 2015, 20:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
http://www.oknation.net/mblog/entry.php?id=950399 อ้างคำพูด: ![]() ผมเคยอ่านคำพยากรณ์ของหลวงปู่สังวาลย์ เขมโกท่านสนทนากับหลวงพ่อสนอง กตปุญโญไว้ว่าสัญญาณเตือนภัยก่อนที่ภัยพิบัติใหญ่จะมาคือ เราจะเห็นพระสงฆ์ทะเลาะกันวุ่นวายไปหมด จากนั้นจะเกิดน้ำท่วมใหญ่คนตายเป็นเบือที่ภาคใต้แต่ไม่เท่ากรุงเทพ เพราะจากนั้นไม่นานจะมีคลื่นยักษ์ซัดมาจากฝั่งตะวันออก มาทีเดียวน้ำจะท่วมเสาไฟฟ้า สมัยที่หลวงพ่อสนอง กตปุญโญท่านยังอยู่ท่านก็ย้ำคำของหลวงปู่สังวาลย์ไว้ดังนี้ครับว่า "เหลืออีกสองอย่าง ที่ยังไม่จริง ยังไม่ถึง ศึกพระ กับ น้ำท่วมกรุงเทพ คนจะตายกันเยอะ ตายมากกว่าคราวนี้ ท่านไม่บอกปีนะ ท่านเตือน บอกให้ระวังตัว เตือนเราว่า ให้ดูฝนตก 7 วัน 7 คืน ฟ้ามืด ไฟจะดับหมด สงสัยจะมีพายุอย่างแรง ไฟฟ้าสงสัยจะดับหมด"หลวงปู่สังวาลย์พูดให้ฟังว่า…สนอง…ไม่ช้าพวกเราก็ตายแล้ว แต่โลกนี้จะเดือดร้อน แต่ถ้าเราอยู่ถึงก็จะเห็นภัย 3 อย่าง "น้ำจะท่วมภาคใต้ ฝั่งตะวันตกตายกันเยอะ เป็นครั้งที่ 1 แต่ก็ตายไม่มากเท่าน้ำท่วมกรุงเทพ กรุงเทพนี่ น้ำท่วมมาก ท่วมตึก 4 ชั้นเลย" สนอง…เตรียมน้ำมันรถไว้ให้ดีนะ เตรียมรถให้ดี อย่าใช้ รถเก่านะ "ถ้าน้ำท่วมกรุงเทพเนี่ยะ ฝนจะตก 7 วัน 7 คืน ฟ้าจะมืดหมด ไม่มีแสงอาทิตย์ แสงตะวัน แล้วไฟดับหมด เงินไม่มีค่า เงินไม่มีความหมาย เอาข้าวตากไว้ดีกว่า ตอน 7 วัน 7 คืน".... ….ท่านบอกเรา(หลวงพ่อสนอง)ที่วัดอีกครั้งหนึ่งว่า เวลาฝนตก 7 วัน 7 คืน ถ้าน้ำท่วมมาถึงชลบุรีโกยเลยนะ ไปโน้นเลย สระบุรีไปเขาใหญ่เลยจะไม่ตาย…เราจะโกยไปทำไมคนเดียวล่ะ คลื่นยักษ์มาถึง ชลบุรีท่วมภูเขามาเลย ท่วมไปถึงวัดทุ่งสามัคคีธรรมน่ะ วัดทุ่งนี่เรานั่งพื้นน้ำเปียกหัวเรือเลยนะ น้ำไปสุดนครสวรรค์…เราบวชมานานเชื่อเราสิ ...."แล้วก็จะเกิดสงครามพระ สงครามพระไฟจะลุกทุกหย่อมหญ้าเลย" สงครามพระจะเกิด เชื่อเราไหม เราทำกรรมฐานมานาน (ก็ยังไม่เห็น เชื่อก็ไม่ได้ จะไม่เชื่อก็ไม่ได้ นั่งเฉยไว้ก่อน) ท่านบอกว่ามันเป็นกรรมของคนไทย น้ำท่วมภาคใต้ (ผ่านไปแล้ว) เหลือ..น้ำท่วมภาคกลาง..กับ..สงครามพระ ก็รอดูว่าจะเป็นยังงัย.. ใครคิดออกบ้างมั้ย..สงครามพระ..จะเป็นยังงัย ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 03 ต.ค. 2015, 19:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันเปิดโลก...โลกได้อะไร? |
กบนอกกะลา เขียน: เป็นชาวบ้านธรรมดา..ท่องอะไรก็ไม่เสียหาย... แต่..จิบเหล้าเข้าสังคม...แล้วว่าตนบรรลุแล้ว...นี้ดิ...คือปรากฏการณ์กึ่งพุทธกาล...ละ อริยะไม่ประกอบเนืองๆตามพระพุทธเจ้าได้นะกบ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |