วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2024, 02:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 284 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 15, 16, 17, 18, 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2015, 19:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


ความสังเกตนี่คือ สังกัปปะ ปัญญามรรค มรรคข้อที่ 2 ในมรรค 8 เป็นมรรคตัวสำคัญที่ทำให้เกิดวิปัสสนาปัญญา

กบ ขาดหรือตกคุณสมบัติข้อนี้ไปย่อมจะไม่เจริญในการปฏิบัติธรรมสู่มรรคผล

ความรู้ธรรมอย่างวิจิตรพิสดารทั้งหมดนั้นจะกลับกลายมาเป็นขยะท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
[/b]


:b14: :b14:

น่ากลัวม๊าก..มาก

รูปภาพ


:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2015, 05:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:


ความสังเกตนี่คือ สังกัปปะ ปัญญามรรค มรรคข้อที่ 2 ในมรรค 8 เป็นมรรคตัวสำคัญที่ทำให้เกิดวิปัสสนาปัญญา

กบ ขาดหรือตกคุณสมบัติข้อนี้ไปย่อมจะไม่เจริญในการปฏิบัติธรรมสู่มรรคผล

ความรู้ธรรมอย่างวิจิตรพิสดารทั้งหมดนั้นจะกลับกลายมาเป็นขยะท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
[/b]


:b14: :b14:

น่ากลัวม๊าก..มาก

รูปภาพ


:b32: :b32:

onion
กลัวมากก็ต้องรีบแก้ไข

ผลปฏิบัติจริงขั้นพื้นฐานยังตอบไม่ได้หรือไม่ยอมตอบอย่างนี้แล้วจะไปหวังผลเบื้องสูง พูดธรรมเบื้องสูงอย่างน้ำไหลไฟดับเหมือนพระอรหันต์มาพูดได้ด้วยความภูมิใจอยู่ได้อย่างไรหนอกบ

อันตรายๆๆๆๆๆๆ

สำหรับเพื่อนมนุษย์ทั้งปวง

:b14:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2015, 07:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


huh huh huh

ไหน....ลมเข้า..ลมออก...ต่างกันยังงัย?

คนรู้..บอกทีซิ

ไม่กล้าบอกละซิ...

เพราะ..มันไม่มีสาระ..หรือไม่ก้อ..กลัวคนจะจับได้ว่าเหลวไหล..ละมั้ง

s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2015, 18:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


onion
ลมหายใจเข้าจะเย็น

ลมหายใจออกจะอุ่นๆหรือร้อน


รู้ละยัง?

เรื่องง่ายๆ ธรรมด้า ธรรมดาเช่นนี้ ตอบไม่ได้ทำเป็นโยกโย้ ยียวนอยู่ตั้งนาน
เพราะไม่ปฏิบัติจริง ไม่มีประสบการณ์จริงเอาเสียเลย เก่งแต่ความรู้ในคัมภีร์ เป็นอย่างนี้แล้วเลยวิเคราะห์ได้ว่า หย่อนการปฏิบัติจริงๆไปอย่างมากเลย แล้วอารมณ์ปรมัตถ์ที่ลึกซึ้งกว่านี้จะรู้เรื่องหรือนี่ กบ ถึงว่า......! พูดเรื่องสภาวธรรมจริงๆที่ไม่มีในตำราเมื่อไหร่จึงไม่กระดิกหู ไม่รู้ แถมยังค้านตะพึดตะพือไปเริ่อยนะกบนะ อนิจา อนิจจัง

:b7: :b15:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2015, 19:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
onion
ลมหายใจเข้าจะเย็น

ลมหายใจออกจะอุ่นๆหรือร้อน


รู้ละยัง?

เรื่องง่ายๆ ธรรมด้า ธรรมดาเช่นนี้ ตอบไม่ได้ทำเป็นโยกโย้ ยียวนอยู่ตั้งนาน
เพราะไม่ปฏิบัติจริง ไม่มีประสบการณ์จริงเอาเสียเลย เก่งแต่ความรู้ในคัมภีร์ เป็นอย่างนี้แล้วเลยวิเคราะห์ได้ว่า หย่อนการปฏิบัติจริงๆไปอย่างมากเลย แล้วอารมณ์ปรมัตถ์ที่ลึกซึ้งกว่านี้จะรู้เรื่องหรือนี่ กบ ถึงว่า......! พูดเรื่องสภาวธรรมจริงๆที่ไม่มีในตำราเมื่อไหร่จึงไม่กระดิกหู ไม่รู้ แถมยังค้านตะพึดตะพือไปเริ่อยนะกบนะ อนิจา อนิจจัง

:b7: :b15:


รูปภาพ


เย็น....กับ....อุ่น :b32:

แล้วงัยต่อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2015, 06:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b4:
กระทู้นี้กล่าวถึงเรื่องเครื่องมือตรวจวัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม

การถามว่า ลมหายใจเข้าต่างกับลมหายใจออกอย่างไร

เป็นการตรวจวัด

1.คนๆนี้เคยภาวนาโดยการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกด้วยตัวเองจริงๆหรือไม่?

2.ความสามารถและประสิทธิภาพในการใช้สติ ปัญญาของเขาเป็นอย่างไร?

3.ความเฝ้าดู เฝ้ารู้ (สัมมาทิฏฐิ)และความเฝ้าสังเกต(สัมมาสังกัปปะ)และความรู้ทันปัจจุบันอารมณ์(สัมมาสติ) ของเขาเป็นอย่างไร? อยู่ในระดับที่จะเจริญวิปัสสนาภาวนาได้ดีหรือยัง หรือยังต้องศึกษา ฝึกหัดเพิ่มเติมในด้านใดบ้าง อย่างนี้เป็นต้น

จากคำถามเพื่อพิสูจน์ความจริงเล็กน้อยอันนี้สามารถใช้เป็นมิเตอร์วัดและวิเคราะห์ชีวิตจิตใจของคนที่บอกว่าศึกษาธรรม เข้าใจธรรม ปฏิบัติธรรม หรือรู้ธรรมมากน้อยเพียงไร ได้เป็นอย่างดี

อย่างกบถูกถามซ้ำตั้งหลายครั้งแล้วไม่ยอมตอบนี่ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า กบเป็นคนอวดรู้ ทิฏฐิ มานะใหญ่ รู้หลักทฤษฏีมากมายแต่ไม่ปฏิบัติจริง สอบตกเรื่องการใช้ปัญญามรรค คือขาดการเฝ้าดูเฝ้าสังเกตธรรมชาติจน จนแม้เรื่องง่ายๆพื้นฐานของลมหายใจก็ยังไม่รู้ไม่มีประสบการณ์ ถ้าขืนประพฤติอย่างนี้อยู่ต่อๆไป จะกลายเป็นผู้ว่ายากสอนยาก และเสียโอกาสที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา แต่ค้นหาไม่พบแก่นแท้คำสอนของพระพุทธเจ้า จึงมัวเมาอยู่ในบัญญัติ ห่างปรมัตถ์ไปยิ่งขึ้นทุกที เพราะมีอีโก้เพิ่มทับทวี มาปิดบังธรรมจริง

นี่คือแซมเปิ้ลๆๆ

กบพอจะมองเห็นประโยชน์จากเรื่องนี้ละยัง

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2015, 07:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมรู้อย่างหนึ่งละว่า....อโสกะรู้ได้แค่ตามตัวหนังสือ....ไม่สมกับที่ว่าเข้าถึงฌาน 4 เลย...

หรือไม่ก้อ...ฌาน 4 ..เก๊

:b16: :b16:

แนะนำ....เข้า ๆ ออก ๆ ฌาน 4 ให่ได้จริง ๆ ..ทำบ่อย ๆ นะ...

เผื่อจะมีเซนต์ขึ้นมาบ้าง...

มีเซนต์แล้ว..จะวิเคราะห์ไม่ค่อยผิดพลาด...

ตั้งแต่...ถลาพลาดไปรับรอง..อริยะจิบเหล้าเข้าสังคมไปแล้วนี้...มิทราบว่า...เซนต์ดีขึ้นมาบ้างหรือยัง...

แต่ดูความเห็นข้างบนแล้ว...รู้สึกยังไม่ก้าวหน้า..นะ..

เอาใหม่..เอาใหม่..
:b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2015, 12:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




065dsq_resize.jpg
065dsq_resize.jpg [ 25.6 KiB | เปิดดู 1276 ครั้ง ]
onion รูปฌาน
15
ก.ย.
2007
3 ความเห็น
by walailoo in รูปฌาน


รูปฌาณ คือฌานมีรูปธรรมเป็นอารมณ์

หรือฌานที่เป็นรูปาวจร มี 4 อย่าง ได้แก่

ปฐมฌาน ( ฌานที่ 1 ) มีองค์ประกอบ 5 คือ

วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา

ทุติฌาน ( ฌานที่ 2 ) มีองค์ประกอบ 3 คือ

ปิติ สุข เอกัคคตา

ตติฌาน ( ฌานที่ 3 ) มีองค์ประกอบ 2 คือ

สุข เอกัคคตา

จตุตฌาน ( ฌานที่ 4 ) มีองค์ประกอบ 2 คือ

อุเบกขา เอกัคคตา ( อัปปนาสมาธิ )

วิตก คือ นึกถึงอารมณ์ที่จะบริกรรมภาวนา

วิจาร ความที่จิตจดจ่อต่ออารมณ์บริกรรมภาวนานั้นๆ

ปีติ ภาวนาจนกระทั่งจิตมีความซาบซึ้งถึงสิ่งที่บริกรรมภาวนา

สุข เป็นผลพลอยได้ที่ตามมา

เมื่อปีติกับสุขอันเป็นอาหารของใจเกิด

ใจก็มีความสุข ความสงบ เบากาย เบาใจ

และความฟุ้งซ่านวุ่นวายภายภายในจิตใจก็หายไป

จิตก็มุ่งต่อความสงบเป็นระยะไปตามขั้น

จนกระทั่งปีติและสุขรวมลงสู่ความเป็นหนึ่ง

เรียกว่า เอกัคคตา

ใครจะบริกรรมภาวนากรรมฐานบทไหน

หรือแค่จิตจดจ่อที่ลมหายใจอย่างเดียว

เมื่อสภาวะจิตสงบลงสู่ความเป็นสมาธิ

หรือเป็นสมาธิแล้วนั้น ย่อมมีลักษณะเดียวกันหมด

คือไม่หนีหลักที่ว่า วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา

ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่รู้ ( เราคนหนึ่งแหละที่ปฏิบัติได้

แต่ไม่รู้ว่ามีคำเรียก ตอนนี้เข้าใจชัดแจ๋ว รู้แต่ไม่รู้ว่ารู้ )

:b38: สภาวะของรูปฌานในสัมมาสมาธิ
ปฐมฌาน

ขณะทรงฌานหูยังได้ยินเสียงจากภายนอกทุกอย่าง แต่ไม่รำคาญในเสียง ไม่ฟุ้ง ไม่ตกใจ
จิตทรงอารมณ์มั่นคง คือ ต่อให้มีใครมาจุดประทัดใกล้ตัว ก็ไม่มีความสะดุ้งตกใจ



ทุติยฌาน

ลมหายใจเบาลง ได้ยินเสียงจากภายนอกเบาลง ได้ยินแต่เหมือนอยู่ไกลๆ เกิดปีติเสียวแปบ
เหมือนสายฟ้าแลบ ความเสียวซ่านแผ่ไปตามร่างกาย ขนลุกทั้งตัว ไม่มีบริกรรม
จิตแจ่มใส จิตจะหยุดภาวนาเอง จิตไม่รับเสียงไม่สนใจในเสียง

ตติยฌาน
หูยังได้ยินเสียงอยู่ แต่ไม่รู้ความหมาย ร่างกายแข็ง ( ตรงนี้คือมีสติ สัมปชัญญะรู้อาการของกาย )
จิตละปีติจึงมีอาการเครียดทางกายคล้ายถูกจับมัดแน่น ลมหายใจยังปรากฏแต่เบามาก
มีความสุขมาก พอรู้สึกได้ว่ายังหายใจอยู่ ลมหายใจตรงนี้เริ่มละเอียดมากขึ้น

จตุตถฌาน

เมื่อกำหนดนั่ง อาจจะหายใจครั้ง หรือสองข้าง หรือแค่หายใจเข้า หรือ แค่ยืนกำหนดกำลังจะนั่งลง
จิตสามารถเข้าสู่สมาธิได้ทันที โดยไม่มีการบริกรรมภาวนาใดๆทั้งสิ้น จะมีสติ สัมปชัญญะรู้อยู่
ในกายและจิตได้ดี มีสมาธิที่แนบแน่น ลมหายใจจับไม่ได้ รู้แค่ว่าหายใจ แต่ไม่มีลมปรากฏ
จิตเป็นสมาธิอย่างต่อเนื่อง มีสภาวะรูป,นาม เป็นอารมณ์ ไม่ใช่ฌานตัวแข็งนะ

แต่ถ้าเป็นมิจฉาสมาธิ

คือ จะไม่มี สติ สัมปชัญญะรู้แจ้งชัดแบบนี้ แต่ทุกอย่างจะดับสนิท
แบบที่เรียกว่า ฌานตัวแข็ง ไม่มีการรับรู้ใดๆเลย

:b37:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2015, 18:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


s006 s006
อะไรของเขา....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2015, 05:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
s006 s006
อะไรของเขา....

:b32:
ตามไม่ทันแล้วใช่ไหมกบ

เรื่องฌาณ 4 และอัปปณาฌาณ ถ้ากบลองค้นคว้าดูตัวอย่างและหลักฐานว่าไม่มีลมหายใจจริงหรือไม่ให้ไปถามตามสำนักพองยุบที่เก่าแก่
1.สมัย3-40 ปีก่อนโน้น ครูบาอาจารยย์สายนี้ท่านมักจะให้ศิษย์ที่อธิษฐานดับได้นานๆเป็นชั่วโมงหรือหลายชั่วโมงมานั่งอธิษฐานดับ ตัวแข็งทื่อหมดลมและความรับรู้ให้ดูเวลามีการประชุมฟังเทศลำดับญาณ บ่อยๆ สมัยนี้ไม่ค่อยเห็นแล้ว

2.ให้ไปค้นดูในyou tube อาจะมี หรือที่อื่น ที่เขากล่าวถึงเรื่องฤาษีในอินเดียที่ฤาษีเกศ เขาเข้าฌาณดับลมและความรู้สึกแล้วเอาไปฝังดินไว้ 3 วัน 5 วัน 7 วันเมื่อครบกำหนดไปขุดขึ้นมาแล้วไม่ตายกลับสู่ปกติ

3.ลองไปศึกษาเรื่องกบและหมีจำศีล อันนี้ใกล้เคียงกับเรื่องเข้าอัปปณาฌาณมาก

4.ให้ไปสนทนาธรรมที่วัดเขาตะบองนาค อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ สอบถามจากที่นั้นแล้วอาจไปพบกับท่านที่มีชีวิตอยู่โดยไม่หายใจได้

5.ไปศึกษาจากคัมภีร์คงจะต้องเล่มที่อรรถกถาจารย์หรือฎีกา อธิบาย เรื่องการเข้านิโรธสมาบัติของพระอนาคามีและพระอรหันต์ จะได้รู้เรื่องคนดับลมหายใจแล้วไม่ตาย

ส่วนเรื่องอโศกะเข้าฌาณ 4 ได้ไม่ได้นั้นเป็นเรื่องปัจจัตตัง กบจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ไม่มีใครบังคับ สำคัญตัวกบเองนั้นทำให้ได้จริงๆเสียก่อน เริ่มต้นก็พิสูจน์หรือค้นให้พบเสียก่อนว่า

ลมหายใจเข้ามันเย็น

ลมหายใจออกมันอุ่นหรือร้อน เสียก่อน ว่ามันจริงหรือไม่แล้วเอามาตอบให้ฟัง
อย่าดื้อ อย่ามีทิฏฐะมานะมาก จึงจะได้ดี

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2015, 06:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
s006 s006
อะไรของเขา....

:b32:
ตามไม่ทันแล้วใช่ไหมกบ

เรื่องฌาณ 4 และอัปปณาฌาณ ถ้ากบลองค้นคว้าดูตัวอย่างและหลักฐานว่าไม่มีลมหายใจจริงหรือไม่ให้ไปถามตามสำนักพองยุบที่เก่าแก่
onion


:b32: :b32:

ผมเคยบอกอโสกะไปแล้วว่า...ในฌาน 4 ยังมีการหายใจ(ที่เป็นการสูดลมเข้าลมออกอยู่..ก็แค่เบาลง)...
ถึงกับบอกว่า..แม้ในอรูปฌาน 4 ก็ยังมีลมหายใจ..


แต่ที่ไม่รู้สึกถึงลมหายใจการสูดลมเข้าลมออกนั้น..เพราะจิตมีอารมณ์เดียว...มีสติอยู่กับตัวเอง

การไม่รู้ว่ามีลมหายใจไม่ได้หมายความว่า..ไม่มีลมหายใจ..
วัน..วันหนึ่ง...อโสกะรู้สึกว่าตัวเองหายใจกี่ครั้ง..ละ...


มันก็มีรู้บ้าง...ไม่รู้บ้าง..ใช่มั้ย..ลมหายใจนั้นนะ
ตอนไม่รู้เพราะมีสติอยู่กับอย่างอื่น...นะ...ไม่ได้หมายความว่า..ไม่ได้หายใจ..ไม่ใช่เหรอ

ส่วน...พวกที่ไม่มีการสูดลมหายใจเข้าออกเลย...เป็นพวกฌาน 4 อีกพวกหนึ่ง..ไม่ใช่เหมารวมว่า..คนที่เข้าฌาน 4 จะเป็นกันได้ทุกคน...

กลุ่มนี้เป็นยังงัย..ไม่รู้คับ..ไม่เคย

แต่ที่อโสกะ..เอาแต่พูดอยู่อย่างเดียวว่า..ฌาน 4 ไม่มีลมหายใจแล้วทั้งหมด..นี้แหละที่ผมว่าอโสกะรู้แค่ตามตัวหนังสืออย่างเดียว...ตามคำพูดของคนอื่นอย่างเดียว....

แล้วไปยกของวลัยพร..มา...อโสกะอ่านเข้าใจของเขาทั้งหมดมั้ยละนั้น?

สรุป....
ฌาน 4 มีลมหายใจอยู่..แต่ไม่ได้รู้ถึงการหายใจ
*พวกที่ไม่มีการสูดลมหายใจเลย...เป็นของคนประเภทหนึ่งในขณะอยู่ในฌาน 4 *

นี้เป็นความเห็นส่วนตัว....ไม่รู้ว่าจะเอาตำราที่ไหนมายัน... :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2015, 12:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
s006 s006
อะไรของเขา....

:b32:
ตามไม่ทันแล้วใช่ไหมกบ

เรื่องฌาณ 4 และอัปปณาฌาณ ถ้ากบลองค้นคว้าดูตัวอย่างและหลักฐานว่าไม่มีลมหายใจจริงหรือไม่ให้ไปถามตามสำนักพองยุบที่เก่าแก่
onion


:b32: :b32:

ผมเคยบอกอโสกะไปแล้วว่า...ในฌาน 4 ยังมีการหายใจ(ที่เป็นการสูดลมเข้าลมออกอยู่..ก็แค่เบาลง)...
ถึงกับบอกว่า..แม้ในอรูปฌาน 4 ก็ยังมีลมหายใจ..


แต่ที่ไม่รู้สึกถึงลมหายใจการสูดลมเข้าลมออกนั้น..เพราะจิตมีอารมณ์เดียว...มีสติอยู่กับตัวเอง

การไม่รู้ว่ามีลมหายใจไม่ได้หมายความว่า..ไม่มีลมหายใจ..
วัน..วันหนึ่ง...อโสกะรู้สึกว่าตัวเองหายใจกี่ครั้ง..ละ...


มันก็มีรู้บ้าง...ไม่รู้บ้าง..ใช่มั้ย..ลมหายใจนั้นนะ
ตอนไม่รู้เพราะมีสติอยู่กับอย่างอื่น...นะ...ไม่ได้หมายความว่า..ไม่ได้หายใจ..ไม่ใช่เหรอ

ส่วน...พวกที่ไม่มีการสูดลมหายใจเข้าออกเลย...เป็นพวกฌาน 4 อีกพวกหนึ่ง..ไม่ใช่เหมารวมว่า..คนที่เข้าฌาน 4 จะเป็นกันได้ทุกคน...

กลุ่มนี้เป็นยังงัย..ไม่รู้คับ..ไม่เคย

แต่ที่อโสกะ..เอาแต่พูดอยู่อย่างเดียวว่า..ฌาน 4 ไม่มีลมหายใจแล้วทั้งหมด..นี้แหละที่ผมว่าอโสกะรู้แค่ตามตัวหนังสืออย่างเดียว...ตามคำพูดของคนอื่นอย่างเดียว....

แล้วไปยกของวลัยพร..มา...อโสกะอ่านเข้าใจของเขาทั้งหมดมั้ยละนั้น?

สรุป....
ฌาน 4 มีลมหายใจอยู่..แต่ไม่ได้รู้ถึงการหายใจ
*พวกที่ไม่มีการสูดลมหายใจเลย...เป็นของคนประเภทหนึ่งในขณะอยู่ในฌาน 4 *

นี้เป็นความเห็นส่วนตัว....ไม่รู้ว่าจะเอาตำราที่ไหนมายัน... :b32: :b32: :b32:

:b12:
ผมเคยบอกแล้วว่าถ้าเข้าถึงอัปปณาฌาณเต็มองค์จริงๆก็ไม่มีลมหายใจ
ส่วนที่ว่ามีลมหายใจอยู่หรือไม่รู้ลมหายใจนั้นก็แสดงว่ายังเข้าไม่เต็มองค์
มันมีลำดับตามความหยาบละเอียดของจิตดังนี้ ก็น่าจะจบปัญหาที่ถกเถียงกันมาคล้ายเรื่องตาบอดคลำช้างตั้งนานนั้นได้แล้ว

กบเห็นอย่างไรสรุปอย่างไรก็เป็นเรื่องของกบเป็นระดับประสบการณ์และสติปัญญาของกบ

อโศกะแสดงเหตุผลและหลักฐานเต็มที่แล้วก็จบแล้วเรื่องนี้ จะได้คุยกันเรื่องอื่นต่อไป
เอวัง
:b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2015, 20:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

เต็มองค์...

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2015, 06:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32: :b32:

เต็มองค์...

:b32: :b32: :b32:

:b17:
เชิญงงเชิญงวยอยู่นั่นละนะกบ

เพราะไม่ภาวนาจริงแล้วยังไปประมาทจ้วงจาบคนภาวนาจริง บาปกรรมจึงจะตามสนองให้งวยงงในธรรมยิ่งๆขึ้นไป แก้ไม่ได้แก้ไม่เป็นก็ซี้แหงแกอยู่ในวัฏฏสงสารนี้ไปอีกนาน

ผมจะเดินหน้าต่อไปแล้วนะ

เราได้รู้จักมิเตอร์หรือเครื่องชี้วัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมมาแล้ว 2 อย่าง
คือ

1.ความโกรธและความขุ่นมัว
2.ความโลภ


มิเตอร์ตัวที่ 3 คือ ความเข้าถึงสมาธิหรือความสงบได้อย่างรวดเร็ว

ถ้าใครสามารถกำหนดจิตให้เข้าถึงความสงบได้อย่างรวดเร็วได้มากเท่าไหร่ก็ย่อมจะก้าวหน้าในการปฏิบัติได้มากเพียงนั้น เอาเวลาที่เข้าถึงนับเป็นชั่วโมง นาที วินาทีหรือมาตรวัดเวลาโบราณเช่นกี่อึดใจก็เข้าสู่สมาธิระดับนั้นระดับนี้ได้
อย่างพูดว่า เข้าถึงอุปจาระสมาธิได้ในชั่ว 3 อึดใจ คือประมาณ 2-3 นาทีอย่างนี้เป็นต้น

ระดับของความสงบเมื่อวัดโดยทางวิชาการอย่างง่ายๆนั้นวัดได้ 3 ระดับ

1.ขณิกะสมาธิ สมาธิเกิดขึ้นเป็นช่วงสั้นๆ มีคิดนึก วิตกวิจารณ์สลับไปกับความสงบนิ่ง

2.อุปจาระสมาธิ สมาธิเกิดขึ้นเป็นช่วงเวลายาวขึ้น คิดนึกมีน้อย วิตกวิจารณ์ธรรมโดยไม่ใช้ความคิดนึกมีมาก

3.อัปปณาสมาธิ สิ้นความคิดนึก วิตกวิจารณ์ จิตสงบตั้งมั่นอยู่กับอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน จนหยุดนิ่งเป็นหนึ่งเดียว

:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2015, 12:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
มิเตอร์วัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมตัวที่ 4

เข้าถึงสมาธิและความสงบได้ทุกสถานที่ ทุกกาลเวลา ไม่มีขีดจำกัด
:b36:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 284 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 15, 16, 17, 18, 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 26 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร