ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50959 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | yoottapong [ 13 ก.ย. 2015, 12:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย ธรรมยุติหนักมาทางปฏิบัติ สายเข้มแข็ง เหมาะกับเป็นตำรวจทหาร มหานิกายหนักมาทางปริยัติ สายปัญญา เหมาะกับเป็นด็อกเตอร์คุณหมอคุณครู การผนวกธรรมยุติกับมหานิกายเข้าด้วยกัน คือเป็น วิปยุตินิกาย เข้าใจหรือยังวิปคือวิปครีม หรือพริกธรรมอย่างหนักจนเป็นโจ๊ก จนเป็นสะเก็ดธรรม วิปยุตินิกาย คือผู้ฝึกตนจนบารมีเทียบเท่าเจ้าคุนนร เหมาะกับเป็นจอมกษัตริย์ |
เจ้าของ: | asoka [ 13 ก.ย. 2015, 12:48 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุตินิกายกับมหานิกาย | ||
![]() คุณยุทธพงษ์กำลังจะตั้งนิกายใหม่ขึ้นอีกนิกายหนึ่งคือ วิปยุตนิกาย ขออย่าให้เป็น วิปริตนิกายไปก็แล้วกันนะครับ ไม่ต้องไปตั้งนิกายใหม่หรอกครับเพราะถ้าเอาธรรมยุติกับมหานิกายมารวมกันมันก็จะกลับลงไปที่เดิมคือ พุทธนิกาย คือไม่มีนิกาย มีแต่พุทธวิธีเหมือนครั้งดั้งเดิมที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ครับ ![]()
|
เจ้าของ: | yoottapong [ 13 ก.ย. 2015, 13:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
![]() |
เจ้าของ: | student [ 13 ก.ย. 2015, 14:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
แผนที่รู้สึกว่าจะตั้งตำแหน่งอนัตตาไว้ไกลเกินเอื้อม ถ้าผมร่างจะต้องตั้งอนัตตาไว้ตรงกลางคลุมตารางไว้หมด เพราะธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา (เนื่องจากทุกคนยังมีข้อสงสัยว่านิพพานเป็นอนัตตาหรือยกเว้น แต่ความเห็นผมเป็นอนัตตา) คือคนจะเห็นหรือไม่เห็นธรรมทั้งปวงก็เป็นอนัตตา แผนที่มีความรู้สึกมองเข้ามาดูตนเอง (สถานะอนัตตาจึงไกลเกินเอื้อมเพราะมองดูภาพตนเอง) แต่ไม่ได้มองตามความจริงที่เป็น แล้วยังขาดศัทธาก่อนเป็นชาวพุทธ |
เจ้าของ: | asoka [ 13 ก.ย. 2015, 17:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
![]() คุณ student ไปคิดตามรูปสมมุติเลยดูว่าอนัตตาไกล ถ้าคิดเห็นอย่างนั้น นิพพานยิ่งไกลโพ้น ![]() แต่ถ้าคุณ studentจะมาสังเกตพิจารณาดูดีๆตามสภาวะที่เกิดขึ้นจริงๆในกายและจิตจะเห็นชัดว่า อัตตา และอนัตตาอยู่ใกล้มากคืออยู่แค่หลังผัสสะและเวทนาเท่านั้นเอง ลองสังเกตดูดีๆซิครับ กายตรงบริเวณขาสัมผัสพื้นที่นั่งเกินครึ่งชั่วโมงขึ้นไป(ผัสสะ) ความเจ็บเกิดขึ้นที่ขา(ทุกขเวทนา) ความยินร้ายเกิดขึ้นที่จิต(เวทนาที่จิต หรือโทมนัส) ผู้ยินร้ายในจิตคืออัตตาดิ้นรนตอบโต้อยากพ้นจากความเจ็บ สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ขันติ ตบะ ไม่ยอมทำตามคำสั่งและความอยากของอัตตาจนถึงที่สุด อัตตาถอยหรือดับหรือตายไป อนัตตาปรากฏ ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 13 ก.ย. 2015, 18:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
งง กับกระทู้นี้ ไม่รู้เขาสื่อสารเข้าใจกันได้ยัง |
เจ้าของ: | asoka [ 13 ก.ย. 2015, 19:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
ลุงหมาน เขียน: งง กับกระทู้นี้ ไม่รู้เขาสื่อสารเข้าใจกันได้ยัง ![]() ![]() 555555555 ต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงจะพอเข้าใจและรู้จักคุณยุทธพงษ์ พยายามหน่อยครับลุงหมาน ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 13 ก.ย. 2015, 22:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
student เขียน: แผนที่รู้สึกว่าจะตั้งตำแหน่งอนัตตาไว้ไกลเกินเอื้อม ถ้าผมร่างจะต้องตั้งอนัตตาไว้ตรงกลางคลุมตารางไว้หมด เพราะธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา (เนื่องจากทุกคนยังมีข้อสงสัยว่านิพพานเป็นอนัตตาหรือยกเว้น แต่ความเห็นผมเป็นอนัตตา) คือคนจะเห็นหรือไม่เห็นธรรมทั้งปวงก็เป็นอนัตตา แผนที่มีความรู้สึกมองเข้ามาดูตนเอง (สถานะอนัตตาจึงไกลเกินเอื้อมเพราะมองดูภาพตนเอง) แต่ไม่ได้มองตามความจริงที่เป็น แล้วยังขาดศัทธาก่อนเป็นชาวพุทธ ![]() นิพพานไม่ใช่ทั้งอัตตาและอนัตตา นิพพานเป็นนิพพานเป็นสูญญตา ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | student [ 14 ก.ย. 2015, 00:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
Rosarin เขียน: student เขียน: แผนที่รู้สึกว่าจะตั้งตำแหน่งอนัตตาไว้ไกลเกินเอื้อม ถ้าผมร่างจะต้องตั้งอนัตตาไว้ตรงกลางคลุมตารางไว้หมด เพราะธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา (เนื่องจากทุกคนยังมีข้อสงสัยว่านิพพานเป็นอนัตตาหรือยกเว้น แต่ความเห็นผมเป็นอนัตตา) คือคนจะเห็นหรือไม่เห็นธรรมทั้งปวงก็เป็นอนัตตา แผนที่มีความรู้สึกมองเข้ามาดูตนเอง (สถานะอนัตตาจึงไกลเกินเอื้อมเพราะมองดูภาพตนเอง) แต่ไม่ได้มองตามความจริงที่เป็น แล้วยังขาดศัทธาก่อนเป็นชาวพุทธ ![]() นิพพานไม่ใช่ทั้งอัตตาและอนัตตา นิพพานเป็นนิพพานเป็นสูญญตา ![]() ![]() ![]() ที่กล่าวว่าเป็นอนัตตา เพราะมีเหตุผลของคำว่า การเข้าถึง ตามหลักที่ว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา เพราะว่า หากว่าเป็นอนัตตา ก็คือไม่ห้ามบุคคลใดคนหนึ่ง เมื่อบรรลุอรหันต์ประหารกิเลสหมดสิ้นแล้วบุคคลนั้นพึงเข้าถึงสภาวะนิพพานเช่นเดียวกัน คำว่าสูญญตา เป็นสภาวะที่ว่าง ดับลง ไม่มีโซ่เกี่ยวไว้ซึ่งก็แสดงความหมายชัดเจนว่าเป็นนิพพานนั่นเอง แต่อนัตตา ไม่ได้แสดงสถานะพระนิพพาน แต่แสดงสถานะของพระไตรลักษณ์ มีความหมายว่า ไม่ห้ามคนใดคนหนึ่ง บุคคลที่ประหารกิเลสหมดสิ้นก็เข้าสู่นิพพานได้เช่นเดียวกันนั่นเอง |
เจ้าของ: | Rosarin [ 14 ก.ย. 2015, 02:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
student เขียน: Rosarin เขียน: student เขียน: แผนที่รู้สึกว่าจะตั้งตำแหน่งอนัตตาไว้ไกลเกินเอื้อม ถ้าผมร่างจะต้องตั้งอนัตตาไว้ตรงกลางคลุมตารางไว้หมด เพราะธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา (เนื่องจากทุกคนยังมีข้อสงสัยว่านิพพานเป็นอนัตตาหรือยกเว้น แต่ความเห็นผมเป็นอนัตตา) คือคนจะเห็นหรือไม่เห็นธรรมทั้งปวงก็เป็นอนัตตา แผนที่มีความรู้สึกมองเข้ามาดูตนเอง (สถานะอนัตตาจึงไกลเกินเอื้อมเพราะมองดูภาพตนเอง) แต่ไม่ได้มองตามความจริงที่เป็น แล้วยังขาดศัทธาก่อนเป็นชาวพุทธ ![]() นิพพานไม่ใช่ทั้งอัตตาและอนัตตา นิพพานเป็นนิพพานเป็นสูญญตา ![]() ![]() ![]() ที่กล่าวว่าเป็นอนัตตา เพราะมีเหตุผลของคำว่า การเข้าถึง ตามหลักที่ว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา เพราะว่า หากว่าเป็นอนัตตา ก็คือไม่ห้ามบุคคลใดคนหนึ่ง เมื่อบรรลุอรหันต์ประหารกิเลสหมดสิ้นแล้วบุคคลนั้นพึงเข้าถึงสภาวะนิพพานเช่นเดียวกัน คำว่าสูญญตา เป็นสภาวะที่ว่าง ดับลง ไม่มีโซ่เกี่ยวไว้ซึ่งก็แสดงความหมายชัดเจนว่าเป็นนิพพานนั่นเอง แต่อนัตตา ไม่ได้แสดงสถานะพระนิพพาน แต่แสดงสถานะของพระไตรลักษณ์ มีความหมายว่า ไม่ห้ามคนใดคนหนึ่ง บุคคลที่ประหารกิเลสหมดสิ้นก็เข้าสู่นิพพานได้เช่นเดียวกันนั่นเอง นิพพานไม่เกิดไม่ดับไม่เป็นอัตตาและไม่เป็นอนัตตา การกระทำของพระอรหันต์เป็นกิริยาจิตเป็นอุเบกขา ดับแล้วซึ่งอวิชชาสิ้นกิเลสอาสาวะนิพพานเป็นนิพพาน จิตบริสุทธิ์ฟอกธาตุชันธ์ ลองแปลความอนัตตาใหม่สิคะ อนัตตาแปลว่าไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของจิตของใคร เพราะจิตที่เกิด_ดับตามเหตุปัจจัยไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา นิพพานเที่ยง นิพพานไม่สูญ นิพพานไม่อยู่ในกฏไตรลักษณะ เพราะเมื่อทิ้งร่างมีพระธาตุเป็นพยานความบริสุทธิ์ของจิต จิตที่แตกต่างทำให้กายสะอาดไม่เหมือนศพคนทั่วไป ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 14 ก.ย. 2015, 02:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
![]() เคยฟังหลวงตาพระมหาบัวเทศน์สดๆ ตำหนิผู้ที่ออกมาถกเถียงเรื่องนิพพาน ได้ยินเต็มสองรูหูนิพพานไม่ใช่อัตตา นิพพานไม่ใช่อนัตตานิพพานเที่ยง ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 14 ก.ย. 2015, 05:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
![]() สาธุ ที่มากล่าวว่า นิพพานไม่ใช่อัตตาหรืออนัตตา เพราะนิพพานเป็นธรรมธาตุ เป็นสัจจะ อยูเหนือกฎแห่งไตรลักษณ์จริงๆ ใครสัมผัสและเข้าถึงแล้วจึงจะรู้ด้วยตนเอง ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 14 ก.ย. 2015, 07:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุตินิกายกับมหานิกาย |
asoka เขียน: ![]() ผมไม่เห็นด้วย..นะครับที่ใครๆ ก็ทำปฏิจจสมุปบาทเป็นวงกลม... มันไม่เม้คเซ็นส์เลยนะ..ที่..มรณะจะเป็นปัจจัย...อวิชชาจึงมี.. อวิชชา..ก็ไม่ได้มีหลังจากมรณะ..อย่างเดียว... ความเห็นของผม..อวิชชา...มันอยู่พร้อมกับทุกขั้นทุกตอน... และตรงมรณะ..ก็ไม่ได้มีมรณะตัวเดียว..มันมี....ชรา..(มรณะ)..โสกะ..ปริเทวะ..ทุกขะ..โทมนัส..อุปายาส จะเห็นว่า..ชรา..มรณะ..โสกะ..ปริเทวะ..ทุกขะ..โทมนัส..อุปายาส...ไม่ได้เป็นปัจจัย..จึงมีอวิชชา..เลยนิ ถ้าขืนยังจะเขียนเป็นวงกลมอีก...กระผมว่า..มิใช่จะเป็นการบิดเบือนพระธรรม..รึครับ? ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 14 ก.ย. 2015, 12:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุตินิกายกับมหานิกาย |
![]() คุณกบคิดมากเกินไปจนลืมคำว่า "วัฏฏะสงสาร" อันหมายถึงการหมุนวน ชาติปัจจัยยา มรณะ โสกะ..ปริเทวะ..ทุกขะ..โทมนัส..อุปายาส. ทั้งหมดเป็นภาคขยายของชาติ ความเกิด เพราะยังมีเกิด จึงมีแก่ เจ็บ ตาย โสกะ..ปริเทวะ..ทุกขะ..โทมนัส..อุปายาส. ที่ยังต้องมาเกิดก็เพราะยังไม่หมดอวิชชา เขาวนกลับมาอย่างนี้ครับ ![]() อนึ่งที่ไปคิดว่า อวิชชามีแทรกอยู่ทุกขั้นตอนนั้นก็คิดมากเกินไป ปฏิจจสมุปบาท มีความหมายว่าความเป็นเหตุปัจจัยสืบต่อซึ่งกันและกัน อวิชชาเป็นต้นปัจจัย ต้นเรื่องที่ทำให้เกิดปัจจัยอื่นตามมามิได้แทรกอยู่ในระหว่างปัจจัยแต่ละปัจจัยทั้ง 12 ปัจจัยครับ ![]() |
เจ้าของ: | ศิริพงศ์ [ 14 ก.ย. 2015, 13:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย |
อัตตาคือการคิดว่าเป็นก้อน. เป็นตัว. เป็นไปตามลักษณะสันฐานของวัตถุนั้นๆ อนัตตา. คือความเป็นธาตุ. ความเป็นขันธ์. ความเป็นอาตตนะ. เพราะพระองค์กล่าวว่าสัพเพธรรมาอนัตตา. และก็แสดงต่อว่าธรรมทั้งหลายมีแค่ธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6. ฉนั้นสรุปว่าธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6คืออนัตตา. ส่วนนิพพานนั้นเป็นความดับของธาตุทั้ง4ขันธ์ทั้ง5และอายตนะ6. หรือเรียกอีกอย่างคือดับสังขารทั้งหลายนั้นเอง |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |