วันเวลาปัจจุบัน 29 เม.ย. 2024, 04:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2015, 10:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านใด ยังจำช่วงเวลาที่เห็นว่า กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ
ช่วงที่เจอ ผู้รู้ ครั้งแรก
ครั้งแรกที่เห็น มันเป็นยังไง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ

Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2015, 14:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ยังไม่ตายครับ

กายใจเลยยังไม่แยก

แต่ถ้าเป็นเหตุปัจจัยที่แสดงสถานะของกายใจ

จำไม่ได้แล้วครับ

ธรรมต่างๆค่อยๆเกิดขึ้นตามลำดับ

ไม่ได้เกิดพรวดเดียวรู้หมด

คือคำว่าแยก คือแยกกันในสถานะที่เราเรียนกันแล้ววืาขันธ์5

มีรูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ

เป็นปัจจัยเกื้อหนุนกันเพราะมีเหตุคือกรรมและอาหาร

กายใจเลยไม่ได้แยกกันแต่ สภาวะธรรมที่แสดงคือ การเกิดดับของธรรม

เราไม่ได้เข้าไปเห็นการแยกกัน

เราเข้าไปเห็นการเกิดดับของธรรม

เพราะพระไตรลักษณ์ เราจึงเห็นความไม่เที่ยง

ถ้าเราไม่เห็นความเป็นไตรลักษณ์
เราจะไม่มีวันรู้เลยว่ามีกายใจปรากฎ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2015, 17:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ท่านใด ยังจำช่วงเวลาที่เห็นว่า กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ
ช่วงที่เจอ ผู้รู้ ครั้งแรก
ครั้งแรกที่เห็น มันเป็นยังไง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ

Kiss

:b12:
อุปมาที่ ๑เหมือนเราถอดแว่นตาแล้วยื่นออกไปให้ห่างตาจนอยู่ในระดับที่สามารถมองเห็นว่าแว่นตามีอะไรติดหรือทำให้กระจกแว่นตาพร่ามัว

อุปมาที่ ๒ เหมือนคนยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมองเห็นสิ่งต่างๆไหลตามกระแสน้ำผ่านหน้าไปตลอดเวลา

อุปมาที่ ๓ เหมือนงูลอกคราบแล้วหันมามองคราบตัวเอง

อุปมาที่ ๔ เหมือนคนไปยืนดูมดปลวกกำลังเคลื่อนไหวไปมาผ่านหน้าไป
:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2015, 21:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ท่านใด ยังจำช่วงเวลาที่เห็นว่า กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ
ช่วงที่เจอ ผู้รู้ ครั้งแรก
ครั้งแรกที่เห็น มันเป็นยังไง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ

tongue
อดีตผ่านไปแล้วรู้ของตนถึงจะรำลึกได้
อ่านตำราแล้วทำเพื่อหวังจะให้เป็นอย่างนั้น
หรือฟังคนอื่นเล่าก็ไม่ต่างจากตำราแต่อย่างใด
ทำสมาธิให้ปล่อยวางภาระทางโลกทำจิตให้นิ่งๆ
ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยคุณบิดามารดาครูอาจารย์
ตั้งจิตไว้ชอบโดยไม่หวังผลเมื่อจิตดิ่งลงสู่ภวังค์ที่แนบแน่น
ตามที่ข้าพเจ้าเคยแนะนำวิธีทำสมาธิเห็นผลแล้วจะไม่ถามใคร
onion onion onion
ขุดตาน้ำลงไปไม่หยุด บึดจ้ำบึดเอ้าบึดจ้ำบึด เวลาไม่หวนกลับมาน๊า
:b31: :b31: :b31:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2015, 22:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
รู้ผลของงานจากจิตที่ถึงความสงบแท้จริง
แม้รู้เพียงราตรีเดียวดีกว่าอยู่ร้อยปีตายเปล่า
ที่จำไว้ก็หายไปเกิดใหม่ก็เริ่มต้นใหม่ไม่รู้ที่ไหน
:b12:
ไม่ง่ายอย่างที่อ่านท่องจำมาจากตำราเลย
เพราะจิตไม่ใช่จิตเปล่าๆอย่างกระดาษ
เป็นจิตเรายึดติดความจำดิ้นไม่หยุด
แล้วฟุ้งไปกับสิ่งที่จำไม่อยู่กะตัว
ต้องทำให้จิตจำสิ่งที่กำลังทำ
:b43:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2015, 00:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ท่านใด ยังจำช่วงเวลาที่เห็นว่า กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ

ช่วงที่เจอ ผู้รู้ ครั้งแรก
ครั้งแรกที่เห็น มันเป็นยังไง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ

Kiss


:b32: ...

:b1: ...

เอกอนชอบคำถามคุณนะ

ดูกำกวมดี... :b1:

ข้อนี้เอกอนยกธงขาว...ขอยอมแพ้
เอกอนตอบไม่ได้กั๊บป๋ม...

:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2015, 04:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:


:b32: ...

:b1: ...

เอกอนชอบคำถามคุณนะ

ดูกำกวมดี... :b1:

ข้อนี้เอกอนยกธงขาว...ขอยอมแพ้
เอกอนตอบไม่ได้กั๊บป๋ม...

:b13: :b13: :b13:

:b9:
จริงหรื้อ..?..

ถ้ากำกวมไม่ดี....คงพูดได้..จิ

:b22: :b22:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2015, 04:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ท่านใด ยังจำช่วงเวลาที่เห็นว่า กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ

ช่วงที่เจอ ผู้รู้ ครั้งแรก
ครั้งแรกที่เห็น มันเป็นยังไง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ

Kiss


:b14: :b14: :b14:

:b12:
:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2015, 09:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ท่านใด ยังจำช่วงเวลาที่เห็นว่า กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ
ช่วงที่เจอ ผู้รู้ ครั้งแรก
ครั้งแรกที่เห็น มันเป็นยังไง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ

tongue
อดีตผ่านไปแล้วรู้ของตนถึงจะรำลึกได้
อ่านตำราแล้วทำเพื่อหวังจะให้เป็นอย่างนั้น
หรือฟังคนอื่นเล่าก็ไม่ต่างจากตำราแต่อย่างใด
ทำสมาธิให้ปล่อยวางภาระทางโลกทำจิตให้นิ่งๆ
ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยคุณบิดามารดาครูอาจารย์
ตั้งจิตไว้ชอบโดยไม่หวังผลเมื่อจิตดิ่งลงสู่ภวังค์ที่แนบแน่น
ตามที่ข้าพเจ้าเคยแนะนำวิธีทำสมาธิเห็นผลแล้วจะไม่ถามใคร
onion onion onion
ขุดตาน้ำลงไปไม่หยุด บึดจ้ำบึดเอ้าบึดจ้ำบึด เวลาไม่หวนกลับมาน๊า
:b31: :b31: :b31:



:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2015, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ท่านใด ยังจำช่วงเวลาที่เห็นว่า กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ
ช่วงที่เจอ ผู้รู้ ครั้งแรก
ครั้งแรกที่เห็น มันเป็นยังไง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ

Kiss


student เขียน:
ยังไม่ตายครับ

กายใจเลยยังไม่แยก

:b32:
student ตอบได้แม่นยำและถูกต้องที่สุดค่ะ
เพราะไม่มีใครรู้วินาทีที่จุติจิตออกจากร่างเดิมไปสู่ร่างใหม่ได้ นอกจากหนึ่งเดียวคือพระพุทธเจ้า
:b12:
ถ้าพิจารณาคำถามให้ดี คุณเปลี่ยนชื่อใหม่คงเข้าใจว่ากายกับใจมันเป็นอะไรที่รวมกันอยู่เป็นเนื้อเดียวกัน
จริงๆเป็นองค์ประกอบของธาตุดิน,น้ำ,ไฟ,ลม และธาตุรู้ แบ่งไว้2ส่วนมีกายกับจิตครอบครองกันไว้หลวมๆ
คล้ายๆกับการประกอบรถยนต์ ก่อนจะเป็นรถก็ต้องมีอะไหล่ มีเครื่องยนต์ มีน้ำมันเชื้อเพลิงเทียบได้กะกาย
ส่วนจิตก็เปรียบเสมือนเป็นคนขับรถเป็นผู้ควบคุมรถยนต์ให้เคลื่อนไป ซึ่งรถพังได้ คนขับก็เปลี่ยนคันใหม่
คือจิตเป็นธาตุรู้มาครอบครองธาตุสี่อยู่โดยมีอากาศธาตุแทรกคั่นไว้หลวมๆ แตกหักสลายได้ง่ายมากๆค่ะ
ร้อนมากก็ไม่ได้ หนาวมากก็ไม่ได้ กระแทกหรือชนอะไรแรงๆก็ไม่ได้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่มีความมั่นคงอะไรเลย
:b1:
ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเพื่อแจกแจงรายละเอียดของกายกับจิตอย่างละเอียดยิบจนไม่ใช่คน
และระบุชื่อของทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสมมุติ ทั้งปวงนั้นเป็นทุกข์เป็นอนัตตาที่มีความไม่เที่ยงเป็นธรรมดา
ทรงแสดงสภาวะที่เที่ยงแท้ที่ไม่เกิด-ไม่ดับ ทุกสภาวะธรรมทรงบัญญติสมมุติชื่อเรียกไว้โดยละเอียดและ
ให้พยายามพากันค้นหาสิ่งที่พระองค์ทรงแสดงไว้ทั้งหมดนั่นแหละ ไม่หนีจากกายนี้และกายอื่นๆก็เช่นกัน
เพราะทุกดวงจิตตอนนี้หลงอยู่ในวังวนด้วยความไม่รู้ความจริงจนยึดติด จึงเปรียบเป็นความมืดดำและ
เมื่อเริ่มเข้าใจค่อยๆสะสมความรู้จากการฝึกคิดตามความจริงที่พระองค์แสดงจะค่อยๆสว่างขึ้นจึงดับมืด
คำที่ใช้เรียกความไม่รู้คืออวิชชา ความฉลาดรู้คือปัญญา(ที่เข้าใจกิเลสด้านมืดในจิตตนก็จะเข้าใจจิตอื่น)
:b8:
ทั้ง15บรรทัดข้างบนสรุปรวบยอดทั้งพระไตรปิฎกเลย ง่ายมาก แค่ทำจิตให้สงบจนจิตเที่ยงก็หลุดพ้นไตรภพจร้า
:b32: :b32:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2015, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2015, 16:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
เมื่อเจริญสติ สมาธิ ปัญญาไปพอสมควรจนมีสมาธิตั้งมั่น สติว่องไวรูทันปัจจุบันอารมณ์ได้ดี ปัญญามีความฉลาดเฉียบแหลมจะเห็นหรือรู้ว่า กาย ใจ หรือ รูป นาม นี้แยกออกเป็นคนละส่วน
นามเป็นผู้รู้รูป
รูปเป็นสิ่งที่ถูกรู้

ในญาณวิปัสสนาท่านเรียกว่า นามรูปปริเฉทญาณ เป็นญาณที่ ๑ ที่จะต้องเกิดขึ้นมาได้เสียก่อน วิปัสสนาภาวนาจึงจะสามารถเกิดขึ้นและเจริญก้าวหน้าขึ้นไปได้ ไม่เกิดญาณนี้ วิปัสสนาภาวนาก็ไม่เกิด
นามรูปหรือกายใจแยกออกจากกันเป็นคนละส่วนได้ การรู้ทุกข์และการสังเกตพิจารณาค้นหาเหตุทุกข์จึงจะเกิดขึ้นมาได้

นามที่ไปรู้รูปเมื่อแรกจะดูเหมือนมีตัวเดียวคือนามสติหรือนามปัญญา นามเวทนา แต่เมื่อสมาธิตั้งมั้นยิ่งขึ้นสติปัญญาจะคมกล้ามากขึ้นจนเห็นธรรมที่ละเอียดอ่อนขึ้นไปอีกจะมีนามที่ไปรู้นามอีกชั้นหนึ่ง ถึงตอนนี้เราจะได้เห็นตัว นามผู้รู้ ชัดเจนขึ้น

ตัวอย่าง
ผู้ปฏิบัตินั่งเจริญวิปัสสนาภาวนามาได้ครึ่งชั่วโมง มีความเจ็บปวดเกิดขึ้นที่ก้นกบ

ความเจ็บปวดเป็นสภาวะธาตุลม เกิดขึ้นที่ก้น เป็นรูป จิตหรือสติปัญญาที่ไปรู้ความเจ็บปวดเป็น นาม
ทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นที่จิตเป็นนามเวทนา
สติปัญญาที่ไปรู้ทันและรู้เวทนา เป็นนามสติและนามปัญญา
ผู้รู้ หรือนามปัญญาเป็นผู้รู้กระบวนการทำงานทั้งหมดของรูปและนาม

:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2015, 22:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2015, 16:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ท่านใด ยังจำช่วงเวลาที่เห็นว่า กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ

ช่วงที่เจอ ผู้รู้ ครั้งแรก
ครั้งแรกที่เห็น มันเป็นยังไง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ

Kiss


:b14: :b14: :b14:

:b12:
:b16:


คือ...แบบว่าคำถามนี้ พอจะตอบ

"กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ""

คือ...ถ้าผู้ที่ปฏิบัติแล้วแม่นในโยนิโสมนสิการในการพิจารณา ธาตุ 4 ขันธ์ 5 อายตน 6
พอจะตอบน่าจะสะดุดทันที เพราะ
1. เมื่อเขาตอบว่าได้ ..........
2. เขาต้องตอบได้ด้วยว่า .......... เห็นได้อย่างไร ด้วยอาการอะไร อาศัยอะไรในการเห็น
3. การตั้งอาศัยที่ทำให้ปรากฎการเห็นนั้น ๆ ตั้งอยู่บนอะไร ....

เมื่อเทียบกับหลัก ปัจจยการ แล้วดูขัด ๆ

จบ....อิอิ

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2015, 16:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ท่านใด ยังจำช่วงเวลาที่เห็นว่า กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ

ช่วงที่เจอ ผู้รู้ ครั้งแรก
ครั้งแรกที่เห็น มันเป็นยังไง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ

Kiss


:b14: :b14: :b14:

:b12:
:b16:


คือ...แบบว่าคำถามนี้ พอจะตอบ

"กายกับใจจริงๆมันแยกกันอยู่ได้บ้างครับ""

คือ...ถ้าผู้ที่ปฏิบัติแล้วแม่นในโยนิโสมนสิการในการพิจารณา ธาตุ 4 ขันธ์ 5 อายตน 6
พอจะตอบน่าจะสะดุดทันที เพราะ
1. เมื่อเขาตอบว่าได้ ..........
2. เขาต้องตอบได้ด้วยว่า .......... เห็นได้อย่างไร ด้วยอาการอะไร อาศัยอะไรในการเห็น
3. การตั้งอาศัยที่ทำให้ปรากฎการเห็นนั้น ๆ ตั้งอยู่บนอะไร ....

เมื่อเทียบกับหลัก ปัจจยการ แล้วดูขัด ๆ

จบ....อิอิ

:b12:



s006
ผมถามผิดรึยังไงอะครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 113 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron