ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50649 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 6 |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 05 ส.ค. 2015, 16:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 05 ส.ค. 2015, 22:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 05 ส.ค. 2015, 22:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
![]() bigtoo เขียน: สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ ![]() ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 05 ส.ค. 2015, 22:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
Rosarin เขียน: wink คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน
bigtoo เขียน: สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ ![]() ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 05 ส.ค. 2015, 22:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
นิพพาน...มีความปกติ ปกติ..คือ..สมบูรณ์..บริบูรณ์ดีแล้ว... สมบูรณ์..บริบูรณ์ดีแล้ว....มิจฉาจึงไม่มี ไม่มีมิจฉา..แล้วจะเอาคำไหนไปพูดว่า..มีสัมมา ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 05 ส.ค. 2015, 22:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
กบนอกกะลา เขียน: นิพพาน...มีความปกติ ปกติ..คือ..สมบูรณ์..บริบูรณ์ดีแล้ว... สมบูรณ์..บริบูรณ์ดีแล้ว....มิจฉาจึงไม่มี ไม่มีมิจฉา..แล้วจะเอาคำไหนไปพูดว่า..มีสัมมา ![]() คุณจะบรรยายนิพพานได้ก็เพียงในรูปปฎิเสธ. แต่สภาวะนิพพานนั้นจะปรากฎได้ก็ต่อเมื่อสัมมาสมาธิบริบูณร์เท่านั้น. ตราบใดคุณยังท่องคาถาเงินล้านคุณจะไม่มีวันเข้าถึงนิพพานได้แน่นอน |
เจ้าของ: | Rosarin [ 05 ส.ค. 2015, 22:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
![]() bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: wink คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพานbigtoo เขียน: สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ ![]() ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ ![]() ![]() ![]() ![]() ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 05 ส.ค. 2015, 22:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
bigtoo เขียน: ตราบใดคุณยังท่องคาถาเงินล้านคุณจะไม่มีวันเข้าถึงนิพพานได้แน่นอน อย่าเข้าทีหลังผมก็แล้วกัน.... ![]() ![]() เข้าทีหลัง...จะถูกทำโทษ...นะ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 05 ส.ค. 2015, 22:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
กบนอกกะลา เขียน: bigtoo เขียน: ตราบใดคุณยังท่องคาถาเงินล้านคุณจะไม่มีวันเข้าถึงนิพพานได้แน่นอน อย่าเข้าทีหลังผมก็แล้วกัน.... ![]() ![]() เข้าทีหลัง...จะถูกทำโทษ...นะ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 05 ส.ค. 2015, 22:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
Rosarin เขียน: Kiss ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่าง
bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: wink คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพานbigtoo เขียน: สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ ![]() ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ ![]() ![]() ![]() ![]() ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 05 ส.ค. 2015, 23:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
bigtoo เขียน: เลิกท่องคาถาก็ถูกทางแล้ว มีสิทธิ์เขาได้ เด้วจะทำให้ดูว่า..ท่องคาถา...ก็เข้านิพพานได้ ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 05 ส.ค. 2015, 23:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: Kiss ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่างbigtoo เขียน: Rosarin เขียน: wink คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพานbigtoo เขียน: สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ ![]() ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ ![]() ![]() ![]() ![]() ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ ![]() ![]() ทู่ท่องหรา หึหึ หุหุ 55555 ตรงทางหน่อยทางสายกลางทางเดียว เข้าใจถูกเป็นปัญญาที่เกิดจากสัมมาทิฐิข้อแรกในอริยมรรคนะ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 05 ส.ค. 2015, 23:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
![]() ดูคลิปบันไดไหม http://m.youtube.com/watch?v=eE8Um7CPJ8M สัมมาสมาธิ http://m.youtube.com/watch?v=gyDeY6_GXdU ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bigtoo [ 06 ส.ค. 2015, 06:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
Rosarin เขียน: bigtoo เขียน: Rosarin เขียน: Kiss ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่างbigtoo เขียน: Rosarin เขียน: wink คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพานbigtoo เขียน: สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ ![]() ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ ![]() ![]() ![]() ![]() ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ ![]() ![]() ทู่ท่องหรา หึหึ หุหุ 55555 ตรงทางหน่อยทางสายกลางทางเดียว เข้าใจถูกเป็นปัญญาที่เกิดจากสัมมาทิฐิข้อแรกในอริยมรรคนะ ![]() ![]() ผู้ที่พบพระนิพพานเท่านั้นถึงจะเกิดสัมมาทิฎฐิที่แท้จริงที่เกิดผล |
เจ้าของ: | walaiporn [ 06 ส.ค. 2015, 09:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม |
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม ![]() ![]() คุณควรยังศรัทธาให้เกิด ศรัทธาในพระพุทธเจ้า ศรัทธาในพระธรรมคำสอน หากคุณมีความศรัทธาในพระพุทธเจ้า คุณย่อมเกิดความศรัทธาในพระธรรมคำสอนด้วย เมื่อเป็นผู้หยั่งลงในความศรัทธาแล้ว ย่อมปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีคำถาม การที่คุณตั้งคำถามประมาณนี้ เกิดจาก ไม่มีความศรัทธาในพระธรรมคำสอน หรือ หากมีความศรัทธาบ้าง ก็ยังมีน้อย เพราะไม่มีการขวนขวายหาความรู้จากพระธรรมคำสอน ยกตย.ให้ดู เมื่อสงสัยสิ่งใด จงดำเนินตามทางที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสไว้ การกำหนดรู้(โยนิโสมนสิการ) ดูกรอัคคิเวสสนะ ! เราแนะนำสาวกทั้งหลายอย่างนี้ และคำสั่งสอนของเรามีส่วนอย่างนี้ ที่เป็นไปมากในสาวกทั้งหลายว่า รูปไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง รูปไม่ใช่ตน เวทนาไม่ใช่ตน สัญญาไม่ใช่ตน สังขารทั้งหลายไม่ใช่ตน วิญญาณไม่ใช่ตน สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่ใช่ตน ธรรมทั้งหลายทั้งปวงไม่ใช่ตน ดังนี้ ดูกรอัคคิเวสสนะ ! เราแนะนำสาวกทั้งหลายอย่างนี้ และคำสั่งสอนของเรามีส่วนอย่างนี้ ที่เป็นไปมากในสาวกทั้งหลาย ผลของการปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน เมื่อกำหนดรู้ อาหารของโพชฌงค์ ๗ [๓๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายนี้มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ แม้ฉันใด โพชฌงค์ ๗ ก็มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน. [๓๖๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้สติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายเป็นที่ตั้งแห่งสติสัมโพชฌงค์ มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหารให้สติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์. [๓๖๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศลและ อกุศลที่มีโทษ และไม่มีโทษ ที่เลวและประณีต ที่เป็นฝ่ายดำและฝ่ายขาว มีอยู่ การกระทำให้มาก ซึ่งโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหารให้ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์. [๓๖๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้วิริยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความริเริ่ม ความพยายาม ความบากบั่น มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในสิ่งเหล่านี้ นี้เป็นอาหารให้วิริยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์. [๓๖๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้ปีติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายเป็นที่ตั้งแห่งปีติสัมโพชฌงค์ มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหารให้ปีติสัมโพชฌงค์ที่ยัง ไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์. [๓๖๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความสงบกาย ความสงบจิต มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในความสงบนั้น นี้เป็นอาหารให้ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์. [๓๗๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้สมาธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์? ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมาธินิมิต อัพยัคคนิมิต มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในนิมิตนั้น นี้เป็นอาหารให้สมาธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์. [๓๗๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้อุเบกขาสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายเป็นที่ตั้งแห่ง อุเบกขาสัมโพชฌงค์ มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหาร ให้อุเบกขาสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์. [๓๗๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายนี้มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ แม้ฉันใด โพชฌงค์ ๗ เหล่านี้ ก็มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะ อาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน. เมื่อไม่ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน ไม่มีการกำหนดรู้ เมื่อไม่กำหนดรู้(อโยนิโสมนสิการ) [๓๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายนี้มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ แม้ฉันใด นิวรณ์ ๕ ก็มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน. [๓๕๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหาร ให้กามฉันท์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศุภนิมิตมีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในศุภนิมิตนั้น นี้เป็นอาหารให้กามฉันท์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้ว ให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น. [๓๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้พยาบาทที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปฏิฆนิมิตมีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในปฏิฆนิมิตนั้น นี้เป็นอาหารให้พยาบาทที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้ว ให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น. [๓๖๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้ถีนมิทธะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความไม่ยินดี ความเกียจคร้าน ความบิดขี้เกียจ ความเมาอาหาร ความที่ใจหดหู่ มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในสิ่งเหล่านั้น นี้เป็นอาหารให้ถีนมิทธะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น. [๓๖๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความไม่สงบใจมีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในความไม่สงบใจนั้น นี้เป็นอาหารให้อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น. [๓๖๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้วิจิกิจฉาที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งวิจิกิจฉามีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหารให้วิจิกิจฉาที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น. [๓๖๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายนี้มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ แม้ฉันใด นิวรณ์ ๕ เหล่านี้ ก็มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน. สิ่งที่ควรศึกษา โกศลสูตรที่ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่งบัญญัติ นิพพานอันยวดยิ่ง ในปัจจุบันมีอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความหลุดพ้นเพราะไม่ถือมั่น เพราะรู้ความเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งผัสสายตนะ ๖ ประการ เลิศกว่าการบัญญัตินิพพานอันยอดยิ่ง ในปัจจุบันแห่งสมณพราหมณ์ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0 เกี่ยวกับกระทู้โสดาบัน ที่เคยบอกไว้ว่า จะนำข้อมูลทั้งหมดมาลงให้ ต้องขอภัยด้วย ที่จะไม่มีการใส่คำอธิบายใๆของคำเรียกนั้นๆอีก เมื่อดำเนินตามทางที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ ควรทำตามพระธรรมคำสอน ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างไว้ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 6 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |