ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50401
หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 29 มิ.ย. 2015, 06:12 ]
หัวข้อกระทู้:  เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

เราเคยได้ยินกันมาบ่อย และเราก็มีความเชื่ออย่างนั้นว่า
"ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต " เห็นแบบไหนครับถึงเรียกว่าเห็นธรรม?

พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ในวักกลิสูตรว่า " ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต "
แล้วเห็นแบบไหนถึงเรียกว่าเห็นธรรมครับ การเห็นแบบนี้

สามารถสัมผัสได้ด้วย หู ตา จมูก ลิ้น และกาย คือ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 หรือไม่?
แล้วการเห็นธรรมกับการเข้าใจธรรมนี้เป็นความหมายเดียวกันหรือไม่?

ขอความเห็นครับว่า เห็นแบบไหนจึงชื่อเห็นตถาคต..........

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 29 มิ.ย. 2015, 06:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

พบความสุขแบบของพระนิพพาน...น่านแหละคับ...จึงน่าจะเรียกว่าเห็นพระพุทธเจ้า...เต็ม

คล้ายๆ..กับคำพูดของเราเรา..ที่ว่า..จะรู้ว่าพ่อแม่รักเราแค่ไหน..ก็ตอนได้เป็นพ่อแม่คนแล้ว..นั้นละ

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 29 มิ.ย. 2015, 06:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

กบนอกกะลา เขียน:
พบความสุขแบบของพระนิพพาน...น่านแหละคับ...จึงน่าจะเรียกว่าเห็นพระพุทธเจ้า...เต็ม

คล้ายๆ..กับคำพูดของเราเรา..ที่ว่า..จะรู้ว่าพ่อแม่รักเราแค่ไหน..ก็ตอนได้เป็นพ่อแม่คนแล้ว..นั้นละ


ยังไม่ถึงพระนิพพานนี่จะเห็นได้ไหม?

เจ้าของ:  วิริยะ [ 29 มิ.ย. 2015, 07:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

ลุงหมาน เขียน:
"ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต " เห็นแบบไหนครับถึงเรียกว่าเห็นธรรม?
ผู้ใดเห็นอริยสัจสี่ ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเราตถาคต

:b1:

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 29 มิ.ย. 2015, 08:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

วิริยะ เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
"ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต " เห็นแบบไหนครับถึงเรียกว่าเห็นธรรม?
ผู้ใดเห็นอริยสัจสี่ ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเราตถาคต

:b1:


ก็คิดว่าใช่เลย

แต่ถ้าคิดว่าจะพูดอย่างนี้ล่ะ คือ สัมมาทิฏฐิ หรือ ทิฎฐุชุกรรม
ที่มีความเห็นตรงต่อความเป็นจริง จะพอใช้ได้ไหม กับคำว่าเห็นธรรมก็เห็นตถาคต

เจ้าของ:  เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 29 มิ.ย. 2015, 10:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปนาม ด้วยใจที่ตั้งมั่น รึเปล่าครับ

พระองค์จะอยู่ ณ ตรงนั้นเสมอ

:b10:

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 29 มิ.ย. 2015, 11:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปนาม ด้วยใจที่ตั้งมั่น รึเปล่าครับ

พระองค์จะอยู่ ณ ตรงนั้นเสมอ

:b10:


น่าจะใช่เลยหละ
ตรงนี้จะตรงกับคำว่าเข้าไปเห็นสถาพธรรมของไตรลักษณ์

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 29 มิ.ย. 2015, 12:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

ลุงหมาน เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
พบความสุขแบบของพระนิพพาน...น่านแหละคับ...จึงน่าจะเรียกว่าเห็นพระพุทธเจ้า...เต็ม

คล้ายๆ..กับคำพูดของเราเรา..ที่ว่า..จะรู้ว่าพ่อแม่รักเราแค่ไหน..ก็ตอนได้เป็นพ่อแม่คนแล้ว..นั้นละ


ยังไม่ถึงพระนิพพานนี่จะเห็นได้ไหม?


เดียวก่อนนะลุง....เที่ยวห้างก่อน...
แม้จะเที่ยว The Mall โคราช อยู่...คิดว่า.. ก็พอจะเห็นพระได้อยู่นะ...
:b9: :b9:

เจ้าของ:  eragon_joe [ 29 มิ.ย. 2015, 13:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

เอ้ย...แอบขู่ใครทางอ้อมรึเปล่าเนี๊ยะ... :b32:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 29 มิ.ย. 2015, 13:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

eragon_joe เขียน:
เอ้ย...แอบขู่ใครทางอ้อมรึเปล่าเนี๊ยะ... :b32:


555...
:b12: :b12:

เจ้าของ:  สุชาวดี [ 30 มิ.ย. 2015, 10:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

:b48: คิดว่าต้องเข้ากระแสธรรม คือมีจิตผู้รู้ขั้นต้นก่อนค่ะ จิตพุทธะ เกิด คือจิตที่พึ่งตนเองได้ ค่อยจะสามารถสัมผัสพระพุทธองค์จนเกิดอัศจรรย์ในใจได้ :b41: :b41:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 01 ก.ค. 2015, 06:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

สุชาวดี เขียน:
:b48: คิดว่าต้องเข้ากระแสธรรม คือมีจิตผู้รู้ขั้นต้นก่อนค่ะ จิตพุทธะ เกิด คือจิตที่พึ่งตนเองได้ ค่อยจะสามารถสัมผัสพระพุทธองค์จนเกิดอัศจรรย์ในใจได้ :b41: :b41:

:b8: :b8: :b8:
ก็คิดว่าอย่างนั้น..แหละคับ...เข้ากระแสขั้นต้น..ได้...ก็พอจะรับรู้สัมผัสได้ถึงความมีอยู่ของพระองค์...

เจ้าของ:  Rosarin [ 02 ก.ค. 2015, 12:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

Kiss
ลุงหมาน เขียน:
เราเคยได้ยินกันมาบ่อย และเราก็มีความเชื่ออย่างนั้นว่า
"ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต " เห็นแบบไหนครับถึงเรียกว่าเห็นธรรม?

พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ในวักกลิสูตรว่า " ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต "
แล้วเห็นแบบไหนถึงเรียกว่าเห็นธรรมครับ การเห็นแบบนี้

สามารถสัมผัสได้ด้วย หู ตา จมูก ลิ้น และกาย คือ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 หรือไม่?
แล้วการเห็นธรรมกับการเข้าใจธรรมนี้เป็นความหมายเดียวกันหรือไม่?

ขอความเห็นครับว่า เห็นแบบไหนจึงชื่อเห็นตถาคต..........

...ปัญญาขั้นจดจำที่เป็นความเข้าใจเฉพาะตัวของข้าพเจ้าที่ได้จากการไตร่ตรองจากการศึกษาชาตินี้...
...การเห็นธรรมเป็นปัญญาความเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงๆตามที่พระองค์ทรงแสดงไว้โดยละเอียด...
...มี 3 ระดับ...ตั้งแต่ขั้นแรกคือปริยัติฟังคำจริงที่พระองค์ทรงแสดงเพื่อสะสมเป็นความเห็นถูกตามธรรม...
...เรียกอีกอย่างสุตมยปัญญา...ปัญญาคือความเเห็นถูกความเข้าใจถูกในสิ่งที่มีที่กำลังปรากฎตามจริง...
...เช่นจิตเกิด-ดับที่ละ1ขณะ...เห็นไม่ใช่ได้ยิน...ได้กลิ่นไม่ใช่ได้รส...6ทางเกิดพร้อมกันไม่ได้เลย...
...สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดแล้วดับทันที่ยังไม่เป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือสิ่งที่คิดทั้งสิ้น...เกิด-ดับตามเหตุปัจจัย...
...แค่ฟังให้เข้าใจด้วยความไม่มีเราแล้วก็จำไว้...ต้องฟังบ่อยๆเพื่อไม่ให้ลืมว่าไม่มีเรามีแต่ธรรมะ...
:b20:
...ขั้น2คือปะฏิปัตติ/ปัญญาขั้นการเข้าถึงลักษณะสภาพธรรมะที่กำลังปรากฎตามความเป็นจริงทีละ1...
...การที่จิตเข้าถึงลักษณะที่กำลังปรากฎโดยเป็นไปเองในลัักษณะเฉพาะสภาพธรรมนั้นที่ละหนึ่งขณะ...
...โดยปราศจากคน สัตว์ สิ่งของ...เช่นขณะกายสัมผัสแข็งจิตก็รู้ตรงลักษณะแข็งแต่ยังไม่รู้สภาพเกิด-ดับ...
...หรือขณะเคี้ยวอาหารแล้วจิตรู้สภาพแข็งที่กำลังปรากฎตรงที่ฟันกระทบกันโดยไม่มีความเป็นเรา...
...ไม่ว่าจะเป็นแสง สี เสียง กลิ่น รส สัมผัสรู้ เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว สุข ทุก เฉยๆเป็นธรรมะ...
...ทุกอย่างไม่มีความเป็นเรา ไม่มีชื่อคน สัตว์ สิ่งของ...มีแต่จิตรู้เฉพาะถ้วนถี่ทั่วถึงทุกทางที่มีจริงๆ...
...เทียบได้กับการไตร่ตรองจนเกิดความเข้าใจตรงลักษณะสภาพธรรมะที่จิตรู้ทั่วถึงเป็นสติสัมปชัญญะ...
...กำลังรู้และระลึกได้เป็นไปเองโดยมิได้บังคับ...ทุกทางทั้ง6ทางตามความเป็นจริงโดยบังคับไม่ได้...
...เข้าใจลักษณะที่กำลังปรากฎขณะที่กำลังมีกำลังปรากฎที่ละ1เช่นเกสาคือผมแต่จริงๆคือแข็งไม่มีชื่อ...
...ความละเอียดยิ่งของสภาพธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเข้าำถึงได้ด้วยปัญญาทีละหนึ่งไม่กลับมาเกิดอีก...
...จินตามยปัญญา...ปัญญาขั้นไตร่ตรองตรงลักษณะของสภาพจิตที่กำลังเข้าถึงความจริงเฉพาะที่มั่นคง...
:b12:
...ขั้นที่3คือปฏิเวธ...เข้าขั้นภาวนามยปัญญา...จิตเกิดปัญญารู้แจ้งอริยสัจจธรรมที่ไม่ใช่บัญญัติ...
...ไม่ใช่ความจดจำ...เป็นสภาพความจริงที่ปรากฎกับจิตตามความเป็นจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้...
...ยากที่จะอธิบายเพรายังด้อยปัญญา...การรู้เฉพาะตนเป็นญาณที่เข้าถึงจิตขั้นสำเร็จจตุถฌาน...
...เป็นทุกอย่างเข้าใจจิต/รูป-นาม/สติปัฏฐานสี่/สภาพธรรมที่เรียกชื่อเป็นความจริงปรากฎกับจิต...
...การปรินิพพานที่ข้าพเจ้าเข้าใจก็คือการถอดจิตออกจากร่างกายโดยสิ้นสุดสังสารวัฏฏ์นิรันดร...
...สนทนาตามความเข้าใจตามปัญญาที่ข้าพเจ้าเข้าใจ...การไม่หลงทางคือฟังคำจริงตรงความจริง...
...พระพุทธเจ้าเป็นผู้รูแจ้งทั้งโลกในโลกนอก...หาที่สุดหาที่ประมาณมิได้...จะึถึงพระองค์ก็ด้วยปัญญาค่ะ...
:b8: :b8:
...ไม่ใช่แค่จำคำหรือเดาได้...แต่เป็นปัญญาจริงๆที่เข้าถึงความจริงที่กำลังปรากฎกับจิตตามที่ทรงแสดงว่า...
...จิตเกิดดับทีละ1ขณะ...ทุกขณะเกิดพร้อมกันไม่ได้...ทุกอย่างเป็นจริงเป็นธรรมะ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...
...ธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงเป็นเรื่องยาก...บุคคลเข้าถึงได้ด้วยการฝึกฟังความจริงและไตร่ตรองจนเิกิดปัญญาของตน...
...เพราะยากที่สุดในโลก...และยากมากกว่าเพราะทรงบำเพ็ญบารมีเพื่อการตรัสรู้และสอนให้คิดและรู้ตามพระองค์
...ศึกษาเพื่อเข้าใจความจริงเท่าที่ปัญญาตนจะรู้ได้...คำของพระพุทธเจ้าจริงทุกคำ...ถึงพระองค์ได้ด้วยใจ...
:b39: :b39:
...ด้วยปัญญาอันน้อยนิดที่มี...
:b44:

เจ้าของ:  บัวศกล [ 15 ก.ค. 2015, 10:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

สามารถเข้าถึงสิ่งที่พระองค์เข้าถึงได้ จึงเป็นผู้ที่หมดความสงสัยในตัวพระองค์อย่างแท้จริง

เพราะตัวเองได้เห็นเองแล้วว่า สิ่งที่ตนเข้าถึงนั้นช่างพิเศษสุดอย่างไร จริงแท้อย่างไร ดังนั้น
จึงรู้ได้ว่า ครูของตนย่อมจริงแท้แน่นอน และล้ำเลิศกว่าตน หลายเท่านัก

เมื่อเห็นธรรม จึงรู้ค่าครูของตน

onion

เจ้าของ:  muisun [ 15 ก.ค. 2015, 10:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นแบบไหนจึงชื่อว่าเห็นตถาคต

เห็นตัวจะ จะได้เห็นตถาคต จะคิดดับๆ

หน้า 1 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/