ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50317 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 20 มิ.ย. 2015, 06:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
มันต่างกันอย่างไร ระหว่าง โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล อุปมาก็ได้ |
เจ้าของ: | asoka [ 20 มิ.ย. 2015, 06:52 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่างกันอย่างไร | ||
![]() ![]() ![]() เปิดก๊อกน้ำฝักบัว เหมือนโสดาปัตติมรรค น้ำจากฝักบัวไหลซู่ลงมาให้อาบอิ่มชื่นเย็น เหมือนโสดาปัตติผล ทำให้รู้วิธีดับร้อนเบื้องต้นได้ แต่ยังไม่เด็ดขาด "ใจเป็นกูเป็นเรา ตายขาดสนิททั้งพี่ (สักกายทิฏฐิ) ทั้งน้อง (มานะทิฏฐิ)ได้ ไม่มีผู้มารับรู้ความร้อนเสียแล้ว จึงจะดับร้อนได้สนิทชั่วนิรันดร์กาล ![]()
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 20 มิ.ย. 2015, 07:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ต่างกันอย่างไร |
asoka เขียน: ![]() ![]() ![]() เปิดก๊อกน้ำฝักบัว เหมือนโสดาปัตติมรรค น้ำจากฝักบัวไหลซู่ลงมาให้อาบอิ่มชื่นเย็น เหมือนโสดาปัตติผล ทำให้รู้วิธีดับร้อนเบื้องต้นได้ แต่ยังไม่เด็ดขาด "ใจเป็นกูเป็นเรา ตายขาดสนิททั้งพี่ (สักกายทิฏฐิ) ทั้งน้อง (มานะทิฏฐิ)ได้ ไม่มีผู้มารับรู้ความร้อนเสียแล้ว จึงจะดับร้อนได้สนิทชั่วนิรันดร์กาล ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 20 มิ.ย. 2015, 20:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
![]() ![]() หากไม่ถึงผล...ก็ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเป็นแค่มรรค ผู้ถึงแล้ว...ย่อมรู้..เป็นปัจจัตตัง... รู้แล้ว...ก็ไม่ยึดในความรู้นั้น...จึงเป็นผลอันสมบูรณ์ รู้แล้ว..ยึด..ว่าเราเป็นนั้น..เราเป็นนี้...อยากบอกคนนั้นคนนี้...มีตัณหาในรู้...ก็หลงดีดี...นี้เอง...ไม่ใช่ผลจริง |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 20 มิ.ย. 2015, 20:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
กบนอกกะลา เขียน: ![]() ![]() หากไม่ถึงผล...ก็ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเป็นแค่มรรค ผู้ถึงแล้ว...ย่อมรู้..เป็นปัจจัตตัง... รู้แล้ว...ก็ไม่ยึดในความรู้นั้น...จึงเป็นผลอันสมบูรณ์ รู้แล้ว..ยึด..ว่าเราเป็นนั้น..เราเป็นนี้...อยากบอกคนนั้นคนนี้...มีตัณหาในรู้...ก็หลงดีดี...นี้เอง...ไม่ใช่ผลจริง มันต้องมีความต่างจริงไหม ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า มรรคผล |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 20 มิ.ย. 2015, 20:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
ช่าย...ชื่อมันต่างกัน |
เจ้าของ: | student [ 21 มิ.ย. 2015, 02:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
ความเห็นผมคือ โสดาปัตติมรรค คือแนวทาง หรือเหตุจูงใจในการปฎิบัติในสิ่งที่เป็นความหลุดพ้นจากอำนาจ โสดาปัตติผล คือ ความเป็นอิสระ ไม่หวนกลับไปยึดถือ หรือให้อำนาจนั้นมีกำลังเหนือตน เช่น ความเห็นว่าโลกหน้าไม่มี ตายแล้วสูญ เป็นความเห็นที่ผู้นั้นตกอยู่ในอำนาจแห่งความเชื่อ ต้องแจงเหตุผลด้วยปัญญา คนผู้นั้นจึงจะหลุดพ้นจากความเชื่อนี้ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 มิ.ย. 2015, 07:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
student เขียน: ความเห็นผมคือ โสดาปัตติมรรค คือแนวทาง หรือเหตุจูงใจในการปฎิบัติในสิ่งที่เป็นความหลุดพ้นจากอำนาจ โสดาปัตติผล คือ ความเป็นอิสระ ไม่หวนกลับไปยึดถือ หรือให้อำนาจนั้นมีกำลังเหนือตน เช่น ความเห็นว่าโลกหน้าไม่มี ตายแล้วสูญ เป็นความเห็นที่ผู้นั้นตกอยู่ในอำนาจแห่งความเชื่อ ต้องแจงเหตุผลด้วยปัญญา คนผู้นั้นจึงจะหลุดพ้นจากความเชื่อนี้ ประมาณนั้น..ครับ มรรค..นี้กำลังทำงานในเรื่องนั้นอยู่ ผล...คืองานทำเสร็จแล้ว อนาคา..กับอรหนต์...นี้..มรรคและผล...จะแตกต่างกันชัด..เห็นง่าย แต่..โสดาบัน..กับสกิทาคามี..นี้ต่างกันไม่มาก...เห็นยาก..ครับ โสดาปัตติผล...ถ้าเอาสังโยชน์..มาจับ...ก็...ละสักกายทิฏฐิ..วิจิกิจฉา..สีลพตปรามาส..ได้ โสดาปัตติมรรค....ก็กำลังเพียรเพื่อละสังโยชน์ 3 นี้อยู่...แล้ว...แตกต่างอะไรกับกัลยาณปุถุชน..ละ?.. เมื่อโสดาปัตติมรรค...ไม่ต่างจากกัลยาณปุถุชนสักเท่าไร โสดาปัตติผล..ก็ไม่ต่างจากกัลยาณปุถุชนมากไปนัก..เช่นกัน ถ้าไปดูการดำเนินชีวิตประจำวันแล้ว....ก็จะเห็นเป็นประชาชนคนดีดี...ธรรมดา ๆ... แต่หากได้มาคุยกัน..นั้นแหละ...พอจะรู้ได้ (มีฤทธิ์เห็นจิตใจได้...ก็อีกประมาณหนึ่ง) |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 มิ.ย. 2015, 08:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
หลวงตา..เคยเทศน์ใว้ว่า..ของท่าน...เป็นแบบโลดโผน...คือแบบฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่นถล่มทลาย(ภายในใจ)..ส่วนพระอาจารย์สิงห์ทอง...จะเรียบๆ..ขาดไปตอนไหนก็ไม่รู้..แต่มารู้ว่ากิเลสมันไม่มีแล้ว..เท่านั้น หลวงตาบอกว่า...นี้แหละแบบสุขวิปัสโก กลับมาที่..โสดาบัน กระผมก็ตั้งใจว่า...ของตัวเอง...ต้องรู้ชัด ชัด...ในแบบอย่างของท่าน..สุปปพุทธกุฏฐิ http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=15&p=7 อ้างคำพูด: สุปปพุทธะกราบทูลคุณวิเศษแด่พระศาสดา เรื่องสุปปพุทธะนี้มาแล้วในอุทาน๑- นั่นแล. ก็ในกาลนั้น สุปปพุทธกุฏฐินั่งที่ท้ายบริษัท ฟังธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว บรรลุโสดาปัตติผล ปรารถนาจะกราบทูลคุณที่ตนได้แล้ว แด่พระศาสดา (แต่) ไม่อาจเพื่อจะหยั่งลงในท่ามกลางบริษัท ได้ไปยังวิหารในเวลามหาชนถวายบังคมพระศาสดากลับไปแล้ว. ____________________________ แบบ..รู้ว่า..อ่อ...ได้แล้วนะ......ซึ่งดูจะต่างไปบ้าง...จาก พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B ... 900&Z=2970 จริง.ๆ..ก็อาจมีรู้แบบอื่นๆ..อย่างที่พระอาจารย์สิงห์ทองรู้ในแบบที่ต่างจากหลวงตา..ก็ได้ แต่ความกลัวตัวหลง...ก็ยังตั้งใจ..รู้แบบท่านสุปปพุทธกุฎฐิ...อยู่ดี หลวงพ่อ..ที่ไปอบรมด้วย....พูดโพล่งขึ้นมาเลยว่า... " ดูง่ายๆ...ไปดูซิว่า..เรายังเห็นว่า...ฐานะ..ตำแหน่ง..ใดใดในโลกนี้..ว่ามันดีอยู่อีกมั้ย...เป็นกษัตริย์ดี..เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีดี...เป็นหัวหน้าดี...เป็นผู้อำนวยการดี...ยังเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มันดีอยู่อีกมั้ย....ถ้าไม่เห็นว่ามันดี....ก็นั้นแหละ" (ปล....ต้องผู้กำลังเพียรอยู่ในมรรค..นะครับ..และเห็นจริงเห็นแจ้งจากการพิจารณานะครับ...ไม่ใช่จากสัญญาความเชื่อ..และ...ไม่ใช่พวกเบื่อโลกอยากตาย..) โสดาบัน..คือ..ผู้เที่ยงต่อการตรัสรู้...มีนิพพานเป็นจุดประสงค์เดียว...เมื่อกระจ่างแจ้งว่า..ทางนี้ใช่แล้ว...โสดาปัตติผลจึงไม่เห็นฐานะ...ใดใดในโลกนี้อยู่ในสายตา...การงานก็ทำเพื่อดำรงชีวิต..ทำให้ดีในฐานะที่กำลังทำอยู่..ค้าขายก็ต้องมีกำไร..ไม่โลภมากเกินไปจนจิตใจเดือดร้อน..วุ่นวาย นี้เป็นความเห็นอันหนึ่ง..นะครับ ส่วนใครกำลังพิจารณาเรื่องใดอยู่...ก็จะรู้แจ้งจากเรื่องที่กำลังพิจารณา..นั้นแหละคับ ![]() |
เจ้าของ: | student [ 21 มิ.ย. 2015, 13:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
กบนอกกะลา เขียน: หลวงตา..เคยเทศน์ใว้ว่า..ของท่าน...เป็นแบบโลดโผน...คือแบบฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่นถล่มทลาย(ภายในใจ)..ส่วนพระอาจารย์สิงห์ทอง...จะเรียบๆ..ขาดไปตอนไหนก็ไม่รู้..แต่มารู้ว่ากิเลสมันไม่มีแล้ว..เท่านั้น หลวงตาบอกว่า...นี้แหละแบบสุขวิปัสโก กลับมาที่..โสดาบัน กระผมก็ตั้งใจว่า...ของตัวเอง...ต้องรู้ชัด ชัด...ในแบบอย่างของท่าน..สุปปพุทธกุฏฐิ http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=15&p=7 อ้างคำพูด: สุปปพุทธะกราบทูลคุณวิเศษแด่พระศาสดา เรื่องสุปปพุทธะนี้มาแล้วในอุทาน๑- นั่นแล. ก็ในกาลนั้น สุปปพุทธกุฏฐินั่งที่ท้ายบริษัท ฟังธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว บรรลุโสดาปัตติผล ปรารถนาจะกราบทูลคุณที่ตนได้แล้ว แด่พระศาสดา (แต่) ไม่อาจเพื่อจะหยั่งลงในท่ามกลางบริษัท ได้ไปยังวิหารในเวลามหาชนถวายบังคมพระศาสดากลับไปแล้ว. ____________________________ แบบ..รู้ว่า..อ่อ...ได้แล้วนะ......ซึ่งดูจะต่างไปบ้าง...จาก พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B ... 900&Z=2970 จริง.ๆ..ก็อาจมีรู้แบบอื่นๆ..อย่างที่พระอาจารย์สิงห์ทองรู้ในแบบที่ต่างจากหลวงตา..ก็ได้ แต่ความกลัวตัวหลง...ก็ยังตั้งใจ..รู้แบบท่านสุปปพุทธกุฎฐิ...อยู่ดี หลวงพ่อ..ที่ไปอบรมด้วย....พูดโพล่งขึ้นมาเลยว่า... " ดูง่ายๆ...ไปดูซิว่า..เรายังเห็นว่า...ฐานะ..ตำแหน่ง..ใดใดในโลกนี้..ว่ามันดีอยู่อีกมั้ย...เป็นกษัตริย์ดี..เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีดี...เป็นหัวหน้าดี...เป็นผู้อำนวยการดี...ยังเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มันดีอยู่อีกมั้ย....ถ้าไม่เห็นว่ามันดี....ก็นั้นแหละ" (ปล....ต้องผู้กำลังเพียรอยู่ในมรรค..นะครับ..และเห็นจริงเห็นแจ้งจากการพิจารณานะครับ...ไม่ใช่จากสัญญาความเชื่อ..และ...ไม่ใช่พวกเบื่อโลกอยากตาย..) โสดาบัน..คือ..ผู้เที่ยงต่อการตรัสรู้...มีนิพพานเป็นจุดประสงค์เดียว...เมื่อกระจ่างแจ้งว่า..ทางนี้ใช่แล้ว...โสดาปัตติผลจึงไม่เห็นฐานะ...ใดใดในโลกนี้อยู่ในสายตา...การงานก็ทำเพื่อดำรงชีวิต..ทำให้ดีในฐานะที่กำลังทำอยู่..ค้าขายก็ต้องมีกำไร..ไม่โลภมากเกินไปจนจิตใจเดือดร้อน..วุ่นวาย นี้เป็นความเห็นอันหนึ่ง..นะครับ ส่วนใครกำลังพิจารณาเรื่องใดอยู่...ก็จะรู้แจ้งจากเรื่องที่กำลังพิจารณา..นั้นแหละคับ ![]() อนุโมทนาครับ ส่วนตัวผมนั้นไม่รู้ครับว่าไปถึงไหนอย่างไร เพราะไม่มีครูฝึกใกล้ชิด ไม่ได้อยู่สันโดษ ศึกษาด้วยความเพียร และจากที่นี่ที่เป็นแหล่งพักพิงด้านอารมณ์ ให้หมั่นอยู่ในธรรม ไม่ออกนอกทาง แต่ความเห็นผมเปลี่ยนไปเยอะมาก คิดอยู่เสมอว่า น่าจะศึกษาตั้งแต่เป็นเด็กๆ คงจะไม่ต้องทำอะไรที่ทำให้แม่ต้องเสียใจกับเราในเรื่องเล็กๆทั้งหลายที่เราทำเอาไว้ พอศึกษาต้นๆก็เริ่มความเห็นแรง เริ่มเพ่งเล็งผู้ที่ยังชอบด้านดวง ชีวิต วันเวลาทั้งหลาย แต่นานๆเข้าก็เริ่มวกเข้ากิจของตนเองมากขึ้น ไม่เพ่งเล็งลัทธิอื่น คือ มีชีวิตตามแบบที่ตนเองศึกษาเป็นหลัก เริ่มแยกและจำแนกธรรม คือ ธรรมทั้งหล่ยมีเหตุให้ปรากฎ แต่รู้ว่ากิเลสยังเยอะ รู้ถึงอารมณ์ ที่เกิด เริ่มแยกแยะว่าตนเองเริ่มออกนอกลู่ ก็จะหาทางสลัดตัวกิเลสนั้นให้เจือจางและหมดลง ผมคงจะไปแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบอะไร เพราะไม่มีครูอาจารย์สั่งสอนแบบใกล้ๆ อายุก็เริ่มมาก ตัวมานะเรื่องอายุมันก็แรงตาม จึงต้องหาหนทางเรื่องมานะนี้เสียก่อนครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 มิ.ย. 2015, 20:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
![]() ![]() ตอนเราอธิฐาน (ในอดีต)...อยากเป็นอรหันต์แบบนั้น..แบบนี้...แบบพระพุทธเจ้าบ้างละ..แบบปัจเจกพุทธเจ้าบ้างละ..แบบอัครสาวกเบื้องขวาบ้างละ..แบบอัครสาวกเบื้องซ้ายบ้างละ...จะแบบไหนๆบ้างละ....ก็ล้วนเป็นการอธิฐานที่มีบางอย่าง....เจืออยู่ มันทำให้ปัจจุบัน..เราเรามีวิถีที่ต่างกัน ทุกข์สั้น..ทุกข์ยาว...ก็เพราะเราอธิฐาน..มา เพราะเหตุนี้....จึงยังไม่เจอผู้ที่สอนตนได้เสียที... ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 มิ.ย. 2015, 20:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
พระพุทธเจ้าเคยกล่าวทำนองว่า... "ไม่สามารถพยากรณ์ผู้ที่มีอวิชชาอยู่ว่า..จะพ้นทุกข์ได้เมื่อไร.." แสดงว่า...หากมีวิชชาเมื่อไร..ก็สามารถพยากรณ์ได้... หากเราหักสิ่งที่อธิฐานกันมา..เมื่อไร...ก็สามารถไปได้..ทุกคน บางคนอธิฐานไปกับองค์พระศรีบ้างละ...หักเมื่อไร..ก็ไปชาตินี้ได้ บางคนอธิฐานแบบตรัสรู้ด้วยตัวเอง..ไม่ต้องให้ใครมาบอก..หากหักตอนนี้..ก็มีสิทธิ์ไปได้ตอนนี้เมื่อกัน การหักคำอธิฐานได้นี้...ย่อมมีวิชชาในตัวพอสมควร....ซึ่งมันก็คือ..การหักมานะในตนนั้นเอง แต่..ใจลึกๆ...มันก็อยากเป็น..ในแบบของตน..ใช่มั้ยละ... นี้แหละ....เจ้าตัวดี |
เจ้าของ: | student [ 21 มิ.ย. 2015, 21:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
กบนอกกะลา เขียน: พระพุทธเจ้าเคยกล่าวทำนองว่า... "ไม่สามารถพยากรณ์ผู้ที่มีอวิชชาอยู่ว่า..จะพ้นทุกข์ได้เมื่อไร.." แสดงว่า...หากมีวิชชาเมื่อไร..ก็สามารถพยากรณ์ได้... หากเราหักสิ่งที่อธิฐานกันมา..เมื่อไร...ก็สามารถไปได้..ทุกคน บางคนอธิฐานไปกับองค์พระศรีบ้างละ...หักเมื่อไร..ก็ไปชาตินี้ได้ บางคนอธิฐานแบบตรัสรู้ด้วยตัวเอง..ไม่ต้องให้ใครมาบอก..หากหักตอนนี้..ก็มีสิทธิ์ไปได้ตอนนี้เมื่อกัน การหักคำอธิฐานได้นี้...ย่อมมีวิชชาในตัวพอสมควร....ซึ่งมันก็คือ..การหักมานะในตนนั้นเอง แต่..ใจลึกๆ...มันก็อยากเป็น..ในแบบของตน..ใช่มั้ยละ... นี้แหละ....เจ้าตัวดี ![]() กิเลสมันวนเวียนอยู่ เผลอเมื่อไหร่ได้เรื่องทุกที เราถึงต้องคอยระงับจิตใจที่วุ่นวาย พอจิตใจวุ่นวาย อะไรมันก็ทำได้ ท้าได้ เล่นได้ หนักๆหน่อย ฆ่าตัวเองตายก็ยังทำได้ พอจิตใจสงบลงปุ๊บ จะฝึกอะไรก็ทำได้ พิจารณาอะไรมันก็คล่อง จะทำอกุศลอะไร จิตมันจะยั้งไว้ก่อน บอกตนเองว่า ไม่คุ้ม อย่าทำ แต่จิตที่วุ่นวายเมื่อไหร่ มันไม่มีกำลังจะห้าม ก็ปล่อยให้อาการมันออกอะไรมันเร็วกว่ามันก็ออกทางนั้น มือไม้ก็ปัดป่าย มันควบคุมยาก มีคำคมที่เห็นกันบ่อยและใช้ได้ผลที่สุดคือ ยอมโง่ มีคนฉลาดมันก็ต้องมีคนโง่ มันคือ อุปมาทางโลก เราก็เหมือนเล่นละครไปด้วย คือยอมเป็นคนโง่ เพราะทุกวันนี้ แม้แต่เด็กๆ มันก็ฉลาดเกินไว รู้ไปหมด พอยอมโง่สักพัก จิตมันจะถอยมาตั้งหลัก คือกลับมาเป็นตนเองอีกครั้ง ถ้าคนที่มีวิสัยใผ่ธรรม ก็จะกลับมาสานต่อธรรมตนเอง เอ้า ฝึกสติต่อ เมื่อกี้ได้มือหยิบจับ สมาธิเริ่มตั้งมั่นก็จับธรรมทั้งหลายที่ปรากฎให้ต่อเนื่อง ถ้าเราไม่ยอมลง จะฉลาด มันก็ต้องงัดกัน ลงให้กันไม่ได้ เพราะมันมีแต่คนฉลาด มันฉลาดในเรื่องทางโลก แต่ทางธรรมเรากำลังจะคลาย สมาธิก็คลาย ปัญญาก็เอาไม่อยู่ เพราะภาระต้องปกป้องความฉลาดมันต้องมาก่อน จิตใจก็วุ่นวาย ธรรมอะไรก็จับไม่ได้ ที่ทำๆไว้เสียหมดเลย ต้องเริ่มต้นใหม่ อะไรแบบนั้น |
เจ้าของ: | asoka [ 23 มิ.ย. 2015, 00:57 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร | ||
![]() คำว่า "มรรค" กับ "ผล" ธรรมดาๆนั้น อาจแปลไปได้กว้าง ตีความไปได้ไกล หลากหลายความคิดเห็นเป็นเรื่องคุยสนุกกันได้ ไม่จบง่ายๆ แต่ โสดาปัตติมรรค นั้นจะเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวในคนๆหนึ่งไม่มี 2 โสดาปัตติผล นั้นเป็นสัจจธรรมที่จะมีขึ้นมาตามหลังโสดาปัตติมรรค จะไปกล่าวที่ใดแม้ในนรก สวรรค์หรือพรหมก็จะเป็นความจริงอันเดียวกันเช่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น ผู้เข้าถึงโสดาปัตติผล สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพัตปรามาส ย่อมตายขาดไปจากจิตใจไม่หวนกลับมาให้พบเห็นได้อีกเป็นต้น ![]() เรื่องของมรรคและผลทั้ง 4 ชั้นนั้นเป็นเรื่องปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ ผู้ที่ถึงจริงๆในแต่ละชั้นย่อมคุยกันรูเรื่องในชั้นของใครของมัน แต่ผู้สูงชั้นย่อมรู้เรื่องของผู้ต่ำชั้นกว่าเป็นธรรมดาเพราะตนเองก็ได้ผ่านอาการเช่นนั้นมาแล้วเช่นกัน ส่วนคนที่เรียนรู้และได้อริยมรรคอริยผลแต่ละชั้นมาด้วยสัญญาหรือสำเร็จธรรมจากการเชี่ยวชาญอ่านตำรานั้น มักจะมีอหังการ มนังการเกิดขึ้นในใจเงียบๆเป็นมานะทิฏฐิยกตนข่มท่าน เสมอๆ สังเกตดีๆจะเห็นได้บ่อยๆเนืองๆ ผู้คนเหล่านี้มักจะอธิบายอริยมรรคอริยผลแต่ละชั้นได้อย่างคล่องแคล่วตามที่เรียนรู้และอ้างมาจากตำราดังกับว่าพระพุทธเจ้ามาทรงพยากรณ์ด้วยพระองค์เอง เก่งจริงๆ แต่สังเกตกันให้ดีจะมีอหังการมนังการแทรกปนอยู่เสมอในถ้อยคำที่สวยหรูดูลึกล้ำเหนือธรรมดาเหล่านั้น นี่เป็นการวิเคราะห์ธรรมตามแบบชาวบ้านธรรมด้าธรรมดาสู่กันฟังนะครับ ![]()
|
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 มิ.ย. 2015, 10:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร |
![]() ...ขั้นของการบรรลุธรรม4ระดับในพระพุทธศาสนาเปรียบเหมือนการเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นตึกทั้ง4ชั้น... ...เปรียบเทียบกับการประพฤติตนตามแนวทางอริยสัจจ์4และอริยมรรค8ของอริยบุคคลทั้ง8จำพวกดังนี้... ...1.จากชั้นล่างเดินขึ้นบันไดจนพ้นบันไดขั้นสุดท้ายก่อนถึงชั้นที่1คือโสดาปัตติมรรค... ...2.พอเท้าทั้งสองข้างเหยียบบนพื้นชั้นที่1ก็คือถึงโสดาปัตติผล...การเดินต่อไปเพื่อไปสู่บันไดชั้น2... ...3.จนถึงเดินขึ้นบันไดชั้นที่2ไปจนพ้นบันไดขั้นสุดท้ายก่อนถึงชั้นที่2คือสกิทาคามิมรรค... ...4.พอเท้าทั้งสองข้างเหยียบบนพื้นชั้นที่2ก็คือถึงสกิทาคามิผล...การเดินต่อไปเพื่อไปสู่บันไดชั้น3... ...5.จนถึงเดินขึ้นบันไดชั้นที่3ไปจนพ้นบันไดขั้นสุดท้ายก่อนถึงชั้นที่3คืออนาคามิมรรค... ...6.พอเท้าทั้งสองข้างเหยียบบนพื้นชั้นที่3ก็คือถึงอนาคามิผล...การเดินต่อไปเพื่อไปสู่บันไดชั้น4... ...7.จนถึงเดินขึ้นบันไดชั้นที่4ไปจนพ้นบันไดขั้นสุดท้ายก่อนถึงชั้นที่4คืออรหัตตมรรค... ...8.พอเท้าทั้งสองข้างเหยียบบนพื้นชั้นที่4ก็คือถึงอรหัตตผล...การเดินอยู่บนชั้นที่4ก็คือพระอรหันต์... ...ระหว่างทางเก็บดอกไม้ริมทางแวะซ้ายแวะขวาเป็นไปตามกิเลสที่มีในจิตแต่ละดวงก็ถ่วงเวลากันไปแล... ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |