ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ใจ เป็นตัวก่อภพ ก่อชาติ สร้างอกุศลกรรม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49915
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  wirat [ 15 เม.ย. 2015, 21:05 ]
หัวข้อกระทู้:  ใจ เป็นตัวก่อภพ ก่อชาติ สร้างอกุศลกรรม

ใจ เป็นตัวก่อภพ ก่อชาติ สร้าง อกุศลกรรมต่างๆ พอร่างกายตายลงไป ใจมันก็ตายไปด้วย แต่สิ่งที่ใจทิ้งขยะไว้ คือวิบากกรรมที่ติดตามดวงจิตไป เสวยความทุกขเวทนา ใจนั้นไม่ได้ไปเสวยด้วยกับจิตเมื่อจิต ผู้ไม่ได้ก่อ ต้องมารับใช้วิบากกรรมแทนใจ เสร็จสิ้นแล้วในส่วนหนึ่ง วิบากนั้นก็ยังคงอยู่ ก็พาดวงจิตหอบหิ้ว ไปเกิดอีก เป็นอะไรก็แล้วแต่ที่มีเนื้อหนัง เอ็นกระดูก วิบากนั้นมันสร้างจากกิเลส ตัณหา อุปาทาน มันกลับมาเกิดใหม่เป็นใจอีกแล้วมันมาสร้าง วิบากกรรม ให้เราอีกแล้ว สัญชาตญาณแห่งจิต มันเกิดความเบื่อหน่ายขึ้นมา ก็หาวิธีหลุดพ้น ดังที่เราท่านๆ หากันให้ควักนั่นเอง

ต้องการความสุข ไม่ต้องการทุกข์ แต่ในที่สุดมันก็ทุกข์ สร้างความทุกข์ ให้กับร่างกายและจิต อย่างแสนสาหัส โดยที่เรานั้นไม่เข้าใจว่าทุกข์นั้น มันมาจาก ใจ เป็นตัวก่อภพ ก่อชาติ สร้างอกุศลกรรมต่างๆ กิเลสตัณหาเปรียบเสมือนคนหิวกระหายน้ำ แต่กิเลสตัณหานั้นคือน้ำ เธอจะกินหรือไม่กินน้ำนั้นหากกินไป ก็มีสุข แต่ทุกข์มาทีหลัง หากไม่กิน เธอจะต้องหิวกระหายต่อไปอีกลองคิดดู จะทำยังไง สวรรค์ คนเป็น มีไหม ขอตอบว่ามี ถ้าสวรรค์คนเป็นมีทำไม หรือ สวรรค์ คนตาย จะไม่มี ทุกอย่างมีคู่เกิด ดับ เพียงแต่ว่า เรานั้นอย่าประมาท ในสิ่งที่ไม่รู้ ไม่เห็น เรียกว่าอย่าลบหลู่ก็ได้ นรก คนเป็นมีไหม ขอตอบว่ามี ถ้านรกคนเป็นมี ทำไม หรือ นรก คนตาย จะมีไม่ได้ ทุกอย่างมีคู่เกิด ดับ เช่นเดียวกัน


ทุกสิ่งไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน เราเป็นเพียงผู้มาอาศัย

ทุกสิ่งไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน เราเป็นเพียงผู้มาอาศัย ทุกสิ่งเป็นเพียงสมมุติที่เป็นจริงในชาตินี้เท่านั้น เมื่อเกิดสมมุติ จึงต้องรู้เท่าทันสมมุตินั้นๆ แล้วใช้สมมุตินั้นให้เป็นประโยชน์กับตัวเราให้มากที่สุด เมื่อใช้สมมุติเสร็จแล้วก็ดับก็วางมันซะเรียกว่ายุติสมมุตินั้นซะสมมุติใหม่ๆก็จะเกิดขึ้นมาอีกเรื่อยๆจนกว่าเราจะตายไปก็ยังต้องใช้สมมุติเพื่อดับสมมุติในวาระสุดท้าย


จิตนั้นมีมาก่อนโลก

จิตนั้นมีมาก่อนโลก เป็นจิตเดิมแท้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีรูปร่างและสีสรรค์โลกถูกสร้างขึ้น เพราะจิตถูกรบกวนให้มีให้เป็นให้ทำให้แสดงจึงแผลงฤทธิ์เกิดรูปธรรมและนามธรรม ทำให้เกิดสัญญา เกิดความจำได้ ปั่นเป็นวิญญานแฝงตัวอยู่ในจิต ทำให้จิตเกิดอาการตื่นรับรู้ เกิดเป็นตัวเป็นตน ยึดมั่นถือมั่น ว่านี่คือตัวตน โดยมีจิตเป็นที่พักอาศัยในเบื้องต้น จิตแต่ละดวงที่เคยสงบอยู่ไม่มีสีสรรค์ ไม่มีรูปร่าง ไม่มีที่อยู่ที่แน่ชัดนั้น ก็เริ่มถูกครอบครอง โดยวิญญานวิญญานก็คือ อาการรู้สึกรับรู้ปั่นป่วน เมื่อมากขึ้นมากขึ้น จิตวิญญานทั้งหลายก็รวมตัวกันสร้างโลก และจักรวาลขึ้นมา ซึ่งมีการลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งเช่นในบางมหากัป มนุษย์มีอายุยืนยาวเป็นหมื่นๆปี เป็นแสนปี แตกดับหลายครั้งเมื่อสร้างโลกได้แล้ว มีอาการรับรู้แล้ว แต่ก็มิอาจสัมผัสกันได้ จึงต้องมีเครื่องมือจิตวิญญานทั้งหลายทั้งหมดนั้นจึงกำหนดรูปร่าง สังขาร แล้วรวมธาตุให้ปรากฏเป็นรูปธรรมแล้วตั้งนามธรรมขึ้น แล้วสิงสถิตย์อยู่ เมื่อเกิดร่างกายโดยอัศจรรย์แล้ว ก็บังเกิด ใจ ซึ่งก็คือรูปธรรมนามธรรม คือความยึดมั่นเป็นตัวเป็นตนแล้วไอ้เจ้าวิญญานที่มันเคยอาศัยอยู่กับจิต ที่มันเคยแค่รับรู้สึกแค่นั้นมันไม่พอมันต้องการสัมผัส ให้ครบถ้วน มันก็กระโดดไปเกาะอยู่กับใจ ที่มีร่างกายเป็นที่อาศัย แต่มันก็ยังไม่ปล่อยจิตไปคงยังขังจิตอยู่อย่างนั้นเหมือนผู้คุมขังนักโทษคือจิต แล้วออกไปเที่ยวข้างนอกซึ่งข้างนอกเปรียบได้กับใจ ยังไงอย่างงั้นเลย

ครั้นเมื่อเราตายใจนั้นมันก็ตายไปด้วยแต่วิญญานมันก็กลับมาอยู่ที่จิตเหมือนเดิมซึ่งจิตนั้นก็ออกมาประท้วงใจเป็นบางครั้งแล้วแต่กำลังของจิตว่ามีมากน้อยแค่ไหนซึ่งเปรียบได้กับสติปัญญานั่นเอง เมื่อวิญญานดับ จิตนั้นก็เป็นอิสระ ตราบใดที่มีวิญญานเกาะจิตอยู่ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดนี้ไปได้เลย เมื่อมีร่างกายเกิดขึ้นมาแล้ว วิญญานก็ย้ายจากจิตไปเกาะใจแต่ก็ขังจิตไว้อยู่ เมื่อสิ้นร่างกายใจนั้นก็ไม่มีหายไป วิญญาน ก็เข้ามาเปิดกรงขังแล้วก็ไปสิงจิตเหมือนเดิม วนเวียนอยู่อย่างนี้ ช่วงที่วิญญานย้ายจากจิตไปที่ใจครั้งปฏิสนธินั้นความจำจึงเริ่มใหม่ช่วงนั้นทำให้เราจำความ ช่วงที่เกิดมาก่อนๆนั้นไม่ได้เลย

หนทางที่จะเข้าสู่ศาสนาพุทธ

หนทางที่จะเข้าสู่ศาสนาพุทธ ง่ายที่สุด คือ ต้องถือศีลห้า ศีลห้ามีทั้งแบบหยาบและละเอียด เช่นศีลข้อ1แบบละเอียดลงลึก ห้ามฆ่าสัตว์แล้ว เหนือชั้นไปอีกคือไม่กินสัตว์ เหนือชั้นไปอีก ไม่ซื้อไม่ขายสัตว์ เหนือชั้นไปอีกให้ทานสัตว์เรื่องอาหารการกิน เหนือชั้นไปอีกคือรักษาสัตว์ที่เจ็บป่วย เหนือชั้นไปอีกไม่รังเกียจสัตว์ตัวใดเลยไม่ว่ามันจะน่ารังเกียจขยะแขยงสักแค่ไหน เหนือชั้นไปอีกให้ความเมตตากรุณาและเอ็นดู เหนือชั้นไปอีกให้ความเคารพในศักดิ์ศรีของมันเท่ากับมนุษย์ทุกผู้ทุกคน ศีลข้ออื่นๆ ก็ต้องลงลึกไปเรื่อยๆแบบนี้ทุกข้อ นี่แหละศีลแบบละเอียดจริงๆ ไม่ใช่แค่อย่างหนึ่งอย่างใด

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 16 เม.ย. 2015, 13:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใจ เป็นตัวก่อภพ ก่อชาติ สร้างอกุศลกรรม

ไปลอก มาจากไหน s002

เจ้าของ:  student [ 16 เม.ย. 2015, 15:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใจ เป็นตัวก่อภพ ก่อชาติ สร้างอกุศลกรรม

:b1:

เจ้าของ:  nongkong [ 16 เม.ย. 2015, 19:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใจ เป็นตัวก่อภพ ก่อชาติ สร้างอกุศลกรรม

แต่คุนน้องชอบแกนะ...เป็นคนกล้าที่จะพูดในสิ่งที่ตนคิด.. :b32: (ถ้าแกไม่ได้ก๊อปแปะมานะ)

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 16 เม.ย. 2015, 22:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ใจ เป็นตัวก่อภพ ก่อชาติ สร้างอกุศลกรรม

ตรงวงเล็บนั้นล่ะ สำคัญนัก :b17: :b17:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/