ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49766
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  แสงแห่งพระธรรม [ 27 มี.ค. 2015, 10:28 ]
หัวข้อกระทู้:  รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

เรื่องการปฏิรูปศาสนาที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้ถ้าใครไม่เป็นคนประเภทกบในกะลาก็คงจะรู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไรแต่เรื่องเหล่านี้พูดไปก็นั่น ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะผู้ที่รับฟัง ขาดจิตวิญญาณ ของความรักชาติ ศาสนา แม้ผู้ที่พยายามจะนำเสนอเรื่องราว เหตุการณ์ ในฐานะผู้ออกเดินทาง ได้พบได้รู้ ได้เห็น เพื่อให้ทุกคนตระหนักรู้ถึงภัยที่กำลังมา กลับกลายเป็นความล้มเหลว ไร้สาระ เพราะสิ่งที่นำเสนอนั้นจะไม่มีวันได้เข้าถึงจิตใต้สำนึกของผู้ที่ขาดจิตวิญญาณของความรักชาติ ศาสนา เข้าทำนองที่ว่า "รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ" คิดแล้วเศร้าใจ
ไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจสิ่งที่จะสื่อออกมา เพราะถ้ามีจิตวิญญาณของความรักชาติ ศาสนา แล้วก็แทบจะไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากเลยมิหนำ้ซ้ำความรู้สึกมาก่อน ความเข้าใจมาทีหลังด้วยซ้ำ สิ่งเหล่านี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเรารู้ถึงผลที่เกิดจากความล้มเหลวทำไมเราต้องเสียเวลาเล่าเรื่องราวที่คนอื่นคิดว่าไร้สาระอยู่ทำไม :b7: :b7:

มันน่าเศร้าใจที่เห็นโจรขโมยของด้วยความหวังดี ไปบอกกล่าว ไปแจ้งความ
กลับกลายเป็นว่าผู้ไปบอกกล่าว ไปแจ้งความ กลับเป็นผู้ผิดเสียเอง :b7: :b7:

เจ้าของ:  แสงแห่งพระธรรม [ 31 มี.ค. 2015, 23:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

viewtopic.


:b8: :b8: :b1: :b1:

เจ้าของ:  asoka [ 01 เม.ย. 2015, 08:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

:b16:
ใจเย็นๆ นิ่งรู้นิ่งสังเกตต่อไป มันอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ล้วนๆ

"สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม
:b45:

เจ้าของ:  student [ 03 เม.ย. 2015, 07:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

เห็นด้วยครับ
การปฎิรูปอะไรสักอย่างต้องดูความเหมาะสม
ด้วยกาล แต่ต้องเป็นพุทธบริษัท4

เจ้าของ:  student [ 03 เม.ย. 2015, 07:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

ความหมายคือปฎิรูปแล้วไม่ขัดกับพระธรรมวินัยนะครับ

เจ้าของ:  แสงแห่งพระธรรม [ 19 ก.ค. 2015, 16:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

จากเหตุการที่ผ่านมามีกลุ่มคนที่พยายามปฏิรูปศาสนาโดยออกมาโจมตีพระอย่าหนักโดยไม่มีความละอายต่อบาป แต่ในขณะเดียวกันบางคนที่แสดงออกว่าตัวเองรักศาสนาโดยเฉพราะพระเณร
พากันแสดงความเห็นตามสื่อต่างๆเช่นเฟสบุ๊ค บ้างก็ตอบโต้ไปว่าพวกนี้ชั่วอย่างนั้นชั่วอย่างนี้ไม่น่าเกิดมาอยู่แผ่นดินไทย ได้อ่านความเห็นเหล่านั้นแล้ว สื่อให้เห็นว่าพระเณรเหล่านั้นยังอ่อนต่อโลกออนไลน์ไม่รู้เท่าทันปัญหา และที่สำคัญที่สุดคือไม่พยายามตั่งคำถามว่าทำไมถึงเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา การตั่งคำถามนั้นจะทำให้เราได้รู้คำตอบว่าทำไมต้องเกิดปัญหาขึ้น แล้วจะได้หาทางแก้ไขปัญหานั้นอย่างถูกต้อง แต่การแสดงความเห็นว่าคนนั้นชั่วคนนั้นเลวนั้นเป็นการบ่งบอกว่าเราไม่ใช้ปัญญาคิดพิจารณาแต่เป็นการใช้อารมตอบโต้โดยขาดปัญญา

นิสัยคนไทยไม่ชอบตั่งคำถามคิดพิจารณาเพื่อหาคำตอบ ชอบใช้แต่อามรณ์ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการปฏิรูปก็สนับสนุนให้ปฏิรูปเลยเพราะพระไม่ดีทำให้ศาสนาเสื่อมอันนี้ก็ไม่ใช้ปัญญาคิดพิจารณาส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ออกมาด่าพวกนั้นว่ามันชั่วมันเลวอันนี้ก็ไม่ใช้ปัญญาคิดพิจารณาอีก
แล้วอะไรคือทางออกละ

เมื่อความทุกข์เกิดขึ้นใหกำหนดรู้แล้วตั่งคำถามว่าทำไมถึงเกิดความทุกข์ขึ้นมา ไม่ใช่เอาแต่ด่าว่าความทุกข์มันชั่วมันเลวถ้าเอาแต่ด่า ก็ทุกข์จนตายนั้นแหละ แต่ถ้ารู้จักใช้ปัญญาพิจารณาก็จะเห็นว่าความทุกข์นั้นตัวเองเป็นผู้สร้างขึ้นมาแท้ๆเห็นไหมละ
คนมีปัญญาย่อมรู้จักทำเหตุปัจจัยเพื่อปกป้องไม่ให้ต้องประสบกับความทุกข์ตั่งแต่ต้นแต่คนไทยนอกจากไม่รู้จักทำเหตุปัจจัยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องประสบกับความทุกข์ตั่งแต่ต้นแล้วคนไทยยังชอบหาทุกข์ใส่ตัวเสร็จแล้วก็มานั่งบ่นว่าความทุกข์มันชั่วความทุกข์มันเลว....เอ้าด่าเข้าไป
.....ความทุกข์มันคงคิดว่าพวกนี้โง่จัง...... :b12: :b1: :b8:

เจ้าของ:  Rosarin [ 19 ก.ค. 2015, 20:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

onion
แสงแห่งพระธรรม เขียน:
จากเหตุการที่ผ่านมามีกลุ่มคนที่พยายามปฏิรูปศาสนาโดยออกมาโจมตีพระอย่าหนักโดยไม่มีความละอายต่อบาป แต่ในขณะเดียวกันบางคนที่แสดงออกว่าตัวเองรักศาสนาโดยเฉพราะพระเณร
พากันแสดงความเห็นตามสื่อต่างๆเช่นเฟสบุ๊ค บ้างก็ตอบโต้ไปว่าพวกนี้ชั่วอย่างนั้นชั่วอย่างนี้ไม่น่าเกิดมาอยู่แผ่นดินไทย ได้อ่านความเห็นเหล่านั้นแล้ว สื่อให้เห็นว่าพระเณรเหล่านั้นยังอ่อนต่อโลกออนไลน์ไม่รู้เท่าทันปัญหา และที่สำคัญที่สุดคือไม่พยายามตั่งคำถามว่าทำไมถึงเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา การตั่งคำถามนั้นจะทำให้เราได้รู้คำตอบว่าทำไมต้องเกิดปัญหาขึ้น แล้วจะได้หาทางแก้ไขปัญหานั้นอย่างถูกต้อง แต่การแสดงความเห็นว่าคนนั้นชั่วคนนั้นเลวนั้นเป็นการบ่งบอกว่าเราไม่ใช้ปัญญาคิดพิจารณาแต่เป็นการใช้อารมตอบโต้โดยขาดปัญญา

นิสัยคนไทยไม่ชอบตั่งคำถามคิดพิจารณาเพื่อหาคำตอบ ชอบใช้แต่อามรณ์ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการปฏิรูปก็สนับสนุนให้ปฏิรูปเลยเพราะพระมันชั่วทำให้ศาสนาเสื่อมอันนี้ก็ไม่ใช้ปัญญาคิดพิจารณาส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ออกมาด่าพวกนั้นว่ามันชั่วมันเลวอันนี้ก็ไม่ใช้ปัญญาคิดพิจารณาอีก
แล้วอะไรคือทางออกละ

เมื่อความทุกข์เกิดขึ้นใหกำหนดรู้แล้วตั่งคำถามว่าทำไมถึงเกิดความทุกข์ขึ้นมา ไม่ใช่เอาแต่ด่าว่าความทุกข์มันชั่วมันเลวถ้าเอาแต่ด่า ก็ทุกข์จนตายนั้นแหละ แต่ถ้ารู้จักใช้ปัญญาพิจารณาก็จะเห็นว่าความทุกข์นั้นตัวเองเป็นผู้สร้างขึ้นมาแท้ๆเห็นไหมละ
คนมีปัญญาย่อมรู้จักทำเหตุปัจจัยเพื่อปกป้องไม่ให้ต้องประสบกับความทุกข์ตั่งแต่ต้นแต่คนไทยนอกจากไม่รู้จักทำเหตุปัจจัยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องประสบกับความทุกข์ตั่งแต่ต้นแล้วคนไทยยังชอบหาทุกข์ใส่ตัวเสร็จก็มานั่งบ่นว่าความทุกข์มันชั่วความทุกข์มันเลว....เอ้าด่าเข้าไป
.....ความทุกข์มันคงคิดว่าพวกนี้โง่จัง...... :b12: :b1: :b8:

...อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดเจ้าค่ะ...โลกวุ่นวายเพราะกิเลส...
...จะเป็นใครไม่สำคัญ...อยู่ที่คิด...ถ้าคิดว่าไม่ดีก็กรรมเราเอง...
...ถ้าคิดว่านั่นดีก็กรรมเราเอง...การคิดเองตามใจก็คือตามกำลังกิเลส...
...เพศของพระสันโดษ...โลกจะวุ่นวายมากเพียงไหน...พอที่ใจไม่มีเสีย...
...การสงบระงับคือวางให้เป็นเย็นให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดา...ใจเป็นประธาน...
...แต่ถ้าทำทุกอย่างเพราะเราคิดว่าจะเปลี่ยนทุกอย่างได้ตามความต้องการ..
...ก็คงเป็นไปไม่ได้...ทุกอย่างไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครเลย...
...ล้วนแต่กรรมจัดสรรไปให้ตามสิ่งที่จิตแต่ละดวงจะต้องรับทุกข์อันนั้นเอง...
...แม้พระพุทธเจ้าก็ไม่บังคับใครให้เชื่อและทำตามพระองค์โดยไม่ไตร่ตรอง...
...โง่ก็คือไม่รู้...ฉลาดก็คือรู้...กิเลสกับธรรมแย่งกันนั่งเก้าอี้ในใจ...
...ถ้าไม่เร่งถีบมันให้กะเด็นออกไป...ธรรมก็ต้องยืนดูตาปริบๆ...
...ของใครก็ของคนนั้น...คนอื่นจะไปดึงออกมาให้หาได้ไม่...
:b12: :b13:
:b9:

เจ้าของ:  แสงแห่งพระธรรม [ 19 ก.ค. 2015, 22:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

Rosarin เขียน:
...อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด


ต้องไปทำความเข้าใจข้อความที่ยกตัวอย่างขึ้นมาก่อนนะ คือจะสื่อให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากกฏอนิจจัง แต่เกิดขึ้นเพราะความไม่รับผิดชอบทำหน้าที่ของพุทธบริษัท จนเป็นเหตุให้เกิดปัญหาขึ้นเมื่อเกิดปัญหาแล้วก็บอกว่า อะไรจะเกิดก็เกิดเป็นธรรมดา ปล่อยวาง ไม่ต้องสนใจ ใครจะโจมตีศาสนาร้ายแรงแค่ใหนก็พูดว่าอะไรจะเกิดก็เกิดเป็นธรรมดา รู้จักปล่อยวางเสียบ้างสำคัญอยู่ที่ใจ คำเหล่านี้ล้วนแล้วแต่พูดเพื่อแก้ตัวดูดายหนีปัญหาไม่ทำหน้าที่
เวลาพุทธเจ้าพยากรณ์ภัยอนาคตตอนท้ายพระพุทธเจ้าจะรับสั่งว่าภิกษุทั้งหลายภัยเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นแต่จะเกิดในอนาคตเธอทั้งหลายจงหาทางปกป้องแก้ไขภัยเหล่านี้ พุทธเจ้าไม่ได้รับสั่งว่าอะไรจะเกิดก็เกิดเธอทั้งหลายไม่ต้องใส่เพราะเป็นเรื่องธรรมดา :b14:

เหมือนสังขารร่างกายมันไม่เที่ยงมีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นเป็นธรรมดาแต่เราก็ต้องดูแลรักษาเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมาก็ต้องรักษาตามหน้าที่เหมือนเด็กเกิดมาได้10วันเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาพ่อแม่บอกเจ็บป่วยเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สำคัญอยู่ที่ใจคิดแบบนี้เด็กก็ตายพอดี :b12: :b1: :b41: :b41: :b41:

เจ้าของ:  Rosarin [ 20 ก.ค. 2015, 00:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

แสงแห่งพระธรรม เขียน:
Rosarin เขียน:
...อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด


ต้องไปทำความเข้าใจข้อความที่ยกตัวอย่างขึ้นมาก่อนนะ คือจะสื่อให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากกฏอนิจจัง แต่เกิดขึ้นเพราะความไม่รับผิดชอบทำหน้าที่ของพุทธบริษัท จนเป็นเหตุให้เกิดปัญหาขึ้นเมื่อเกิดปัญหาแล้วก็บอกว่า อะไรจะเกิดก็เกิดเป็นธรรมดา ปล่อยวาง ไม่ต้องสนใจ ใครจะโจมตีศาสนาร้ายแรงแค่ใหนก็พูดว่าอะไรจะเกิดก็เกิดเป็นธรรมดา รู้จักปล่อยวางเสียบ้างสำคัญอยู่ที่ใจ คำเหล่านี้ล้วนแล้วแต่พูดเพื่อแก้ตัวดูดายหนีปัญหาไม่ทำหน้าที่
เวลาพุทธเจ้าพยากรณ์ภัยอนาคตตอนท้ายพระพุทธเจ้าจะรับสั่งว่าภิกษุทั้งหลายภัยเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นแต่จะเกิดในอนาคตเธอทั้งหลายจงหาทางปกป้องแก้ไขภัยเหล่านี้ พุทธเจ้าไม่ได้รับสั่งว่าอะไรจะเกิดก็เกิดเธอทั้งหลายไม่ต้องใส่เพราะเป็นเรื่องธรรมดา :b14:

เหมือนสังขารร่างกายมันไม่เที่ยงมีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นเป็นธรรมดาแต่เราก็ต้องดูแลรักษาเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมาก็ต้องรักษาตามหน้าที่เหมือนเด็กเกิดมาได้10วันเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาพ่อแม่บอกเจ็บป่วยเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สำคัญอยู่ที่ใจคิดแบบนี้เด็กก็ตายพอดี :b12: :b1: :b41: :b41: :b41:

แก้ข้างนอกไม่ได้ ก็แก้ที่ใจตัวเอง
ยารักษาจิตวิปลาศของพระพุทธเจ้า
คนไม่รู้ตัวว่าป่วยเขาไม่เอาไปกินหละ
:b32: :b32:
:b44:

เจ้าของ:  ปลีกวิเวก [ 21 ก.ค. 2015, 13:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

จะเห็นความจริงได้..เมื่อเรายืนอยู่ตรงกลาง

เจ้าของ:  bigtoo [ 21 ก.ค. 2015, 13:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้มากก็ไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ

อึ้ม! :b24:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/