วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 00:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.พ. 2016, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"ท่านไล่เข้าป่ามันก็วิ่งเข้าตลาด ตลาดมันก็มีแต่กระดูกหมูกระดูกวัวผู้คนหญิงชายวุ่นไปหมด มันก็สั่งสมแต่สิ่งเหล่านี้ออกมา ออกมาก็มาอวดกัน อันนั้นดีอันนี้ดี ครั้นมาวัดก็เอาอิฐเอาปูนเอาหินเอาทรายมาอวดกัน เอาเหล็กหลามาอวด นี่ตึกหลังนี้เป็นอย่างนั้น ตึกหลังนั้นเป็นอย่างนั้น ตึกหลังนี้มาจากไหนแยกธาตุมันดูบ้างซิ จะไปหลงอะไรนักหนา มันมาจากอิฐจากปูนจากหินจากทรายผสมตัวกันเข้าแล้วกลายเป็นตึกรามบ้านช่องถนนหนทางขึ้นไป ก็หลงมัน ครั้นหลงมันก็ดีดดิ้นภายในจิตใจ การดีดดิ้นภายในจิตใจมีความสุขเมื่อไร มันเป็นทุกข์ทั้งนั้น"
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕




เราไม่ได้อันใด ก็ให้ได้อันหนึ่ง
ไม่ได้สมาธิ ก็ให้อยู่กับศีล ไม่มีศีลก็ให้อยู่กับทาน
เมื่อทำทานไม่ได้ ก็มีไหว้พระสวดมนต์ หรือปฎิบัติบิดามารดา
อุปัชฌาย์อาจารย์ มีความเมตตาปราณี โอบอ้อมอารีย์
ซึ่งกันและกัน ให้มันมีสรณะมีเครื่องอยู่ ถ้าหากไม่มีอันนี้
เป็นเครื่องอยู่แล้ว มันก็สัตว์ดีๆนั่นเอง
(โอวาทธรรม หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)





ทุกครั้งที่เราสร้างคุณงามความดี
เช่นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หรือสัตว์ก็ตาม
เราจะรู้สึกเป็นสุข อิ่มอกอิ่มใจ ปลื้มใจ

คิดถึงเมื่อไหร่ ก็มีความสุขเมื่อนั้น
สิ่งนี้แหละ...ที่เรียกว่า "บุญ"






ให้...มัน เบาๆ ทิ้งไปเลย อย่าให้มันคิดวกวนในการใช้ปัญญาแบบหยาบๆ ให้ปล่อยเลย เบาๆ แบบ...ไม่อะไรกับไม่อะไรทิ้งไปเลย คลายจากเบาทิ้งไปเลย ให้มันวิมุตติในการคลายตัวของมันเอง รุนแรงไม่ได้เลยกับจิตนี้ ตัณหามันพุ่งทันที ตัณหาเพ่งซ้อนทันที อะไรมากไม่ได้เลย เมื่อ...อะไรมากๆแล้วมันจะเข้าทางตัณหาหมดเลย

แบบ...ไม่อะไรกับอะไรนี้ มันจะได้คลายออกจากตบะ ฌาน ญาณ ที่มันแข็งตัวที่มันตกผลึก ที่มันคอยจะรุนแรงอยู่ภายใน เรียกว่า ตบะ ฌาน ญาณ ที่มันมีมากี่ภพกี่ชาติ ที่มันคอยจะจริงจังเป็นตุ๊เป็นต๊ะอันนี้ เรียกว่า...อธรรมหมด...มันจะพุ่งกระทบ เพ่งกระทบ มันจะป่วนตั้งแต่ภายในตัวมันเอง ซึ่งหมายความว่าในสภาพแห่งมันเองมันก็จะทนไม่ได้ ทนได้ยาก ให้...เบาๆ แบบไม่อะไรกับอะไรไปเลย ทิ้งเบา คลายจากเบาทิ้งไปเลย เรียกว่า ละเอียดทิ้งละเอียด สภาวะจิตละเอียดทิ้งสภาวะจิตละเอียดคลายออกไปด้วย จึงจะเป็นการไม่เป็นกรรมซ้อนมโน-กรรมซ้อนจิต

ยอม...เบาๆ แบบ...ไม่อะไรกับอะไรไปเลย ทิ้งเบาทิ้งละเอียด ก็เหมือนกับยอมนั้นแหละ ยอมคลายแม้นกระทั่งสภาวะทิพย์-สภาวะละเอียดแห่งนามจิต แห่งนามธาตุ แห่งนามธรรม ไม่เกาะแม้กระทั่งทิพย์ ไม่ติดทิพย์ไม่ติดหยาบ มันเหมือนกับว่าตัณหานี้มันจะคอยให้จิตหยาบๆอยู่เรื่อย ตัณหามันชอบรุนแรงกับจิต ชอบใช้จิตแรง ชอบใช้จิตแบบวู่วาม-ผลีผลาม แบบมุทะลุ แบบจดจ่อ แบบเพ่ง แบบเลง แบบมุ่ง แบบทะยาน เมื่อตัณหามันแรงกับจิต จิตมันก็แรงกับสรรพสิ่งต่อไปอีก มีโมหะตัณหาซ้อนหรือเรียกว่า...กรรมซ้อนธรรม...

ยอม...ยอม เรื่อยๆเลย แล้วมันจะปล่อยเอง ยอม..แบบไม่อะไรกับอะไรนี้ ตัณหาที่มันคอยจะดิ้นรน มันก็จะคลายทิ้งไปเอง ...ยอม... ยอมสุญญตา, ยอมวิมุตติ... ยอมก็วางในยอมเอง ยอมก็ว่างในยอมเอง เรียกว่า ยอมอริยะ-ยอมอรหันต์ คือ มันจะไม่มีตัวที่จะมาดิ้นสู้-ดิ้นต้านในจิตในสภาวะไหน สละจาคะทุกสภาวะ แล้วจะได้ไม่หยาบอยู่แค่ทิฐิหรือนานาทัศนะ โมหะทิฐิที่ยังทัศนาจรอยู่จะได้โดย...แบบไม่อยู่แล้วจริงๆ... ไม่ เบาๆ แบบ..ไม่อะไรกับอะไร มันจะคลายทิ้งเบาไปด้วย มันจะคลายทิ้งความละเอียดทางจิตไปด้วย ไม่ติดทั้งภาคทิพย์ไม่ติดทั้งภาคหยาบ คือ ไม่ติดทั้งรูปอธรรม ไม่ติดทั้งนามอธรรม ไม่หลงทั้งรูปอธรรม ไม่หลงทั้งนามอธรรม ไม่หลงทั้งความเป็นทิพย์เอง ไม่หลงทั้งภาคหยาบเอง

ก็...เหมือนกับ ไม่ นั้นแหละ... ไม่ใช่ไม่กับอะไร, ไม่ ก็คือไม่นั้นเลย มันก็คลายในไม่กับอะไรอะไรนั้นเลย เรียกว่า นิโรธด้วยตัวมันเองเลย ก็เหมือนกับไม่ซะเองนั้นแหละ... ไม่มันก็หยุดในไม่-ดับกันในไม่นั้นเลย ไม่ใช่เอาไม่ไปไม่กับอะไร...โดยที่ไม่อยู่แล้วในไม่นั้นเลย มันไม่ใช่การปฏิเสธ แต่มัน...ไม่...เป็นเหตุ...ไปซะเอง...มันก็เหมือนกับ ยอมนั้นแหละ...ยอมมันก็คลายในยอมนั้นเลย ไม่ใช่...เอายอม...ไปยอมอะไร... ถ้าเอายอมไปยอมอะไรมันก็ยังมีตัวเองเข้าไปคอยยอม ให้คลายกันในยอมนั้นเลย-วางกันในยอมนั้นเลย!

แบบ...ไม่อะไรกับอะไรเรื่อยๆเลย แบบ..เบาๆ ไม่อะไรกับอะไร หรือที่เรียกว่า แยบคาย หรือคลาย ก็คือ เบาบางไป แบบ...ไม่อะไรกับอะไร ละเอียดอ่อน แบบ...ไม่อะไรกับอะไร มันจะทิ้งคลายจากความละเอียดอ่อนไปด้วยเลย เรียกว่า วิมุตติจากทิพย์เลย ไม่ติดทิพย์-ไม่ติดทิพย์จิต เป็นเนื้อหาวิมุตติเต็มที่เลย เบาๆ แบบ...ไม่อะไรกับอะไร มันจะไปคลายให้เลยกับทุกสรรพสิ่ง ว่างๆไป แบบสว่างไสวไป มันจะมีอานุภาพในการล้าง ในการคลีคลาย เป็นอานุภาพแห่งอริยะ แห่งนิโรธ แห่งนิพพานอยู่แล้วทันที!
ดังนั้นให้...ละเอียด แบบ...ไม่อะไรกับอะไรไปเลย ไม่ใช่ให้เอาทิพย์ ไม่ใช่ให้ติดทิพย์ ให้...แบบไม่อะไรในทิพย์นั้นแหละ เมื่อมันละเอียดแล้ว จิตมันก็เป็นจิตทิพย์นั้นเอง... เมื่อไม่อะไรกับอะไรไป มันก็จะไม่หลงละเอียดแห่งจิต...ไม่ถือครอง-ไม่ยึดครอง ก็จะเป็นเนื้อหา...โดยมหาสุญญตา โดยมหานิพพานอยู่แล้วทันที!...





"พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นพระธรรมแท้
ถ้าไม่จริงพระองค์ไม่ตรัส เมื่อพระองค์ตรัสแล้วกาลเวลาผ่านไปแค่ไหน
พระธรรมนั้นก็ไม่เคยเสื่อมเพราะเป็นความจริงอันประเสริฐแล้ว
คนแต่ละยุคสมัยที่ทำให้เสื่อม กรรมปรามาสพระเป็นกรรมหนัก
คำว่าพระคือรวมถึง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ตั้งแต่พระโสดาบันถึงพระอรหัตผล ถ้าเผลอไปควรขอขมาพระรัตนตรัยทันทีที่
คิดได้"

การตำหนิผู้อื่นคือการตำหนิพระธรรมการตำหนิพระธรรมคือการตำหนิ
พระพุทธเจ้าควรขอขมาทันทีที่นึกได้ดีที่สุดคือไม่ยุ่งไม่วิพากษ์วิจารณ์
เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าท่านเหล่านั้นเป็นพระอริยเจ้าหรือไม่ถ้าจะวิจารณ์
วิจารณ์ตัวเอง เป้าหมายเราคือพระนิพพาน ดูตัวเราเป็นหลักลงมือปฏิบัติจริงตามที่ครูอาจารย์ทางธรรมสอน ‪#‎ตรวจสอบจิตใจตัวเอง‬#
ว่าทำอะไรพลาดไปจากความดีบ้าง แล้วแก้ไขส่วนขาดนั้น.





ธรรมะก่อนนิทรา : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
คืนที่ ๘๕๐ พระสูตรที่ว่าด้วยสุญญตา ๖ : กิเลส ปัญญา

เหมือนอย่างผู้ที่ปฏิบัติธรรมะ ที่เป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา กิเลสก็หลบหน้าซ่อนหาย เหมือนไม่มีกิเลส แต่อันที่จริงยังมีอยู่ เมื่อยังละไม่ได้ก็มีอยู่ ตกเป็นตะกอนลงไป

เพราะฉะนั้น แม้ได้จิตสงบดั่งนี้ ก็ย่อมได้ปัญญามองเห็นสัจจะคือความจริงทั้งหลายขึ้น รู้จักความดี รู้จักความชั่ว รู้จักทุกข์ รู้จักสมุทัย รู้จักนิโรธ รู้จักมรรค ถนัดชัดเจนขึ้น แต่เมื่อกิเลสที่ยังละไม่ได้นั้นฟุ้งขึ้นมาใหม่ ความรู้แจ่มแจ้งที่เคยได้นั้นก็เสื่อมไป จิตจะถูกกิเลสครอบงำ นำไปได้ให้ประกอบกรรมชั่วต่างๆ ได้ ตามอำนาจของกิเลส

และบางทีก็ทั้งรู้อยู่ว่าไม่ดีแต่ว่าก็ทำ เพราะเหตุว่ากำลังของจิตในด้านดีนั้นมีไม่พอที่จะห้าม ไม่เป็นตัวสติตัวปัญญาที่จะห้ามได้ แต่ว่าราคะโทสะโมหะนั้นแรงกว่าก็นำจิตใจไปได้ สติปัญญาไม่ได้ดึงจิตใจไว้ กิเลสดึงเอาไป กิเลสก็นำเอาไปให้ทำโน่นทำนี่ แต่เมื่อกิเลสสงบ สติปัญญาแจ่มขึ้นมา สติปัญญาก็นำไปให้ทำโน่นทำนี่

เพราะฉะนั้น จิตของบุคคลนี้เมื่อพิจารณาดูแล้ว ก็จะเห็นชัด ว่าบางคราวก็ถูกกิเลสดึงเอาไปใช้ต่างๆ บางคราวก็ได้ธรรมะเช่นสติปัญญานำไปใช้ต่างๆ ก็กลับไปกลับมากันอยู่ดั่งนี้ ผู้ที่ได้กระทำกรรมอันใดไว้บ่อยๆ เสมอๆ ถ้าเป็นฝ่ายชั่ว จิตก็จะน้อมไปในฝ่ายชั่วมาก ถ้าหากว่ากรรมที่ทำเสมอๆ บ่อยๆ นั้นเป็นความดี ความดีก็จะดึงจิตให้น้อมไปได้มาก จิตจะน้อมไปได้มากในทางดี ดั่งนี้เป็นธรรมดา.






ขอเชิญร่วมบุญ
สามเณรฤดูร้อน รุ่นที่ 10
ณ.วัดป่าธาราภิรมย์ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ติดต่อสอบถาม
และสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่
วัดป่าธาราภิรมย์
087- 9360899





พระมหา ดร.เรืองฤทธิ์ สุธีโร วัดป่าละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จากรายการเสียงธรรมจากวัดป่าละหานทราย แจ้งข่าวรายการงานบุญในรายการดังนี้
เจ้าภาพระฆังสำริด ประดับ้้ยอดพระพุทธมหาเจดีย์ จำนวน 300 ใบ ใบละ 1,000 บาท
ร่วมเป็นเจ้าภาพงานบุญกับ พระมหา ดร. เรืองฤทธิ์ สุธีโร
โทร 081-363-7029



ร่วมบุญซื้อซาลาเปา 3,000 ลูก หรือมากกว่านั้น ลูกล่ะ 5 บาท แจกเด็กๆและชาวบ้านบนดอย
https://www.facebook.com/permalink.php? ... 3836432127



โครงการก่อสร้างพระเจ้าใหญ่นวมิทรฯ วัดนวมินทรธัมมิกราช เมืองนาวาด้า รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ...
https://www.facebook.com/mr.ongart/post ... 3959004736



ขอเชิญร่วมบุญบวชเณร 99 รูป
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 95/?type=3





ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายดินเพื่อปรับพื้นศาลาการเปรียญหลังใหม่
ด้วยวัดด่านเม่น ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 15/?type=3



สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานีและคณะสงฆ์ ขอเชิญเยาวชนชายเข้าร่วมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2559 ณ วัดบ้านด่านเม่น หมู่ที่ 10 ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 2-24 เมษายน 2559
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 91/?type=3



ขอเชิญร่วมสร้างพระปรางค์นาคปรก
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 79/?type=3




พระมหาถวิล พุทธวิริโย สำนักสงฆ์รัตนประทีป หมู่ 15 บ้านหัววัว ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จากรายการเสียงธรรมรัตนประทีป แจ้งข่าวงานบุญในรายการดังนี้
1. เจ้าภาพจัดซื้อเก้าอี้โซฟาไม้ เพื่อใช้งานรับรองพระเถระ และแขกผู้ใหญ่ งบประมาณ 5,000 บาท ร่วมบุญสามัคคี ทุนละ 1,000 บาท
2. เจ้าภาพหน้าต่างบานเลื่อนกระจก กรอบอลูมิเนียมสีขาว เพื่อติดตั้งรอบศาลาปฏิบัติธรรม จำนวน 4 บาน บานละ 1,500 บาท
3. เจ้าภาพวัสดุก่อสร้าง อิฐ หิน ปูน ทราย เพื่อใช้ในการก่อสร้าง กองทุนละ 1,000 บาท
ร่วมบุญกับ พระมหาถวิล พุทธวิริโย โทร 084-089-0855


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.พ. 2016, 14:28 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2876


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 157 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร