วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 07:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2015, 06:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2014, 07:47
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


 ครุกรรม
 อาสันนกรรม
อาจิณกรรม
กตัตตากรรม
การให้ผลจะให้ผลตามชนิด 4 ชนิดนี้ เรียงลำดับกันไป แล้วถ้าชนิดของอาจิณกรรม สมมุติเราฆ่าสัตว์เล็กทุกๆวันที่บาปน้อยกว่า การฆ่าสัตว์ใหญ่ทุกๆวัน เราจะได้รับอะไรก่อนกันค้ะ
ตอนนี้เข้าใจว่ากรรมหนักจะให้ผลก่อนกรรมเบา แต่ไม่เข้าใจว่าที่เขาหมายถึงคือหมายถึงเป็นชนิดเฉยๆ เช่นครุกรรมให้ผลก่อนอาจิณกรรม หรือว่ารวมทุกๆอย่างว่าอันไหนหนักก้ให้ผลก่อนอันไหนเบาก้ให้ผลหลัง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2015, 06:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ครุกรรม จะให้ผลก่อนเพราะเป็นกรรมหนัก
เมื่อไม่มีครุกรรมก็ต้องเป็นหน้าที่ของอาสันนกรรม
เมื่อตอนใกล้ตายไม่ได้ทำกรรม ก็เป็นหน้าที่ของอาจิณกรรม
เมื่อไม่มีอาจิณกรรมที่ทำบ่อยๆ ก็เป็นหน้าที่ของกตัตตากรรม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2015, 07:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2014, 07:47
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คือมันให้ผลก่อนหลังตามชนิดหรอคะ แล้วถ้าลึกลงไปอีกที่เป็นชนิดของอาจิณกรรม สมมุติเราฆ่าสัตว์เล็กทุกๆวันที่บาปน้อยกว่า การฆ่าสัตว์ใหญ่ทุกๆวัน เราจะได้รับอะไรก่อนกันค้ะ 


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2015, 07:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ใช่ครับ กรรมหนัก ให้ผลก่อน ครุกรรมให้ผลก่อน ที่เหลือก็รองๆ ลงไป กรรม ๔ ชนิดนี้ เป็นได้ทั้งกุศลและอกุศลครับ ครุกรรม กรรมหนัก ให้ผลก่อน ในที่นี้หมายถึง มหัคคตกรรม เป็นกรรมจากการทำสมาธิ ได้ฌานสมาบัติ พวกนี้เป็นฝ่ายกุศล นี้ให้ผลก่อน และอรรถกถาแสดงเอาไว้ว่า สามารถห้ามกรรมอื่นๆ ทำให้กรรมอื่นๆ ที่เหลือ ไม่ให้ผล ส่วนฝ่ายอกุศล ได้แก่จำพวก อนันตริยกรรมนั่นเองครับ มีอะไรเข้าข่ายในครุกรรมๆ ก็ให้ผลก่อน :b39:

ส่วนอาจิณณกรรม หรือ พหุลกรรม กรรมที่มาก หรือสะสมจนมีกำลังมากๆ เอาตามที่ยกตัวอย่างมา อาจิณณ ที่ทำบ่อยๆ คุณ pang99 ก็ดูว่า ฆ่าสัตว์เล็กก็โทษน้อยกว่า ฆ่าสัตว์ใหญ่โทษก็มากกว่า แล้วที่นี้มันบาป ถึง อนันตริยกรรมไหม s005 ถ้าไม่ถึง ก็ไม่เป็น ครุกรรม กรรมถัดๆ มาตัวต่อมา จากครุกรรมที่จะให้ผล ก็คือ อาจิณณกรรม :b44:

ที่นี้ชัวร์ ไม่มี ครุกรรม ทั้งกุศลอกุศลใดๆ จะให้ผล การฆ่าสัตว์บ่อยๆ เป็นอาจิณ ก็มาดูว่า อะไรให้โทษ มีกำลังมากกว่า ปรากฏว่า ฆ่าสัตว์เป็นอาจิณ ที่มีปาณาติบาตกรรมป็นอาจิณนี่แหละ ให้ผลก่อน เพราะครุกรรมเป็นอันตกไป ไม่มานับ เพราะไม่ได้มีทั้งกุศลอกุศลใดๆ ไปเข้าข่ายครุกรรม อาจิณกรรม ก็ให้ผลก่อนนั่นเอง :b39:

ที่นี้ส่วน อาสันนกรรม จะว่าไปเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อก็แล้วกัน กุศลอกุศล ในขณะที่กำลังใกล้ตาย มีมรณะกาล มีมรณาสันวิถีเกิดขึ้น หรือในบาลีว่า ทำกาลกิริยา เหล่านี้ กรรมใดพาให้ระลึกได้ กรรมที่ระลึกได้นั้นเป็นกุศล ก็ให้ผลก่อน หรือกรรมที่ระลึกได้นั้นเป็นอกุศล ก็ให้ผลก่อน เช่น กำลังจะตอบกระทู้ เรื่องกรรมเป็นธรรมทาน แต่หวังดีหวังเด่น อยากโอ้อยากอวด อยากได้คำชม หรือหลอกลวงคนอื่นๆ แบบนี้ ทำกุศลอยู่ แต่กรรมพาระลึกได้เป็นอกุศล ฏีกาน้อยก็ ทำกาลกิริยา ไปเป็นเปรตซะงั้น แหะๆ :b28: นี่เป็นเพียงภาพตัวอย่าง อาสันนกรรมให้ผลครับ :b44:

ก็ให้ผลก่อนหลัง แบบนี้ครับผม ไม่ได้ทำครุกรรมไว้ ก็ไม่มี ที่มีก็มีอาจิณณกรรม จะให้ผล ก็แล้วแต่ว่าทำอะไร ฆ่าสัตว์ ทำปาณาติบาตบ่อยๆ ก็อาจให้ผลใน ปัจจุบันเลยก็มี ในปัจจุบันยังไม่ให้ผล ปาณาติบาตกรรมก็จะรอโอกาสให้ผล ในคราวถัดไป ในอนาคต สรุปก็มีอาจิณณกรรมให้ผล มีอาสันนกรรมให้ผล ถ้าไม่มีทั้งสองตัว ถัดไปก็มีกตัตตกรรม ก็พยายามประกอบ กุศลกรรมไว้ครับ แรงบวก แรงบุญดีกว่าบาปแน่นอน :b39:

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2015, 08:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2014, 07:47
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


pang99 เขียน:
คือมันให้ผลก่อนหลังตามชนิดหรอคะ แล้วถ้าลึกลงไปอีกที่เป็นชนิดของอาจิณกรรม สมมุติเราฆ่าสัตว์เล็กทุกๆวันที่บาปน้อยกว่า การฆ่าสัตว์ใหญ่ทุกๆวัน เราจะได้รับอะไรก่อนกันค้ะ 

แล้วอันนี้ล่ะคะ ถ้าสองสิ่งนี้เป็นอาจิณเหมือนกัน แล้วก้ไม่มีครุกรรมหรืออะไรมาให้ผลก่อนอยู่แล้ว และเราจะได่รับผลของการทำอะไรก่อนกัน ระหว่างฆ่าสัตว์เล็กที่บาปน้อย กับฆ่าสัตว์ใหญ่ที่บาปมาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2015, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


pang99 เขียน:
pang99 เขียน:
คือมันให้ผลก่อนหลังตามชนิดหรอคะ แล้วถ้าลึกลงไปอีกที่เป็นชนิดของอาจิณกรรม สมมุติเราฆ่าสัตว์เล็กทุกๆวันที่บาปน้อยกว่า การฆ่าสัตว์ใหญ่ทุกๆวัน เราจะได้รับอะไรก่อนกันค้ะ 

แล้วอันนี้ล่ะคะ ถ้าสองสิ่งนี้เป็นอาจิณเหมือนกัน แล้วก้ไม่มีครุกรรมหรืออะไรมาให้ผลก่อนอยู่แล้ว และเราจะได่รับผลของการทำอะไรก่อนกัน ระหว่างฆ่าสัตว์เล็กที่บาปน้อย กับฆ่าสัตว์ใหญ่ที่บาปมาก


ตัดสินโดยใช้ความเพียรที่จะฆ่าสัตว์นั้นให้ตายลง
โดยใช้ความเพียรมากให้ผลก่อน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2015, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


pang99 เขียน:
และเราจะได่รับผลของการทำอะไรก่อนกัน ระหว่างฆ่าสัตว์เล็กที่บาปน้อย กับฆ่าสัตว์ใหญ่ที่บาปมาก

อาจิณณกรรม ว่าด้วยแรงสะสมข้างที่มากกว่า พหุ แปลว่ามาก พหุลกรรมหรือ
อาจิณณกรรม กรรมที่ทำเป็นอาจิณ แรงกว่า โทษมากกว่า ให้ผลก่อน :b41:

อ้างคำพูด:
  [๕๘๒] พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสดังนี้ว่า ดูกรมาณพ บุคคลบางคนใน
โลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง เป็นคน
เหี้ยมโหด มีมือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการประหัตประหาร ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์
มีชีวิต เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขา
ให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีอายุสั้น ดูกรมาณพ
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุสั้นนี้ คือ เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง เป็นคน
เหี้ยมโหด มีมือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการประหัตประหาร ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์
มีชีวิต ฯ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
๕. จูฬกัมมวิภังคสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... 623&Z=7798

pang99 เขียน:
และเราจะได่รับผลของการทำอะไรก่อนกัน ระหว่างฆ่าสัตว์เล็กที่บาปน้อย กับฆ่าสัตว์ใหญ่ที่บาปมาก

ที่่บาปมากก็จะรับก่อนครับ อาจิณ ทำบ่อยๆ ที่ทำไว้มากๆ รับก่อน

เวลาคุณ pang99 ถอนเงินในบัญชี เวลาเช็ค Statement.
พอเห็นรายการใหญ่ ถอนเยอะๆ กะรายการน้อยๆ ถอนไม่มาก
คุณแป้ง สะดุดระลึกถึงรายการไหนได้ก่อน :b31: นั่นแหละครับ
ลักษณะที่อะไรให้ผลก่อน อะไรให้ผลที่หลัง อาจิณณกรรม
หรือ พหุลกรรม จึงว่ากันเอาที่ว่า อะไรทำไว้มาก ก็ให้ผลก่อนนั่นเอง
เพื่อนึกไม่ออก ระลึกชาติไม่ได้ ว่าทำกรรมอะไรไว้บ้าง เวลาสำรวจ
ตัวเอง ก็จะคล้ายๆ ทบทวนบันทึกรายการแบบนี้แหละ อะไรที่ทำไว้
บ่อยๆ มีผลมาก มีเจตนา จงใจก็ให้ผลก่อน เป็นอาจิณ :b44:


อนุโมทนาครับ :b8:

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2015, 12:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่จริงอ่ะ... คิดอย่างไรได้อย่างนั้น กรรมไปตามอำนาจความคิด คิดหนักก่อน กรรมหนักก็ไปก่่อน คิดเบาก่อน กรรมเบาก็ไปก่อน พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสว่าผู้ใดไม่ละความคิดเช่นนั้น เรากล่าวว่าผู้นั้นต้องตกนรกทั้งหมด ผู้ใดละความคิดเช่นนั้นก็ไม่ต้องตกนรก...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2015, 06:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2015, 07:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ความคิด...นะ...แล้วรู้มั้ยอะไรทำให้คิด?...แล้วการจะคิดไปแบบไหน..คิดดีคิดชั่ว...อะไรทำให้เป็นแบบนั้น?

ก็การกระทำนี้แหละ...ก็เกิดจากการดำริของจิตใจ...เป็นมโนกรรมก่อน..ก่อนคิด..หากไม่คิดก็ไม่ทำกรรม...มโนจึงเป็นเจตนา...แล้วจึงคิดตามมาทีหลัง....ท่านจึงว่า...เจตนานั้นแหละเป็นกรรม

มโน..เจตนา..ความคิด...
ความคิดนี้หยาบสุดแล้ว...รองลงไปก็เป็นเจตนา..ส่วนมโน..ขั้นนี้ผมยังไม่เห็น...ยกให้เป็นอวิชชาไปก่อน..(ท่านว่า..รู้อะไร..อาการรู้นั้นแหละจิต...รู้เวทนา..รู้สัญญา...รู้สังขาร...รู้วิญญาณ...อันนี้ท่านว่า..ก็รับฟังไปก่อนจนพิสูจน์เห็นด้วยตนเอง)

เมื่อคิด...ก็ทำ
เมื่อทำบ่อยๆ...ก็ชิน
เมื่อชิน...ก็ทำไปแบบไม่ค่อยคิด
เมื่อไม่ค่อยคิด..ก็ทำตามความเคยชิน

ครุกรรม...นี้ต้องใช้ความพยายามมาก..เหตุเพราะธรรมดาเขาไม่ทำกัน..เช่นฆ่าพ่อแม่...
อาสันนกรรม...กรรมที่คิดถึงก่อนตาย...อาจิณกรรมก็มีส่วนอย่างมากให้กลายมาเป็นอาสันนกรรมได้...
อาจิณกรรม...กรรมที่ทำบ่อยๆ...มีทั้ง ดีเป็นบุญเป็นกุศล...กับ..ชั่วเป็นบาปอกุศล
กตัตตากรรม...กรรมที่ทำไปแบบไม่ตั้งใจ..ตั้งใจน้อย...แต่หากทำบ่อยๆ..ไร้สติบ่อยๆ..ก็กลายไปเป็นอาจิณกรรมได้

จะเห็นได้ว่า..การทำอะไรบ่อยๆ...นี้...มันก็พัฒนา..กตัตตกรรมไปเป็นอาจิณกรรม..ไปเป็นอสันนกรรม..ได้ในที่สุด...ดังนั้น..การที่เรามาเป็นนักภาวนา..(ยกหางให้กันเองนิดหน่อย..นะ..อิอิ)..ก็เพื่อทำอาจิณกรรมฝ่ายดี..นี้แหละ...ภาวนาแปลว่า..เจริญ..ทำให้มากๆ...

ทีนี้...พอจะเห็นมัยว่า...กรรมทั้งหลาย..ไม่ว่าครุกรรม..หรืออาจิณกรรม...อะไรก็แล้วแต่....การภาวนาแก้ได้หมด...เพราะการภาวนา..เป็นการลงไปแก้ที่มโน...เป็นการแก้ที่ต้นทาง...

แก้กรรมที่ว่า..ไม่ได้หมายความลบล้าง..กรรม..นะครับ...แต่เป็นการแก้โอกาศที่จะรับกรรมนั้นๆต่างหาก....กรรมนั้นๆก็จะกลายเป็นโมฆะกรรม..เมื่อเราภาวนาสำเร็จ...(ก็ในเมื่อสำเร็จแล้ว...ไม่เกิดอีกแล้ว...แล้วจะมีอะไรมาเป็นตัวรับกรรม...ก็กรรมเกิดจากขันธ์..มีขันธ์ก็มีตัวรับกรรม..ไม่มีขันธ์ก็หมดผู้รับกรรม..)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2015, 09:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
จะเห็นได้ว่า..การทำอะไรบ่อยๆ...นี้...มันก็พัฒนา..กตัตตกรรมไปเป็นอาจิณกรรม..ไปเป็นอสันนกรรม..ได้ในที่สุด...ดังนั้น..การที่เรามาเป็นนักภาวนา..(ยกหางให้กันเองนิดหน่อย..นะ..อิอิ)..ก็เพื่อทำอาจิณกรรมฝ่ายดี..นี้แหละ...ภาวนาแปลว่า..เจริญ..ทำให้มากๆ...

ทีนี้...พอจะเห็นมัยว่า...กรรมทั้งหลาย..ไม่ว่าครุกรรม..หรืออาจิณกรรม...อะไรก็แล้วแต่....การภาวนาแก้ได้หมด...เพราะการภาวนา..เป็นการลงไปแก้ที่มโน...เป็นการแก้ที่ต้นทาง...

แก้กรรมที่ว่า..ไม่ได้หมายความลบล้าง..กรรม..นะครับ...แต่เป็นการแก้โอกาศที่จะรับกรรมนั้นๆต่างหาก....กรรมนั้นๆก็จะกลายเป็นโมฆะกรรม..


:b8: สวัสดีค่ะคุณกบ
ไม่ขอเอ่ยถึงว่าภาวนาจนสำเร็จนะคะ :b24: ... :b9: :b9:
แต่อยากถามว่าการภาวนา..เป็นการแก้ที่ต้นทาง

:b55: :b55: ความคิดเห็นส่วนตัวนะ..กลัวกรรมให้ผล...กลัวรับกรรม...กลัวตาย...ไม่เท่ากับการกลัวจะได้ไปเกิดใหม่ เพราะกรรมจะส่งผล..ก็เป็นเรื่องของกรรม..ถ้าไปยึดติดก็เป็นทุกข์..สิ่งที่ทำมาแต่อดีตมันมากเหลือเกิน
ส่วนเรื่องตาย..หนีไม่พ้นอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น ไอเดียจึงมุ่งประเด็นไปที่ปัจจุบัน...ทำยังไงให้ใจยอมรับเรื่องที่จะเกิดขึ้น..แต่ละเรื่องที่จะต้องเจอ
..แม้แต่วินาทีเฉียดตาย(เพราะยังไม่ตาย :b9: :b9: )
ซึ่งการภาวนา..ก็คงใช่(การเกิดอุบัติเหตุเฉียดตาย...วัดคุณภาพจิตใจได้ดีค่ะ) :b27: :b27:

:b12: คำถามนะคะ
1. ถ้ากลัวการเกิด..ความคิดก่อนตาย สำคัญใหมคะคุณกบ
ไอเดียเคยได้ยินว่า..ความนึกคิดสุดท้ายจะพาเราไปสู่ภพภูมิใหม่..จึงต้องพากันภาวนาเพื่อให้มีสติ
อันนี้เข้าใจถูกรึเปล่า

2. ขอถามเรื่องภพภูมิต่อไปนะคะ..ถ้าเราพากันภาวนา เพื่อให้มีสติจนแม้จะตายก็ไม่หวั่น(ยังไม่ถึงกับ..สำเร็จ :b9: )
เป็นไปได้ใหมคะว่ายังจะตกนรก..เป็นเปรต..อสุรกาย :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2015, 09:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะรู้ไม่ทันมันถึงคิด ถ้ารู้ทันถึงต้นเหตุมันจะไม่คิด ความคิดไม่จำเป็นต้องมีเนื้อความ แค่นิ่งๆ เฉยๆ มันก็คิดแล้ว ไม่เชื่อลองไปดู ปฎิจจสมุปบาทซิ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2015, 10:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
อ้างคำพูด:
จะเห็นได้ว่า..การทำอะไรบ่อยๆ...นี้...มันก็พัฒนา..กตัตตกรรมไปเป็นอาจิณกรรม..ไปเป็นอสันนกรรม..ได้ในที่สุด...ดังนั้น..การที่เรามาเป็นนักภาวนา..(ยกหางให้กันเองนิดหน่อย..นะ..อิอิ)..ก็เพื่อทำอาจิณกรรมฝ่ายดี..นี้แหละ...ภาวนาแปลว่า..เจริญ..ทำให้มากๆ...

ทีนี้...พอจะเห็นมัยว่า...กรรมทั้งหลาย..ไม่ว่าครุกรรม..หรืออาจิณกรรม...อะไรก็แล้วแต่....การภาวนาแก้ได้หมด...เพราะการภาวนา..เป็นการลงไปแก้ที่มโน...เป็นการแก้ที่ต้นทาง...

แก้กรรมที่ว่า..ไม่ได้หมายความลบล้าง..กรรม..นะครับ...แต่เป็นการแก้โอกาศที่จะรับกรรมนั้นๆต่างหาก....กรรมนั้นๆก็จะกลายเป็นโมฆะกรรม..


:b8: สวัสดีค่ะคุณกบ
ไม่ขอเอ่ยถึงว่าภาวนาจนสำเร็จนะคะ :b24: ... :b9: :b9:
แต่อยากถามว่าการภาวนา..เป็นการแก้ที่ต้นทาง

:b55: :b55: ความคิดเห็นส่วนตัวนะ..กลัวกรรมให้ผล...กลัวรับกรรม...กลัวตาย...ไม่เท่ากับการกลัวจะได้ไปเกิดใหม่ เพราะกรรมจะส่งผล..ก็เป็นเรื่องของกรรม..ถ้าไปยึดติดก็เป็นทุกข์..สิ่งที่ทำมาแต่อดีตมันมากเหลือเกิน
ส่วนเรื่องตาย..หนีไม่พ้นอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น ไอเดียจึงมุ่งประเด็นไปที่ปัจจุบัน...ทำยังไงให้ใจยอมรับเรื่องที่จะเกิดขึ้น..แต่ละเรื่องที่จะต้องเจอ
..แม้แต่วินาทีเฉียดตาย(เพราะยังไม่ตาย :b9: :b9: )
ซึ่งการภาวนา..ก็คงใช่(การเกิดอุบัติเหตุเฉียดตาย...วัดคุณภาพจิตใจได้ดีค่ะ) :b27: :b27:

:b12: คำถามนะคะ
1. ถ้ากลัวการเกิด..ความคิดก่อนตาย สำคัญใหมคะคุณกบไอเดียเคยได้ยินว่า..ความนึกคิดสุดท้ายจะพาเราไปสู่ภพภูมิใหม่..จึงต้องพากันภาวนาเพื่อให้มีสติ
อันนี้เข้าใจถูกรึเปล่า

2. ขอถามเรื่องภพภูมิต่อไปนะคะ..ถ้าเราพากันภาวนา เพื่อให้มีสติจนแม้จะตายก็ไม่หวั่น(ยังไม่ถึงกับ..สำเร็จ :b9: )
เป็นไปได้ใหมคะว่ายังจะตกนรก..เป็นเปรต..อสุรกาย :b20:


1. ถ้ากลัวการเกิด..ความคิดก่อนตาย สำคัญใหมคะคุณกบไอเดียเคยได้ยินว่า..ความนึกคิดสุดท้ายจะพาเราไปสู่ภพภูมิใหม่..จึงต้องพากันภาวนาเพื่อให้มีสติ
อันนี้เข้าใจถูกรึเปล่า

ตอบ...กลัวเกิด...จิตจับความกลัว...ก็ไปเกิดตามความกลัว..ครับ

แต่หากหน่ายการเกิด..ก็อาจเป็นเรื่องหนึ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2015, 12:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: ขอบคุณค่ะคุณกบ
tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2015, 13:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
2. ขอถามเรื่องภพภูมิต่อไปนะคะ..ถ้าเราพากันภาวนา เพื่อให้มีสติจนแม้จะตายก็ไม่หวั่น(ยังไม่ถึงกับ..สำเร็จ :b9: )
เป็นไปได้ใหมคะว่ายังจะตกนรก..เป็นเปรต..อสุรกาย :b20:


สติ..ที่ว่า....ผมคิดว่าเป็นสัมมาสติ..นะครับ..
ถ้าภาวนา..ฯมีสติแม้จะตายก็ไม่หวั่น..นี้..ผมว่า..ไม่ไปอบายแน่นอนครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 157 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร