ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อกุศลจิตให้ผลอย่างไร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49510
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  pang99 [ 21 ก.พ. 2015, 18:05 ]
หัวข้อกระทู้:  อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

บาปที่เพียงเกิดขึ้นในจิตใจแต่ไม่ล่วงออกมาทางกาย
ทางวาจาก็เป็นเพียงอกุศลจิต ไม่ได้ให้ผลของกรรมที่จะทำให้ตกนรก
  และอกุศลจิตที่มีกำลัง มีการคิดจะ ฆ่า เบียดเบียน ได้ให้ผลของกรรมที่จะทำให้ตกนรกไหมค้ะ

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 21 ก.พ. 2015, 18:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

pang99 เขียน:
บาปที่เพียงเกิดขึ้นในจิตใจแต่ไม่ล่วงออกมาทางกาย
ทางวาจาก็เป็นเพียงอกุศลจิต ไม่ได้ให้ผลของกรรมที่จะทำให้ตกนรก
  และอกุศลจิตที่มีกำลัง มีการคิดจะ ฆ่า เบียดเบียน ได้ให้ผลของกรรมที่จะทำให้ตกนรกไหมค้ะ


อกุศลจิตที่เกิดขึ้นทางใจให้ผลเป็นทุกข์ จะไม่ผิดศีลข้อใดเลย
ถ้ากล่าวล่วงออกมาทางกายทางวาจาย่อมผิดศีลให้ผลเป็นวิบากต่อไป

เจ้าของ:  muisun [ 21 ก.พ. 2015, 18:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

อกุศลจิตโทษหนักมากกว่าอกุศลทางกาย ตกนรกลึกกว่าทางกาย

เจ้าของ:  idea [ 21 ก.พ. 2015, 20:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

อ้างคำพูด:
อกุศลจิตโทษหนักมากกว่าอกุศลทางกาย ตกนรกลึกกว่าทางกาย


:b8: ขอโทษนะคะ สงสัยค่ะ
อกุศลทางกายนี่หมายถึง การลงมือทำอะไรที่ไม่ดีรึเปล่าคะ
มันไม่ได้ส่อออกมาทางจิตก่อนเหรอคะ
ถ้าเป็นอย่างนั้น..จิตไม่ได้คิดไว้มาก่อน..แต่เผลอพลั้ง..ก็น่าจะมาจากความไม่ตั้งใจ..ไม่น่าจะใช่กรรมหนัก

เจ้าของ:  student [ 21 ก.พ. 2015, 23:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

pang99 เขียน:
บาปที่เพียงเกิดขึ้นในจิตใจแต่ไม่ล่วงออกมาทางกาย
ทางวาจาก็เป็นเพียงอกุศลจิต ไม่ได้ให้ผลของกรรมที่จะทำให้ตกนรก
  และอกุศลจิตที่มีกำลัง มีการคิดจะ ฆ่า เบียดเบียน ได้ให้ผลของกรรมที่จะทำให้ตกนรกไหมค้ะ


เป็นทุกข์ครับ (อริยสัจ4)
มีผลคือ ภพชาติใหม่

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 22 ก.พ. 2015, 05:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

อกุศลจิตที่เกิดขึ้นทางใจที่เรียกว่ามิจฉาทิฎฐิ เป็นความเห็นผิดที่แรงกล้า
เป็นกรรมหนักมีความเห็นอย่างนี้ว่า
ทานที่ให้แล้วไม่มีผล การบูชาไม่มีผล การบวงสรวงไม่มีผล
ผลของกรรมดีกรรมชั่วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกอื่นไม่มี
มารดาไม่มีบุญคุณ บิดาไม่มีบุญคุณ สัตว์ที่เป็นโอปปาติกะไม่มี
สมณพราหมณ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทราบถึงโลกนี้และโลกอื่นด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
และสามารถทำให้ผู้อื่นรู้ตามด้วย ไม่มี

ซึ่งจากการประพฤติผิดมิชอบด้วยความเห็นนี้เอง จะส่งผลให้บุคคลนั้น ๆ
ต้องไปเกิดยังนรกอเวจีในโลกันตนรกที่เป็นขุมที่ลึกที่สุด เพื่อใช้กรรมที่ตนเองก่อไว้หลายร้อยชาติ

เจ้าของ:  pang99 [ 22 ก.พ. 2015, 08:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

แล้วอกุศลกรรมบถ10
ข้อ8,9 ที่เปนมโนกรรมล่ะค้ะ
8. อภิชฌา หมายถึง ความละโมบหรือความโลภ มุ่งหมายอยากได้ของของผู้อื่นมาเป็นของตน.
9.พยาบาท หมายถึง.การคิดร้าย ปองร้ายต่อผู้อื่น มีความมุ่งมั่นที่จะทำลายประโยชน์และความสุขของผู้อื่น
คิดร้ายที่ว่านี้คือคิดร้ายกับผู้อื่นอย่างเดียวไช่ไหมค้ะ ไม่ไช่การคิดมาก การคิดเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ต่อจิตใจ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 ก.พ. 2015, 09:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

pang99 เขียน:
บาปที่เพียงเกิดขึ้นในจิตใจแต่ไม่ล่วงออกมาทางกาย
ทางวาจาก็เป็นเพียงอกุศลจิต ไม่ได้ให้ผลของกรรมที่จะทำให้ตกนรก
  และอกุศลจิตที่มีกำลัง มีการคิดจะ ฆ่า เบียดเบียน ได้ให้ผลของกรรมที่จะทำให้ตกนรกไหมค้ะ


พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า...
"จิตเต สังกิลิฎเฐ ทุกคติ ปำฎิกังขา"
ก่อนจะตายถ้าจิตเศร้าหมองก็ไปสู่อบายภูมิได้

"จิตเต อสังกิลิฎเฐ สุคติปาฏิกังขา"
ก่อนจะตายถ้ามีอารมณ์ใจผ่องใสก็ไปสู่สวรรค์ได้

นี้คือกรรมขณะจุติคือตาย....

กรรมประเภทต่างๆ มีดังนี้
อ้างคำพูด:

"ชนกกรรม กรรมที่นำให้เกิด, กรรมที่เป็นกุศลหรืออกุศลก็ตามที่เป็นตัวแต่งสัตว์ให้เกิด คือชักนำให้ถือปฏิสนธิในภพใหม่ เมื่อสิ้นชีวิตจากภพนี้"


กรรม การกระทำ หมายถึง การกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา คือทำด้วยความจงใจหรือจงใจทำ ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เช่น ขุดหลุมพรางดักคนหรือสัตว์ให้ตกลงไปตาย เป็นกรรม แต่ขุดบ่อน้ำไว้กินใช้ สัตว์ตกลงไปตายเอง

ไม่เป็นกรรม (แต่ถ้ารู้อยู่ว่าบ่อน้ำที่ตนขุดไว้อยู่ในที่ซึ่งคนจะพลัดตกได้ง่าย แล้วปล่อยปละละเลย มีคนตกลงไปตาย ก็ไม่พ้นเป็นกรรม)

กรรม ๒ กรรมจำแนกตามคุณภาพ หรือตามธรรมที่เป็นมูลเหตุ มี ๒ คือ
๑. อกุศลกรรม กรรมที่เป็นอกุศล กรรมชั่ว คือเกิดจากอกุศลมูล
๒. กุศลกรรม กรรมที่เป็นกุศล กรรมดี คือเกิดจากกุศลมูล


กรรม ๓ กรรมจำแนกตามทวารคือทางที่ทำกรรม มี ๓ คือ

๑. กายกรรม การกระทำทางกาย
๒. วจีกรรม การกระทำทางวาจา
๓. มโนกรรม การกระทำทางใจ


กรรม ๑๒ กรรมจำแนกตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้ผล พระอรรถกถาจารย์รวบรวมแสดงไว้ ๑๒ อย่างคือ
หมวดที่ ๑ ว่าด้วยปากกาล คือ จำแนกตามเวลาที่ให้ผล ได้แก่
๑. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม กรรมให้ผลในปัจจุบัน คือในภพนี้
๒. อุปปัชชเวทนียกรรม กรรมให้ผลในภพที่จะไปเกิด คือในภพหน้า
๓. อปราปริยเวทนียกรรม กรรมให้ผลในภพต่อๆไป
๔. อโหสิกรรม กรรมเลิกให้ผล
หมวดที่ ๒ ว่าโดยกิจ คือจำแนกการให้ผลตามหน้าที่ ได้แก่
๕. ชนกกรรม กรรมแต่งให้เกิด หรือกรรมที่เป็นตัวนำไปเกิด
๖. อุปัตถัมภกกรรม กรรมสนับสนุน คือเข้าสนับสนุนหรือซ้ำเติมต่อจากชนกกรรม
๗. อุปปีฬกกรรม กรรมบีบคั้น คือเข้ามาบีบคั้นผลแห่งชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรมนั้นให้แปรเปลี่ยนทุเลาเบาบางหรือสั้นเข้า
๘. อุปฆาตกกรรม กรรมตัดรอน คือกรรมแรงฝ่ายตรงข้ามที่เข้าตัดรอนการให้ผลของกรรม ๒ อย่างนั้นให้ขาดหรือหยุดไปทีเดียว
หมวดที่ ๓ ว่าโดยปากทานปริยาย คือจำแนกตามลำดับความแรงในการให้ผล ได้แก่
๙. ครุกกรรม กรรมหนัก ให้ผลก่อน
๑๐. พหุลกรรม หรือ อาจิณณกรรม กรรมทำมากหรือกรรมชิน ให้ผลรองลงมา
๑๑. อาสันนกรรม กรรมจวนเจียน หรือกรรมใกล้ตาย ถ้าไม่มี ๒ ข้อก่อนก็จะให้ผลก่อนอื่น
๑๒. กตัตตากรรม หรือ กตัตตาวาปนกรรม กรรมสักว่าทำ คือเจตนาอ่อน หรือมิใช่เจตนาอย่างนั้น ให้ผลต่อเมื่อไม่มีกรรมอื่นให้ผล

กรรมกิเลส กรรมเครื่องเศร้าหมอง, การกระทำที่เป็นเหตุให้เศร้าหมอง มี ๔ อย่างคือ
๑. ปาณาติบาต การทำชีวิตให้ตกล่วงคือ ฆ่าฟันสังหารกัน
๒. อทินนาทาน ถือเอาของที่เจ้าของเขามิได้ให้คือลักขโมย
๓. กาเมสุมิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม
๔. มุสาวาท พูดเท็จ


กุศลกรรมบถ ทางแห่งกรรมดี, ทางทำดี, ทางแห่งกรรมที่เป็นกุศล,
กรรมดีอันเป็นทางนำไปสู่สุคติมี ๑๐ อย่าง คือ
ก. กายกรรม ๓ ได้แก่
๑. ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากทำลายชีวิต
๒. อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากถือเอาของที่เข้ามิได้ให้
๓. กาเมสุมิจฉาจาร เวรมณี เว้นจากประพฤติผิดในกาม
ข. วจีกรรม ๔ ได้แก่
๔. มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากพูดเท็จ
๕. ปิสุณาย วาจาย เวรมณี เว้นจากพูดส่อเสียด
๖. ผรุสาย วาจาย เวรมณี เว้นจากพูดคำหยาบ
๗. สัมผัปปลาปา เวรมณี เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ
ค. มโนกรรม ๓ ได้แก่
๘. อนภิชฌา ไม่โลภคอยจ้องอยากได้ของเขา
๙. อพยาบาท ไม่คิดร้ายเบียดเบียนเขา
๑๐. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบตามคลองธรรม

อกุศลกรรมบถ ทางแห่งกรรมชั่ว, ทางแห่งกรรมที่เป็นอกุศล,
กรรมชั่วอันเป็นทางนำไปสู่ทุคติ มี ๑๐ อย่าง คือ
ก. กายกรรม ๓ ได้แก่
๑. ปาณาติบาต การทำลายชีวิต
๒. อทินนาทาน ถือเอาของที่เขามิได้ให้
๓. กาเมสุมิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม
ข. วจีกรรม ๔ ได้แก่
๔. มุสาวาท พูดเท็จ
๕. ปิสุณาวาจา พูดส่อเสียด
๖. ผรุสวาจา พูดคำหยาบ
๗. สัมผัปปลาปะ พูดเพ้อเจ้อ
ค. มโนกรรม ๓ ได้แก่
๘. อภิชฌา ละโมบคอยจ้องอยากได้ของเขา
๙. พยาบาท คิดร้ายเขา
๑๐. มิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดจากคลองธรรม;

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 22 ก.พ. 2015, 15:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

สาธุครับ ลุงหมาน พี่กบ :b8:

อกุศลจิตให้ผลอย่างไร เคยเห็นข่าวสะเทือนขวัญไหมเอ่ย พ่อฆ่าลูกหรือลูกฆ่าพ่อ หรืออื่นๆ ที่เกิดขึ้นแล้วสร้างความเสียหาย ทุกข์ร้อน แก่ผู้กระทำ หรือถูกกระทำ นั่นแหละผลของอกุศล กรรมหรือเจตนา มีรากเหง้ามาจาก กุศลหรือ อกุศล พอปรุงแต่งออกมาทางกาย ทางวาจา บ่อยๆ จากพฤติกรรมสะสม ก็กลายเป็น ลักษณะนิสัย จากลักษณะนิสัยเคยชินบ่อยๆ กลายเป็น สันดาน ประพฤติ แสดงออกทางกาย ก็สำเร็จเป็น กุศลกรรม หรือ อกุศลกรรมในที่สุด

ในอภิธรรมจะจำแนกจิตอกุศลไว้ 12 ดวง ตัวที่ย้ำคิดย้ำทำ เป็นไปเองโดยแทบไม่ได้เจตนา(ติดใน กมลสันดาน ขออภัยไม่ได้หยาบคาย ต่อว่าใครนะครับแหะๆ ) เขาเรียกกันว่า อสังขาริกะจิต เกิดขึ้นอย่างมีกำลังโดยไม่ต้องอาศัยการชักจูงเลย เน้นเฉพาะลงไป ก็น่าจะเป็น ตัวจิตที่มีความไม่พอใจ มีความขัดเคืองใจเกิดขึ้นโดยไม่อาศัยการชักจูง ในบรรดา อกุศลจิต ๑๒ ดวงๆ นี้แรงสุด ทำให้จู่ๆ ก็ไม่พอใจ ขัดเคืองใจ ต้องคิดแช่ง คิดด่า คิดทำร้าย พยาบาทโกรธเคือง อะไรอย่างนี้ ฯลฯ พอคิดแล้ว นึกแล้ว ก็ค่อยคลายกำลังลง เบาใจลง บางคนก็เป็นโสมนัส เหมือนๆ คนทั่วไป ได้ด่าได้ต่อว่าคนอื่นก่อน ว่าคนอื่นไปก่อน แล้วสบายใจ นี่ก็อีกดวง ที่มาหลังจาก เจ้าโทสะมูลจิต(อกุศลจิต)

การให้ผลของอกุศล ก็หลากหลายกันไปตามแต่เหตุ ที่แน่ๆ ก็คือ สั่งสมในจิต ลึกๆ ก็เป็นอนุสัย เป็นอาสวะกิเลส ก็ว่ากันไป ผลคือ มันจะควบคุม ให้เราแสดงออก ไปตามแรงของ กุศล หรือ อกุศลในใจนั่นเอง ข่าวสะเทือนขวัญต่างๆ เรื่องราวต่างในสังคม เรื่องดี มีรากเหง้ามาจากกุศล เรื่องร้ายๆ แย่ๆ มาจากผลของ อกุศล

ถ้าสร้าง ถ้าทำกรรมหนัก สะเทือนขวัญ ก็ไม่ต้องสงสัย นรกแน่ ถ้าแค่สั่งสม สะสม เชิงพฤติกรรมลบ เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ แต่หมายถึงแค่คิด มันเป็นไปเอง ก็แค่เดือดเนื้อร้อนใจเอง จากอกุศลจิตที่เกิดขึ้น ก็เป็นบาปเกาะกินใจผู้นั้นเอง เหมือนความมืด เหมือนอวิชชา เป็นห้องมืดๆ ใครเดินเข้าไปในห้องที่ไม่มีแสงสว่าง ก็ต้องตกอยู่ภายใต้ความมืด จิตใจคนเราถูก อกุศลครอบงำ หรือกระทั้ง ความหลงผิด หรือความไม่รู้ เกาะกอดจิตใจ ก็แปลว่า บาปทุกข์ย่อมติดตาม บุคคลเหล่านั้น เพราะอกุศลที่เป็นรากเหง้า ยังฝั่ง ยังสะสมอยู่ในจิตใจนั่นเอง :b44:

เจ้าของ:  pang99 [ 23 ก.พ. 2015, 06:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

ขอบคุณมากๆนะค้ะ Kiss

เจ้าของ:  สุชาวดี [ 24 ก.พ. 2015, 19:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

อกุศลจิตเกิดขึ้นในใจก็เกิดภพเกิดชาติแล้วค่ะ
คิดไม่ดีต่อคนอื่นสะสมไปมากๆนอกจากเกิด
ทุกในจิตเราแล้ว ต่อไปการที่จะเกิดอกุศล
ทางวาจา ทางกาย ก็ง่ายตามกำลังจิตที่มากน้อยค่ะ :b48:

เจ้าของ:  muisun [ 25 ก.พ. 2015, 11:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อกุศลจิตให้ผลอย่างไร

ถ้ารู้ทันก็ผ่องใส ถ้ารู้ไม่ทันก็เศร้าหมอง ถ้ารู้ทันก็ฉลาด ถ้ารู้ไม่ทันก็โง่ ..

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/