| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
| สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49217 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | nongkong [ 16 ม.ค. 2015, 19:12 ] |
| หัวข้อกระทู้: | สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
ทุกคนมีจุดมุ่งหมายในปฏิบัติธรรม และคุนน้องก็ได้เรียนรู้ว่าการปฏิบัติธรรม นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ไม่ใช่รู้ไว้เพื่อ ประดับความรู้ หรืออวดภูมิว่าตนรู้จักธรรมมะ เกือบ3 ปีแล้วที่คุนน้องได้ศึกษาธรรมมะ และรู้สึกภาคภูมิใจที่ตนได้เกิดในศาสนาพุทธ รู้สึกเหมือนชีวิตเรา ได้เจอแสงสว่าง ได้พบกัลยามิตร สหายธรรมทั้งหลาย ที่คอยเมตตาชี้แนะ แนวทางการปฏิบัติ จากเมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ เราเห็นผลการเปลี่ยน แปลงของตนเอง ไปในทางที่ดีขึ้น จากที่แต่ก่อน ใจร้อน ก็นิ่งขึ้น จากที่เอาแต่ความคิดตนเป็นใหญ่ ก็ยอมฟังคนอื่นมากขึ้น รับมือกับสิ่งรอบข้างสถาณการณ์ต่างๆได้ดีขึ้น เพราะมีสติเพราะอาศัยการ เจริญสติในชีวิต ประจำวัน คุนน้องออกแนว พุทธจริต เป็นคนช่าง คิด ชอบใช้ความคิด ถ้าเปรียบอีกอย่าง เหมือนคน พูดมาก ถามมาก ไม่หยุดจนผู้อื่นรำคาญ คุนน้องต้องมีสมถะหนุนนำคือกำลังสมาธิ สติถึงฉับไว เฉียบแหลมขึ้น สติคุนน้องทำงาน ร่วมกันกับปัญญา คุนน้องฝึกฝนให้สติมีกำลัง เหมือนโปรแกรมสแกนไวรัส เหมือนตรวจจับ ว่ากิเลศเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก็รู้ (แต่ไม่ใช่รู้และวาง) แต่ใช้ปัญญา ตรวจสอบอีกทีว่าไวรัสหรือ กิเลศ เกิดจากสาเหตุอะไร นั่นคือการที่รู้จัก พิจารณา โดยแยบคาย (โยนิโสมนสิการ) ก็ค่อยๆลด ละ เลิก เมื่อรู้สาเหตุจนลามไปถึงผล ก็ค่อยๆฝึกไป ค่อยๆขัดเกลาไป ทำได้ไม่ได้ ใจเราเป็นผู้รู้อยู่ ด้วยความที่ตนชอบคิด ก็เลยชอบใช้ความคิดให้ เกิดประโยชน์ จิตเวลาเห็นเหตุไร จะชอบหยิบมา พิจารณาตลอด อะไรเกิดขึ้น ทาง หู ตา จมูก กาย ใจ จิตไวมาก (ไม่รู้จะอธิบายยังไง จะว่าฟุ้งซ่านก็ ไม่ใช่ จะว่าปรุงแต่งก็ไม่เชิง เพราะสิ่งนี้ เป็นเหตุให้เกิดปัญญา แต่ต้องรู้ว่าปัญญา เป็นสังขาร ตกอยู่ภายใต้กฏ อนิจจัง เกิดดับ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ เมื่อรู้ก็ละ วางใจให้เป็นอุเบกขา เมื่อถึงเวลา สังขารเหล่านั่นก็ปรากฏขึ้นมาให้เราหยิบพิจารณาอยู่ดี เปรียบเหมือนเราพอกพูนสติปัญญา และสะสมไว้ในจิต มันไม่หายไปไหนหรอก ไม่ต้องกลัวที่จะคิด คิดโดยมีสติปัญญา ทำให้เรารู้แจ้ง แทงตลอด ถ้าฝึกฝน ไม่รู้คนอื่นเป็นอย่างไร สำหรับคุนน้องเป็นเช่นนี้นะ เอาแต่นี้ก่อน และคุนน้องจะมาต่อ การปฏิบัติธรรม ไม่ได้ทำให้เราคิดว่าเราฉลาด แต่ทำให้เรายอมรับ ว่าเรายังโง่!! |
|
| เจ้าของ: | bbby [ 16 ม.ค. 2015, 20:15 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
คุณน้องคองเขียน อ้างคำพูด: เปรียบเหมือนเราพอกพูนสติปัญญา และสะสมไว้ในจิต มันไม่หายไปไหนหรอก ไม่ต้องกลัวที่จะคิด คิดโดยมีสติปัญญา ทำให้เรารู้แจ้ง แทงตลอด ถ้าฝึกฝน ไม่รู้คนอื่นเป็นอย่างไร สำหรับคุนน้องเป็นเช่นนี้นะ เอาแต่นี้ก่อน และคุนน้องจะมาต่อ การปฏิบัติธรรม ไม่ได้ทำให้เราคิดว่าเราฉลาด แต่ทำให้เรายอมรับ ว่าเรายังโง่!! พี่เต้ก้อคล้ายๆคุณน้องคองค่ะ ไม่ชอบการโกรธใคร แล้วก็โมโหใคร คือเฉยๆ แฟนพี่เต้มีคนอื่น พี่เต้มองว่า เค้า2คนคือคู่กัน เราไม่ใช่ ไม่เคยใช้คำหยาบๆ นิ่งอย่างเดียวค่ะ ช่วงแรกๆเหงาๆบ้าง แต่พอนานๆก็ชิน ลูกๆก็แยกกันไปอยู่ต่างประเทศ ก็รู้สึกเป็นห่วง เพราะพวกเค้ายังเด็ก ก็ได้ธรรมะนี่หล่ะค่ะคุมสติ พิจารณาธรรม ให้เห็นหลักความจริงของชีวิต ดีค่ะ ยอมรับในเรื่องของชีวิตได้ แม้บางครั้งจะหลุดไปบ้างแต่ก็มีสติกลับมาได้ ก็มาจากศึกษาธรรมะนี่หล่ะค่ะ สิ่งที่คิดตลอดคือ ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา ก้อดีใจค่ะ ที่เกิดมาได้ในศาสนาพุทธ ได้เจอเพื่อนๆที่เป็นกัลญามิตร สิ่งนี้พี่เต้ถือว่า มีความโชคดีในชีวิตแล้วค่ะ
|
|
| เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 16 ม.ค. 2015, 21:45 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
|
|
| เจ้าของ: | nongkong [ 16 ม.ค. 2015, 22:11 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
bbby เขียน: คุณน้องคองเขียน อ้างคำพูด: เปรียบเหมือนเราพอกพูนสติปัญญา และสะสมไว้ในจิต มันไม่หายไปไหนหรอก ไม่ต้องกลัวที่จะคิด คิดโดยมีสติปัญญา ทำให้เรารู้แจ้ง แทงตลอด ถ้าฝึกฝน ไม่รู้คนอื่นเป็นอย่างไร สำหรับคุนน้องเป็นเช่นนี้นะ เอาแต่นี้ก่อน และคุนน้องจะมาต่อ การปฏิบัติธรรม ไม่ได้ทำให้เราคิดว่าเราฉลาด แต่ทำให้เรายอมรับ ว่าเรายังโง่!! พี่เต้ก้อคล้ายๆคุณน้องคองค่ะ ไม่ชอบการโกรธใคร แล้วก็โมโหใคร คือเฉยๆ แฟนพี่เต้มีคนอื่น พี่เต้มองว่า เค้า2คนคือคู่กัน เราไม่ใช่ ไม่เคยใช้คำหยาบๆ นิ่งอย่างเดียวค่ะ ช่วงแรกๆเหงาๆบ้าง แต่พอนานๆก็ชิน ลูกๆก็แยกกันไปอยู่ต่างประเทศ ก็รู้สึกเป็นห่วง เพราะพวกเค้ายังเด็ก ก็ได้ธรรมะนี่หล่ะค่ะคุมสติ พิจารณาธรรม ให้เห็นหลักความจริงของชีวิต ดีค่ะ ยอมรับในเรื่องของชีวิตได้ แม้บางครั้งจะหลุดไปบ้างแต่ก็มีสติกลับมาได้ ก็มาจากศึกษาธรรมะนี่หล่ะค่ะ สิ่งที่คิดตลอดคือ ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา ก้อดีใจค่ะ ที่เกิดมาได้ในศาสนาพุทธ ได้เจอเพื่อนๆที่เป็นกัลญามิตร สิ่งนี้พี่เต้ถือว่า มีความโชคดีในชีวิตแล้วค่ะ ![]()
|
|
| เจ้าของ: | ลูกหว้า [ 16 ม.ค. 2015, 22:12 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
|
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 17 ม.ค. 2015, 05:57 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
nongkong เขียน: ทุกคนมีจุดมุ่งหมายในปฏิบัติธรรม และคุนน้องก็ได้เรียนรู้ว่าการปฏิบัติธรรม นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ไม่ใช่รู้ไว้เพื่อ ประดับความรู้ หรืออวดภูมิว่าตนรู้จักธรรมมะ เกือบ3 ปีแล้วที่คุนน้องได้ศึกษาธรรมมะ และรู้สึกภาคภูมิใจที่ตนได้เกิดในศาสนาพุทธ รู้สึกเหมือนชีวิตเรา ได้เจอแสงสว่าง ได้พบกัลยามิตร สหายธรรมทั้งหลาย ที่คอยเมตตาชี้แนะ แนวทางการปฏิบัติ จากเมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ เราเห็นผลการเปลี่ยน แปลงของตนเอง ไปในทางที่ดีขึ้น จากที่แต่ก่อน ใจร้อน ก็นิ่งขึ้น จากที่เอาแต่ความคิดตนเป็นใหญ่ ก็ยอมฟังคนอื่นมากขึ้น รับมือกับสิ่งรอบข้างสถาณการณ์ต่างๆได้ดีขึ้น เพราะมีสติเพราะอาศัยการ เจริญสติในชีวิต ประจำวัน คุนน้องออกแนว พุทธจริต เป็นคนช่าง คิด ชอบใช้ความคิด ถ้าเปรียบอีกอย่าง เหมือนคน พูดมาก ถามมาก ไม่หยุดจนผู้อื่นรำคาญ คุนน้องต้องมีสมถะหนุนนำคือกำลังสมาธิ สติถึงฉับไว เฉียบแหลมขึ้น สติคุนน้องทำงาน ร่วมกันกับปัญญา คุนน้องฝึกฝนให้สติมีกำลัง เหมือนโปรแกรมสแกนไวรัส เหมือนตรวจจับ ว่ากิเลศเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก็รู้ (แต่ไม่ใช่รู้และวาง) แต่ใช้ปัญญา ตรวจสอบอีกทีว่าไวรัสหรือ กิเลศ เกิดจากสาเหตุอะไร นั่นคือการที่รู้จัก พิจารณา โดยแยบคาย (โยนิโสมนสิการ) ก็ค่อยๆลด ละ เลิก เมื่อรู้สาเหตุจนลามไปถึงผล ก็ค่อยๆฝึกไป ค่อยๆขัดเกลาไป ทำได้ไม่ได้ ใจเราเป็นผู้รู้อยู่ ด้วยความที่ตนชอบคิด ก็เลยชอบใช้ความคิดให้ เกิดประโยชน์ จิตเวลาเห็นเหตุไร จะชอบหยิบมา พิจารณาตลอด อะไรเกิดขึ้น ทาง หู ตา จมูก กาย ใจ จิตไวมาก (ไม่รู้จะอธิบายยังไง จะว่าฟุ้งซ่านก็ ไม่ใช่ จะว่าปรุงแต่งก็ไม่เชิง เพราะสิ่งนี้ เป็นเหตุให้เกิดปัญญา แต่ต้องรู้ว่าปัญญา เป็นสังขาร ตกอยู่ภายใต้กฏ อนิจจัง เกิดดับ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ เมื่อรู้ก็ละ วางใจให้เป็นอุเบกขา เมื่อถึงเวลา สังขารเหล่านั่นก็ปรากฏขึ้นมาให้เราหยิบพิจารณาอยู่ดี เปรียบเหมือนเราพอกพูนสติปัญญา และสะสมไว้ในจิต มันไม่หายไปไหนหรอก ไม่ต้องกลัวที่จะคิด คิดโดยมีสติปัญญา ทำให้เรารู้แจ้ง แทงตลอด ถ้าฝึกฝน ไม่รู้คนอื่นเป็นอย่างไร สำหรับคุนน้องเป็นเช่นนี้นะ เอาแต่นี้ก่อน และคุนน้องจะมาต่อ การปฏิบัติธรรม ไม่ได้ทำให้เราคิดว่าเราฉลาด แต่ทำให้เรายอมรับ ว่าเรายังโง่!! อนุโมทนาสาธุในบุญ...ครับอ้างคำพูด: เอาแต่นี้ก่อน และคุนน้องจะมาต่อ การปฏิบัติธรรม ไม่ได้ทำให้เราคิดว่าเราฉลาด แต่ทำให้เรายอมรับ ว่าเรายังโง่!! ครูบาอาจารย์บอกว่า...ใครที่รู้ตัวว่าโง่..นั้นนะ...เริ่มฉลาดแล้ว ทำต่อไปครับ |
|
| เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 17 ม.ค. 2015, 07:09 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
อ้างคำพูด: ครูบาอาจารย์บอกว่า...ใครที่รู้ตัวว่าโง่..นั้นนะ...เริ่มฉลาดแล้ว ทำต่อไปครับ ไม่ต้องถึงกับอาจารย์บอกหรอก เราจะรู้เองว่าเรานี่ยังโง่อีกมาก เมื่อก่อนได้ยินบ่อยมากที่มีคนพูดว่า ยิ่งเรียนยิ่งโง่ (ไม่เข้าใจคำพูดนี้) แต่พอได้ศึกษามากๆ จึงเห็นว่าคำพูดนี้ถูกต้องเลย เพราะว่าพอปัญญาเกิดขึ้น มันจะไปเห็นตัวโง่ทันทีในส่วนที่เป็นอดีตมากมาย ถ้ามีเวลาหรือมีผู้ใดอยากรู้ประสบการจริงของลุงหมานว่าเกิดอะไรขึ้นที่ผ่านมา ในระยะเวลาที่ปฏิบัติธรรมมาเป็นเวลาหลายสิบปี...สุดท้ายต้องมาศึกษาธรรม ในห้องเรียนจริงจัง ๑๓ ปีหูตาสว่างขึ้นเยอะ ฉะนั้นอย่าดูหมิ่นว่า เอาแต่นั่งกอดตำรา ตำราเหล่านี้แหละคือ "ปฏิเวธ" ที่พระอรหันต์ในพุทธกาลบันทึกเป็นพระไตรปิฏกเอาไว้ ให้ศึกษาเล่าเรียนกัน ถ้าไม่มีพระไตรปิฏกธรรมของพระพุทธเจ้าศูณย์สิ้นไปนานแล้ว ทั้งนี้ก็มีตัวอย่างอยู่ คือพระพุทธเจ้าองค์ก่อนก็มีอยู่หลายพระองค์ด้วยกัน ที่ไม่บันทึกไว้เป็นตำราคือพระไตรปิฎก และยังมีพุทธวจนะที่ว่าธรรมะทั้งหลายคือตัวแทนของพระองค์ |
|
| เจ้าของ: | nongkong [ 17 ม.ค. 2015, 16:30 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
การปฏิบัติธรรม ทำให้เราคิดว่าตนฉลาด หรือ ทำให้เรารู้ตัวว่าที่แท้ เรายังมีตัวโง่อยู่.. กิเลศมานะ..ชอบอยู่กับพวก คิดว่าตนเก่ง มีความรู้มาก เพราะศึกษามาก เรียนมาเยอะ และอยาก สอนอยากบอกคนอื่น มั่นใจตนเองสูงเมื่อไหร่ที่เราคิดว่า เราเก่ง เราฉลาดกว่าผู้อื่น นั่นละให้ระวัง ถ้ามีใครมาชี้จุดบกพร่องของตน จะยอมรับจุดบกพร่อง ของตนได้ยาก มักสำคัญว่าตนถูกเสมอ ให้สังเกตุว่า เมื่อความรู้สึกนึกคิดเกิด.. ใจเราเป็นเช่นไร คนที่มีทิฏฐิมานะสูง ถ้าลองได้โต้เถียง กับผู้ใด มักจะไม่ฟังผู้อื่น(บางคนเขายังพูดไม่จบก็ขัดคอเขา เพราะมานะ ) แต่จะให้ผู้อื่นฟังตนเพราะสำคัญตนว่าเรารู้มากกว่าเขา ทำให้มีคำพูดว่า ยิ่งเรียนยิ่งโง่(จริงๆยิ่งเรียนยิ่ง เก่ง มีความรู้ เป็นนักวิชาการ)แต่ตัวโง่เพิ่มขึ้น ถ้าตราบใดที่ไม่ยอมรับว่า ตนยังโง่เพราะทิฏฐิ มานะของตน ตันหา อุปทานก็พอกพูนขึ้น เพราะความไม่รู้ของตน ใครบอกใครเตือนไม่ฟัง คนที่มหมั่นเจริญสติ เห็นสิ่งใดกระทบขึ้นในจิต และรู้เท่าทัน ความรู้สึกนึกคิดต่างๆนั้น เพราะเมื่อรู้ชัดในผัสสะนั้น จะคิด จะพูด จะทำ อย่างมีสติ และจิตมีความเป็นกลางมีความ เป็นอุเบกขาสูง ไม่มีตัณหาอุปทานเกิดขึ้น ในขณะที่คิดก็ดี พูดก็ดี ทำก็ดี แต่เกิดด้วย วิชชา...
|
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 17 ม.ค. 2015, 20:45 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
ลุงหมาน เขียน: อ้างคำพูด: ครูบาอาจารย์บอกว่า...ใครที่รู้ตัวว่าโง่..นั้นนะ...เริ่มฉลาดแล้ว ทำต่อไปครับ ไม่ต้องถึงกับอาจารย์บอกหรอก เราจะรู้เองว่าเรานี่ยังโง่อีกมาก เมื่อก่อนได้ยินบ่อยมากที่มีคนพูดว่า ยิ่งเรียนยิ่งโง่ (ไม่เข้าใจคำพูดนี้) แต่พอได้ศึกษามากๆ จึงเห็นว่าคำพูดนี้ถูกต้องเลย เพราะว่าพอปัญญาเกิดขึ้น มันจะไปเห็นตัวโง่ทันทีในส่วนที่เป็นอดีตมากมาย ... ต้องอ้างนิดหน่อย...แต่ก่อนรู้ก็แค่รู้...พอหลังมาอบรมบ่มนิสัยจากครูบาอาจารย์...มันรู้ชัดกว่าเดิม...ก็ต้องยกครูเอาใว้ก่อน เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจคำนี้...ยิ่งเรียน..มันก็ต้องรู้เพิ่มซิ...จะโง่ลงได้งัย ตอนนี้เข้าใจแล้ว...คนฉลาดเท่านั้นที่จะรู้ว่า.ตัวเองยังมีอะไรที่ตัวเองยังไม่รู้อยู่อีก... คนฉลาดเห็นแต่สิ่งที่ยังไม่รู้... คนโง่เห็นแต่สิ่งที่ตนรู้..จมอยู่กับสิ่งที่ตัวเองรู้ คนโง่..มีหลายประเภท...เรียงจากแย่ไปหาดี ไม่รู้กลับคิดว่าตัวรู้ ไม่รู้ก็ไม่รู้ว่าตัวไม่รู้ ไม่รู้ก็รู้ว่าตัวไม่รู้ |
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 17 ม.ค. 2015, 20:50 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
nongkong เขียน: การปฏิบัติธรรม ทำให้เราคิดว่าตนฉลาด หรือ ทำให้เรารู้ตัวว่าที่แท้ เรายังมีตัวโง่อยู่.. กิเลศมานะ..ชอบอยู่กับพวก คิดว่าตนเก่ง มีความรู้มาก เพราะศึกษามาก เรียนมาเยอะ และอยาก สอนอยากบอกคนอื่น มั่นใจตนเองสูงเมื่อไหร่ที่เราคิดว่า เราเก่ง เราฉลาดกว่าผู้อื่น นั่นละให้ระวัง ถ้ามีใครมาชี้จุดบกพร่องของตน จะยอมรับจุดบกพร่อง ของตนได้ยาก มักสำคัญว่าตนถูกเสมอ ..... วิชชา... ผมว่า..มันเป็นสภาวะปกติ..นะ เหมือนคนจะขับรถตรงได้...ทีแรก...ก็เป้ซ้าย..เป้ขวา...เป็นธรรมดา...หากพัฒนาขึ้นมาหน่อย..ก็ขับตรงได้เองแหละ... |
|
| เจ้าของ: | nongkong [ 17 ม.ค. 2015, 21:58 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
กบนอกกะลา เขียน: nongkong เขียน: การปฏิบัติธรรม ทำให้เราคิดว่าตนฉลาด หรือ ทำให้เรารู้ตัวว่าที่แท้ เรายังมีตัวโง่อยู่.. กิเลศมานะ..ชอบอยู่กับพวก คิดว่าตนเก่ง มีความรู้มาก เพราะศึกษามาก เรียนมาเยอะ และอยาก สอนอยากบอกคนอื่น มั่นใจตนเองสูงเมื่อไหร่ที่เราคิดว่า เราเก่ง เราฉลาดกว่าผู้อื่น นั่นละให้ระวัง ถ้ามีใครมาชี้จุดบกพร่องของตน จะยอมรับจุดบกพร่อง ของตนได้ยาก มักสำคัญว่าตนถูกเสมอ ..... วิชชา... ผมว่า..มันเป็นสภาวะปกติ..นะ เหมือนคนจะขับรถตรงได้...ทีแรก...ก็เป้ซ้าย..เป้ขวา...เป็นธรรมดา...หากพัฒนาขึ้นมาหน่อย..ก็ขับตรงได้เองแหละ... ขับรถให้ตรง ใครๆก็ขับได้ค่ะ ถ้าถนนมันโล่ง ไม่มีรถสวนมา ปาดซ้ายปาดขวา คนขับรถมือใหม่ ย่อมไม่เคยชินกับถนนและจราจร พอเข้าเมืองใหญ่ๆ รถเยอะๆ จากเคยนึกว่ขับชำนาญ ก็อาจพลาดได้เช่นกัน เพราะเหตุนี้เราถึงต้องมีสติไงค่ะ และเมื่อเรามีสติเราจะจะเกิดตัวรู้เพื่อ ตัดอารมณ์ที่เป็นอนุสัย.. ก่อนที่จะตัดสินใจ ทำอะไรเพราะความเคยชิน กิเลศที่นอนเนืองในจิต จะถอดถอนได้ต้องละ อวิชชา..อย่าลืมนะค่ะ อวิชาเปรียบเหมือนไมโครชิพเล็กๆฝังใส่สมอง..และเราก็ไม่รู้..จึงสร้างเหตุ ออกไปด้วยความไม่รู้..เพราะความเคยชิน.. แรงเหวี่ยงของกรรม..เกิดขึ้นเพราะอวิชชา
|
|
| เจ้าของ: | eragon_joe [ 18 ม.ค. 2015, 06:27 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพุทธศาสนา |
|
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|