ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48978 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | yoottapong [ 11 ธ.ค. 2014, 15:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ มีพลังงานสีดำพุ่งมาชนที่หัวของผม แต่เป็นพลังงานชนที่จิตตรงหัว จนหัวผงะ ไม่รู้เป็นพลังงานอะไร |
เจ้าของ: | nongkong [ 11 ธ.ค. 2014, 15:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ง่วงแล้วสับพะหงกรึเปล่าค่ะ.. |
เจ้าของ: | รสมน [ 11 ธ.ค. 2014, 18:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
อย่าไปสนใจกับนิมิตที่ปรากฏข้างต้นให้ รีบเอาจิตไปกำหนดฐานสมาธิของตนเอง เช่นถ้ากำหนดพุทโธก็เอาสติไปกำหนดที่พุทโธ ถ้า พอง-ยุบ ก็เอาสติไปกำหนดที่พองยุบ แล้ว รูปนิมิตต่างๆ ทั้งที่จิตเราปรุงแต่งเองหรือไม่ได้ปรุงแต่ง ก็จะหายไปเอง ให้ดูความเกิดดับของรูปนาม ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ |
เจ้าของ: | yoottapong [ 11 ธ.ค. 2014, 19:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ทุกทีที่ผมทำสมาธิจะไม่มีง่วงเหงาหาวนอนจะมีสติตอนทำสมาธิ เรื่องปรุงแต่งก็ไม่ได้ปรุงแต่ง ทุกทีที่ทำสมาธิไม่ค่อยมีอารมณ์ง่วงครับ |
เจ้าของ: | toy1 [ 11 ธ.ค. 2014, 21:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
เรื่องของการปฏิบัติธรรม คนที่ปฏิบัติธรรมได้ โดยไม่มีสิ่งรบกวน ทำจิตให้เป็นสมาธิได้ง่ายและเร็ว บุคคลนั้นก็โชคดีสามารถปฏิบัติธรรมได้สะดวก ไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไรเข้ามาขัดขวางในการปฏิบัติ ส่วนบุคคลที่มีกรรมมามาก บางคนก็ไม่สามารถปฏิบัติธรรม ให้จิตสงบเป็นสมาธิได้ พอเริ่มปฏิบัติไปก็เริ่มมีสิ่งรบกวน ขัดขวาง ไม่ให้จิตสงบเป็นสมาธิ บางคนก่อนปฏิบัติธรรมก็ไม่เคยสำรวจตัวเอง ในเรื่องของอารมณ์ที่ใช้ไปในแต่ละวัน ที่เผลอสติไม่ได้สำรวมอินทรีย์ เช่นเผลอไปติ ไปด่าว่า วิพากษ์วิจารณ์ด้วยอารมณ์ไม่ชอบใจ อารมณ์ที่เป้นลักษณะหักล้างเหล่านี้ มันเป็นของร้อน เมือ่เราปฏิบัติธรรมจนเป็นนิสัยได้ รักษาความสงบของจิตได้ ในขณะที่ใช้กายเคลื่อนไหววิญญาณเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันได้ หากมีการเผลอไปใช้อารมณ์ไปติ ไปด่าว่า วิพากษ์วิจารณ์ด้วยอารมณ์ไม่ชอบใจ เราก็จะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของจิต อาจจะทำจิตร้อนกายร้อนเหมือนอยู่ไม่เป็นสุข มึนหัวเวียนหัว พอจะมาปฏิบัติธรรมทำสมาธิประจำวัน อารมณ์เหล่านี้ก็ยังค้างคาใจอยู่่ เมื่อเรารีบร้อนทำสมาธิอารมณ์เหล่านี้ก็ออกมารบกวน ขัดขวาง เหมือนเป็นของหนัก ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็มีผลให้การปฏิบัติธรรมทำสมาธิของฆราวาสประสบอุุปสรรค ส่วนบุคคลที่ชีวิตประจำวันเรียบง่ายไม่กระทบกับใครมาก สะสมการปฏิบัติธรรมมามาก เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจิตก็เป็นสมาธิได้เร็ว ส่วนในเรื่องของกรรม บางคนพอจะเริ่มปฏิบัติธรรมก็เหมือนมีกรรมคอยรบกวน คอยขัดขวางเหมือนพยายามดีงไว้ กดไว้ ให้ต้องทุกข์ต่อไป ไม่อาจไปเดินอยู่ในเส้นทางการปฏิบัติธรรมให้อยู่ในเส้นทางนำไปสู่การพ้นทุกข์ได้ เหมือนทางนี้เป็นทางแก้ว พอขึ้นมาเดินก็ลื่นหกล้ม ตีลังกา บาดเจ็บ หรือไม่ก็ลื่นไหลเดินออกนอกเส้นทางไหลออกไปทางอื่น ไม่อาจมาเดินอยู่ในทางแก้วนี้ได้ เมือ่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมก็ลองเทียบเคียงดู จะได้คอยเตือนตัวเองไม่ให้ประมาทหลงเดินออกนอกแนวทาง หากเผลอเดินออกนอกแนวทางนี้ก็กลับมาเดินในเส้นทางนี้ เพราะพระอริยะทุกพระองค์ก็ปฏิบัติอยู่ในทางเส้นนี้ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 11 ธ.ค. 2014, 21:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
nongkong เขียน: ง่วงแล้วสับพะหงกรึเปล่าค่ะ.. ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | student [ 11 ธ.ค. 2014, 23:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
yoottapong เขียน: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ มีพลังงานสีดำพุ่งมาชนที่หัวของผม แต่เป็นพลังงานชนที่จิตตรงหัว จนหัวผงะ ไม่รู้เป็นพลังงานอะไร เรียกว่าจิตตั้งอยู่ที่หัว (ถึงได้รู้ว่ามีพลังงาน) ถ้าลองจิตตั้งอยู่ที่ลมหายใจ คุณก็มีเรื่องมาเล่าอีกว่ามีพลังงานบางอย่าง จิตอยู่ที่ขา คุณก็มาเล่าอีกว่ามีพลังงานบางอย่าง คุณจึงศึกษาเรื่องพลังงานมากกว่าจะศึกษาเรื่องจิตหรืออารมษ์ ความหมายคือ อารมณ์จะเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอให้ได้พบเห็นพลังงานเป็นใช้ได้ ผมพูดถูกไหมครับ? |
เจ้าของ: | toy1 [ 12 ธ.ค. 2014, 05:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
yoottapong เขียน: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ มีพลังงานสีดำพุ่งมาชนที่หัวของผม แต่เป็นพลังงานชนที่จิตตรงหัว จนหัวผงะ ไม่รู้เป็นพลังงานอะไร เวลาจิตเรานิ่งเป็นสมาธิแล้วมีสีดำเข้ามารบกวนนั้น สีดำเป็นเรื่องของกรรม บางครั้งสีงเหล่านี้ก็มารบกวน เราก็ควรทำจิตแผ่เมตตา เรืองของโลกวิญญาณ มันก็มีทั้งวิญญาณร้ายวิญญาณดีเหมือนคนเรา เรื่องของคำว่าวิญญาณนี้เป็นเรื่องที่หลงง่าย (เรื่องทวารทั้งหก เรื่องของอารมณ์ที่เปรียบเหมือนโจรเข้ามาในบ้าน) เหมือนจิตเรามีกรรมอยู่มาก เวลาปฏิบัติธรรมเราก็จะเห็นเป็นสีดำ ช่วงที่เป็นสีดำก็ลองสังเกตดูเวทนาที่เกิดพร้อมกับสีดำ หากจิตเรายังไม่ตั้งมั่น หรือไม่ละเอีอดพอ มีสิ่งเหล่านี้รบกวน เราก็คงสังเกตไม่ทัน เรียกว่าจิตเราไหวไปแล้ว เสียสมาธิแล้ว หลังออกจากการปฏิบัติธรรมตัองทบทวนหาข้อบกพร่องของตัวเอง พิจารณาหาเหตุผล เพื่อแก้ไขการปฏิบัติธรรมของตัวเอง หากมีสิ่งพวกนี้รบกวนมากๆ ก็ควรเปลียนกิริยาใหม่ เพราะการปฏิบัติธรรมมีกิริยาให้เราเลือกได้ ทั้งยืน เดิน นั่ง นอน ด้วยจิตมีสติตั้งมั่นไม่ไหวไปมา ปฏิเสธอารมณ์นึกคิด อารมณ์ที่เกาะความอยากรู้อยากเห็น ลังเลสงสัยออกไปก่อน ทำไปให้ครอบกำหนดเวลาที่ตั้งใจ อะไรจะเกิดก็ไม่ต้องไปใส่ในเมื่อเราเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เที่ยงไม่ใช่ของเรา จะปวดจะเมื่อยแค่ไหนก็ทน หากมันจะตายก็ให้มันตายไปถ้ายังไม่ถึงกำหนดเวลาออกจากการปฏิบัติธรรมตามที่ตั้งใจ ให้รักษาไว้เพียงแค่จิตของเราดวงเดียวพอแล้ว ไม่ไปเกาะเกียวกับสิ่งใด ไม่มีอยากได้อยากเป็นอะไรทั้งหมด เหมือนตัดภพตัดชาติไปชั่วขณะ ในภาวะของฌานนั้น มีแรงกดแรงดันแรงดีงแรงดูด บางครั้งก็เข้าไปนิ่งเฉยไม่รับอะไรเลย บางครั้งหนักจนทนไม่ไหว คนที่ผ่านฌานมาย่อมเข้าใจ ว่ามันเป็นเหมือนพลังงานอย่างหนึ่ง เมื่อเราผ่านเรื่องฌานไปได้ระดับหนึ่ง เราจะค่อยๆ เข้าใจในสิ่งที่ละเอียดมากขึ้น ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ละเอียดตามไปด้วย เหมือนสิ่งที่มีตัวมีตน แต่ไม่ได้สัมผัสด้วยตา เป็นญานทัสนะในการศึกษาเรื่องบุญเรื่องกรรมที่ละเอียดขึ้นไปอีก เหมือนที่พระท่านสวด กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา อัพยากะตาธัมมา ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น |
เจ้าของ: | yoottapong [ 12 ธ.ค. 2014, 15:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง |
เจ้าของ: | toy1 [ 12 ธ.ค. 2014, 15:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
yoottapong เขียน: ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง ขออย่าได้เข้าใจผิด เรื่องนี้เหมือนกับเราได้ศึกษาปฏิบัติธรรมของไปตามคำสอนของท่าน เป็นเหมือนพระท่านเปิดให้ศึกษา ถ้าท่านไม่เปิดให้ศึกษา ก็คงไม่เห็นไม่รู้และคงไม่เข้าใจในเรื่องกรรม เพราะปกติเราก็มีความเชื่อแบบนักเรียนวิทยาศาสตร์ หากยังไม่ได้พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองก็อย่าเพิ่งเชื่อ ฟังได้แต่อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เรายังศึกษาไม่ถึง |
เจ้าของ: | nongkong [ 12 ธ.ค. 2014, 17:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
toy1 เขียน: yoottapong เขียน: ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง ขออย่าได้เข้าใจผิด เรื่องนี้เหมือนกับเราได้ศึกษาปฏิบัติธรรมของไปตามคำสอนของท่าน เป็นเหมือนพระท่านเปิดให้ศึกษา ถ้าท่านไม่เปิดให้ศึกษา ก็คงไม่เห็นไม่รู้และคงไม่เข้าใจในเรื่องกรรม เพราะปกติเราก็มีความเชื่อแบบนักเรียนวิทยาศาสตร์ หากยังไม่ได้พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองก็อย่าเพิ่งเชื่อ ฟังได้แต่อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เรายังศึกษาไม่ถึง เรื่องแบบนี้เขาเอามาเล่าเฉพาะวงในค่ะ เหมือนเต่าเล่าเรื่อง นก กับ เต่าด้วยกัน เต่าสองตัวจะเข้าใจตรงกัน แต่ลองให้เต่าไปเล่าให้ปลาฟังดิ อิอิมีเถียงกันบ้านแตก ![]() ![]() ![]() ปล.มีใครเคยกินเนื้อเต่าไหมค่ะ แต่ปลาน่าจะเคยกินกันทุกคน ![]() |
เจ้าของ: | student [ 13 ธ.ค. 2014, 01:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
yoottapong เขียน: ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง อย่าว่าแต่คุณเลยนะครับ รีล จิตสำผัส และคนอื่นๆ เรายังไม่เชื่อเลยครับ |
เจ้าของ: | student [ 13 ธ.ค. 2014, 01:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ถ้าคุณคิดจะใช้คำว่าปัจจัตตัง เพื่อบ่งบอกว่าตนเองมีความพิเศษกว่าคนอื่นนั้น ผมยอมรับครับว่า คุณเก่ง และผมกำลังพูดว่า นี่แหละคือความแตกต่างระหว่างคุณกับเรา |
เจ้าของ: | yoottapong [ 14 ธ.ค. 2014, 20:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ตอนนั่งสมาธิเห็นอดีตชาติตนเองเห็นภาพค่อนข้างชัดเป็นภาพสีด้วยเคยเป็น เศรษฐี รูปร่างอ้วนขาวหัวไม่ล้านผมปรกหน่อยๆมีหนวดหน่อยๆนั่งอยู่ที่ริมทะเล ด้วยท่านั่งยืนชันเข่า มองไปที่ทะเล และนิมิตเห็นอดีตกำเนิดเป็นลูกสุนัข กำลังพัฒนาร่างกายในครรภ์แม่สุนัข ในนิมิตบอกด้วยว่าเป็นตัวผู้ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 15 ธ.ค. 2014, 07:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ถ้าไม่ขมวด..วกเข้ามาเป็นพระธรรม..นะ...สิ่งที่รู้ที่เห็นก็ไม่มีคุณค่าอะไร เพราะอะไรนะรี? ก็เพราะสิ่งที่เห็น...มันไม่มีอยู่จริง...ก็ถ้ามันมีอยู่จริง..มันก็ต้องไม่เปลี่ยนแปลง...ไหนละ..ความเป็นคนรวย..ความเป็นคนมีอำนาจ...แล้วตอนนี้เป็นอะไร...ความรวยความมีอำนาจหลงเหลือมาช่วยอะไรในปัจจุบันนี้..ได้มั้ย? แต่พระธรรมมีอยู่จริง....เป็นสิ่งเดียวที่มีอยู่จริง ถ้าเราสามารถเปลี่ยนสิ่งรู้ที่ไม่มีอยู่จริง....มาเป็นพระธรรมที่มีอยู่จริง...จึงจะได้ชื่อว่ามีกำไร...การไปรู้นั้นจึงจะมีคุณค่า |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |