ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ช่วงที่อารมณ์เป็นอัพยากฤต http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48955 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | yoottapong [ 08 ธ.ค. 2014, 22:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | ช่วงที่อารมณ์เป็นอัพยากฤต |
ธรรมอันเป็นอารมณ์แห่งจิตอันเป็นอัพยากฤต คือจิตที่ไม่ยินดียินร้าย ไม่โสมนัส แลไม่โทมนัส เรียกว่า อัพยากฤต เหมือนน้ำจะดีหรือเสียเมื่อตกลงบนใบบัวย่อมไม่อาจซึมและแทรกลงบนใบบัว หรือเปรียบเสาที่ขัดจนเป็นมันวาววับแล้วฝุ่นผงจะปลิวมามากมายปานใดก็ไม่อาจเกาะเสานั้น หรือภาชนะที่เต็มล้นด้วยน้ำแล้วถึงจะใส่น้ำเข้าเพียงใดก็ไม่อาจเพิ่มน้ำขังในภาชนะนั้นเพิ่มได้ ดังนั้นช่วงอารมณ์ที่เป็นอัพยากฤต เหมาะกับใช้สติปัญญาพาดฟันกิเลส และโดยส่วนใหญ่มัคสมังคีจะเกิดช่วงอารมณ์อัพยากฤต |
เจ้าของ: | yoottapong [ 08 ธ.ค. 2014, 23:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วงที่อารมณ์เป็นอัพยากฤต |
หรือว่าอารมณ์อัพยากฤตคือองค์ของอุเบกขาในจตุถฌาน |
เจ้าของ: | toy1 [ 09 ธ.ค. 2014, 12:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วงที่อารมณ์เป็นอัพยากฤต |
รู้จักอัพยากฤต ว่าทำได้หรือไม่ได้ ก็ให้ลองใช้หูตาจมูกลิ้นกายใจ เป็นห้องทดลองว่า เมื่อหูรับเสียง ตารับรูป จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายสัมผัส ใจนั้นมีอะไรปรุงแต่งขึ้น หากใจนั้นไม่มีอารมณ์ชอบใจไม่ชอบใจ ใจนิ่งจิตนิ่งไม่ไหวไปมาปราศจากสิ่งปรุงแต่ง (เหมือนความแตกต่างการกินข้าวด้วยความอร่อย กับ การกินข้าวด้วยความสำรวมอินทรีย์กินเพืยงแค่ประทังสังขาร) จิตก็เป็นอุเบกขาเป็นสภาวอัพยากฤต มีสติสัมปชัญญะ สังวรอินทรีย์ ๑๒๘] การน้อมจิตไปในสังขารุเปกขาของปุถุชน ของพระเสขะและ ของท่านผู้ปราศจากราคะ มีความต่างกันอย่างไร ฯ สังขารุเปกขาของปุถุชนเป็นกุศล แม้ของพระเสขะก็เป็นกุศล แต่ของท่าน ผู้ปราศจากราคะเป็นอัพยากฤต การน้อมจิตไปในสังขารุเปกขาของปุถุชน ของ พระเสขะและของท่านผู้ปราศจากราคะ มีความต่างกันโดยสภาพเป็นกุศลและ อัพยากฤตอย่างนี้ ฯ ในการภาวนาจิตนั้นก็ต้องใข้อุเบกขาอยู่ตลอดในสิ่งที่เกิดขึ้นผุดเข้ามาเป็นอุปสรรค เหมือนอดทนกับเวทนา อดทนมากก็ได้ขันติ ได้ขันติมากๆ เหมือนจิตมีกำลังมาก พอมีเวทนาขึ้นมา จิตก็เท่าทันไม่ไปยึดถือ วางเฉยต่อเวทนาก็เหมือนเป็นอุเบกขา มองเวทนาที่เกิดขึ้นไม่ใข่ของเรา ทั้งเวทนาจากอารมณ์ เวทนาจากกาย จิตก็นิ่งเฉยเป็นปกติเอง |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 09 ธ.ค. 2014, 14:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วงที่อารมณ์เป็นอัพยากฤต |
อ้างคำพูด: อัพยากตธรรม : - กามาวจรวิบาก ...........วิญญาณ ๕ ที่เป็นกุศลวิบาก ...........มโนธาตุ เป็นกุศลวิบาก ...........มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลวิบาก สหรคตด้วยโสมนัส ...........มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา ...........มหาวิบาก ๘ รูปาวจรวิบาก อรูปาวจรวิบาก โลกุตตรวิบาก >วิบากแห่งมรรคจิตดวงที่ ๑ .........มหานัย ๒๐ .........สุทธิกปฏิปทา .........สุทธิกสุญญตะ .........สุญญตปฏิปทา .........สุทธิกอัปปณิหิตะ .........อัปปณิหิตปฏิปทา .....มหานัย ๒๐ (ต่อ) .........วิบากแห่งมรรคจิตดวงที่ ๑ (ต่อ) .........วิบากแห่งมรรคจิตดวงที่ ๒ ดวงที่ ๓ และดวงที่ ๔ อกุศลวิบากอัพยากฤต กามาวจรกิริยา รูปาวจรกิริยา อรูปาวจรกิริยา อารมณ์เป็นอัพยากต ...... ไม่มีครับ |
เจ้าของ: | yoottapong [ 09 ธ.ค. 2014, 20:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วงที่อารมณ์เป็นอัพยากฤต |
ท่าจะจริงแฮะ งั้นเอาเป็นว่าจิตที่เป็นอัพยากฤตแล้วกัน |
เจ้าของ: | toy1 [ 10 ธ.ค. 2014, 13:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วงที่อารมณ์เป็นอัพยากฤต |
yoottapong เขียน: ท่าจะจริงแฮะ งั้นเอาเป็นว่าจิตที่เป็นอัพยากฤตแล้วกัน ด่วนสรุปอะไรง่ายๆ เกินไป อัพยากฤต ไม่ใช่จิต แต่เป็นสภาพสภาวะธรรม อุปมาเหมือนเราตกไปในโคลนก็ต้องมีสิ่งแวดล้อมเป็นโคลน หรือตกใปในถังน้ำกรดหรือกองไฟ หากตกไปอยู่ในอวกาศก็มีสภาพเป็นอวกาศ หากตกในภาวะแวดล้อมเป็นสูญญากาศ ตัวเราจะเป็นอย่างไรก็ลองจินตนาดู แล้วให้มีสติกลับมาเป็นคนปกติเยี่ยงมนุษย์ธรรมดา |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |