ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
นิมิตจิตประหวัด http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48930 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | yoottapong [ 04 ธ.ค. 2014, 15:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | นิมิตจิตประหวัด |
ช่วงนี้ผมมีอาการนิมิตจิตประหวัดถึงอดีต เป็นนิมิตในอดีตของปัจจุบันชาติอดีตใกล้ๆ เป็นเครื่องรู้ให้ระลึก ช่วงนี้เป็นบ่อย |
เจ้าของ: | asoka [ 04 ธ.ค. 2014, 15:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
![]() ติดอดีต ย่อมมีแต่ครุ่นคิด จิตฟุ้งซ่าน ห่วงอนาคต ย่อมเต็มไปด้วยวิตก หัวอกสั่นสะท้าน อยู่กับปัจจุบัน สุขสันต์ทุกวันกาล ทุกสิ่งใหลพ้นผ่านไปตามเรื่องของมันที่เป็นมา ![]() |
เจ้าของ: | toy1 [ 04 ธ.ค. 2014, 15:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
การที่จิตเป็นสมาธิ แลัวโน้มจิตไปเห็นภาพอดีตได้ พิจารณาความเป็นมาเป็นไปด้วยอำนาจของกรรม ก็จะได้เข้าใจเรื่องเวรกรรมชัดเจน การรับกรรมชดใข้กรรม การสร้างบาปบุญกุศลที่ทำมา เป็นเรื่องมโนทัศนะศึกษาของผู้นั้น และยิ่งจะทำให้ ระมัดระวังในการใช้อารมณ์ ที่นำไปสู่การเบียดเบียนกันทั้งกายวาจาใจ เหมือนสร้างเส้นทางทุกข์ให้กับตน เหมือนตนเองสร้างหนี้ไว้ วันหนึ่งเจ้าหนี้ก๊ต้องมาทวงเอาคืน แล้วจะได้เป็นอนุสติว่าชาติปัจจุบันเราเองสะสมอะไรไว้ |
เจ้าของ: | nongkong [ 10 ธ.ค. 2014, 17:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
toy1 เขียน: การที่จิตเป็นสมาธิ แลัวโน้มจิตไปเห็นภาพอดีตได้ พิจารณาความเป็นมาเป็นไปด้วยอำนาจของกรรม ก็จะได้เข้าใจเรื่องเวรกรรมชัดเจน การรับกรรมชดใข้กรรม การสร้างบาปบุญกุศลที่ทำมา เป็นเรื่องมโนทัศนะศึกษาของผู้นั้น และยิ่งจะทำให้ ระมัดระวังในการใช้อารมณ์ ที่นำไปสู่การเบียดเบียนกันทั้งกายวาจาใจ เหมือนสร้างเส้นทางทุกข์ให้กับตน เหมือนตนเองสร้างหนี้ไว้ วันหนึ่งเจ้าหนี้ก๊ต้องมาทวงเอาคืน แล้วจะได้เป็นอนุสติว่าชาติปัจจุบันเราเองสะสมอะไรไว้ ![]() ปล.มิน่าละตอนอยู่ใกล้กันถึงเกิดราคะต่อกัน ทั้งที่คุนน้องเป็นโรคกามตายด้านมานาน ที่แท้ของมันเคยๆกันอยู่นี่เอง 555 |
เจ้าของ: | toy1 [ 10 ธ.ค. 2014, 17:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
ทานที่เราเคยอุปถัมภ์เขาด้วยวัตุถุธาตุก็เป็นกรรมดีที่อุปถัมภ์เรา เกื้อกูลเราด้วยปัจจัยสี่ในชาติต่อมาเหมือนกัน แต่กรรมที่เคยกระทำให้เขาทุกข์ใจก็ย้อนกลัยมาเกิดที่เรา ทำให้เรามีทกข์ใจเป็นวิบากเช่นเขา รับทุกข์เหมือนเขา บางครั้งก็อาจเป็นยิ่งกว่าเขาอีก เพราะกรรมที่ทำด้วยใจนั้นมีความสลับซับซ้อน ไม่รู้ว่าเราเคยทำกรรมซ้ำๆ เช่นนี้มากขนาดไหน จึงต้องอาศัยการปฏิบัติธรรม ซึ่งช่วยให้บรรเทาทุกข์ บรรเทากรรมที่มีความซับซ้อน คลี่คลายอารมณ์กรรมและการกระทำอดีตที่ย้อนมาหาเรา ยอมรับกรรมขดใช้กรรม ให้เกิดเป้นอโหสิกรรม ขณะเดียวกันก็ชำระสะสางจิตที่ผูกยึดกับอารมณ์ต่างๆอีกมากมายที่เราเผลอสติไปกับอารมณ์ จะได้ไม่ต้องมีกรรมในลักษณะนี้อีก การที่เราเป็นผู้โชคดีที่กรรมนั้นเปิดโอกาสให้เห็นอดีตแม้เพียงฉากหนึ่ง ก็ทำให้เราได้มีโอกาสทบทวนตัวเองเห็นความผิดพลาดของตัวที่ทำให้ผู้อื่นทุกข์ลำบากด้วยการกระทำของเรา ได้เข้าใจทบทวนเรื่องของกรรม เรื่องของการคล้องกรรม ทบทวนเรื่องของอารมณ์เกิดที่เราพาให้มีการกระทำไปคล้องกรรม ได้เข้าใจว่ากรรมนั้นมาทวงอย่างไร ได้เข้าใจว่ากรรมที่เราก่อขึ้นนั้นไม่สูญหาย เราควรเลือกกระทำแต่กรรมดี แล้วทำอย่างไรจะให้ตัวเองไม่ไปติดบ่วงกรรมอีก ต้องมีการชดใข้กรรมกันอีก ทุกข์กันอีกทั้งเขาทั้งเราอีก |
เจ้าของ: | nongkong [ 10 ธ.ค. 2014, 19:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
![]() toy1 เขียน: ทานที่เราเคยอุปถัมภ์เขาด้วยวัตุถุธาตุก็เป็นกรรมดีที่อุปถัมภ์เรา เกื้อกูลเราด้วยปัจจัยสี่ในชาติต่อมาเหมือนกัน แต่กรรมที่เคยกระทำให้เขาทุกข์ใจก็ย้อนกลัยมาเกิดที่เรา ทำให้เรามีทกข์ใจเป็นวิบากเช่นเขา รับทุกข์เหมือนเขา บางครั้งก็อาจเป็นยิ่งกว่าเขาอีก เพราะกรรมที่ทำด้วยใจนั้นมีความสลับซับซ้อน ไม่รู้ว่าเราเคยทำกรรมซ้ำๆ เช่นนี้มากขนาดไหน จึงต้องอาศัยการปฏิบัติธรรม ซึ่งช่วยให้บรรเทาทุกข์ บรรเทากรรมที่มีความซับซ้อน คลี่คลายอารมณ์กรรมและการกระทำอดีตที่ย้อนมาหาเรา ยอมรับกรรมขดใช้กรรม ให้เกิดเป้นอโหสิกรรม จะได้ไม่ต้องมีกรรมในลักษณะนี้อีก การที่เราเป็นผู้โชคดีที่กรรมนั้นเปิดโอกาสให้เห็นอดีตแม้เพียงฉากหนึ่ง ก็ทำให้เราได้มีโอกาสทบทวนตัวเองเห็นความผิดพลาดของตัวที่ทำให้ผู้อื่นทุกข์ลำบากด้วยการกระทำของเรา ได้เข้าใจทบทวนเรื่องของกรรม เรื่องของการคล้องกรรม ทบทวนเรื่องของอารมณ์เกิดที่เราพาให้มีการกระทำไปคล้องกรรม ได้เข้าใจว่ากรรมนั้นมาทวงอย่างไร ได้เข้าใจว่ากรรมที่เราก่อขึ้นนั้นไม่สูญหาย เราควรเลือกกระทำแต่กรรมดี แล้วทำอย่างไรจะให้ตัวเองไม่ไปติดบ่วงกรรมอีก ต้องมีการชดใข้กรรมกันอีก ทุกข์กันอีกทั้งเขาทั้งเราอีก ตอนวิบากกรรมส่งผลช่วงแรก ร่างกายจิตใจไร้เรี่ยวแรง กินไรไม่ลงเจ็บปวดเหมือนเข็มทิ่ม(ใครไม่เจอกับตนไม่รู้หรอกถ้าไม่อยากเจออย่าประพฤติผิดในกาม) ตรอมใจเพราะสูญเสียคนรักให้คนอื่น บางครั้งก็รู้สึกเจ็บแค้นจนคุนน้องส่งข้อความไปบอกเขาว่าอยากให้เขารับรู้ความเจ็บปวดที่เราถูกกระทำ เขาเหมือนมาหลอกให้รัก (เหมือนที่ทาสคนนั้นเจอตอนที่ถูกหญิงสาวทิ้งไปแต่งงาน) ชาตินี้เขาก็ทิ้งคุนน้องไปแต่งงานกะคนที่คู่ควรเหมือนกัน แต่พอเห็นอดีตชาติที่เคยทำกัยเขารู้สึกว่า มันก็สมควรละที่เราเจอแบบนี้ คุนน้องจะได้ตาสว่างขึ้นเสียที เกิดเป็นทาสเป็นคนรับใช้เขาก็ทุกข์พอแล้ว นี่เรายังไปเพิ่มทุกข์ให้เขาอีก คุนน้องมักง่ายกับการกระทำของตน คุนน้องหยิบยื่นน้ำใจไมตรีให้เขา ความรู้สึกของทาสคนนั้นคงจะซาบซึ้งบุญคุณเรา คงไม่นึกไม่ฝันว่า นางฟ้าผู้นีจิตใจดีมีเมตตา ไม่รังเกียจทาสผู้ต่ำต้อยเช่นเขา ยอมเป็นคนรักเขาโดยไม่คำนึงถึงศักตินาของตน..แต่สุดท้ายคุนน้องก็ทิ้งเขาไป เพราะลูกสาวเศรษฐีแต่งงานกับทาสไม่ได้ เขาน่าจะยอมรับความจริงข้อนี และอโหสิให้เราแต่ทาสคนนั้นเค้ารู้สึกเช่นนี้เป็นกรรมสะท้อนส่งผลวิบากมาให้คุนน้องรับรู้ ทั้งรักทั้งแค้น เจ็บปวดเหมือนมาหลอกให้รักละทิ้งกัน ใจนึงก็รักเขาดีกับเรามาก แต่ใจนึงก็โกรธแค้น พอสำนึกได้มีสติก็อยากเห็นเขามีความสุข เจอคู่ครองที่ดี นึกสมเพชว่าตนไม่คู่ควรกะเขา(ชาตินี้คุนน้องนึกสมเพชตนเองทีไม่คู่ควรกะเขา) เขาเป็นแพทย์ ส่วนเราทำงานเหมือนลูกจ้างค่าแรงทั่วไป นึกเอาสังสารวัฏเคยปรานีใคร อดีตชาติทาสที่ต่ำต้อยชาตินี้เป็นถึงแพทย์ ส่วนอดีตชาติลูกสาวเศรษฐี ชาตินี้กลายเป็นลูกชาวนาเรียนก็ไม่จบปริญญา.. โอ้ยกรรมหนอกรรม ![]() |
เจ้าของ: | toy1 [ 10 ธ.ค. 2014, 20:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
ก็เห็นว่าเป็นเรื่องดีที่คุนน้องได้มีโอกาส เรียนรู้ในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เหมือนเรื่องอริยสัจสี่ สองข้อแรกเป็นเรื่องที่เราเดินในเส้นทางของทุกข์ สองข้อหลังเป็นเรื่องของการเดินในเส้นทางไปสู่การพ้นทุกข์ ที่ต้องอาศัยความเพียร ทั้งสติปัญญาพละกำลังที่ตนมี เพียรพยายามสร้างทานบุญบารมี ให้ไปถึงที่สุดแห่งทุกข์ ให้พ้นทุกข์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชาติไหนจะพ้นทุกข์ เมื่อเกิดมาชาตืนี้มีโอกาสได้พบศาสนาของพระพุทธองค์ชี้แนวทางการเดินให้พ้นทุกข์ ก็ขอปฏิบัติธรรมให้มีศีลสมาธิสติปํญญาอยู่ในธรรม จะได้เอาตัวรอดไม่มีกรรมติดตัวไปได้ชาติหนึ่ง เหมือนเกิดมาไม่ได้กำไรมีแต่ขาดทุน หากมีกรรมต้องมาเกิดก็ขอให้มาเกิดเป็นมนุษย์พบพุทธศาสนา ได้โอกาสปฏิบัติธรรมบำเพ็ญบารมีเดินในเส้นทางทำให้พ้นทุกข์ต่อไปอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นได้ แต่ก็ต้องเพียรพยายามตั้งใจปฏิบัติ เพราะเชื่อในเรื่องของกรรมนั้นมีจริงและเชื่อว่าจะพ้นทุกข์พ้นเวรกรรมได้ก็ด้วยปฏิบัติธรรมตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ |
เจ้าของ: | yoottapong [ 10 ธ.ค. 2014, 21:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
เล่าต่ออีกหน่อยได้ไหมครับกำลังสนุก แล้วภพชาติอื่นอีกมีไหมครับ |
เจ้าของ: | toy1 [ 10 ธ.ค. 2014, 21:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
Yoottapong บอกว่า อ้างคำพูด: อตีตังสะญาน ผมเห็นอดีตอันไกลโพ้น ตั้งแต่อุปธิแรกๆ ว่า ตัวผมเองเคยเป็นตั๊กแตนปาทังก้าตัวสีเขียวมาก่อน เป็นนิมิตปรากฎให้เห็น ตอนทำสมาธิ ช่วยเล่าความรู้สึกตอนเป็นตั๊กแตนปาทังก้าตัวสีเขียวหน่อย มันน่าสนุกกว่่าเยอะ ถ้าเกิดในสมัยนี้ เป็นสมัยที่น้ำมันทอดมันหาง่าย คนชอบกินปาทังก้าทอดก็มากเสียด้วย นึกหวาดเสียวหากปาตทังก้าตัวนั้นมาเกิดในยุคนี้ |
เจ้าของ: | yoottapong [ 10 ธ.ค. 2014, 22:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
อ้าว.... เรื่องจริงเคยนิมิตเห็นตัวเองเป็นตั๊กแตนปาทังก้าแล้วทีหนึ่งแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร พอมานิมิตอีกทีตอนแรกก็ไม่ใส่ใจอีกพอมาทบทวนที่ไหนได้คือชาติแรกของโคตรเหง้าศักราช ขอเล่านิมิตต่ออีกหน่อยเมื่อกี้นี้นิมิตเด็กชายอายุประมาณ4ขวบมีผู้หญิงอายุประมาณ50ปียืนจับบ่าเด็กไว้ยืนมองผมเหมือนกับต้องการให้ช่วย โทรไปปรึกษากับหลวงปู่ฤาษีป้อมท่านก็บอกให้ไปทำบุญอุทิศให้เค้า และช่วงที่นั่งสมาธิได้กลิ่นหอมอ่อนๆของปู่ฤาษี |
เจ้าของ: | toy1 [ 10 ธ.ค. 2014, 22:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
ผมไม่ได้ไปขัดคอในสิ่งที่ yoothapong บอกมา หากเห็นว่าไม่สมควรก็ขอภัยด้วย ขอเชิญเล่าต่อ |
เจ้าของ: | yoottapong [ 10 ธ.ค. 2014, 22:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
จะให้ผมไปพยากรณ์ให้ใครก็ไม่ได้ด้วยครับ ต้องอารมณ์เพลินๆถึงจะเกิดนิมิต และควบคุมให้เป็นดั่งใจก็ไม่ได้ด้วยสิครับ |
เจ้าของ: | nongkong [ 10 ธ.ค. 2014, 23:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
yoottapong เขียน: เล่าต่ออีกหน่อยได้ไหมครับกำลังสนุก แล้วภพชาติอื่นอีกมีไหมครับ ไม่เห็นภพอื่นเลยค่ะ แต่ภาพที่เห็นปรากฏในมโนทวารเหมือนจำเรื่องที่ผ่านนานมาแล้วได้ เหมือนที่เรานึกถึงเมือวานละจำเรื่องมะวานได้ ว่าเราไปไหนทำไรมา กินข้าวกับไรมามะวาน อารมณ์แบบนั้นเลย ![]() ปล.แค่ชาติเดียวก็เหนื่อยใจพอแรงละ ถ้าระลึกได้หลายชาติอาจจะเข้าศรีธัญญา เพราะฟุ้งไปกับเรื่องเก่าๆที่ผ่านมา555 |
เจ้าของ: | nongkong [ 10 ธ.ค. 2014, 23:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
คุนยุทน่าจะเล่าตอนเป็นตั๊กแตนปาทังก้าให้ฟังหน่อย วิถีชีวิตการเกิดเป็นตักแตนมันทุกข์ไหม |
เจ้าของ: | toy1 [ 11 ธ.ค. 2014, 06:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิมิตจิตประหวัด |
toy1 เขียน: Yoottapong บอกว่า อ้างคำพูด: อตีตังสะญาน ผมเห็นอดีตอันไกลโพ้น ตั้งแต่อุปธิแรกๆ ว่า ตัวผมเองเคยเป็นตั๊กแตนปาทังก้าตัวสีเขียวมาก่อน เป็นนิมิตปรากฎให้เห็น ตอนทำสมาธิ ช่วยเล่าความรู้สึกตอนเป็นตั๊กแตนปาทังก้าตัวสีเขียวหน่อย มันน่าสนุกกว่่าเยอะ ถ้าเกิดในสมัยนี้ เป็นสมัยที่น้ำมันทอดมันหาง่าย คนชอบกินปาทังก้าทอดก็มากเสียด้วย นึกหวาดเสียวหากปาตทังก้าตัวนั้นมาเกิดในยุคนี้ ที่ว่าน้ำมันทอดมันหาง่ายในยุคก็เหมือนเรื่องมนต์ดำ ไสยศาสตร์ กุมาร ร่างทรง มันผุดมามากมาย บ้างก็เอาศาสนามาบังหน้า ทำอะไรให้หลงว่าศักดิ์สิทธิ์ แอบอ้างของสูงๆ มาบังหน้า มันระบาดไปทั่ว พอใครไปถูก ถึงวันพระวันโกน ก็มีอันไม่สบายเนื้อสบายตัว หลับไม่สนิท ชอบฝันแปลกๆ หน้าตาก็หมองคล้ำ ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ไปงานศพใครกลับมาก็มักเจ็บป่วยไม่สบาย ...... |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |