ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ใจไม่ว่าง http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48757 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 16 พ.ย. 2014, 07:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | ใจไม่ว่าง |
ใจไม่เคยว่างจากการปรุงแต่ง คราวใดที่กิเลสเกิดขึ้น คราวนั้นกุศลก็ว่าง คราวใดกุศลเกิดขึ้น คราวนั้นกิเลสตัณหาก็ว่าง ถ้าทำใจให้ว่างจริงต้องว่างจากกิเลสตัณหาเท่านั้นพอ ต่อจากนั้น ก็จะเป็นหน้าที่ของกุศลเขาจะเกิดขึ้นมาทำงานของเอง |
เจ้าของ: | ศรีสมบัติ [ 16 พ.ย. 2014, 09:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใจไม่ว่าง |
ลุงหมาน เขียน: ถ้าทำใจให้ว่างจริงต้องว่างจากกิเลสตัณหาเท่านั้นพอ ต่อจากนั้น อนุโมทนาครับ ก็จะเป็นหน้าที่ของกุศลเขาจะเกิดขึ้นมาทำงานของเอง ![]() |
เจ้าของ: | toy1 [ 16 พ.ย. 2014, 09:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใจไม่ว่าง |
สว้สดีครับ ลุงหมาน ที่ลุงหมาน บอกว่า ทำใจให้ว่างจริงต้องว่างจากกิเลสตัณหาเท่านั้นพอ ลุงช่วยแนะนำอุบายหรือวิธีปฏืบัติในการทำใจให้ว่างด้วยครับ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 16 พ.ย. 2014, 09:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใจไม่ว่าง |
toy1 เขียน: สว้สดีครับ ลุงหมาน ที่ลุงหมาน บอกว่า ทำใจให้ว่างจริงต้องว่างจากกิเลสตัณหาเท่านั้นพอ ลุงช่วยแนะนำอุบายหรือวิธีปฏืบัติในการทำใจให้ว่างด้วยครับ เจริญสติที่เรียกที่เรียกว่าเจริญสติปัฏฐาน ๔ เพียงเท่านิ้ก็ว่างจากกิเลสแล้ว กุศลเหล่าอื่นๆก็จะเกิดขึ้นมาทำงานตามหน้าที่ของเขาเอง |
เจ้าของ: | toy1 [ 16 พ.ย. 2014, 09:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใจไม่ว่าง |
เรื่องการจะเจริญสติสติปัฏฐาน ๔ ปกติเราอ่านจิตของเราที่่แท้จริงไม่ออก เพราะอารมณ์หรือธรรมารมณ์ทั้งหลายที่กดทับจิตอยู่ บางครั้งก็หลงเอาอารมณ์เป็นจิต เราควรทำอย่างไร |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 16 พ.ย. 2014, 10:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใจไม่ว่าง |
toy1 เขียน: เรื่องการจะเจริญสติสติปัฏฐาน ๔ ปกติเราอ่านจิตของเราที่่แท้จริงไม่ออก เพราะอารมณ์หรือธรรมารมณ์ทั้งหลายที่กดทับจิตอยู่ บางครั้งก็หลงเอาอารมณ์เป็นจิต เราควรทำอย่างไร อารมณ์ของสติปัฏฐาน ๔ มีได้ทั้งรูปและนาม เช่น ขณะมีโกรธบ้าง มีความโลภบ้าง มีความหลง มีความตระหนี่ เหล่านี้เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วก็เป็นนามธรรมด้วยกัน จิตที่เข้าไปรู้ก็เป็นนามธรรม ฉะนั้นจิตก็คอยเป็นตัวรู้คอยสำเหนียกในขณะอารมณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเท่านั้นไม่ต้องไปตัดแปลงแต่งเติมอะไร เหมือนว่าอารมณ์ทั้งหลายที่มาปรากฏนั้นเป็นผู้แสดงลครให้ดู จิตก็เพียงเป็นผู้ดูลครเฉยๆเท่านั้น |
เจ้าของ: | toy1 [ 16 พ.ย. 2014, 10:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใจไม่ว่าง |
โดยปกติของชีวิตของคนเราต้องใช้กายเตลื่อนไหว วิญญาณเคลื่อนไหว ด้วยสิ่งที่รวมตัวก่อขึ้นมา มีการปรุงแต่งด้วยความไม่เที่ยงด้วยอารมณ์นานาชนิด วนเวียนจรมาให้จิตยึดถือ จิตเรานั้นเหมือนสำลี กิเลสอารมณ์นั้นเป็นเหมือนน้ำ สำลีชุ่มน้ำนั้นสำลีก็ยุบตัวหนักเป็นก้อน ยิ่งเป็นน้ำดำด้วยแล้วจึงเป็นการยากที่จะทำให้สำลีนั้นเป็นเหมือนเดิม บางครั้งการทำจิตเหมือนดูละคร มันก็มีสิ่งที่แนบเนียนแอบเข้ามาปรุงแต่งผู้ดูโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน |
เจ้าของ: | toy1 [ 16 พ.ย. 2014, 17:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใจไม่ว่าง |
จิตมีกรรม ต้องเป็นผู้รับกรรม กรรมที่่เคยทำไว้ที่ธาตุทั้งสี่เก็บเอาไว้ เมื่อถึงเวลากรรมมาทวง ก็ทำให้ธาตุทั้งสี่แปรปรวน ต้องเป็นผู้รับกรรมด้วยธาตุไม่ปกติ สังขารไม่ปกติ มีกายให้อาศัย แต่ใช้กายไม่ได้ดังปกติ ต้องวิตกกังวลด้วยโรคที่เกิดที่กายตน จิตมีกรรมก็ต้องทุกข์ด้วยเวทนากายเวทนาอารมณ์ จิตของผู้หมดทุกข์ด้วยเรื่องอารมณ์ท่านก็รับทุกข์เวทนากายแต่ไม่มีอารมณ์เข้ามาปรุงแต่งจิต |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 24 พ.ค. 2018, 07:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใจไม่ว่าง |
toy1 เขียน: โดยปกติของชีวิตของคนเราต้องใช้กายเตลื่อนไหว วิญญาณเคลื่อนไหว ด้วยสิ่งที่รวมตัวก่อขึ้นมา มีการปรุงแต่งด้วยความไม่เที่ยงด้วยอารมณ์นานาชนิด วนเวียนจรมาให้จิตยึดถือ จิตเรานั้นเหมือนสำลี กิเลสอารมณ์นั้นเป็นเหมือนน้ำ สำลีชุ่มน้ำนั้นสำลีก็ยุบตัวหนักเป็นก้อน ยิ่งเป็นน้ำดำด้วยแล้วจึงเป็นการยากที่จะทำให้สำลีนั้นเป็นเหมือนเดิม บางครั้งการทำจิตเหมือนดูละคร มันก็มีสิ่งที่แนบเนียนแอบเข้ามาปรุงแต่งผู้ดูโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน โดยปกติชีวิตคนเรามีการเคลื่อนไหว มีเดิน เป็นต้น เป็นไปด้วยอำนาจของ จิตกับธาตุลม ที่เรียกว่า จิตตชวาโยธาตุ หรือ จิตตชรูป หมายถึง ธาตุลมที่เกิดจากจิต ที่ทำให้มีการเคลื่อนไหว ของร่างกายไปไหมมาไหนได้ ดังจะเห็นกรณีผู้เป็นอัมพฤกษ์ เช่น เคลื่อนไหวขาไม่ได้ แม้จิตจะมีเจตนาที่อยากให้กายเคลื่อนไหว ร่างกายก็มี แต่ก็เคลื่อนไหวไม่ได้ เพราะขาดธาตุลม ที่เกิดจากจิต (จิตตชวาโยธาตุ ) จึงเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |