วันเวลาปัจจุบัน 06 พ.ค. 2024, 05:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2014, 15:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ธ.ค. 2010, 18:22
โพสต์: 70


 ข้อมูลส่วนตัว


เรียนถามว่า ปัญญาของสามัญชนทั่วไปกับวิปัสสนาปัญญา มีลักษณะต่างกันอย่างไรครับ
สาธุครับ :b8: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2014, 23:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
ปัญญาของสามัญชน รู้ออกไปนอกกายใจ ฝักใฝ่เรื่องวัตถุ รูปธรรม

ปัญญาวิปัสสนารู้เข้าไปในกายใจ ฝักใฝ่เรื่องจิตใจหรือนามธรรม

วิ=วิเศษ พิเศษ
ปัสสนา=ดู เห็น
ภาวนา=เจริญ

วิปัสสนาภาวนา=เจริญการเห็นหรือดูสิ่งวิเศษคือธรรมชาติทั้งหลายที่เป็นไปในกายและจิต
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2014, 05:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญญา แปลได้หลายอย่าง เช่น ความรอบรู้เหตุผล รู้ชัด รู้ทัน รู้ประจักษ์ และรู้ถึงทั้งภายใน
และภายนอก รู้ผิด รู้ถูก ปัญญาแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่
๑. โลกิยปัญญา (ปัญญของโลกิยชน)
๒. โลกุตตรปัญญา (ปัญญาของพระอริยบุคคล)

๑. โลกียปัญญา เป็นปัญญาสามัญชนทั่วไป มากหรือน้อยต่างกัน เช่น ผู้เรียนหนังสือ
ได้เกรด A ก็เรียกว่าเป็นคนที่มีปัญญาดี คนได้เกรด B ก็เรียกว่าปัญญาปานกลาง
ถ้าได้เกรด C ก็เรียกว่าผู้มีปัญญาน้อย

ผู้มีปัญญาสามารถคิดสร้างเครื่องบิน สร้างคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
สร้างอาวุธ สร้างจรวด เหล่านี้ เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วเป็นปัญญาทางโลกๆ

สำหรับผู้มีปัญญาทางธรรม ได้แก่ผู้ที่เจริญสมถกรรมฐาน จนสามารถได้ ฌาน ๘ หรือ ๙
ได้อภิญญาแสดงฤทธิ์อภินิหาร แปลงกายหายตัวได้ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งก็นับว่าเป็นโลกียปัญญา
เป็นปัญญาที่ยังไม่สามารถทำล่วงพ้นจากทุกข์ได้จริง ยังต้องมีการเกิดแก่เจ็บตาย

๒. โลกุตตรปัญญา เป็นปัญญาในมรรคซึ่งเป็นปัญญาที่เกี่ยวกับการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
จนรู้แจ้งเห็นจริงเป็นปัญญาที่ทำลายกิเลสให้หมดสิ้นไป เป็นปัญญาของพระอริยะเจ้าทั้งหลาย
เป็นปัญญาที่เป็นหนทางนำไปสู่ความพ้นทุกข์ โดยไม่ต้องกลับมาเกิดแก่เจ็บตายอีกต่อไป
เรียกว่าผู้มีปัญญาอันเลิศ นับตั้งแต่พระโสดาบันเป็นต้นไปจนถึงพระอรหันต์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2014, 10:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญญาของสามัญชนทั่วไป = ปัญญาทางโลก
= สัญญา (ความจำ) ทางธรรม

วิปัสสนาปัญญา = ปัญญาทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2014, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


วิปัสสนาปัญญา ทำให้ทุกข์ลดลงได้อย่างยั่งยืน แต่ปัญญาแบบอื่นๆลดทุกข์ได้แค่ชั่วคราว หรือไม่ได้เลยครับ

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2014, 21:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2014, 00:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธงชาติ เขียน:
เรียนถามว่า ปัญญาของสามัญชนทั่วไปกับวิปัสสนาปัญญา มีลักษณะต่างกันอย่างไรครับ
สาธุครับ :b8: :b12:

โดยลักษณะไม่ต่างกันเลยครับ
ปัญญา ทำความชัดแจ้ง แก่จิต

องค์ประกอบอื่นของจิต ที่ต่างกัน ปัญญาที่ประกอบเข้าไปกับจิตที่ต่างกันทำให้รู้สึกว่าปัญญาต่างกัน

เช่น สามัญชน มีศีล รักษาศีล กระทำศีลได้บริบูรณ์ ก็มีปัญญาระดับศีล
สามัญชน ฟังธรรม เข้าใจธรรม ก็มีสุตมยปัญญา
สามัญชนให้ทาน รู้จักให้ทาน ก็มีปัญญาในการให้ทาน
ถ้าสามัญชนเจริญสติสมาธิอบรมจิต ก็มีจินตามยปัญญา
ถ้าสามัญชน ละสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาสได้ สามัญชนนั้นก็มีมัคคปัญญาระดับโสดาปัตติมรรค แต่เราเรียกเสียใหม่ ว่า โสดาบันบุคคลผู้ทวนกระแสโลก เป็นต้น
ดังนั้น
ถ้าเจริญวิปัสสนาอยู่ ก็อยู่ในระดับการอบรมจิตเช่นกัน เป็นระดับจินตามยปัญญา เรียกตามอาการของการใช้ความคิดนี้ว่า วิปัสสนา.....

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2014, 03:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปุถุชนหรือ สามัญชนธรรมดา ผู้หนาแน่นด้วยกิเลส แต่สามารถ ฝึกจิต เจริญสติ ขึ้นสู่วิปัสสนาและมีปัญญาออกจากทุกข์ได้....ปัญญาที่มาจาก วิปัสสนาทางธรรม ต่างกับปัญญาทางโลกที่ได้มาด้วย การศึกษา แม้ถึงปริญญาเอก ก็ยังไม่สามารถออกจากทุกข์ ปัญญาที่ได้จาก เจริญวิปัสสนา ย่อม ต่างจาก ปัญญาที่ได้จากการศึกษาทางโลกแน่นอน
:b8: :b8: :b8: เจริญในธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2014, 09:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธงชาติ เขียน:
เรียนถามว่า ปัญญาของสามัญชนทั่วไปกับวิปัสสนาปัญญา มีลักษณะต่างกันอย่างไรครับ
สาธุครับ :b8: :b12:


ปัญญาของสามัญชนทั่วไป คือ ..
ปัญญา ที่ต้องเรียนรู้ ศึกษา วิเคราะห์วิจารณ์

วิปัสสนาปัญญา คือ ..
ปัญญา เปรียบสำลีชุบน้ำมันเบนซิน จุดปุ๊บติดปับ

เหมือน เกวียนกับรถยนต์


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 44 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร