ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

กรรมฐานแบบต่างๆ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=47986
หน้า 1 จากทั้งหมด 13

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 05:28 ]
หัวข้อกระทู้:  กรรมฐานแบบต่างๆ

แนวคิดของท่านเช่นนั้น

อ้างคำพูด:
ตั้งแต่ เริ่มท่องพุทโธและกำหนดลมเข้าไป ...... ก็เป็นการเริ่มจับเจ่าเฝ้าอารมณ์ทำสัญญาให้ปรากฏ
ไม่ใช่สติกำหนดลมหายใจครับ

การเริ่มท่องพุทโธและกำหนดลมเข้าไป ไม่ใช่สัมมาสมาธิ แต่เป็นการทำสมาธิให้ฟุ้งไปกับสัญญาครับ

ถ้าเจริญสมาธิเช่นนี้ ก็แป๊กครับ

คุณ Idea ทิ้งพุทโธ ไปเลยครับ ขณะนี้ไม่ได้เจริญพุทธานุสติครับ
เอาแต่อานาปานสติภาวนาอย่างเดียวก็พอ
หาที่เร้นคือที่สงบไม่มีใครรบกวน ศึกษาให้รู้จักสติด้วยลมหายใจเข้าลมหายใจออก ครับ

ด้วยความตั้งใจว่า จะทำความศึกษาเพื่อ เห็นสติ ถ้าเข้าใจก็จะไปต่อได้ง่าย
เพราะในอานาปานสติสูตร มีคำหนึ่งคือ ดำรงสติเฉพาะหน้า ก่อนที่จะไปทำการศึกษา ในกายานุปัสนาฯ

ต้องเข้าใจก่อนว่า ดำรงสติเฉพาะหน้า มีอาการอย่างไร....

สติคือการระลึกถึงข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่ออารมณ์เฉพาะหน้าเป็นสำคัญเท่านั้น

จะนั่งหลับตา ลืมตา เดินก็ได้ วิ่งก็ได้ ไม่สำคัญ แต่อากัปกิริยาที่สะดวกที่สุดสบายที่สุดในการเจริญอานาปานสติภาวนา คือนั่งคู้ขา ตั้งกายตรง

มีลมหายใจเข้า ลมหายใจออกเป็นวัตถุ มีอาการทำการหายใจเข้าหายใจออกเป็นเครื่องหมายสำคัญว่าเป็นการหายใจ นี่คือการทำสัญญาให้ปรากฏ

ตอนนี้ก็มาถึงการเรียนรู้ สติ

ข้อเท็จจริงที่ทำขณะนี้คือ ใส่ใจเฉพาะที่จุดกระทบของลมเข้าลมออก (เช่นปลายจมูก หรือจุดเหนือริมฝีปากบน) สติจะระลึกแต่สิ่งเดียวคือการกระทบของลมที่จุดนี้

(ถ้าลืมตา ก็เห็นรูปเห็นภาพข้างหน้าก็ไม่ใส่ใจถือเป็นสำคัญ เห็นแต่ไม่รับรู้
ถ้ามีเสียงดังข้างๆหู ก็ไม่ใส่ใจถือเป็นสำคัญไม่ใช่หูดับ ได้ยินแต่ไม่รับรู้
มีลมพัดไรบ้างกระทบผิวกายก็ช่างมันไม่ใส่ใจ)

สติจะระวังอยู่แต่สิ่งนี้คือระวังใจไม่ให้ใส่ใจเรื่องอื่นนอกจากรู้ลมทีผ่านจุดกระทบ
ทำอย่างนี้สติก็จะตั้งอยู่ในภายใน

คุณIdea ก็จะเห็นความแตกต่างระหว่างสัญญา และสติ
สติกำหนดลมหายใจว่ามีเพียงลมหายใจเท่านั้น เป็นการกำหนดเพื่อระวังใจไปใส่ใจต่อผัสสะอื่นที่มากระทบทางทวารอื่น
ต่างจากทำสัญญาให้ปรากฏ คือทำการหายใจเข้าหายใจออกเป็นเครื่องหมายสำคัญว่าเป็นการหายใจ


ไม่ต้องสนใจว่าลมจะเข้าท้องพอง หรือท้องยุบ
ไม่ต้องสนใจว่าลมจะไปถึงไหน
ไม่ต้องสนใจระยะทางของลม
ไม่ต้องสนใจว่าเมื่อไรจะออกเมื่อไรจะเข้า

เป็นการศึกษาอย่างแรก ที่ต้องอาศัยความเพียร ในการทำความรู้จักสติ ว่าสติ ทำหน้าที่ระวังใจคุมใจต่อข้อเท็จจริงกำหนดที่ข้อเท็จจริงว่าขณะนั้นทำอะไรอยู่

ขณะนั้นทำอะไรอยู่จึงเป็น เพียงอุปกรณ์ในการฝึกให้รู้จัก "สติ"

การฝึกแบบนี้ จึงไม่ใช่การจับเจ่าเฝ้าอารมณ์ แต่จะเป็นการศึกษาเข้ามาในจิตกันเลยทีเดียวครับ

ศึกษาให้รู้จัก "สติ" ก่อนครับ .....ค่อยไปต่อ...

เราไม่ใช่ตอไม้ จนถึงกับไม่ได้เห็นไม่ได้ยินอะไรรอบข้าง..........
ทำไปก่อนใช้เวลาไม่นานหรอก ทำสบายๆ : ))

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=47939

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 09:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

ประเด็นที่เช่นนั้นพูดข้างบน คือ ทำความรู้จักสติ ถูกไหมครับ

ก่อนหอบเสื่อหอบหมอนเข้าป่าเข้าดงไปหาที่สงบสงัดทำอย่างว่า เช่นนั้นให้ความหมายที่ชัดเจนคำว่า "อานาปานสติ" หน่อย :b8: :

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 11:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

นี่วิธีปฏิบัติของอโศก :b13:

อ้างคำพูด:
อโศกเขียน

"สำรวมกายใจมานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์จนดับไปต่อหน้าต่อตา"

viewtopic.php?f=1&t=47019&p=354856#p354856


ได้ครบแล้วทั้งวิธีของเช่นนั้น และของอโศก :b1:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 18 มิ.ย. 2014, 12:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

กรัชกาย เขียน:
ประเด็นที่เช่นนั้นพูดข้างบน คือ ทำความรู้จักสติ ถูกไหมครับ

ก่อนหอบเสื่อหอบหมอนเข้าป่าเข้าดงไปหาที่สงบสงัดทำอย่างว่า เช่นนั้นให้ความหมายที่ชัดเจนคำว่า "อานาปานสติ" หน่อย :b8: :


เอิ๊กๆๆ
ยัง

สำหรับกรัชกาย สติ คือการท่องคำศัพท์ สติๆๆๆๆๆๆ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 14:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ประเด็นที่เช่นนั้นพูดข้างบน คือ ทำความรู้จักสติ ถูกไหมครับ

ก่อนหอบเสื่อหอบหมอนเข้าป่าเข้าดงไปหาที่สงบสงัดทำอย่างว่า เช่นนั้นให้ความหมายที่ชัดเจนคำว่า "อานาปานสติ" หน่อย :b8: :


เอิ๊กๆๆ
ยัง

สำหรับกรัชกาย สติ คือการท่องคำศัพท์ สติๆๆๆๆๆๆ


แล้วสติเช่นนั้นล่ะทำยังไง เอาชัดๆ

อ้างคำพูด:
คุณ Idea ทิ้งพุทโธ ไปเลยครับ ขณะนี้ไม่ได้เจริญพุทธานุสติครับ
เอาแต่อานาปานสติภาวนาอย่างเดียวก็พอ


ที่ว่า ทิ้งพุทโธ ทิ้งยังไง เมื่อทิ้งแล้วไปเอาแต่อานาปานสติๆ ทำยังไง

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 14:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

เห็นมาอีกแบบหนึ่ง ว่าทำสมาธิแบบพระพุทธเจ้า


อ้างคำพูด:
วิธีนั่งสมาธิแบบพระพุทธเจ้า


การนั่งสมาธิแบบนี้นะ ถ้าไม่มีใจคิดไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่ไปเปรียบเทียบว่าเคยทำมาอย่างไร รับประกัน ว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์

เริ่มต้นอย่าไปจับที่ลมหายใจอย่าไปจับที่อะไรทั้งสิ้น หลับตาลงไป ให้เกิดความรู้สึกว่า ตัวกำลังนั่งอยู่ นั่งอยู่สบายๆ
ใจไม่ต้องเพ่งไปที่จุดใดจุดหนึ่ง มันจะได้ไม่ไปโฟกัสแคบๆ เสร็จแล้วเริ่มต้นขึ้นมาก็ รู้สึกที่ขาของตัวเองว่า ขาของรอมันงออยู่
มันงุ้มอยู่หรือว่ามันเกร็งอยู่ไหม ที่ฝ่าเท้านี่ หากมันผ่อนคลายออกไป ได้นะ จะรู้สึกสบายขึ้นมาทันทีเลย
มันรองรับความเป็นจริงอย่างยิ่งเลย เราไม่ต้องไปจินตนาการหรืออะไร
แค่ ถามตัวเองเฉยๆ ว่า ฝ่าเท้าเรานี่มันเกร็งอยู่ หรือว่ามันแบสบายอยู่ ถ้าแบสบายอยู่
ใจมันจะรู้สึกทันทีเลยว่ามัน สบายตามไปด้วย จากนั้นมือให้วางอยู่บนหน้าตักนะ
ถ้ามันมีความรู้สึกว่ามือยังกำหรือว่ามีกล้ามเนื้อส่วนใด ส่วนหนึ่งของมือยังเกร็งอยู่ ก็ให้ผ่อนคลายซะ เหมือนกับฝ่าเท้า
พอฝ่าเท้ากับฝ่ามือมันมีอาการผ่อนคลาย เหมือนกัน ตรงนี้จะรู้สึกรู้สึกสบายขึ้นมาครึ่งตัวแล้ว

http://pantip.com/topic/32207538

ฯลฯ


เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 14:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

แทรกหลักสะหน่อย :b13:


กรรมฐาน แปลว่า ที่ตั้งแห่งการทำงานของจิต หรือที่ให้จิตทำงาน
สิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ในการเจริญภาวนา หรืออุปกรณ์ในการฝึกอบรมจิตหรืออุบายหรือกลวิธีเหนี่ยวนำสมาธิ

พูดง่ายๆว่า สิ่งที่เอามาให้จิตกำหนด จิตจะได้มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราวสงบอยู่ที่ได้ ไม่เที่ยววิ่งเล่นเตลิด หรือเลื่อนลอยฟุ้งซ่านไปอย่างไร้จุดหมาย

พูดสั้นๆ กรรมฐาน คือสิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ของจิต ที่จะชักนำให้เกิดสมาธิ หรืออะไรก็ได้ ที่พอจิตเพ่ง หรือจับแล้วจะช่วยให้จิตแน่วแน่อยู่กับมันเป็นสมาธิได้เร็ว และมั่นคงที่สุด

พูดให้สั้นที่สุดว่า สิ่งที่ใช้ฝึกสมาธิ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 14:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ




ผู้ทำ กรรมฐาน แล้วถูกถีนมิทธะครอบงำจิตแล้วจะหัวทิ่มหัวตำยังงี้เป็นธรรมดา :b1: ไม่ใช่เรื่องแปลก

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 18 มิ.ย. 2014, 15:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

กรัชกาย เขียน:
แทรกหลักสะหน่อย :b13:


กรรมฐาน แปลว่า ที่ตั้งแห่งการทำงานของจิต หรือที่ให้จิตทำงาน
สิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ในการเจริญภาวนา หรืออุปกรณ์ในการฝึกอบรมจิตหรืออุบายหรือกลวิธีเหนี่ยวนำสมาธิ

พูดง่ายๆว่า สิ่งที่เอามาให้จิตกำหนด จิตจะได้มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราวสงบอยู่ที่ได้ ไม่เที่ยววิ่งเล่นเตลิด หรือเลื่อนลอยฟุ้งซ่านไปอย่างไร้จุดหมาย

พูดสั้นๆ กรรมฐาน คือสิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ของจิต ที่จะชักนำให้เกิดสมาธิ หรืออะไรก็ได้ ที่พอจิตเพ่ง หรือจับแล้วจะช่วยให้จิตแน่วแน่อยู่กับมันเป็นสมาธิได้เร็ว และมั่นคงที่สุด

พูดให้สั้นที่สุดว่า สิ่งที่ใช้ฝึกสมาธิ


มั่ว.... :b17:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 18 มิ.ย. 2014, 15:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ประเด็นที่เช่นนั้นพูดข้างบน คือ ทำความรู้จักสติ ถูกไหมครับ

ก่อนหอบเสื่อหอบหมอนเข้าป่าเข้าดงไปหาที่สงบสงัดทำอย่างว่า เช่นนั้นให้ความหมายที่ชัดเจนคำว่า "อานาปานสติ" หน่อย :b8: :


เอิ๊กๆๆ
ยัง

สำหรับกรัชกาย สติ คือการท่องคำศัพท์ สติๆๆๆๆๆๆ


แล้วสติเช่นนั้นล่ะทำยังไง เอาชัดๆ

อ้างคำพูด:
คุณ Idea ทิ้งพุทโธ ไปเลยครับ ขณะนี้ไม่ได้เจริญพุทธานุสติครับ
เอาแต่อานาปานสติภาวนาอย่างเดียวก็พอ


ที่ว่า ทิ้งพุทโธ ทิ้งยังไง เมื่อทิ้งแล้วไปเอาแต่อานาปานสติๆ ทำยังไง

กรัชกายไปท่องศัพท์ให้เป็นเหอะ
อย่ามาหลอกถาม :b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 15:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แทรกหลักสะหน่อย :b13:


กรรมฐาน แปลว่า ที่ตั้งแห่งการทำงานของจิต หรือที่ให้จิตทำงาน
สิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ในการเจริญภาวนา หรืออุปกรณ์ในการฝึกอบรมจิตหรืออุบายหรือกลวิธีเหนี่ยวนำสมาธิ

พูดง่ายๆว่า สิ่งที่เอามาให้จิตกำหนด จิตจะได้มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราวสงบอยู่ที่ได้ ไม่เที่ยววิ่งเล่นเตลิด หรือเลื่อนลอยฟุ้งซ่านไปอย่างไร้จุดหมาย

พูดสั้นๆ กรรมฐาน คือสิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ของจิต ที่จะชักนำให้เกิดสมาธิ หรืออะไรก็ได้ ที่พอจิตเพ่ง หรือจับแล้วจะช่วยให้จิตแน่วแน่อยู่กับมันเป็นสมาธิได้เร็ว และมั่นคงที่สุด

พูดให้สั้นที่สุดว่า สิ่งที่ใช้ฝึกสมาธิ


มั่ว.... :b17:


มัวยังไงอ่ะ บอกหน่อย :b10:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 15:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ประเด็นที่เช่นนั้นพูดข้างบน คือ ทำความรู้จักสติ ถูกไหมครับ

ก่อนหอบเสื่อหอบหมอนเข้าป่าเข้าดงไปหาที่สงบสงัดทำอย่างว่า เช่นนั้นให้ความหมายที่ชัดเจนคำว่า "อานาปานสติ" หน่อย :b8: :


เอิ๊กๆๆ
ยัง

สำหรับกรัชกาย สติ คือการท่องคำศัพท์ สติๆๆๆๆๆๆ


แล้วสติเช่นนั้นล่ะทำยังไง เอาชัดๆ

อ้างคำพูด:
คุณ Idea ทิ้งพุทโธ ไปเลยครับ ขณะนี้ไม่ได้เจริญพุทธานุสติครับ
เอาแต่อานาปานสติภาวนาอย่างเดียวก็พอ


ที่ว่า ทิ้งพุทโธ ทิ้งยังไง เมื่อทิ้งแล้วไปเอาแต่อานาปานสติๆ ทำยังไง

กรัชกายไปท่องศัพท์ให้เป็นเหอะ
อย่ามาหลอกถาม



ทิ้งอย่างอโศกหรืิอเปล่า :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 15:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

หากยังไม่เข้าใจชีวิตจิตใจแล้ว จะบรรลุธรรมอะไร


เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 18 มิ.ย. 2014, 15:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ประเด็นที่เช่นนั้นพูดข้างบน คือ ทำความรู้จักสติ ถูกไหมครับ

ก่อนหอบเสื่อหอบหมอนเข้าป่าเข้าดงไปหาที่สงบสงัดทำอย่างว่า เช่นนั้นให้ความหมายที่ชัดเจนคำว่า "อานาปานสติ" หน่อย :b8: :


เอิ๊กๆๆ
ยัง

สำหรับกรัชกาย สติ คือการท่องคำศัพท์ สติๆๆๆๆๆๆ


แล้วสติเช่นนั้นล่ะทำยังไง เอาชัดๆ

อ้างคำพูด:
คุณ Idea ทิ้งพุทโธ ไปเลยครับ ขณะนี้ไม่ได้เจริญพุทธานุสติครับ
เอาแต่อานาปานสติภาวนาอย่างเดียวก็พอ


ที่ว่า ทิ้งพุทโธ ทิ้งยังไง เมื่อทิ้งแล้วไปเอาแต่อานาปานสติๆ ทำยังไง

กรัชกายไปท่องศัพท์ให้เป็นเหอะ
อย่ามาหลอกถาม



ทิ้งอย่างอโศกหรืิอเปล่า :b1:

เรื่องของอโศก ครับ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 มิ.ย. 2014, 15:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐานแบบต่างๆ

เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ประเด็นที่เช่นนั้นพูดข้างบน คือ ทำความรู้จักสติ ถูกไหมครับ

ก่อนหอบเสื่อหอบหมอนเข้าป่าเข้าดงไปหาที่สงบสงัดทำอย่างว่า เช่นนั้นให้ความหมายที่ชัดเจนคำว่า "อานาปานสติ" หน่อย :b8: :


เอิ๊กๆๆ
ยัง

สำหรับกรัชกาย สติ คือการท่องคำศัพท์ สติๆๆๆๆๆๆ


แล้วสติเช่นนั้นล่ะทำยังไง เอาชัดๆ

อ้างคำพูด:
คุณ Idea ทิ้งพุทโธ ไปเลยครับ ขณะนี้ไม่ได้เจริญพุทธานุสติครับ
เอาแต่อานาปานสติภาวนาอย่างเดียวก็พอ


ที่ว่า ทิ้งพุทโธ ทิ้งยังไง เมื่อทิ้งแล้วไปเอาแต่อานาปานสติๆ ทำยังไง

กรัชกายไปท่องศัพท์ให้เป็นเหอะ
อย่ามาหลอกถาม



ทิ้งอย่างอโศกหรืิอเปล่า :b1:

เรื่องของอโศก ครับ


"ทิ้ง" เขียนเหมือนกัน ออกเสียงเหมือนกัน แล้วไม่เหมือนกันหรอ :b1:

หน้า 1 จากทั้งหมด 13 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/