วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 09:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 257 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 18  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


เราคุยกันในหัวข้อการพนันไม่ผิดศิล. อย่าหมายเอาประเด็นตัวผม. เอาทุกมุมเพราะมีคนอื่นที่เขาใช้ชีวิตที่มีการพนันอื่นๆมากมายเอาความกลางๆ. การพนันท่านหมายเอาพวกที่เล่นเนื่องกระทำเนื่องๆที่จะเป็นไปเพื่ออบาย. อย่าเอาความขัดเคืองใจที่มีต่อตัวผม. ผมแสดงเรื่องเหตุและผล. ที่อกุศลกรรมบท10ที่ว่าคิดเอาทรัพย์เพ่งเล็งทรัพผู้อื่นคนละเรื่องเลยประเภทนั้นพวกชอบขโมย.หรือมีจิตใจอยากได้ทรัพย์ผู้อื่นในทางมิชอบ แต่การพนันนั้นเป็นการตกลงเต็มใจทั้งสองฝั่งที่อาจมีความคิดแตกต่างกันจึงมีการพนันขันต่อเพื่อชัยชนะ. และนั้นเป็นเพียงแค่ของรางวัลในเกมส์นั้นๆ. ผู้ที่เขาพนันกันแบบนี้ก็มีเยอะ. ทำไมมองการพนันไปในรูปแบบเดียว. แบบนี้มองมุมแคบไปหน่อย. มีหลายบริบทอีกมากครับ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 11:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
nongkong เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
เอาความเป็นอริยะออกไปก่อน. เอาว่าการพนันไม่ผิดศิลห้า.และการที่จะไปอบายได้ทั้ง6อย่างต้องทำเป็นประจำ. ส่วนจะยืนยันนอนยันนั้นเรื่องการใครจะเป็นอริยะนั้นขอให้ผ่าน


ผมกำลังบอก..บิ๊กทูจับโจรให้ได้ต่างหาก

โจร..มันรู้ว่า..อริยะเบื้องต้นนี้..ศีลต้องสมบูรณ์...การพนันอันเป็นอบายมุกไม่ได้อยู่ในศีล5...มันก็ว่า..นี้งัย..ศีล5.ฉันครบ...เพราะอบายมุกไม่ได้อยู่ในศีล5...ฉันก็เป็นอริยะได้งัย....555...

วีรดรรมของบิ๊กทู่..ไปถามห้องพวกฝึกฌานอภิญญาก็รู้..เอาคำว่าอริยะไปข่มพวกเล่นฤทธิ์..แต่ถูกเขาด่ากลับมาซะเสีย...เอาพุธจวน ไปข่มเขา หาว่าเขาปฏิบัติไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้า..คุนน้องอ่านแล้วจะอ้วกแตกอ้วกแตน..แต่มันกล้าบอกว่า เล่นการพนันไม่ผิดศีล...ทั้งที่อริยะบุคคลเขารู้ข้อนี้ดีว่าเป็นมิจฉา..ไม่ตรงกับมรรค เป็นอกุศลกรรม..กิเลศมันบอกให้เข้าข้างตนเองไปเสียหมด..แทนที่จะสำนึกได้..กับแถไปข้างๆคูๆ..คุนน้องไม่ยอมให้โจรเข้าบ้านหรอก!
มาว่าคนอื่นติดดี..มองดูตนเองบ้างนะบิ๊กทู่..เมื่อก่อนคุนก็เคยหลงเคยคิดว่าสิ่งที่ตนทำ..เหนือผู้อื่น..กะอิแค่ไม่นอนกับภรรยา6เดือน
เอามาพูดข่มคนอื่นว่าตนเองทำได้..แถมประกาศตนเป็นสกิทาคามี จะอวกบวชอีก3 ปี โอ้ยยขำ :b32: พอเรามาค้านว่าการพนันไม่ดี..ไม่อยู่ในข้อมรรค..กลับมาว่าเราติดดี..โอ้ยบิ๊กทู่เอ้ย..

ปล.บิ๊กทู่ก่อกรรมหนัก 1.อวดอุตริมนุษยธรรมที่ไม่มีอยู่ในตน 2. มีจิตอิจฉาริษยานักปฏิบัติธรรมที่มีวาสนาไปในทางอภิญญาแล้วยกตนข่มเขา
3.บิดเบือนธรรมของพระพุทธเจ้า..ซึ่งเป็นกรรมหนัก..มีแต่ไปอบายเท่านั้น..
ตกลงเข้าใจใช่มั้นว่าการพนันไม่ได้จัดอยู่ในศิลห้า. อย่ามั่วนะ. อายเขา. ส่วนผมจะเป็นอริยะหรือป่าวไม่ต้องสนใจ. สนใจแต่เพียงอย่าแต่งเติมศิล5ใหม่อย่าเก่งกว่าวพระองค์. ส่วนอบายมุขดูเอาท่านกล่าวไว้ว่าอย่างไร. ยกตัวอย่างพระสูตรชัดเจน. ต้องทำเนื่องๆ. เนื่องแปลว่าอะไร?

คุนน้องเข้าใจว่าศีลคือข้อ มรรค ที่ปุชนควรปฏิบัติเพื่อความเข้าถึงความเป็นอริยชน..ซึ่งมิให้ปุถุชนมีความเห็นผิดว่า การพนันไม่ผิดศีล5 ก็สามารถเล่นการพนันได้..และพระพุทธองค์ก็เห็นชอบด้วยในเจตนาของคุนน้อง มิได้เป็นการคิดว่าตนรู้ดีกว่าแต่เป็นการให้ธรรมทาน.เพื่อไม่ให้นักปฏิบัติธรรมหน้าใหม่ เข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากความจริง..ของการประพฤติพรหมจรรย์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 11:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
bigtoo เขียน:
nongkong เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
เอาความเป็นอริยะออกไปก่อน. เอาว่าการพนันไม่ผิดศิลห้า.และการที่จะไปอบายได้ทั้ง6อย่างต้องทำเป็นประจำ. ส่วนจะยืนยันนอนยันนั้นเรื่องการใครจะเป็นอริยะนั้นขอให้ผ่าน


ผมกำลังบอก..บิ๊กทูจับโจรให้ได้ต่างหาก

โจร..มันรู้ว่า..อริยะเบื้องต้นนี้..ศีลต้องสมบูรณ์...การพนันอันเป็นอบายมุกไม่ได้อยู่ในศีล5...มันก็ว่า..นี้งัย..ศีล5.ฉันครบ...เพราะอบายมุกไม่ได้อยู่ในศีล5...ฉันก็เป็นอริยะได้งัย....555...

วีรดรรมของบิ๊กทู่..ไปถามห้องพวกฝึกฌานอภิญญาก็รู้..เอาคำว่าอริยะไปข่มพวกเล่นฤทธิ์..แต่ถูกเขาด่ากลับมาซะเสีย...เอาพุธจวน ไปข่มเขา หาว่าเขาปฏิบัติไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้า..คุนน้องอ่านแล้วจะอ้วกแตกอ้วกแตน..แต่มันกล้าบอกว่า เล่นการพนันไม่ผิดศีล...ทั้งที่อริยะบุคคลเขารู้ข้อนี้ดีว่าเป็นมิจฉา..ไม่ตรงกับมรรค เป็นอกุศลกรรม..กิเลศมันบอกให้เข้าข้างตนเองไปเสียหมด..แทนที่จะสำนึกได้..กับแถไปข้างๆคูๆ..คุนน้องไม่ยอมให้โจรเข้าบ้านหรอก!
มาว่าคนอื่นติดดี..มองดูตนเองบ้างนะบิ๊กทู่..เมื่อก่อนคุนก็เคยหลงเคยคิดว่าสิ่งที่ตนทำ..เหนือผู้อื่น..กะอิแค่ไม่นอนกับภรรยา6เดือน
เอามาพูดข่มคนอื่นว่าตนเองทำได้..แถมประกาศตนเป็นสกิทาคามี จะอวกบวชอีก3 ปี โอ้ยยขำ :b32: พอเรามาค้านว่าการพนันไม่ดี..ไม่อยู่ในข้อมรรค..กลับมาว่าเราติดดี..โอ้ยบิ๊กทู่เอ้ย..

ปล.บิ๊กทู่ก่อกรรมหนัก 1.อวดอุตริมนุษยธรรมที่ไม่มีอยู่ในตน 2. มีจิตอิจฉาริษยานักปฏิบัติธรรมที่มีวาสนาไปในทางอภิญญาแล้วยกตนข่มเขา
3.บิดเบือนธรรมของพระพุทธเจ้า..ซึ่งเป็นกรรมหนัก..มีแต่ไปอบายเท่านั้น..
ตกลงเข้าใจใช่มั้นว่าการพนันไม่ได้จัดอยู่ในศิลห้า. อย่ามั่วนะ. อายเขา. ส่วนผมจะเป็นอริยะหรือป่าวไม่ต้องสนใจ. สนใจแต่เพียงอย่าแต่งเติมศิล5ใหม่อย่าเก่งกว่าวพระองค์. ส่วนอบายมุขดูเอาท่านกล่าวไว้ว่าอย่างไร. ยกตัวอย่างพระสูตรชัดเจน. ต้องทำเนื่องๆ. เนื่องแปลว่าอะไร?

คุนน้องเข้าใจว่าศีลคือข้อ มรรค ที่ปุชนควรปฏิบัติเพื่อความเข้าถึงความเป็นอริยชน..ซึ่งมิให้ปุถุชนมีความเห็นผิดว่า การพนันไม่ผิดศีล5 ก็สามารถเล่นการพนันได้..และพระพุทธองค์ก็เห็นชอบด้วยในเจตนาของคุนน้อง มิได้เป็นการคิดว่าตนรู้ดีกว่าแต่เป็นการให้ธรรมทาน.เพื่อไม่ให้นักปฏิบัติธรรมหน้าใหม่ เข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากความจริง..ของการประพฤติพรหมจรรย์
คนคิดให้ธรรมเป็นทานก็ต้องทำความเข้าใจให้ตรงธรรมอย่างแท้จริง. ไม่ตัดแต่งเพิ่มเติ่มไปเรื่อยๆ.เนื้อแท้ของธรรมก็จะผิดเพลี้ยนไปเรื่อยๆ เอาความต่างที่มีความหมายอีกมากในบริบทอื่นๆเอาไปใส่ไว้ผิด. ศิลห้า. กับอบายมุข6. ต่างกันมาก.

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 11:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
เราคุยกันในหัวข้อการพนันไม่ผิดศิล. อย่าหมายเอาประเด็นตัวผม. เอาทุกมุมเพราะมีคนอื่นที่เขาใช้ชีวิตที่มีการพนันอื่นๆมากมายเอาความกลางๆ. การพนันท่านหมายเอาพวกที่เล่นเนื่องกระทำเนื่องๆที่จะเป็นไปเพื่ออบาย. อย่าเอาความขัดเคืองใจที่มีต่อตัวผม. ผมแสดงเรื่องเหตุและผล. ที่อกุศลกรรมบท10ที่ว่าคิดเอาทรัพย์เพ่งเล็งทรัพผู้อื่นคนละเรื่องเลยประเภทนั้นพวกชอบขโมย.หรือมีจิตใจอยากได้ทรัพย์ผู้อื่นในทางมิชอบ แต่การพนันนั้นเป็นการตกลงเต็มใจทั้งสองฝั่งที่อาจมีความคิดแตกต่างกันจึงมีการพนันขันต่อเพื่อชัยชนะ. และนั้นเป็นเพียงแค่ของรางวัลในเกมส์นั้นๆ. ผู้ที่เขาพนันกันแบบนี้ก็มีเยอะ. ทำไมมองการพนันไปในรูปแบบเดียว. แบบนี้มองมุมแคบไปหน่อย. มีหลายบริบทอีกมากครับ

การพนันเป็นการก่อเวรเป็นการผูกเวรของทั้ทั้งสองฝ่ายทีเล่นพนันกัน..เป็นการสร้างเหตุแห่งทุกข์ ผู้แพ้พนันย่อมเกิดความทุกข์เพราะไม่สมหวังในสิ่งที่ตนปราถนา..ส่วนผู้ชนะพนันย่อมยินดีพอใจในสิ่งที่ตนได้มาง่าย..ก่อให้เกิดความโลภตามมา..ทำให้ผู้เล่นการพนัน..มีวิบากกรรมร่วมกัน..สายวงจรปฏิจสมุปบาท..ก็สืบเนื่องเกี่ยวพันกัน..ในด้านอกุศลกรรมที่ก่อร่วมกัน..
เข้าใจไว้ด้วยนะบิ๊กทู่..คุนน้องอายการกระทำของบิ๊กทู่..แทนพระพุทธองค์จริงๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 12:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
bigtoo เขียน:
เราคุยกันในหัวข้อการพนันไม่ผิดศิล. อย่าหมายเอาประเด็นตัวผม. เอาทุกมุมเพราะมีคนอื่นที่เขาใช้ชีวิตที่มีการพนันอื่นๆมากมายเอาความกลางๆ. การพนันท่านหมายเอาพวกที่เล่นเนื่องกระทำเนื่องๆที่จะเป็นไปเพื่ออบาย. อย่าเอาความขัดเคืองใจที่มีต่อตัวผม. ผมแสดงเรื่องเหตุและผล. ที่อกุศลกรรมบท10ที่ว่าคิดเอาทรัพย์เพ่งเล็งทรัพผู้อื่นคนละเรื่องเลยประเภทนั้นพวกชอบขโมย.หรือมีจิตใจอยากได้ทรัพย์ผู้อื่นในทางมิชอบ แต่การพนันนั้นเป็นการตกลงเต็มใจทั้งสองฝั่งที่อาจมีความคิดแตกต่างกันจึงมีการพนันขันต่อเพื่อชัยชนะ. และนั้นเป็นเพียงแค่ของรางวัลในเกมส์นั้นๆ. ผู้ที่เขาพนันกันแบบนี้ก็มีเยอะ. ทำไมมองการพนันไปในรูปแบบเดียว. แบบนี้มองมุมแคบไปหน่อย. มีหลายบริบทอีกมากครับ

การพนันเป็นการก่อเวรเป็นการผูกเวรของทั้ทั้งสองฝ่ายทีเล่นพนันกัน..เป็นการสร้างเหตุแห่งทุกข์ ผู้แพ้พนันย่อมเกิดความทุกข์เพราะไม่สมหวังในสิ่งที่ตนปราถนา..ส่วนผู้ชนะพนันย่อมยินดีพอใจในสิ่งที่ตนได้มาง่าย..ก่อให้เกิดความโลภตามมา..ทำให้ผู้เล่นการพนัน..มีวิบากกรรมร่วมกัน..สายวงจรปฏิจสมุปบาท..ก็สืบเนื่องเกี่ยวพันกัน..ในด้านอกุศลกรรมที่ก่อร่วมกัน..
เข้าใจไว้ด้วยนะบิ๊กทู่..คุนน้องอายการกระทำของบิ๊กทู่..แทนพระพุทธองค์จริงๆ
อย่ายึดในบริบทเดียวครับ. อ่านพระสูตรดีๆก่อนครับ. อย่างไรที่จะกลายเป็นอบายมุข6. ถ้าเล่นประจำก็ตามที่คุณกล่าวมาเพราะพระองค์เป็นผู้กล่าวไว้ถูกต้องแล้ว. ส่วนบริบทอื่นของการพนันมีอีกมาก. ฉนั้นขอทำความความเข้าใจอย่างนี้. ผู้ที่เล่นเนื่องๆนั้นคืออบายมุข6. ส่วนผู้ที่เล่นครั้งคราวไม่ถือเป็นอบายมุข6 อันนี้ตามพระสูตรครับ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 12:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


[๑๗๘] อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖ เป็นไฉน ดูกร คฤหบดีบุตร การประกอบเนืองๆ ซึ่งการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่ง ความประมาท เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ ๑ การประกอบเนืองๆ ซึ่งการ เที่ยวไปในตรอกต่างๆ ในกลางคืน เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ ๑ การเที่ยว ดูมหรสพเป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ ๑ การประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอัน เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ ๑ การประกอบ เนืองๆ ซึ่งการคบคนชั่วเป็นมิตร เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ ๑ การประกอบ เนืองๆ ซึ่งความเกียจคร้าน เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ ๑ ฯ. อ่านตรงที่เน้นๆจะเข้าใจว่าคืออะไร

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 12:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่คุนน้องรู้ก็ได้บอกไปหมดแล้ว..ทำในสิ่งที่ถูกต้องในฐานะพุทธศาสนิกชนคนนึง..ที่รู้ถูกต้องด้วยสัมมาทิฏฐิ..คุนน้องทำในสิ่งที่ควรกระทำเพื่อประโยชน์ของ ท่านทั้งหลายที่หลงเข้ามาอ่านกระทู้นี้..เอาเป็นว่าคุนน้องยุติการสนทนาวางอุเบกขา..นักปฏิบัติทั้งหลายพึงพิจารณาด้วยปัญญาของตนเองแล้วกันว่า..จะถือศีล5 หรือจะ ปฏิบัติตามข้อมรรค..ที่ไม่ได้จำกัดแค่ศีล5 ทางปฏิบัติแห่งปุถุชนเพือให้เข้าถึงความเป็นอริยชน..
เจริญธรรม..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 13:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


พอดีนึกออกอีกเรื่องนึง...
คนที่กล่าวว่าความเสื่อมแห่งโภคะ อบายมุขทั้ง6 นั้น..ถ้าไม่ประกอบเนืองๆถือว่าไม่ผิดศีล..โดยเอาพุจวน มาบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์..เท่ากับคนผู้นั้นกำลังค้านคำสอนใน เรื่อง มรรค คนผู้นั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ..มิหนำซ้ำยังขวางทาง มรรค ผล นิพพาน ผู้อื่น..โดยการกล่าวว่า การพนันไม่ผิดศีลถ้าไม่ประกอบเนืองๆ..ทั้งที่พระพุทธองค์ไม่ได้กล่าวเช่นนั้น..พระพุทธองค์ไม่เห็นชอบและไม่สรรเสริญให้กล่าวเยี่ยงนั้น..
เพราะการกล่าวเยี่ยงนั้นเป็นเหตุให้ ปุถุชนก้าวล้วงอกุศลกรรม..โดยมีความเห็นผิดว่าไม่ผิดศีล5..
บิ๊กทู่กำลังสร้างกรรมหนัก..เพราะเอาอบายมุขมากล่าวว่า ไม่ผิดศีลถ้าไม่ทำบ่อยๆ..ทั้งที่ตนรู้แก่ใจว่ามิสามารถเจริญ มรรคให้บริบูรณ์ได้..มรรคก็คือศีลขัอปฏิบัติ..ความบริสุทธิ์ทาง การกระทำ กาย วาจา ใจ แต่บิดเบือนว่าไม่ผิดศีล 5!!
ปิดกั้น มรรค ผล นิพพาน ผู้อื่น..มีอบายภูมิเท่านั่นเป็นที่ไป...เพราะบิ๊กทู่บิดเบือนคำสอนพระพุทธอค์..เรื่องการพนันแม้เล่นเพื่อความบันเทิงก็ตาม..ย่อมไม่สามารถเจริญมรรค ประพฤติพรหมจรรย์ให้บริบูรณ์ได้..นี่คือความจริง ของ อริยสาวก ย่อมรู้ในข้อนี้..
ถ้าบิ๊กทู่พูดเรื่อง ปุถุชน เล่นการพนัน..คุนน้องจะเพิกเฉย..แต่ถ้ากล่าวว่า อริยบุคคลเล่นการพนันเพื่อความสำราญ..แต่ไม่ประกอบเนืองๆ..คุนน้องค้านหัวชนฝา..เพราะไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้..เพราะอริยบุคคล กระทำเหตุแห่งทุกข์..ให้แจ้งแล้ว..ย่อมไม่มองว่าอบายมุข กระทำได้..ถ้าไม่ยึดติด..แต่มองว่าอบายมุข..คือเหตุแห่งทุกข์..ย่อมจะไม่สร้างเหตุออกไป..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ภิกษุทั้งหลาย ! บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคล บางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้น นำเขาไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บางคนทำแล้ว
กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมาก ต่อไปเลย…

ภิกษุทั้งหลาย ! ใครกล่าวว่า
คนทำกรรม อย่างใดๆ ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนั้นๆ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีไม่ได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ไม่ปรากฏ

ส่วนใครกล่าวว่า

คนทำกรรม อันจะพึงให้ผล อย่างใดๆ
ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้นๆ
ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ.

ติก. อํ. ๒๐/๓๒๐/๕๔๐.









เจตนาสูตร

[๒] พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีศีล สมบูรณ์ด้วยศีล
ไม่ต้องทำเจตนาว่า ขออวิปปฏิสารจงเกิดขึ้นแก่เรา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่อวิปปฏิสาร เกิดขึ้นแก่บุคคลผู้มีศีล สมบูรณ์ด้วยศีลนี้เป็นธรรมดา



ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ไม่มีวิปปฏิสารไม่ต้องทำเจตนาว่า ขอปราโมทย์จงเกิดขึ้นแก่เรา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ปราโมทย์เกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ไม่มีวิปปฏิสารนี้เป็นธรรมดา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ปราโมทย์ไม่ต้องทำเจตนาว่า ขอปีติจงเกิดแก่เรา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ปีติเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ปราโมทย์นี้เป็นธรรมดา


ดูกรภิกษุทั้งหลายบุคคลผู้มีใจปีติ ไม่ต้องทำเจตนาว่า ขอกายของเราจงสงบ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่กายของบุคคลผู้มีใจมีปีติสงบนี้ เป็นธรรมดา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีกายสงบ ไม่ต้องทำเจตนาว่า ขอเราจงเสวยความสุข
ข้อที่บุคคลผู้มีกายสงบเสวยสุขนี้ เป็นธรรมดา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีความสุขไม่ต้องทำเจตนาว่า ขอจิตของเราจงตั้งมั่น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่จิตของบุคคลผู้มีความสุขตั้งมั่นนี้ เป็นธรรมดา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีจิตตั้งมั่นไม่ต้องทำเจตนาว่า ขอเราจงรู้จงเห็นตามความเป็นจริง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้มีจิตตั้งมั่น รู้เห็นตามความเป็นจริงนี้ เป็นธรรมดา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้รู้เห็นตามความเป็นจริง ไม่ต้องทำเจตนาว่า
ขอเราจงเบื่อหน่าย จงคลายกำหนัด

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้รู้ผู้เห็นตามความเป็นจริงเบื่อหน่ายคลายกำหนัดนี้ เป็นธรรมดา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เบื่อหน่ายคลายกำหนัดไม่ต้องทำเจตนาว่า
ขอเราจงทำให้แจ้งซึ่งวิมุตติญาณทัสสนะ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้เบื่อหน่ายคลายกำหนัด
ทำให้แจ้งซึ่งวิมุตติญาณทัสสนะ นี้เป็นธรรมดา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิพพิทาวิราคะ มีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นผล มีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นอานิสงส์
ยถาภูตญาณทัสสนะ มีนิพพิทาวิราคะเป็นผล มีนิพพิทาวิราคะเป็นอานิสงส์
สมาธิมียถาภูตญาณทัสสนะเป็นผล มียถาภูตญาณทัสสนะเป็นอานิสงส์
สุขมีสมาธิเป็นผล มีสมาธิเป็นอานิสงส์
ปัสสัทธิมีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์
ปีติมีปัสสัทธิเป็นผล มีปัสสัทธิเป็นอานิสงส์
ปราโมทย์มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์

อวิปปฏิสาร มีปราโมทย์เป็นผล มีปราโมทย์เป็นอานิสงส์
ศีลที่เป็นกุศลมีอวิปปฏิสารเป็นผล มีอวิปปฏิสารเป็นอานิสงส์

ด้วยประการดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลาย
ย่อมหลั่งไหลไปสู่ธรรมทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายย่อมยังธรรมทั้งหลายให้บริบูรณ์
เพื่อจากเตภูมิกวัฏอันมิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง คือ นิพพานด้วยประการดังนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๒



http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... &A=46&Z=76

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
พอดีนึกออกอีกเรื่องนึง...
คนที่กล่าวว่าความเสื่อมแห่งโภคะ อบายมุขทั้ง6 นั้น..ถ้าไม่ประกอบเนืองๆถือว่าไม่ผิดศีล..โดยเอาพุจวน มาบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์..เท่ากับคนผู้นั้นกำลังค้านคำสอนใน เรื่อง มรรค คนผู้นั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ..มิหนำซ้ำยังขวางทาง มรรค ผล นิพพาน ผู้อื่น..โดยการกล่าวว่า การพนันไม่ผิดศีลถ้าไม่ประกอบเนืองๆ..ทั้งที่พระพุทธองค์ไม่ได้กล่าวเช่นนั้น..พระพุทธองค์ไม่เห็นชอบและไม่สรรเสริญให้กล่าวเยี่ยงนั้น..
เพราะการกล่าวเยี่ยงนั้นเป็นเหตุให้ ปุถุชนก้าวล้วงอกุศลกรรม..โดยมีความเห็นผิดว่าไม่ผิดศีล5..
บิ๊กทู่กำลังสร้างกรรมหนัก..เพราะเอาอบายมุขมากล่าวว่า ไม่ผิดศีลถ้าไม่ทำบ่อยๆ..ทั้งที่ตนรู้แก่ใจว่ามิสามารถเจริญ มรรคให้บริบูรณ์ได้..มรรคก็คือศีลขัอปฏิบัติ..ความบริสุทธิ์ทาง การกระทำ กาย วาจา ใจ แต่บิดเบือนว่าไม่ผิดศีล 5!!
ปิดกั้น มรรค ผล นิพพาน ผู้อื่น..มีอบายภูมิเท่านั่นเป็นที่ไป...เพราะบิ๊กทู่บิดเบือนคำสอนพระพุทธอค์..เรื่องการพนันแม้เล่นเพื่อความบันเทิงก็ตาม..ย่อมไม่สามารถเจริญมรรค ประพฤติพรหมจรรย์ให้บริบูรณ์ได้..นี่คือความจริง ของ อริยสาวก ย่อมรู้ในข้อนี้..
ถ้าบิ๊กทู่พูดเรื่อง ปุถุชน เล่นการพนัน..คุนน้องจะเพิกเฉย..แต่ถ้ากล่าวว่า อริยบุคคลเล่นการพนันเพื่อความสำราญ..แต่ไม่ประกอบเนืองๆ..คุนน้องค้านหัวชนฝา..เพราะไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้..เพราะอริยบุคคล กระทำเหตุแห่งทุกข์..ให้แจ้งแล้ว..ย่อมไม่มองว่าอบายมุข กระทำได้..ถ้าไม่ยึดติด..แต่มองว่าอบายมุข..คือเหตุแห่งทุกข์..ย่อมจะไม่สร้างเหตุออกไป..
เรากล่าวธรรมตามตัวอักษร. ที่เป็นพระสูตร ที่พระองค์แสดง. ท่านเองกล่าวธรรมไปตามความคิดว่าดี เป็นความคิดท่านไม่ได้ตรงตามพระองค์แสดง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


พระองค์แสดงธรรมที่ไม่ยิ่งหย่อนเป็นไปเพื่อการเพียรในสิ่งดี. แต่ความเป็นจริงนั้นอกุศลกรรมเกิดขึ้นได้แก่ทุกท่านที่ยังไม่ได้เป็นอรหันต์. อบายมุข6ท่านแสดงไว้ชัดมาก. คือกระทำเนืองๆ. อย่ากลัวกันมากเลย ชีวิตก็คือชีวิต พระองค์มีทางออกให้เราเสมอ. ปิดอบายภูมิด้วยศิล5. เท่านั้น. ตามเห็นรูปนามเกิดดับกิจอื่นให้ทำยิ่งไปกว่านี้ไม่มี

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 16:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ปุจฉา
มีเรื่ิงขอคำปรึกษาได้ไหมคะ
คือ อาทิตย์ หน้า บริษัทที่รับช่อเข้างาน จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับ 2 งาน 2 วัน...
สิ่งที่ห่วง คือ เรื่องเหล้า ..ไม่อยากผิดศีล...
เเต่เหมือนเป็นมารยาทสังคม ...
หากเราไม่ได้ให้ค่า(ไม่ทราบว่าคิดงี้ผิดไหม) มันคือ ของเหลว ชนิดหนึ่ง เเล้วเราไม่ดื่มจนเมา...จะผิดศีลไหมคะ
หรือขึ้นชื่อว่าเป็นสุรา ไม่ได้หมด

วิสัชนา
เป็นกฏข้อบังคับหรือคะ ประมาณว่า ถ้าไม่ดื่ม เขาจะไล่ออก ประมาณนี้หรือเปล่า

ปุจฉา
ไม่ใช่ข้อบังคับค่ะ
งั้นหากดื่ม ไป ก้อศีล ไม่ครบ 5 ข้อใช่ไหมคะ

วิสัชนา
ชีวิตที่เหลืออยู่ ซึ่งไม่รู้ว่า เหลืออยู่มาก น้อยแค่ไหน จงถามใจตัวเองว่า ชีวิตนี้ ที่เหลืออยู่อันน้อยนิด ในขณะนี้ ต้องการอะไรในชีวิต
แฟนพี่ ก่อนที่จะมาอยู่ด้วยกัน เขาก็ทำงานกับคนต่างชาติ มีสังสสรค์ มีดื่ม เขาเองก็เคยดื่ม
พอมาอยู่กับพี่ พี่อธิบายเรื่องสภาวะต่างๆให้ฟัง พอรู้ว่า การดื่มแอลลกอฮอลล์ ทุกชนิด ส่งผต่อกระทบต่อการปฏิบัติ ตั้งแต่นั้นมา เขาเลิกดื่ม เครื่องดื่มประเภทนี้ทุกชนิด เพราะ เขารักตัวเอง
ส่วนคำถาม ที่ถามมา ไม่ใช่แค่เรื่องของศิลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของ ชีวิตที่เหลืออยู่ ว่าจะเลือกเดินไปทางไหน









นิสสายวรรคที่ ๑
๑. กิมัตถิยสูตร


[๒๐๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์เข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค นั่ง ณ ที่ควรส่วน
ข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ศีลที่เป็น
กุศลมีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็นอานิสงส์ พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรอานนท์
ศีลที่เป็นกุศล มีความไม่เดือดร้อนเป็นผล มีความไม่เดือดร้อนเป็นอานิสงส์ ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความไม่เดือดร้อนมีอะไรเป็นผล มีอะไร
เป็นอานิสงส์ ฯ
พ. ดูกรอานนท์ ก็ความไม่เดือดร้อนมีความปราโมทย์เป็นผล มีความ
ปราโมทย์เป็นอานิสงส์ ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ความปราโมทย์มีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็น
อานิสงส์ ฯ
พ. ดูกรอานนท์ ความปราโมทย์มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ปีติมีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็นอานิสงส์ ฯ
พ. ดูกรอานนท์ ปีติมีปัสสัทธิเป็นผล มีปัสสัทธิเป็นอานิสงส์ ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ปัสสัทธิมีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็น
อานิสงส์
พ. ดูกรอานนท์ ปัสสัทธิมีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์ ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็สุขมีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็นอานิสงส์ ฯ
พ. ดูกรอานนท์ สุขมีสมาธิเป็นผล มีสมาธิเป็นอานิสงส์ ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็สมาธิมีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็นอานิสงส์ ฯ
พ. ดูกรอานนท์ สมาธิมียถาภูตญาณทัสนะเป็นผล มียถาภูตญาณ-
*ทัสนะเป็นอานิสงส์ ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ยถาภูตญาณทัสนะมีอะไรเป็นผล มีอะไร
เป็นอานิสงส์ ฯ
พ. ดูกรอานนท์ ยถาภูตญาณทัสนะมีนิพพิทาเป็นผล มีนิพพิทาเป็น
อานิสงส์ ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็นิพพิทามีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็น
อานิสงส์ ฯ
พ. ดูกรอานนท์ นิพพิทามีวิราคะเป็นผล มีวิราคะเป็นอานิสงส์ ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็วิราคะมีอะไรเป็นผล มีอะไรเป็นอานิสงส์ ฯ
พ. ดูกรอานนท์ วิราคะมีวิมุตติญาณทัสนะเป็นผล มีวิมุตติญาณทัสนะ
เป็นอานิสงส์


ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศลมีความไม่เดือดร้อนเป็นผล มีความไม่เดือด
ร้อนเป็นอานิสงส์ ความไม่เดือดร้อน มีความปราโมทย์เป็นผล มีความปราโมทย์
เป็นอานิสงส์ ความปราโมทย์ มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์ ปีติมีปัสสัทธิเป็นผล
มีปัสสัทธิเป็นอานิสงส์ ปัสสัทธิมีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์ สุขมีสมาธิเป็นผล
มีสมาธิเป็นอานิสงส์ สมาธิมียถาภูตญาณทัสนะเป็นผล มียถาภูตญาณทัสนะเป็น
อานิสงส์ ยถาภูตญาณทัสนะมีนิพพิทาเป็นผล มีนิพพิทาเป็นอานิสงส์ นิพพิทามี
วิราคะเป็นผล มีวิราคะเป็นอานิสงส์ วิราคะมีวิมุตติญาณทัสนะเป็นผล
มีวิมุตติญาณทัสนะเป็นอานิสงส์ด้วยประการดังนี้แล

ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศลย่อม
ยังความเป็นพระอรหันต์ให้บริบูรณ์โดยลำดับ ด้วยประการดังนี้แล ฯ


http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... 521&Z=7566

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 17:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
nongkong เขียน:
พอดีนึกออกอีกเรื่องนึง...
คนที่กล่าวว่าความเสื่อมแห่งโภคะ อบายมุขทั้ง6 นั้น..ถ้าไม่ประกอบเนืองๆถือว่าไม่ผิดศีล..โดยเอาพุจวน มาบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์..เท่ากับคนผู้นั้นกำลังค้านคำสอนใน เรื่อง มรรค คนผู้นั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ..มิหนำซ้ำยังขวางทาง มรรค ผล นิพพาน ผู้อื่น..โดยการกล่าวว่า การพนันไม่ผิดศีลถ้าไม่ประกอบเนืองๆ..ทั้งที่พระพุทธองค์ไม่ได้กล่าวเช่นนั้น..พระพุทธองค์ไม่เห็นชอบและไม่สรรเสริญให้กล่าวเยี่ยงนั้น..
เพราะการกล่าวเยี่ยงนั้นเป็นเหตุให้ ปุถุชนก้าวล้วงอกุศลกรรม..โดยมีความเห็นผิดว่าไม่ผิดศีล5..
บิ๊กทู่กำลังสร้างกรรมหนัก..เพราะเอาอบายมุขมากล่าวว่า ไม่ผิดศีลถ้าไม่ทำบ่อยๆ..ทั้งที่ตนรู้แก่ใจว่ามิสามารถเจริญ มรรคให้บริบูรณ์ได้..มรรคก็คือศีลขัอปฏิบัติ..ความบริสุทธิ์ทาง การกระทำ กาย วาจา ใจ แต่บิดเบือนว่าไม่ผิดศีล 5!!
ปิดกั้น มรรค ผล นิพพาน ผู้อื่น..มีอบายภูมิเท่านั่นเป็นที่ไป...เพราะบิ๊กทู่บิดเบือนคำสอนพระพุทธอค์..เรื่องการพนันแม้เล่นเพื่อความบันเทิงก็ตาม..ย่อมไม่สามารถเจริญมรรค ประพฤติพรหมจรรย์ให้บริบูรณ์ได้..นี่คือความจริง ของ อริยสาวก ย่อมรู้ในข้อนี้..
ถ้าบิ๊กทู่พูดเรื่อง ปุถุชน เล่นการพนัน..คุนน้องจะเพิกเฉย..แต่ถ้ากล่าวว่า อริยบุคคลเล่นการพนันเพื่อความสำราญ..แต่ไม่ประกอบเนืองๆ..คุนน้องค้านหัวชนฝา..เพราะไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้..เพราะอริยบุคคล กระทำเหตุแห่งทุกข์..ให้แจ้งแล้ว..ย่อมไม่มองว่าอบายมุข กระทำได้..ถ้าไม่ยึดติด..แต่มองว่าอบายมุข..คือเหตุแห่งทุกข์..ย่อมจะไม่สร้างเหตุออกไป..
เรากล่าวธรรมตามตัวอักษร. ที่เป็นพระสูตร ที่พระองค์แสดง. ท่านเองกล่าวธรรมไปตามความคิดว่าดี เป็นความคิดท่านไม่ได้ตรงตามพระองค์แสดง

ไม่จริง..อย่ามากล่าวตู่เรา..เรากล่าวธรรมเพราะเห็นด้วยปัญญาญาณ..เราเกิดญาณเห็นอริยสัจสี่..เราก็กล่าวธรรมไปเยี่ยงนั่น..ธรรมของเราคือเกิดจากการรู้ด้วยจิต..เราปฏิบัติจนเกิดญาณรู้..ไปเทียบเลยใน วิปัสนาญาณ 16 มีจริงมั้ย ญานรู้อริยสัจ อย่ามากล่าวตู่เราบิ๊กทู่..สิ่งที่เรารู้เรารู้ด้วยปัญญาญานมิใช่ใช้ความคิด..ถ้าคิดเอาไม่อาจจะมีใครสามารถกล่าวเยี่ยงเราได้..ทั้งที่ไม่อ้างตำรา..พระพุทธองค์ ทรงเป็นพยาน :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


การดื่มเครื่องดื่มที่เป็นของมึนเมามีคำถามมากมายจริงเกี่ยวกับการเข้าสังคม มันมีอยู่ว่าใครไม่ดื่มได้ก็ดีเลยไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมากไม่ดื่มก็คือไม่ดื่มจบเรื่อง. ส่วนคนที่ดื่ม เขาดื่มเพราะอะไรก็ต้องดูที่เจตนา. เพราะพระองค์กล่าวว่าเจตนาเป็นกรรม. คนที่เขารู้เรื่องอริยสัจเข้ารู้เหตุปัจจัยทำอะไรได้อะไร ดื่มได้แค่ไหนอย่างไร เรื่องของเรื่องก็มีอยู่เท่านี้. ไม่มีใครที่จะลดละเลิกอะไรได้สนิทหรอกถ้าฐานะเขาไม่ถึงขี้นตามลำดับของภูมิ. ฉะนั้นแล้วธรรมะถ้าติดดีมันก็จะกลายเป็นหลงดีแต่ผิดจากความจริง เหมือนคนที่เขาเคยคิดว่าการกินผักกินหญ้าดีกว่ากินเนื้อนั้นแหละ. ระวังจะกลายเป็นวัตรเพื่อการรังเกลียดได้

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 11 มิ.ย. 2015, 19:36, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2015, 17:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
bigtoo เขียน:
nongkong เขียน:
พอดีนึกออกอีกเรื่องนึง...
คนที่กล่าวว่าความเสื่อมแห่งโภคะ อบายมุขทั้ง6 นั้น..ถ้าไม่ประกอบเนืองๆถือว่าไม่ผิดศีล..โดยเอาพุจวน มาบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์..เท่ากับคนผู้นั้นกำลังค้านคำสอนใน เรื่อง มรรค คนผู้นั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ..มิหนำซ้ำยังขวางทาง มรรค ผล นิพพาน ผู้อื่น..โดยการกล่าวว่า การพนันไม่ผิดศีลถ้าไม่ประกอบเนืองๆ..ทั้งที่พระพุทธองค์ไม่ได้กล่าวเช่นนั้น..พระพุทธองค์ไม่เห็นชอบและไม่สรรเสริญให้กล่าวเยี่ยงนั้น..
เพราะการกล่าวเยี่ยงนั้นเป็นเหตุให้ ปุถุชนก้าวล้วงอกุศลกรรม..โดยมีความเห็นผิดว่าไม่ผิดศีล5..
บิ๊กทู่กำลังสร้างกรรมหนัก..เพราะเอาอบายมุขมากล่าวว่า ไม่ผิดศีลถ้าไม่ทำบ่อยๆ..ทั้งที่ตนรู้แก่ใจว่ามิสามารถเจริญ มรรคให้บริบูรณ์ได้..มรรคก็คือศีลขัอปฏิบัติ..ความบริสุทธิ์ทาง การกระทำ กาย วาจา ใจ แต่บิดเบือนว่าไม่ผิดศีล 5!!
ปิดกั้น มรรค ผล นิพพาน ผู้อื่น..มีอบายภูมิเท่านั่นเป็นที่ไป...เพราะบิ๊กทู่บิดเบือนคำสอนพระพุทธอค์..เรื่องการพนันแม้เล่นเพื่อความบันเทิงก็ตาม..ย่อมไม่สามารถเจริญมรรค ประพฤติพรหมจรรย์ให้บริบูรณ์ได้..นี่คือความจริง ของ อริยสาวก ย่อมรู้ในข้อนี้..
ถ้าบิ๊กทู่พูดเรื่อง ปุถุชน เล่นการพนัน..คุนน้องจะเพิกเฉย..แต่ถ้ากล่าวว่า อริยบุคคลเล่นการพนันเพื่อความสำราญ..แต่ไม่ประกอบเนืองๆ..คุนน้องค้านหัวชนฝา..เพราะไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้..เพราะอริยบุคคล กระทำเหตุแห่งทุกข์..ให้แจ้งแล้ว..ย่อมไม่มองว่าอบายมุข กระทำได้..ถ้าไม่ยึดติด..แต่มองว่าอบายมุข..คือเหตุแห่งทุกข์..ย่อมจะไม่สร้างเหตุออกไป..
เรากล่าวธรรมตามตัวอักษร. ที่เป็นพระสูตร ที่พระองค์แสดง. ท่านเองกล่าวธรรมไปตามความคิดว่าดี เป็นความคิดท่านไม่ได้ตรงตามพระองค์แสดง

ไม่จริง..อย่ามากล่าวตู่เรา..เรากล่าวธรรมเพราะเห็นด้วยปัญญาญาณ..เราเกิดญาณเห็นอริยสัจสี่..เราก็กล่าวธรรมไปเยี่ยงนั่น..ธรรมของเราคือเกิดจากการรู้ด้วยจิต..เราปฏิบัติจนเกิดญาณรู้..ไปเทียบเลยใน วิปัสนาญาณ 16 มีจริงมั้ย ญานรู้อริยสัจ อย่ามากล่าวตู่เราบิ๊กทู่..สิ่งที่เรารู้เรารู้ด้วยปัญญาญานมิใช่ใช้ความคิด..ถ้าคิดเอาไม่อาจจะมีใครสามารถกล่าวเยี่ยงเราได้..ทั้งที่ไม่อ้างตำรา..พระพุทธองค์ ทรงเป็นพยาน :b8:
ใครจะกล่าวอะไรก็กล่าวได้มิจฉามรรคมีอยู่. ท่านกล่าวธรรมไม่ตรงต่อที่พระองค์แสดง. การสะสมสุตตะนั้นต้องมากหน่อยถึงจะเข้าใจตรง. ความรู้เราเป็นสาวกจะต้องเกิดจากการได้ยินได้ฟังมามาก. ส่วนวิปีสนาญาณอะไรที่ท่านคิดว่าใช่ก็ขอให้ใช่ตามนั้นจะได้หลุดพ้นจากความทุกข์ได้ทั่วหน้ากัน

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 257 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 18  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 152 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร