ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ความเข้าใจเรื่องนิพพาน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=47501 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | รสมน [ 25 มี.ค. 2014, 08:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
ถ้าเป็น ปรมัตถบารมี เราจะเห็นว่าอันดับแรก อาจจะยังไม่มีความเข้าใจเรื่องนิพพาน พอสัมผัสวิปัสสนาญาณขั้นเล็กน้อยพอสมควร อาศัยบารมีเก่าเพิ่มพูนหนุนขึ้นมาก็มีความต้องการเรื่องพระนิพพาน พวกที่จิตหวังนิพพานนี่จะไปชาตินี้ได้หรือไม่ได้ไม่สำคัญ เพราะการหวังนิพพานกันจริง ๆ ต้องหวังกันหลายชาติจ นกว่าบารมีที่เป็นปรมัตถบารมีจะสมบูรณ์แบบ คือต้องหวังหลาย ๆ ชาติ ถ้าจิตหวังพระนิพพานจริง ๆ พวกนี้ก็มีหวัง ที่เรียกว่ามีบารมีเป็น ปรมัตถบารมี • ธรรมโอวาทพระราชพรหมยาน : หลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี • ::การเทียบบารมี บารมีเขาจัดเป็น ๓ ชั้น • ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน • ....ความจริง “ตายแล้วไม่สูญ” และ “ตายแล้วไปไหน” นี้ไม่น่าจะเป็นที่ข้องใจของท่านเลย เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วอย่างละเอียดว่า เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ทางที่ไปก็มี ๕ สายคือ ๑) อบายภูมิ ได้แก่เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย และเป็นสัตว์เดรัจฉาน ๒) เกิดเป็นมนุษย์ ๓) เกิดเป็นเทวดาหรือนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ ๔) เกิดเป็นพรหม ๕) ไปพระนิพพาน ท่านที่ตายแล้วจะไปเกิดที่ใด พระพุทธเจ้าก็ตรัสบอกเหตุที่จะไปเกิดไว้ครบถ้วนตามกฎของกรรมคือการกระทำ ได้แก่ความประพฤติดีหรือชั่วในสมัยที่เกิดเป็นมนุษย์นี้เอง กฎของกรรมหรือความประพฤติดีหรือชั่วที่จะพาไปเกิดในที่ใดที่หนึ่ง ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ ๕ ทางนั้น ท่านว่าไว้อย่างนี้ • พระราชพรหมยาน : หลวงพ่อฤาษี(ลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี • เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ • ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างอาคารวิริยะชัยวัดธรรมมงคล • เพื่อเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม สถานที่สำหรับการสอนความรู้ทางพุทธศาสนา สถานที่ก่อสร้างอาคาร วัดธรรมมงคล สุขุมวิท101 กรุงเทพมหานครฯ สามารถร่วมสร้างบุญเพิ่มบารมี ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขา สุขุมวิท64 ชื่อบัญชี วัดธรรมมงคล เลขที่บัญชี 017-1-349008 |
เจ้าของ: | asoka [ 25 มี.ค. 2014, 10:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
![]() อ้างคำพูด: เพราะการหวังนิพพานกันจริง ๆ ต้องหวังกันหลายชาติจ นกว่าบารมีที่เป็นปรมัตถบารมีจะสมบูรณ์แบบ คือต้องหวังหลาย ๆ ชาติ ถ้าจิตหวังพระนิพพานจริง ๆ พวกนี้ก็มีหวัง ที่เรียกว่ามีบารมีเป็น ปรมัตถบารมี ![]() ![]() ![]() ![]() ก็ไม่มีใครมีอิทธิวิธีที่จะล่วงรู้ย้อนหลังไปในอดีตได้ว่า ได้ปารถนา อธิษฐาน ถึงพระนิพพานมาแล้วกี่ชาติอาจเพิ่งมาเริ่มอธิษฐานในชาตินี้ หรืออธิษฐานมานับชาติไม่ถ้วนแล้วก็ได้ ชาตินี้จึงมีโอกาสได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังข้อธรรมคำสอนอันถูกต้องของพระบรมศาสดา ได้เรียนรู้วิชาวิปัสสนาภาวนา อริยสัจ 4 มรรค 8 อนัตตา ดังนั้นเมื่อโชคดีมีโอกาสได้มาพบเห็นทางดำเนินไปภายใต้คำสอนของพระบรมศาสดาอย่างถูกต้องเช่นนี้แล้ว อย่าพึงได้ไปวิตกกังวลกับเรื่องที่ได้หวังไว้ไม่ได้หวังไว้อย่างไร แต่พึงตั้งความเพียร เจริญธรรมไปตามหลักแห่งสัมมัปธาน 4 หรือ สัมมาวายามะ ให้เต็มกำลัง ทำให้ให้เต็มที่ แล้วผลเขาอาจเกิดขึ้นได้ทันในชาติปัจจุบันนี้ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 25 มี.ค. 2014, 23:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
รสมน เขียน: ถ้าเป็น ปรมัตถบารมี เราจะเห็นว่าอันดับแรก อาจจะยังไม่มีความเข้าใจเรื่องนิพพาน พอสัมผัสวิปัสสนาญาณขั้นเล็กน้อยพอสมควร อาศัยบารมีเก่าเพิ่มพูนหนุนขึ้นมาก็มีความต้องการเรื่องพระนิพพาน พวกที่จิตหวังนิพพานนี่จะไปชาตินี้ได้หรือไม่ได้ไม่สำคัญ เพราะการหวังนิพพานกันจริง ๆ ต้องหวังกันหลายชาติจนกว่าบารมีที่เป็นปรมัตถบารมีจะสมบูรณ์แบบ ..... ข้อความนี้....แสดงว่า...คนที่นึกอยากจะไปชาตินี้....ก็แสดงว่าบารมีพอไปได้แล้ว....ไม่งั้นบุญบารมีเก่าๆ...ไม่มาเตือนให้คิดเช่นนี้หรอก... แต่จะไปได้จริงมั้ยหรือไม่ได้...ก็ขึ้นกับกรรม..ณ. ปัจจุบัน..ที่ตัวเองทำ...เป็นตัวกำหนด... |
เจ้าของ: | asoka [ 26 มี.ค. 2014, 07:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
![]() ปัจจุบันหรือปัจจุบันอารมณ์จึงสำคัญยิ่งนักสำหรับนักปฏิบัติผู้อธิษฐาน "นิพพานปัจจัยโย โหตุ" มานับชาติไม่ถ้วน สัมมาวายามะ กับปัจจุบันอารมณ์ จึงเป็นคำพูดสั้นๆที่น่าสนใจอีกคำหนึ่ง แทนคำว่า "เจริญสติปัฏฐาน 4 มรรค 8 วิปัสสนาภาวนา" ![]() ![]() |
เจ้าของ: | walaiporn [ 26 มี.ค. 2014, 09:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
ผัสสะที่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิด และ รู้สึกเฉยๆ ความรู้ชัดในสภาวะผัสสะที่เกิดขึ้นตรงนี้ ยังไม่รู้เลยว่า เพราะอะไรเป็นเหตุปัจจัย ที่ทำให้เกิดขึ้น แบบนั้น นับประสาอะไร เรื่อง นิพพาน ที่กล่าวมา มีแต่น้อมเอา คิดเอาเอง สร้างสัทธรรมปฏิรูปให้เกิดขึ้นเนืองๆ มีแต่การแสดง ความยึดมั่นถือมั่น ในทิฏฐิ ที่คิดว่า ตนรู้ตนเห็น มีแต่สัญญา หาใช่ปัญญา ที่นำไปกระทำเพื่อดับเหตุของการเกิด เห็นแต่การกระทำ ที่เป็นเหตุของการสร้างเหตุของเกิด มากกว่า การกระทำ ที่เป็นการดับเหตุของการเกิด |
เจ้าของ: | asoka [ 26 มี.ค. 2014, 16:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
![]() อ้างคำพูด: ยังไม่รู้เลยว่า เพราะอะไรเป็นเหตุปัจจัย ที่ทำให้เกิดขึ้น แบบนั้น ![]() ![]() เอาอะไรมาตัดสินว่าไม่รู้....มีเจโตหรือ รู้ ไม่รู้เป็นเรื่องเฉพาะตัว ใครจะมาเห็นได้ ไม่อย่างนั้นท่านไม่เรียกว่า "ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหีติ" ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 26 มี.ค. 2014, 17:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
เขาว่าเรา....ไม่รู้.... นั้นก็ถูกแล้ว.....เพราะถ้ารู้...คงไม่มานั้งจ้ออยู่แถวนี้.... ถ้ารู้....ว่ายังมีเหตุปัจจัย...ทำให้คาภพ....คงต้องเร่งรีบ..ไม่มีอารมณ์ทำกิจอื่น ถ้ารู้...ว่าหมดเหตุปัจจัย...ไม่มีภพ....ก็คงไม่มีอารมณ์มาทำอะไรที่สาระน้อยอย่างนี้ ผมก็ไม่รู้.... ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 26 มี.ค. 2014, 21:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
กบนอกกะลา เขียน: เขาว่าเรา....ไม่รู้.... นั้นก็ถูกแล้ว.....เพราะถ้ารู้...คงไม่มานั้งจ้ออยู่แถวนี้.... ถ้ารู้....ว่ายังมีเหตุปัจจัย...ทำให้คาภพ....คงต้องเร่งรีบ..ไม่มีอารมณ์ทำกิจอื่น ถ้ารู้...ว่าหมดเหตุปัจจัย...ไม่มีภพ....ก็คงไม่มีอารมณ์มาทำอะไรที่สาระน้อยอย่างนี้ ผมก็ไม่รู้.... ![]() ![]() อ้างคำพูด: ถ้ารู้.....คงไม่มานั้งจ้ออยู่แถวนี้ ่คิดตัดช่องน้อยแต่พอตัวอย่างนี้ น่าเสียดาย ขาดเมตตาไปหน่อยหรือเปล่าครับคุณกบ ![]() ![]() อ้างคำพูด: .ถ้ารู้....ว่ายังมีเหตุปัจจัย...ทำให้คาภพ....คงต้องเร่งรีบ..ไม่มีอารมณ์ทำกิจอื่น งานหลักคือทำให้ภพชาติเหลือน้อยที่สุดหรือหมดภพชาติ นี่เป็นภาระกิจและหน้าที่ของชาวพุทธอยู่แล้ว เร่งรีบทำนั้นดีที่สุด แต่ถ้าเร่งไม่ขึ้นเพราะอดีตวิบากมาหน่วง ลานธรรมจักรนี้ก็เป็นที่พักผ่อนใจ ได้พบมิตรสหายที่เดินบนเส้นทางเดียวกัน ได้แชร์ธรรมทัศนะกัน ไม่ดีหรือครับ ![]() อ้างคำพูด: ถ้ารู้...ว่าหมดเหตุปัจจัย...ไม่มีภพ....ก็คงไม่มีอารมณ์มาทำอะไรที่สาระน้อยอย่างนี้ อืม!......พึ่งจะทราบว่ามีคนเห็นว่าการสนทนาธรรมแชร์ธรรมะกันในลานธรรมจักรแห่งนี้ มีสาระน้อย น่าเสียดาย ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 26 มี.ค. 2014, 22:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
![]() มานั่งจ้อ...แทนที่จะทำกิจสี่ควรทำนี้..เขาไม่เรียกเมตตาหรอก.....ถูกมารมานะ....มารอุทธัตจะ...หลอกให้แล้ว อิอิ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 26 มี.ค. 2014, 22:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
และ..ถ้าการสอนกันในเวป..หรือในลานแห่งนี้ก็ตาม...มีแก่นสารสาระมาก....เกิดผลใหญ่... .ผู้หมดกิเลสแล้วก็คงเข้ามาสอนกันเต็มลานแล้วละ..อิอิ... ![]() เมื่อมันไม่จริง..ก็แค่ยอมรับซะ... ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 27 มี.ค. 2014, 06:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
อ้างคำพูด: • ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน • ....ความจริง “ตายแล้วไม่สูญ” และ “ตายแล้วไปไหน” นี้ไม่น่าจะเป็นที่ข้องใจของท่านเลย เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วอย่างละเอียดว่า เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ทางที่ไปก็มี ๕ สายคือ ๑) อบายภูมิ ได้แก่เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย และเป็นสัตว์เดรัจฉาน ๒) เกิดเป็นมนุษย์ ๓) เกิดเป็นเทวดาหรือนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ ๔) เกิดเป็นพรหม ๕) ไปพระนิพพาน ท่านที่ตายแล้วจะไปเกิดที่ใด พระพุทธเจ้าก็ตรัสบอกเหตุที่จะไปเกิดไว้ครบถ้วนตามกฎของกรรมคือการกระทำ ได้แก่ความประพฤติดีหรือชั่วในสมัยที่เกิดเป็นมนุษย์นี้เอง กฎของกรรมหรือความประพฤติดีหรือชั่วที่จะพาไปเกิดในที่ใดที่หนึ่ง ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ ๕ ทางนั้น ท่านว่าไว้อย่างนี้ • พระราชพรหมยาน : หลวงพ่อฤาษี(ลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี • • นิพพานเป็นหนทางที่ตายแล้วไม่เกิดอีก |
เจ้าของ: | asoka [ 27 มี.ค. 2014, 12:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
กบนอกกะลา เขียน: และ..ถ้าการสอนกันในเวป..หรือในลานแห่งนี้ก็ตาม...มีแก่นสารสาระมาก....เกิดผลใหญ่... .ผู้หมดกิเลสแล้วก็คงเข้ามาสอนกันเต็มลานแล้วละ..อิอิ... ![]() เมื่อมันไม่จริง..ก็แค่ยอมรับซะ... ![]() ![]() ![]() ![]() คุณกบเข้าใจคำว่า แชร์ธรรมะ หรือแบ่งปันธรรมะกันไหมครับ พี่รู้ 2 น้องรู้ 1 บวกกันก็ได้ 3 แล้ว ทางเดินข้างหน้ายังยาวไกล ถ้ามักน้อย สันโดษ ก็ดุ่ม เด้า เดินเดี่ยว ด้นดั้นไป ใครจะไปว่าอะไรเล่า กบจะตั้งใจทำความเพียรอุกฤษ ก็หายไปจากลานธรรมจักร สักพักผู้คนก็จะลืมชื่อนี่ไป ไม่มีใครสำคัญ ผู้มีชื่อเสียงก้องโลกหลายท่าน ที่ชื่อหายไปในกระแสเกลีวคลื่นแห่งกาลเวลา อโศกะเองก็ไม่อยู่นอกเหนือจากกฏเกณฑ์อันนี้ ชีวิตนี้น้อยนัก มีเวลาเพียงเท่ากับน้ำค้างบนยอดหญ้าในยามเช้า จะทำอะไรก็รีบเร่งทำให้สำเร็จ นั่งแทนทั้งทางโลกและทางธรรมแล้ว ก็สบายใจ ไม่ทุรนทุราย ทุกข์ เดือดร้อนเพราะสิ่งใด จะทำอะไร ไม่ทำอะไร ก็ไม่มีความแตกต่าง ในเมื่อกลางวันกลางคืนมันเท่ากันเสียแล้ว |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 27 มี.ค. 2014, 13:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
สงสาร...แต่พวก..ที่คิดว่านั่งแท่นได้แล้ว..นี้ซี... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 27 มี.ค. 2014, 20:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
กบนอกกะลา เขียน: :b32: มานั่งจ้อ...แทนที่จะทำกิจสี่ควรทำนี้..เขาไม่เรียกเมตตาหรอก.....ถูกมารมานะ....มารอุทธัตจะ...หลอกให้แล้ว อิอิ ![]() ![]() ![]() คุณกบก็ถูกมารมันหลอกมาด้วยละสิ เพราะเห็นจ้ออยู่ในลานธรรมจักรนี้ตั้งนาน ก่อนอโศกะเสียอีกละมั้ง คนที่มาจ้ออยู่ในนี้ ไม่ดีกว่าคนที่เอาเวลาไปจ้อ ในวงไพ่ วงพนัน วงการเมืองหรือกิจโลกอื่นๆ ยังงั้นหรือครับ ใจคอ กบ จะให้คนดี ต้องเข้าป่า ปิดวาจา ทำตัวเป็นฤาษี หนีหน้าโลกและผู้คน ไม่สน ไม่แส่ ไม่แหย่เย้าใคร อย่างงั้นเจียวหรือครับ......ไม่ใจดำไปหน่อยหรือครับ สะเป๊กคนดีของกบ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 27 มี.ค. 2014, 20:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจเรื่องนิพพาน |
กบนอกกะลา เขียน: สงสาร...แต่พวก..ที่คิดว่านั่งแท่นได้แล้ว..นี้ซี... ![]() ![]() ![]() ![]() อย่ามัวจมอยู่กับความสงสาร จนไม่ทันขึ้นรถด่วนขบวนสุดท้ายที่จะพาไปบ้านที่แท้จริงล่ะ ![]() ใครเขาจะนั่งแท่นได้ไม่นั่งแท่นได้ เป็นปัจจัตตังของใครของมัน กบ ไปยุ่งอะไรกับเขาด้วยเล่า อย่าพยายามแกว่งเท้าไปหาเสี้ยน เน้อ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |