วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 21:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2014, 06:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


บางคนเข้าใจว่าการทำบุญนั้นจะต้องเป็นการบริจาคทรัพย์และสิ่งของเท่านั้น
จึงจะเรียกว่าเป็นการทำบุญ จึงได้มุ่งเน้นเรื่องการบริจาคทรัพย์ ถ้าคิดดังนั้นแล้ว
คนที่ไม่มีเงินหรือมีเงินน้อยก็หมดโอกาสที่จะทำบุญสร้างกุศลได้
หรือหมดโอกาสทำบุญอย่างคนอื่นที่มีเงิน ซึ่งการทำบุญโดยใช้เงินทำบุญนั้น
เป็นหนึ่งในวิธีการทำบุญสิบอย่างเท่านั้น (ดูเรื่องบุญกิริยาวัตถุ ๑๐)
การทำบุญด้วยเงินเป็นการทำให้ผู้ทำรู้จักเสียสละทรัพย์ของตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น
ละความตระหนี่ถี่เหนียว ละความเห็นแก่ตัว และละความโลภลงได้

บางคนหลงภูมิใจเข้าใจว่าทำบุญทำทานด้วยเงินที่ตนมีมากมายในชีวิตนี้
และได้ทุ่มเททำบุญทำทานด้วยเงินมากมายขนาดนี้จึงถือว่าเป็นบุญที่มากมายมหาศาล
หาใครจะมาทำบุญมากเท่าตนมิได้ โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเงินทำบุญจะมาแข่งวาสนาบารมี
ในเรื่องการทำบุญไม่ได้ แต่ตนไม่ได้สร้างบุญอย่างอื่นเลย เช่น รักษาศีล ฟังธรรม ทำสมาธิ เป็นต้น
จึงเป็นความเข้าใจผิดสำหรับผู้ที่นิยมทำบุญสร้างกุศลด้วยการใช้เงิน และคิดว่าเงินนั้นซื้อบุญได้
เงินนั้นแลกเปลี่ยนเป็นบุญได้

นอกจากการทำบุญที่ต้องใช้เงินแล้วยังมีการทำบุญสร้างกุศลโดยไม่ต้องใช้เงินอีก ๙ วิธี
คนจนคนมีเงินน้อยก็มีสิทธิ์มีโอกาสทำบุญทำกุศลมากมายหลายอย่างที่ไม่ต้องใช้เงินอย่างคนรวย
เขาทำกัน บุญอีก ๙ อย่าง (คือบุญกริยาวัตถุ ๑๐ ข้อ ๒ ถึงข้อ ๑๐)
นั้นสูงมากกว่าบุญที่ทำทานด้วยเงินเพียงอย่างเดียว

บุญที่เป็นการบริจาคทรัพย์สิ่งของนั้น เป็นการนำเอาทรัพย์ที่มีอยู่แล้วเพื่อไปปรับให้เป็นบุญ
หรืออีกอย่างคือไปแลกบุญ บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ที่เหลืออีก ๙ ข้อจะเห็นว่าเป็นบุญที่นำเข้า
โดยมิต้องใช้ทรัพย์สิ่งของแต่อย่างใดเลย เพียงแต่กระทำให้เกิดขึ้นเท่านั้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2014, 10:08 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุค่ะ ลุงหมาน :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2014, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2014, 23:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ความจริงแล้วบุญทุกอย่างนำออกทั้งนั้น
ขณะใดกุศลเกิด ขณะนั้นก็ละอกุศล นำออกซึ่งอกุศลเสียได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2014, 18:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อนุโมทนา ค่ะ :b8:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 05:25
โพสต์: 621


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอโมทนาสาธุ :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2018, 06:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


บุญนั้นถ้าเรามีสติสัมปชัญญะจะเกิดได้ตลอดเวลา ไม่ว่า จะนั่ง จะยืน จะเดิน จะนอน

บุญ หมายถึง การกระทำความดี ซึ่งตรงกันข้ามกับกระทำความชั่ว
บุญ มาจากภาษาบาลีคือคำว่า ปุญญะ แปลว่า เครื่องชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์
การชำระจิตใจจากเครื่องเศร้าหมองทั้งหลายโลภะ โทสะ หรือโมหะ

บุญ หมายถึง ความดี เป็นชื่อของความสุข ผู้ที่ปรารถนาจำต้องรู้ว่าอะไรเป็นบุญ
จะได้ทำให้สำเร็จผลสมความมุ่งหมาย ผู้ที่ทำตามๆ กันมาไม่รู้ว่าอะไรเป็นบุญ
จะทำให้ถูกต้องไม่ได้ แม้จะทำด้วยความงมงาย ก็ไม่นำให้สำเร็จประโยชน์

เพราะฉะนั้น ผู้ปรารถนาจะทำบุญจึงต้องรู้ว่า บุญมีลักษณะเป็นอย่างไร
ถ้าทำแล้วไม่อาจชำระจิตให้ผ่องใส หรือไม่นำให้เกิดความฉลาดว่า สิ่งนี้ดี
สิ่งนี้ไม่ดี ก็ไม่จัดว่า เป็นบุญ แต่เมื่อสามารถจะชำระจิตให้บริสุทธิ์

และนำให้เกิดความฉลาด รู้จักผิดชอบ จึงจัดว่า เป็นบุญ สิ่งที่จะชำระจิตของคนให้บริสุทธิ์
อันเสมอด้วยความดีย่อมไม่มี สิ่งอื่นชำระได้เพียงภายนอกเท่านั้น แต่ความดีเป็นสิ่งชำระใจ
เมื่อใจบริสุทธิ์แล้ว อาการภายนอก คือ กิริยาวาจา ก็บริสุทธิ์ตามไปด้วย

เมื่อได้พิจารณาแล้วรู้ว่า บุญ เป็นสิ่งที่ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์
พึงสร้างความดีตามความรู้ ความสามารถที่ตนเองจะกระทำได้ จึงจะชื่อว่าได้บุญอย่างแท้จริง
การกระทำเช่นนี้เป็นบุญที่นำเข้าสถานเดียว บางคนมักลืมบุญที่จะเกิดขึ้นกับเรา แต่เรากลับไม่ให้เกิด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 189 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร