ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ศีล 5 โสดาบัน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=47124 |
หน้า 9 จากทั้งหมด 24 |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 มี.ค. 2014, 23:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
หลักฐานนี้ตกไป.... มีหลักฐานใหม่มั้ย?...ครับ....อโสกะ |
เจ้าของ: | ลูกพระป่า [ 22 มี.ค. 2014, 00:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
กบนอกกะลา เขียน: asoka เขียน: ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน บุคคลผู้มีเมตตา ไม่เข้ายึดถือทิฏฐิ เป็นผู้มีศีล ถึงพร้อมแล้วด้วยทัศนะ ( คือโสดาปัตติมรรค) กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ ย่อมไม่ถึงความนอน(เกิด) ในครรภ์อีก โดยแท้ทีเดียว ก็ยังคงยืนยันอย่างนี้ไปเรื่อยๆก่อน จนกว่าจะมีผู้แสดงหลักฐานว่าพระโสดาบันกลับมาเกิดในโลกมนุษย์นี้อีก กรณียเมตตาสูตร ก็ต้องนับว่าเป็นสูตรที่สำคัญ จะเป็นพุทธพจน์หรือไม่ผมไม่อาจทราาบได้ แต่หลักฐานโดยธรรมเขาบอกไว้ชัดดีนะครับ อุตส่ายืนยัน...มาอย่างดี....แต่ก็มาตกม้าตายกับคำยืนยันของตัวเอง..ซะแล้ว..อิอิ ..... กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก ...... เอากาม..ออกได้....นี้เลยโสดาบันไปแล้วละอโสกะเอ๋ย.... ปฏิฆะ..เกิดเพราะมีคนมาขัด...กามตัญหา..ภวตัญหา...วิภาวตัญหา...แห่งตน ดังนั้น..ตัดกามได้....ปฏิฆะย่อมเบาบางไปอักโขแล้ว.... อย่างน้อย..ก็อนาคามีมรรค...แล้วละอโสกะ...เลยโสดาบันไปไกลแล้ว.. ไล่อ่านตรงที่พี่อโสกะเอาพระสูตรมาลง ก็คิดอยู่ว่าจะมีใครเห็นและเอามาพูดบ้างนะ สุดท้ายก็เป็นพี่กบนอกกะลา นี่เองที่เห็นในท่อนสุดท้ายเหมือนกัน ถ้าให้ผมเดานะผมว่าพี่กบอ่านถึงตรงนี้แล้วปิ้งขึ้นมาเลยใช่มั้ยครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 มี.ค. 2014, 00:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
มันทิ่มลูกกะตา...เข้าให้.. อิอิ... |
เจ้าของ: | ลูกพระป่า [ 22 มี.ค. 2014, 00:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
แล้วตัวของเราจะล่วงรู้ได้มั้ยว่าเราบรรลุความเป็นโสดาบันรึยัง... คำตอบคือ ไม่ได้...จนกว่าตัวเรานั้นจะบรรลุถึงความสิ้นไปแห่งกามคุณหรือเข้าถึงอนาคามีนั่นแหละ...มั้งครับ? |
เจ้าของ: | asoka [ 22 มี.ค. 2014, 13:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
ลูกพระป่า เขียน: กบนอกกะลา เขียน: asoka เขียน: ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน บุคคลผู้มีเมตตา ไม่เข้ายึดถือทิฏฐิ เป็นผู้มีศีล ถึงพร้อมแล้วด้วยทัศนะ ( คือโสดาปัตติมรรค) กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ ย่อมไม่ถึงความนอน(เกิด) ในครรภ์อีก โดยแท้ทีเดียว ก็ยังคงยืนยันอย่างนี้ไปเรื่อยๆก่อน จนกว่าจะมีผู้แสดงหลักฐานว่าพระโสดาบันกลับมาเกิดในโลกมนุษย์นี้อีก กรณียเมตตาสูตร ก็ต้องนับว่าเป็นสูตรที่สำคัญ จะเป็นพุทธพจน์หรือไม่ผมไม่อาจทราาบได้ แต่หลักฐานโดยธรรมเขาบอกไว้ชัดดีนะครับ อุตส่ายืนยัน...มาอย่างดี....แต่ก็มาตกม้าตายกับคำยืนยันของตัวเอง..ซะแล้ว..อิอิ ..... กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก ...... เอากาม..ออกได้....นี้เลยโสดาบันไปแล้วละอโสกะเอ๋ย.... ปฏิฆะ..เกิดเพราะมีคนมาขัด...กามตัญหา..ภวตัญหา...วิภาวตัญหา...แห่งตน ดังนั้น..ตัดกามได้....ปฏิฆะย่อมเบาบางไปอักโขแล้ว.... อย่างน้อย..ก็อนาคามีมรรค...แล้วละอโสกะ...เลยโสดาบันไปไกลแล้ว.. ไล่อ่านตรงที่พี่อโสกะเอาพระสูตรมาลง ก็คิดอยู่ว่าจะมีใครเห็นและเอามาพูดบ้างนะ สุดท้ายก็เป็นพี่กบนอกกะลา นี่เองที่เห็นในท่อนสุดท้ายเหมือนกัน ถ้าให้ผมเดานะผมว่าพี่กบอ่านถึงตรงนี้แล้วปิ้งขึ้นมาเลยใช่มั้ยครับ กาเมสุ กับอพรหมจริยา นี่ความหมายต่างกันเยอะเลยนะ อย่าพึ่งกระหยิ่มใจไปกับคำแปลที่ไม่ละเอียดอ่อนเลย พระโสดาบัน ไม่ล่วงศีลข้อกาเม แต่ยังไม่ถึงขั้นอพรหมจริยา เพราะยังเสพกามกับสามีภรรยาอยู่ ดูในวงเล็บข้างล่างซิท่านบอกว่า (โสดาปัตติมรรค) สงสัยจะพากันตกควายตายเสียมากกว่าละกระมัง กบ กับ ลูกพระป่า |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 มี.ค. 2014, 21:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
1. ใครเป็นผู้ไปวงเล็บครับ 2. ทำไมอโสกะ...จึงเอา...คำว่า...กาม....ไปเป็นศีลข้อ3 ละครับ...ทั้งๆที่..คำก่อนหน้านี้เป็นการกล่าวถึงสังโยชน์ 1.2. 3 แต่พอ...เอากามออกได้...อโสกะกลับดึงไปเรื่องศีล..ซะนี้ 3. ถ้าพูดถึงศีล..ข้อ3 จริง...ทำไมจึงกล่าวเพียงศีลข้อเดียวละครับ..อโสกะ...ทำไม่กล่าวถึงศีลข้อ..ลักทรัพย์..พูดปด...เสพของมึนเมา....ด้วยละ แปลกมั้ย? นี้ก็แสดงชัดเจนว่า..ไม่ได้กล่าวถึงศีล...เข้าใจยังครับ..อโสกะ |
เจ้าของ: | asoka [ 22 มี.ค. 2014, 22:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
กบนอกกะลา เขียน: 1. ใครเป็นผู้ไปวงเล็บครับ 2. ทำไมอโสกะ...จึงเอา...คำว่า...กาม....ไปเป็นศีลข้อ3 ละครับ...ทั้งๆที่..คำก่อนหน้านี้เป็นการกล่าวถึงสังโยชน์ 1.2. 3 แต่พอ...เอากามออกได้...อโสกะกลับดึงไปเรื่องศีล..ซะนี้ 3. ถ้าพูดถึงศีล..ข้อ3 จริง...ทำไมจึงกล่าวเพียงศีลข้อเดียวละครับ..อโสกะ...ทำไม่กล่าวถึงศีลข้อ..ลักทรัพย์..พูดปด...เสพของมึนเมา....ด้วยละ แปลกมั้ย? นี้ก็แสดงชัดเจนว่า..ไม่ได้กล่าวถึงศีล...เข้าใจยังครับ..อโสกะ ทำไมบาลีท่านถึงพูดแค่เพียงว่า "กาเมสุ วิเนยยะเคธัง"....ท่านไม่ได้บอกว่า "อะพรหมจริยา วิเนยยะเคธัง"หรอกนะลองสังเกตดูให้ดีๆ พึงพิจารณาให้ดี เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจเราก็ลองเอาไปเทียบกับการสมาทานศีล 5 กับการสมาทานศีล 8 ศีล 5 ท่านกล่าวว่า กาเมสุมิจฉาจาร....อันมีความหมายเพียงแค่การประพฤติผิดในกาม คือเสพผิดคู่ ท่านให้ห้ามเสีย ส่วนศีล 8 นั้นท่านสมาทานว่า "อะพรหมจริยา เวรมณี" ...อันมีความหมายว่าเว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์ คืองดเสพกาม อย่างนี้จึงจะหมายถึงพระอนาคามีได้ กลับไปอ่านทบทวนกรณียเมตตาสูตรท่อนท้ายๆสังเกต พิจารณา ใคร่ครวญธรรม วิจัยธรรมตามไปด้วยให้ดีๆ จึงจะเห็นถึงความลึกซึ้งของเรื่องนี้ (โสดาปัตติมรรค) ....ผู้แปล เป็นผู้วงเล็บ เพื่อป้องกันคนไม่รู้จริงตีความผิดพลาดยังไงล่ะครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 มี.ค. 2014, 22:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
ที่ไม่พูดว่า..อพรมจาริยา...ก็เพราะ..ท่านไม่ได้พูดเรื่องศีล..ในวรรคนี้นะซิอโสกะ....ท่านพูดเรื่องสังโยชน์ต่างหาก... ผมบอกแล้วว่าไม่ได้พูดเรื่องศีล....ไม่งั้นก็ต้องพูดถึงศีลข้ออื่นๆ..ด้วยซิ เอ้า..อโสกะไม่แปลกใจหรือ...ว่า..ทำไมไม่พูดถึงศีลข้ออื่นด้วย? |
เจ้าของ: | asoka [ 22 มี.ค. 2014, 22:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
กบนอกกะลา เขียน: ที่ไม่พูดว่า..อพรมจาริยา...ก็เพราะ..ท่านไม่ได้พูดเรื่องศีล..ในวรรคนี้นะซิอโสกะ....ท่านพูดเรื่องสังโยชน์ต่างหาก... ผมบอกแล้วว่าไม่ได้พูดเรื่องศีล....ไม่งั้นก็ต้องพูดถึงศีลข้ออื่นๆ..ด้วยซิ เอ้า..อโสกะไม่แปลกใจหรือ...ว่า..ทำไมไม่พูดถึงศีลข้ออื่นด้วย? กาเมสุ วิเนยยะเคธัง...เอาออกเสียได้ซึ่งความประพฤติผิดในกาม มันไม่เกี่ยวกับศีลข้อสามตรงไหน กบ มัวเล็งแต่สังโยชน์ 3 ตามตำราอยู่นั่นแหละเลยเพี้ยนธรรม ศีลข้ออื่นไม่จำเป็นต้องพูดในนี้เพราะเขาจะบริสุทธิโดยอัตโนมัติ แต่การเสพกามยังมีอยู่กับพระโสดาบันและพระสกิทาคามี ท่านจึงเน้นย้ำไว้ให้เห็นชัด เข้าใจ๋บ้อละ..... |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 มี.ค. 2014, 23:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
asoka เขียน: ศีลข้ออื่นไม่จำเป็นต้องพูดในนี้เพราะเขาจะบริสุทธิโดยอัตโนมัติ แต่การเสพกามยังมีอยู่กับพระโสดาบันและพระสกิทาคามี ท่านจึงเน้นย้ำไว้ให้เห็นชัด เข้าใจ๋บ้อละ..... ที่บอกว่า...ศีลข้ออื่นเขาจะบริสุทธิ์เองอัตโนมัต...นั้นนะ.. อิอิ.....คิดเอง....เอ่อเอง....อีกแล้วนะครับ.... กลับไปตรึกใหม่นะครับ..... |
เจ้าของ: | ลูกพระป่า [ 23 มี.ค. 2014, 01:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
ก่อนหน้านี้พูดกันเรื่องการกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกของพระโสดาบันไม่ใช่หรือครับ ทำไมกลายไปเป็นเรื่องศีลไปได้นะ ประโยคที่ว่า"นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก" ฟังยังก็ไม่ใช่หมายถึงแค่เรื่องกามเมถุนอย่างเดียวนะ แต่หมายถึงกามคุณทั้งหลายจึงจะถูก สัตว์โลกทั้งหลายที่ยังข้องแวะติดอยู่กับกามคุณไม่ว่าจะมากจะน้อย ย่อมต้องเวียนว่ายติดอยู่ในกามภพ มีเกิดแก่เจ็บตาย เป็นธรรมดา เพราะเหตุปัจจัยยังมียังคงอยู่คือ กามตัณหา จึงมีภพมีชาติตามมา หรือจะคิดตื้นๆง่ายๆก็ได้ครับ ดูพระพุทธเจ้า พระอรหันสาวกก็ได้ ท่านเหล่านั้นก่อนที่จะมาเกิดในชาติที่สำเร็จมรรคผล คงไม่ได้เกิดมาเป็นเพียงปุถุชนทุกๆชาติเป็นแน่ ดังนั้นในส่วนที่เห็นว่าพระโสดาบันจะไม่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกจึงเป็นความเห็นที่ผิดครับ |
เจ้าของ: | asoka [ 23 มี.ค. 2014, 10:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
กบนอกกะลา เขียน: asoka เขียน: ศีลข้ออื่นไม่จำเป็นต้องพูดในนี้เพราะเขาจะบริสุทธิโดยอัตโนมัติ แต่การเสพกามยังมีอยู่กับพระโสดาบันและพระสกิทาคามี ท่านจึงเน้นย้ำไว้ให้เห็นชัด เข้าใจ๋บ้อละ..... ที่บอกว่า...ศีลข้ออื่นเขาจะบริสุทธิ์เองอัตโนมัต...นั้นนะ.. อิอิ.....คิดเอง....เอ่อเอง....อีกแล้วนะครับ.... กลับไปตรึกใหม่นะครับ..... เอ้อ.....กบนี่ ช่างไม่รู้เลยว่า เมื่อโสดาปัตติผลเกิดขึ้นกับบุคคลใด ศีล 5 ของบุคคลนั้นจะกลายเป็นปกติศีล เป็นนิจศีล อาชีวบริสุทธิศีล ของท่านโดยอัตโนมัติ คือท่านจะไม่มีใจล่วงศีล 5 เป็นธรรมชาติใหม่ของท่าน |
เจ้าของ: | asoka [ 23 มี.ค. 2014, 11:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
ลูกพระป่า เขียน: ก่อนหน้านี้พูดกันเรื่องการกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกของพระโสดาบันไม่ใช่หรือครับ ทำไมกลายไปเป็นเรื่องศีลไปได้นะ ประโยคที่ว่า"นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก" ฟังยังก็ไม่ใช่หมายถึงแค่เรื่องกามเมถุนอย่างเดียวนะ แต่หมายถึงกามคุณทั้งหลายจึงจะถูก สัตว์โลกทั้งหลายที่ยังข้องแวะติดอยู่กับกามคุณไม่ว่าจะมากจะน้อย ย่อมต้องเวียนว่ายติดอยู่ในกามภพ มีเกิดแก่เจ็บตาย เป็นธรรมดา เพราะเหตุปัจจัยยังมียังคงอยู่คือ กามตัณหา จึงมีภพมีชาติตามมา หรือจะคิดตื้นๆง่ายๆก็ได้ครับ ดูพระพุทธเจ้า พระอรหันสาวกก็ได้ ท่านเหล่านั้นก่อนที่จะมาเกิดในชาติที่สำเร็จมรรคผล คงไม่ได้เกิดมาเป็นเพียงปุถุชนทุกๆชาติเป็นแน่ ดังนั้นในส่วนที่เห็นว่าพระโสดาบันจะไม่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกจึงเป็นความเห็นที่ผิดครับ อ้างคำพูด: ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน บุคคลผู้มีเมตตา ไม่เข้ายึดถือทิฏฐิ เป็นผู้มีศีล ถึงพร้อมแล้วด้วยทัศนะ ( คือโสดาปัตติมรรค) กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ ย่อมไม่ถึงความนอน(เกิด) ในครรภ์อีก โดยแท้ทีเดียว คุณลูกพระป่าพึงพิจารณาข้อความท่อนที่ยกมานี้ให้ละเอียดมากๆนะครับ เอาความหมกมุ่นในกามออก อันเป็นคุณสมบัติของพระโสดาบันและพระสกิทาคามี กับ เอากามออก ซึ่งเป็นคุณสมบัติของพระอนาคามีนั้น มันเป็นคนละอันกัน สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน........นี่แหละที่ไปเกี่ยวกับศีล ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ.......ตรงนี้จึงจะเกี่ยวกับสังโยชน์ข้อที่ 1 เป็นผู้มีศีล ถึงพร้อมแล้วด้วยทัศนะ ( คือโสดาปัตติมรรค).......ความตอนนี้แหละที่ล๊อคไว้แค่ระดับโสดาบันบุคคล |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 24 มี.ค. 2014, 00:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
อโสกะครับ.....อย่าไปเอาคำแปล...มาเป็นสรณะแล้วก็ยึดมาเป็นหลักในการวิจัยยะเลยนะครับ....มันผิดหลัก แล้วยัง...ไปยึด..เอาวงเล็บ....ว่าเป็นการล็อค....ไม่ให้คิดวิจัยยะเป็นอื่นอีก....ยิ่งตลกครับผม เอางี้....เดียวผมขยับวงเล็บให้...นะ ใครเป็นคนไปล็อคใว้รึครับ....วงเล็บ..รึ...จึงทำให้มองอะไรไม่ออก อิอิ...เดียวผมขยับให้นะ... asoka เขียน: พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวกิริยาอันนี้ว่า เป็นพรหมวิหารในพระศาสนานี้ ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน บุคคลผู้มีเมตตา ไม่เข้ายึดถือทิฏฐิ เป็นผู้มีศีล ถึงพร้อมแล้วด้วยทัศนะ กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก ( คืออนาคามีมรรค) นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ ย่อมไม่ถึงความนอน(เกิด) ในครรภ์อีก โดยแท้ทีเดียว ก็ยั เอาละ...ล็อคให้ใหม่แล้ว...ละ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 24 มี.ค. 2014, 00:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีล 5 โสดาบัน |
asoka เขียน: เอ้อ.....กบนี่ ช่างไม่รู้เลยว่า เมื่อโสดาปัตติผลเกิดขึ้นกับบุคคลใด ศีล 5 ของบุคคลนั้นจะกลายเป็นปกติศีล เป็นนิจศีล อาชีวบริสุทธิศีล ของท่านโดยอัตโนมัติ คือท่านจะไม่มีใจล่วงศีล 5 เป็นธรรมชาติใหม่ของท่าน ก็เมื่อกล่าวถึงศีลไปแล้ว....ศีลสมบูรณแล้ว.... ยังจะหวนมาบอกศีลอีกแค่ข้อเดียวทำไม...เขาไม่พิรีพิไร...กันหรอกอโสกะ....เขามีแต่กล่าวไปข้างหน้า.. |
หน้า 9 จากทั้งหมด 24 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |