ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=47107 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 07 ม.ค. 2014, 09:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
เห็นคนที่ไม่รู้จักสภาวธรรม คุยเรื่องสมถะ วิปัสสนา แล้วก็ให้นึกขำ คุยกันได้เป็นเดือนๆ คุยทั้งๆที่ไม่รู้หรอกว่า ไอ้ที่คุยมันมั่ว พิมพ์ตัวหนังสือโตเป็นกระทะใบบัว ..."ทำใจให้สงบ สยบนิวรณ์" แล้วก็ฉอดๆๆบลาๆๆๆ พูดๆๆๆทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องเลย บางที่เราเข้าไปแสดงความเห็น เพื่อให้รู้ตัวว่าหลักธรรมแท้ๆเป็นอย่างไร กลับเจ้อคำพูดที่เพ้อเจ้อฟุ้งคารมและสาปแช่ง บางครั้งเจอคำพูดพวกนี้มากๆ อาจทำให้เราเป๋ไปได้เหมือนกัน ผมในบางขณะยังหลงเอาฌานมาเป็นสมถะเลย สมถะเป็นอย่างไร ฌานเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่คนมักจะเข้าใจผิดว่า ฌานเป็นสมถะ ที่สำคัญคิดว่าวิธีทำฌาน นั้นแหล่ะคือวิธีการทำสมถะ เลยเอาการทำฌานมาแก้นิวรณ์ โดยเข้าใจว่าเป็นสมถะ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า หลักการทำสมถะมีไว้เพื่อแก้นิวรน์ เหตุนี้เราก็ต้องเอานิวรณ์เป็นหลัก นั้นหมายความว่า เราจะทำสมถะก็ต่อเมื่อ มีนิวรณ์มารบกวนจิตใจ การทำสมถะไม่ได้หมายความว่า ต้องทำควบคู่กับวิปัสสนา หรือทำก่อน ทำหลังวิปัสสนา สมถะทำได้ตลอดเวลาแม้กระทั้งในชีวิตประจำวัน สมถะมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานที่ต้องใช้สมาธิ เช่น คนขับรถรับจ้าง ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ฯลฯ นี่เป็นการเกริ่นนำ แล้วจะมาบอกว่า หลักการปฏิบัติที่เป็นสมถะจริงๆเป็นอย่างไร ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 07 ม.ค. 2014, 10:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
เอาอีกแระๆ เล่นของสูงอีกแระ บอกให้ไหว้พระสวดมนต์ ปลูกสวนสาธารณะ ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 07 ม.ค. 2014, 10:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
กรัชกาย เขียน: เอาอีกแระๆ เล่นของสูงอีกแระ บอกให้ไหว้พระสวดมนต์ ปลูกสวนสาธารณะ ![]() กินเครื่องเส้นไปแล้ว ยังสะแหล่นเข้ามาอีก ผ่านวงสายศีลมาได้ยังไง แบบนี้เดียวเจอข้าวสารเสก ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 07 ม.ค. 2014, 10:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
โฮฮับ เขียน: กรัชกาย เขียน: เอาอีกแระๆ เล่นของสูงอีกแระ บอกให้ไหว้พระสวดมนต์ ปลูกสวนสาธารณะ ![]() กินเครื่องเส้นไปแล้ว ยังสะแหล่นเข้ามาอีก ผ่านวงสายศีลมาได้ยังไง แบบนี้เดียวเจอข้าวสารเสก ![]() รู้เข้าใจ แก้ปัญหาเช่นนี้ได้ ค่อยพูดถึง สมถะ วิปัสสนา ค่อยพูดถึงกรรมฐานแบบต่างๆ |
เจ้าของ: | amazing [ 07 ม.ค. 2014, 10:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
โฮฮับ เขียน: เห็นคนที่ไม่รู้จักสภาวธรรม คุยเรื่องสมถะ วิปัสสนา แล้วก็ให้นึกขำ โฮฮับรุ้เหรอสมถะเป็นยังไง หรือนึกเอา
คุยกันได้เป็นเดือนๆ คุยทั้งๆที่ไม่รู้หรอกว่า ไอ้ที่คุยมันมั่ว พิมพ์ตัวหนังสือโตเป็นกระทะใบบัว ..."ทำใจให้สงบ สยบนิวรณ์" แล้วก็ฉอดๆๆบลาๆๆๆ พูดๆๆๆทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องเลย บางที่เราเข้าไปแสดงความเห็น เพื่อให้รู้ตัวว่าหลักธรรมแท้ๆเป็นอย่างไร กลับเจ้อคำพูดที่เพ้อเจ้อฟุ้งคารมและสาปแช่ง บางครั้งเจอคำพูดพวกนี้มากๆ อาจทำให้เราเป๋ไปได้เหมือนกัน ผมในบางขณะยังหลงเอาฌานมาเป็นสมถะเลย สมถะเป็นอย่างไร ฌานเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่คนมักจะเข้าใจผิดว่า ฌานเป็นสมถะ ที่สำคัญคิดว่าวิธีทำฌาน นั้นแหล่ะคือวิธีการทำสมถะ เลยเอาการทำฌานมาแก้นิวรณ์ โดยเข้าใจว่าเป็นสมถะ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า หลักการทำสมถะมีไว้เพื่อแก้นิวรน์ เหตุนี้เราก็ต้องเอานิวรณ์เป็นหลัก นั้นหมายความว่า เราจะทำสมถะก็ต่อเมื่อ มีนิวรณ์มารบกวนจิตใจ การทำสมถะไม่ได้หมายความว่า ต้องทำควบคู่กับวิปัสสนา หรือทำก่อน ทำหลังวิปัสสนา สมถะทำได้ตลอดเวลาแม้กระทั้งในชีวิตประจำวัน สมถะมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานที่ต้องใช้สมาธิ เช่น คนขับรถรับจ้าง ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ฯลฯ นี่เป็นการเกริ่นนำ แล้วจะมาบอกว่า หลักการปฏิบัติที่เป็นสมถะจริงๆเป็นอย่างไร ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 07 ม.ค. 2014, 10:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
amazing เขียน: โฮฮับ เขียน: เห็นคนที่ไม่รู้จักสภาวธรรม คุยเรื่องสมถะ วิปัสสนา แล้วก็ให้นึกขำ โฮฮับรุ้เหรอสมถะเป็นยังไง หรือนึกเอาคุยกันได้เป็นเดือนๆ คุยทั้งๆที่ไม่รู้หรอกว่า ไอ้ที่คุยมันมั่ว พิมพ์ตัวหนังสือโตเป็นกระทะใบบัว ..."ทำใจให้สงบ สยบนิวรณ์" แล้วก็ฉอดๆๆบลาๆๆๆ พูดๆๆๆทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องเลย บางที่เราเข้าไปแสดงความเห็น เพื่อให้รู้ตัวว่าหลักธรรมแท้ๆเป็นอย่างไร กลับเจ้อคำพูดที่เพ้อเจ้อฟุ้งคารมและสาปแช่ง บางครั้งเจอคำพูดพวกนี้มากๆ อาจทำให้เราเป๋ไปได้เหมือนกัน ผมในบางขณะยังหลงเอาฌานมาเป็นสมถะเลย สมถะเป็นอย่างไร ฌานเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่คนมักจะเข้าใจผิดว่า ฌานเป็นสมถะ ที่สำคัญคิดว่าวิธีทำฌาน นั้นแหล่ะคือวิธีการทำสมถะ เลยเอาการทำฌานมาแก้นิวรณ์ โดยเข้าใจว่าเป็นสมถะ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า หลักการทำสมถะมีไว้เพื่อแก้นิวรน์ เหตุนี้เราก็ต้องเอานิวรณ์เป็นหลัก นั้นหมายความว่า เราจะทำสมถะก็ต่อเมื่อ มีนิวรณ์มารบกวนจิตใจ การทำสมถะไม่ได้หมายความว่า ต้องทำควบคู่กับวิปัสสนา หรือทำก่อน ทำหลังวิปัสสนา สมถะทำได้ตลอดเวลาแม้กระทั้งในชีวิตประจำวัน สมถะมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานที่ต้องใช้สมาธิ เช่น คนขับรถรับจ้าง ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ฯลฯ นี่เป็นการเกริ่นนำ แล้วจะมาบอกว่า หลักการปฏิบัติที่เป็นสมถะจริงๆเป็นอย่างไร ![]() โฮฮับรู้ป่าว เมสซิ่งถามแล้วนะ ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 07 ม.ค. 2014, 14:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
สมถะกรรมฐานนั้นท่านเอาไว้แก้นิวรณ์๕ วิธีการทำสมถะไม่ใช่การนั่งนิ่งๆเพื่อไม่ให้เกิดความคิด การทำแบบนี้มันเป็นการทำฌาน การทำสมถะจะต้องอาศัยความคิด พูดให้ชัดก็คือต้องใช้สติไประลึกรู้ธรรมตัวใดตัวหนึ่ง ที่เป็นธรรมคู่ปรับของนิวรณ์นั้น ที่ว่าต้องใช้ความคิดก็คือ คิดพิจารธรรมที่เป็นคู่ปรับของนิวรณ์นั้นด้วย นิวรณ์๕มีอะไรบ้าง..... ๑. กามฉันทะ ๒.พยาบาท ๓.ถีนมิทธะ ๔.อุทธัจจะ กุกกุจจะ ๕. วิจิกิจฉา เมื่อเกิดนิวรณ์ต่างๆเหล่านี้ เราก็ต้องหาธรรมคู่ปรับ หรือธรรมที่จะมาแก้นิวรณ์ ในแต่ล่ะตัว ด้วยการเอาธรรมที่เป็นกรรมฐาน๔๐ โดยพิจารณาหาธรรมที่เหมาะสม ที่จะมาแก้นิวรณ์ที่กำลังรบกวนจิตใจ ตัวอย่างเช่นเมื่อเกิดกามฉันทะ....เราก็ต้องพิจารณาหาธรรมที่เป็นคู่ปรับ อาจจะเป็น อสุภกรรมฐาน พิจารณาสิ่งที่ไม่สวยงาม หรือเมื่อเกิดพยาบาท อาจใช้กรรมฐานในเรื่องของ พรหมวิหารสี่เป็นต้น นี้เป็นการอธิบายพอสังเขป เพื่อให้รู้ว่า สมถะไม่ใช่การนั่งนิ่งๆ ให้จิตจมแช่กับความว่าง เหมือนอย่างที่หลายคนกำลังเข้าใจผิด ![]() ปล. ฝากบอกบิกทู่ พี่หื่นครับ พี่หื่นต้องหมั่นภาวนาอสุภกรรมฐานไว้ มันช่วยบรรเทาอาการจิตเพศเซ็กส์จัดของพี่หื่นได้เป็นอย่างดี ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 08 ม.ค. 2014, 20:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
โฮฮับ เขียน: ปล. ฝากบอกบิกทู่ พี่หื่นครับ พี่หื่นต้องหมั่นภาวนาอสุภกรรมฐานไว้ มันช่วยบรรเทาอาการจิตเพศเซ็กส์จัดของพี่หื่นได้เป็นอย่างดี เมสซิ่งหายไปไหนแล้วครับ ![]() อย่าหวั่นไหวกับสิ่งที่โฮฮับยกขึ้นแขวะเลย ไม่เสียหายอะไรนี่ เรามีภรรยาเป็นของตนเอง กลัวอะไรครับ มีตัวอย่างผู้ปฏิบัติหลายราย พอภาวนาไปๆ ถึงช่วงหนึ่งจิตเกิดเบื่อหน่ายรังเกียจเรื่องผัวๆเมียๆ ตั้งกระทู้ถามว่าจะทำไงดี ตัวเองรู้สึกเบื่อๆ แต่อีกฝ่ายยังมีความต้องการ เป็นช่วงตอนหนึ่งของมัน นักปฏิบัติพึงรู้เท่าทันจิตนะ ![]() ![]() มาครับ มาโต้กับโฮฮับหน่อย ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 09 ม.ค. 2014, 05:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
กรัชกาย เขียน: โฮฮับ เขียน: ปล. ฝากบอกบิกทู่ พี่หื่นครับ พี่หื่นต้องหมั่นภาวนาอสุภกรรมฐานไว้ มันช่วยบรรเทาอาการจิตเพศเซ็กส์จัดของพี่หื่นได้เป็นอย่างดี เมสซิ่งหายไปไหนแล้วครับ ![]() อย่าหวั่นไหวกับสิ่งที่โฮฮับยกขึ้นแขวะเลย ไม่เสียหายอะไรนี่ เรามีภรรยาเป็นของตนเอง กลัวอะไรครับ มีตัวอย่างผู้ปฏิบัติหลายราย พอภาวนาไปๆ ถึงช่วงหนึ่งจิตเกิดเบื่อหน่ายรังเกียจเรื่องผัวๆเมียๆ ตั้งกระทู้ถามว่าจะทำไงดี ตัวเองรู้สึกเบื่อๆ แต่อีกฝ่ายยังมีความต้องการ เป็นช่วงตอนหนึ่งของมัน นักปฏิบัติพึงรู้เท่าทันจิตนะ ![]() ![]() มาครับ มาโต้กับโฮฮับหน่อย ![]() ไอ้นี่ไปอยู่หลังเขาที่ไหนมา สงสัยตอนที่เขาตีกันที่รามฯ คงหลบอยู่แต่ในสนามรัชมังคลาฯแหง่ๆ ![]() การมีภรรยาของของพี่หื่นนั้นแหล่ะเสียหาย เพราะพี่หื่นแกมีภรรยาอยู่แล้ว ยังไปก้อล่อก้อติก กับเด็กสาวๆตามเฟสบุ๊คอีก นี่เผลอๆคงจะไปทำทีเป็นหมาหยอกไก่กับยัยน้อง เลยโดนน้องเขาเอามาประจาน แบบนี้ธรรมะก็เหลว จีบสาวก็ไม่ได้เรื่อง อาศัยโม้ไปวันๆ ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ม.ค. 2014, 05:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
โฮฮับ เขียน: กรัชกาย เขียน: โฮฮับ เขียน: ปล. ฝากบอกบิกทู่ พี่หื่นครับ พี่หื่นต้องหมั่นภาวนาอสุภกรรมฐานไว้ มันช่วยบรรเทาอาการจิตเพศเซ็กส์จัดของพี่หื่นได้เป็นอย่างดี เมสซิ่งหายไปไหนแล้วครับ ![]() อย่าหวั่นไหวกับสิ่งที่โฮฮับยกขึ้นแขวะเลย ไม่เสียหายอะไรนี่ เรามีภรรยาเป็นของตนเอง กลัวอะไรครับ มีตัวอย่างผู้ปฏิบัติหลายราย พอภาวนาไปๆ ถึงช่วงหนึ่งจิตเกิดเบื่อหน่ายรังเกียจเรื่องผัวๆเมียๆ ตั้งกระทู้ถามว่าจะทำไงดี ตัวเองรู้สึกเบื่อๆ แต่อีกฝ่ายยังมีความต้องการ เป็นช่วงตอนหนึ่งของมัน นักปฏิบัติพึงรู้เท่าทันจิตนะ ![]() ![]() มาครับ มาโต้กับโฮฮับหน่อย ![]() ไอ้นี่ไปอยู่หลังเขาที่ไหนมา สงสัยตอนที่เขาตีกันที่รามฯ คงหลบอยู่แต่ในสนามรัชมังคลาฯแหง่ๆ ![]() การมีภรรยาของของพี่หื่นนั้นแหล่ะเสียหาย เพราะพี่หื่นแกมีภรรยาอยู่แล้ว ยังไปก้อล่อก้อติก กับเด็กสาวๆตามเฟสบุ๊คอีก นี่เผลอๆคงจะไปทำทีเป็นหมาหยอกไก่กับยัยน้อง เลยโดนน้องเขาเอามาประจาน แบบนี้ธรรมะก็เหลว จีบสาวก็ไม่ได้เรื่อง อาศัยโม้ไปวันๆ ![]() มีภรรยาจะเสียหายได้อย่างไร เสี่ยนขึ้นมาก็ลงที่ภรรยาของตัวเองสิ คิกๆ พูดถึงหน้าราม คิดถึงกบ ![]() ที่แน่ๆ (หม้อ) การท่องเที่ยวถูกทุบยับไปแล้ว http://www.youtube.com/watch?v=4I3gnYKKuOs เศรษฐกิจโดยร่วมเสียหายยับ ดูสิว่าไทยเฉย ไทยทน จะเฉยจะทนให้เครือข่ายอนุรักษ์นิยมไดโนเสาทำลายบ้านเมืองได้นานเท่าใด ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 09 ม.ค. 2014, 07:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
โดยความเป็นจริงแล้ว วิปัสสนาที่คนส่วนใหญ่ที่มักจะพูดคู่กันกับสมถะ คนมักจะเข้าใจว่า.....เป็นวิปัสสนาญาน๙หรือญาณ๑๖ นี้เป็นการเข้าใจผิดอย่างมาก วิปัสสนาที่เป็นพุทธพจน์ หมายความถึงหลักการพิจารณาธรรม วิปัสสนาญานที่เป็นพุทธพจน์ หมายถึง......วิชชา๓หรือวิชชา๘(โลกุตตระ) ส่วนวิปัสสนาญานที่ครูบาอาจารย์รุ่นหลังใช้พูดหมายความถึง...ระดับความรู้ในการหาไตรลักษณ์ วิปัสสนาพวกนี้ยังเป็นโลกียะ สมถะกรรมฐานจัดเป็นสติปัฏฐานอย่างหนึ่ง จัดอยู่ในธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ในหมวดของนิวรณ์บรรพ อันที่จริงแล้ว ในวิปัสสนา๙หรือ๑๖(วิปัสสนาเฉยๆไม่มีญาน) ที่เป็นโลกียะ ไม่มีความจำเป็นต้องอาศัยสมถะเลย หลักสำคัญก็คือให้มี...สติที่เป็นสัมปชัญญะ การมีสติสัมปชัญญะ หมายความถึงการมีใจที่จดจ่อต่องานที่ทำ นี่แหล่ะคือหลักของวิปัสสนาญาน๙ อาจจะยังไม่เข้าใจว่า สัมปชัญญะเป็นอย่างไร ขอยกตัวอย่างให้ดู อย่างคนขับรถ การขับรถต้องอาศัยประสาทแทบจะทุกส่วน เพื่อที่จะขับรถให้ปลอดภัย การใช้ประสาทที่มากกว่าหนึ่ง ท่านเรียกสัมปชัญญะ และการใช้ประสาทที่หลากหลาย มาใช้ในการขับรถให้ปลอดภัยท่านเรียกสมาธิ บางที่เราขับรถแล้วหลงไปคิดฟุ้งซ่าน ก็ต้องอาศัยจิตดึงกลับมาว่ากำลังขับรถ นี่เรียกสติ การมีสติ....สัมปชัญญะ......จนเป็นสมาธิ นี่แหล่ะหลักของวิปัสสนาเพื่อหาไตรลักษณ์ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ม.ค. 2014, 09:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
ตามที่โฮฮับพร่ำข้างบน เมสซิ่งว่าไง เห็นด้วยหรือยกมือค้าน ![]() ![]() |
เจ้าของ: | cantona_z [ 10 ม.ค. 2014, 23:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
อ้างคำพูด: สมถะกรรมฐานจัดเป็นสติปัฏฐานอย่างหนึ่ง จัดอยู่ในธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ในหมวดของนิวรณ์บรรพ คุณพระ!! เห็นกระทู้นี้แล้วถึงรู้ ไม่น่าเสียเวลาตามถกตามอธิบายที่แย้งๆมาตั้ง15หน้าเลยพับผ่า มิน่าเล่า วิญญาณจึงเป็นอาการรู้ของจิตไปได้ แบบนี้นี่เอง |
เจ้าของ: | amazing [ 15 ม.ค. 2014, 15:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
โฮฮับ เขียน: สมถะกรรมฐานนั้นท่านเอาไว้แก้นิวรณ์๕ มั่วสุดๆเอาวิปัสนามาเป็นสมถะ เอาสมถะที่เป็นระดับฌานไปทิ้ง สมถะคือความสงบในระดับต่างๆเช่นพวกฤษีที่เขาได้ษแต่สมถะหรือฌาน
วิธีการทำสมถะไม่ใช่การนั่งนิ่งๆเพื่อไม่ให้เกิดความคิด การทำแบบนี้มันเป็นการทำฌาน การทำสมถะจะต้องอาศัยความคิด พูดให้ชัดก็คือต้องใช้สติไประลึกรู้ธรรมตัวใดตัวหนึ่ง ที่เป็นธรรมคู่ปรับของนิวรณ์นั้น ที่ว่าต้องใช้ความคิดก็คือ คิดพิจารธรรมที่เป็นคู่ปรับของนิวรณ์นั้นด้วย นิวรณ์๕มีอะไรบ้าง..... ๑. กามฉันทะ ๒.พยาบาท ๓.ถีนมิทธะ ๔.อุทธัจจะ กุกกุจจะ ๕. วิจิกิจฉา เมื่อเกิดนิวรณ์ต่างๆเหล่านี้ เราก็ต้องหาธรรมคู่ปรับ หรือธรรมที่จะมาแก้นิวรณ์ ในแต่ล่ะตัว ด้วยการเอาธรรมที่เป็นกรรมฐาน๔๐ โดยพิจารณาหาธรรมที่เหมาะสม ที่จะมาแก้นิวรณ์ที่กำลังรบกวนจิตใจ ตัวอย่างเช่นเมื่อเกิดกามฉันทะ....เราก็ต้องพิจารณาหาธรรมที่เป็นคู่ปรับ อาจจะเป็น อสุภกรรมฐาน พิจารณาสิ่งที่ไม่สวยงาม หรือเมื่อเกิดพยาบาท อาจใช้กรรมฐานในเรื่องของ พรหมวิหารสี่เป็นต้น นี้เป็นการอธิบายพอสังเขป เพื่อให้รู้ว่า สมถะไม่ใช่การนั่งนิ่งๆ ให้จิตจมแช่กับความว่าง เหมือนอย่างที่หลายคนกำลังเข้าใจผิด ![]() ปล. ฝากบอกบิกทู่ พี่หื่นครับ พี่หื่นต้องหมั่นภาวนาอสุภกรรมฐานไว้ มันช่วยบรรเทาอาการจิตเพศเซ็กส์จัดของพี่หื่นได้เป็นอย่างดี ![]() |
เจ้าของ: | สองใจ [ 17 ม.ค. 2014, 12:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำความเข้าใจซ่ะ! สมถะ วิปัสสนาฯ |
โฮฮับ เขียน: โดยความเป็นจริงแล้ว วิปัสสนาที่คนส่วนใหญ่ที่มักจะพูดคู่กันกับสมถะ คนมักจะเข้าใจว่า.....เป็นวิปัสสนาญาน๙หรือญาณ๑๖ นี้เป็นการเข้าใจผิดอย่างมาก วิปัสสนาที่เป็นพุทธพจน์ หมายความถึงหลักการพิจารณาธรรม วิปัสสนาญานที่เป็นพุทธพจน์ หมายถึง......วิชชา๓หรือวิชชา๘(โลกุตตระ) ส่วนวิปัสสนาญานที่ครูบาอาจารย์รุ่นหลังใช้พูดหมายความถึง...ระดับความรู้ในการหาไตรลักษณ์ วิปัสสนาพวกนี้ยังเป็นโลกียะ สมถะกรรมฐานจัดเป็นสติปัฏฐานอย่างหนึ่ง จัดอยู่ในธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ในหมวดของนิวรณ์บรรพ อันที่จริงแล้ว ในวิปัสสนา๙หรือ๑๖(วิปัสสนาเฉยๆไม่มีญาน) ที่เป็นโลกียะ ไม่มีความจำเป็นต้องอาศัยสมถะเลย หลักสำคัญก็คือให้มี...สติที่เป็นสัมปชัญญะ การมีสติสัมปชัญญะ หมายความถึงการมีใจที่จดจ่อต่องานที่ทำ นี่แหล่ะคือหลักของวิปัสสนาญาน๙ อาจจะยังไม่เข้าใจว่า สัมปชัญญะเป็นอย่างไร ขอยกตัวอย่างให้ดู อย่างคนขับรถ การขับรถต้องอาศัยประสาทแทบจะทุกส่วน เพื่อที่จะขับรถให้ปลอดภัย การใช้ประสาทที่มากกว่าหนึ่ง ท่านเรียกสัมปชัญญะ และการใช้ประสาทที่หลากหลาย มาใช้ในการขับรถให้ปลอดภัยท่านเรียกสมาธิ บางที่เราขับรถแล้วหลงไปคิดฟุ้งซ่าน ก็ต้องอาศัยจิตดึงกลับมาว่ากำลังขับรถ นี่เรียกสติ การมีสติ....สัมปชัญญะ......จนเป็นสมาธิ นี่แหล่ะหลักของวิปัสสนาเพื่อหาไตรลักษณ์ ด้วยความเคารพท่านผู้รู้ทุกท่าน ดิฉันมีดวงตามืดบอด จึงมีความสงสัย ดังนั้นจึงขอสอบถามท่านผู้รู้ว่า หากไม่ทำวิปัสสนาในขั้นโลกียะ ให้แจ้งเสียแล้ว โลกุตตระ(เขียนผิดหรือไม่)จะเกิดหรือทำให้แจ้งได้อย่างไร หากไม่ทำโลกียะให้แจ้งแล้ว จะข้ามไปทำโลกุตตระ เลย ด้วยวิธีใด รบกวนผู้รู้ช่วยแสดงธรรม ต่อดิฉันอันมีตามืดบอดให้เห็นธรรมด้วยเิทิญ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |