ความหมายของผู้รู้คือ รู้ถูกและรู้ผิด การที่พูดว่า ไม่รู้จะแย้งอย่างไรดี
นั้นก็หมายความว่า อีกฝ่ายแสดงความเห็นจากความคิด ที่เป็นปัญญาเฉพาะตน
แต่ฝ่ายตนหาได้เข้าใจ ก็เพราะก็ตน หาได้มีปัญญาไม่ ก็เลยจำเป็นต้องอาศัย
ตัวหนังสือมาแสดง โดยหาได้เข้าใจไม่ว่า มันไม่ได้อธิบายความให้กระจ่างแม้แต่น้อย

คุณวไลพรแกพูดถูกทุกอย่างว่าคุณ "สักแต่ท่องจำมา"



อยาบอกครับประโยคคำพูดที่คุณใช้ คุณรู้มั้ยว่า มันเป็นลักษณะการพูดของใคร
อย่าทำตัวเป็นพวก เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงซิครับ

พูดแบบนี้ เขาว่าไม่เข้าใจธรรม คนรู้กับคนอ่านมันแตกต่างกันตรงนี้แหล่ะ
คนว่ายน้ำไม่เป็น แต่ต้องการไปอีกฝั่งของแม่น้ำ คุณคันฯดันแนะนำให้ว่ายน้ำข้ามไป
มันต้องบอกวิธีการหรือสอนให้เขาว่ายน้ำเป็นซ่ะก่อน

เปรียบอีกฝั่งแม่น้ำเป็นนิพพาน อริยมรรคมีองค์๘ก็เหมือนการว่ายน้ำ
และบรรดาองค์ธรรมต่างๆในโพธิปักขิยธรรมก็เหมือน วิธีการว่ายน้ำ

สรุปคุณฯคันพิจารณาธรรมไม่เป็นครับ ขอยืมคำคุณวไลมาพูดหน่อยครับ..."สักแต่ท่องจำมา"

ตอบแบบนี้เขาเรียกว่า "สักแต่ว่าท่องจำ" อ่านแต่บัญญัติแต่ไม่เข้าใจสภาวธรรม
การดับผัสสะ คือการที่จิตไม่ไปยึดหรือปรุงแต่งผัสสะ

การพูดว่า..."ดับผัสสะ" จิตและวิญญานต้องเป็นคนล่ะความหมายกัน
เมื่อเกิดการกระทบของอายตนะภายนอกและภายใน เกิดเป็นวิญญานไปรู้ถึงการกระทบนั้น
จิตจะเป็นผู้รู้เฝ้าดูเฉยๆ ไปเข้าไปข้องเกี่ยวกับผัสสะนั้น

ในที่นี้จิตเป็นผู้รู้ วิญญานเป็นอาการรู้หรือตัวรู้



ไม่ใช่ เมื่อมีการกระทบและเกิดวิญญานขึ้น มันต้องได้ยิน
ถ้ามีการกระทบ แต่ไม่เกิดวิญญาน นั้นแหล่ะถึงจะไม่ได้ยิน

ส่วนการดับผัสสะก็คือ ไม่ไปปรุงแต่งผัสสะ



คุณมันมั่วตั้งแต่บอกวิญญานเป็นจิตแล้ว แบบนี้เลยหาจิตผู้รู้ไม่เจอ
เขาบอกว่าดับผัสสะก็เลยคิดว่า ไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็น

ยังไม่สำนึก ยังอวดดีพูดจาข้ามห้วยแล้วยังไม่รู้ตัว พูดสภาวธรรมยังมั่วเลย
นี่เล่น ธัมมานุปัสสนาอีกแล้ว
จิตคืออะไรวิญญานเป็นอย่างไรยังแยกไม่ออก

เท่าที่ดูคุณมา แค่โลกีย์ญานเบื้องต้น คุณยังไม่มีเลย
รู้จักมั้ยครับ...นามรูปปริจเฉทญาณ ถ้าบอกว่ารู้จัก แสดงว่าโม้

คุณโฮฮับ ทั้งๆที่ผมไม่สนทนาด้วย ก็เพียรพยายามมาแย้งผมโดยตลอด
ดูท่าอยากสนทนากับผมเหลือเกิน
ถ้าอยากสนทนาจริง ก็ตอบคำถามที่ผมถามไว้เป็นชาติทั้ง 3 คำถามให้ได้ก่อนเถอะครับ
ส่วนคำถามที่คุณพยายามแย้งมาโดยตลอดนั้น
อย่างที่บอกคือ หากไม่ตอบคำถามที่ผมถามไว้ 3 ข้อ

สิ่งอื่นที่คุณแย้งมาก็ไม่มีอะไรมีค่าพอที่ผมจะให้ราคา


ถ้าจำไม่ได้ผมยกมาให้อีกที



อยากจะแย้งเรื่องอื่นก็ตอบเรื่องนี้ให้จบซะก่อนครับ

ตามสบายครับ
คุณถามแย้งผมในประเด็นอืน ผมยังพอว่า
นี่ถามแย้งในประเด็นที่ตัวเองไม่่มีปัญญายืนยันว่าถูกต้อง


ผมถามคุณเป็นชาติ คุณไม่มีปัญญาตอบ
แล้วเอาอะไรมาแย้งผม



เหมือนพวกที่คอยเห่าหอนแซวคนนั้นคนนี้ เวลาคนเดินผ่าน
พอคนหันไปเอาจริง ก็หลบฉากหายจ้อย
พอเขาเดินต่อ ก็ส่งเสียงเห่าหอนต่อไป
พอเขาหันกลับไปอีก ก็หลบฉากมุดท่อรูระบายน้ำหนีเงียบไปอีก
พอเขาเดินต่อ ก็ออกมาส่งเสียงเห่าหอนต่อ ไม่จบไม่สิ้น

มันทุเรศครับ

แน่จริงก็กล้าๆตอบมาครับ

พุทโธ่! ท่าดีทีเหลว ไอ้เราก็นึกว่าจะปล่อยวางได้ เห็นพูดจาแอ๊คอาร์ตซ่ะดิบดี

แล้วไอ้ที่มาเซ้าซี้ผมน่ะ มันก็แค่อาการแก้เกี้ยว มันเป็นเพราะตัวนั้นแหล่ะที่ไปต่อไม่ได้

ถ้าแน่จริง มันต้องบอกแสดงเหตุผลว่า ความเห็นของผมไม่ถูกยังไง

ไม่ใช่มาย้ำคิดย้ำทำว่า....ผมไม่ตอบ เป็นเพราะคุณไม่รู้น่ะเอง
ถ้ารู้จริง มันต้องรู้ถูกและรู้ผิด ไม่ใช่พอไม่เข้าใจก็บอกว่ายังไม่ตอบ

คุณคันโทน่าครับ คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่า คุณเริ่มออกอาการแล้ว

ตอบคำถามผมมาให้ได้ก่อนเถอะครับ
ถ้าตอบไม่ได้ โม้ให้ขี้ฟันหลุดเป็นก้อนก็ไม่มีประโยชน์
แย้งประเด็นอื่น ยังพอจะเข้าใจได้ ถือว่าช่างหัวมัน
แต่นี่ขนาดแย้งในประเด็นที่ผมถามย้อนไปเองแล้วไม่กล้าตอบ

บอกมาได้ว่าจิตกับวิญญาณเป็นคนละส่วนกัน
ผมถามว่าเอามาจากไหนตั้งแต่หน้าที่สอง ยันตอนนี้จะเข้าหน้า 15 อยู่แล้ว
ยังไม่มีปัญญาหามาตอบผม

พอเห็นผมรำคาญไม่อยากตอบหน่อย ก็ได้ใจ เห่าหอนใหญ่

หน้าด้านครับ

อยากแย้งผมจริงๆก็ตอบมาครับ
ผมถามคุณแค่ 3 คำถามเท่านั้นเอง ตอบมาสิครับ
แล้วเดี๋ยวผมไล่ตอบส่วนที่คุณแย้งประเด็นอื่นๆย้อนต้นให้

ตอบไม่ได้ก็เงียบไปครับ

ทำตัวให้มีศักดิ์ศรีหน่อยครับคุณโฮฮับ
อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย ทำตัวเหมือนเด็กม ต้นไปได้

คุณออกอาการ จนหลงลืมอะไรไปน่ะครับ ว่าผมเห่าหอนผมไม่ถือสา
นี่ยังมาเซ้าซี้จนน่ารำคาญ

คุณคันโทน่าครับ ผมเตือนสติคุณนิดครับ คุณคงลืมไปมั้งว่า
กระทู้นี้ผมเป็นคนตั้งน่ะครับ มันจะไปอะไรกันนักกันหนาครับ

คุณกลับไปอ่านความเห็นของผมใหม่ แล้วดูวิว่าผมตอบคุณไปหรือยัง
หลักฐานมันมีครับ ผมจะตอบความเห็นใคร......
ผมจะอ้างอิงประโยคคำพูดของคนอื่นเสมอครับ

แทนที่จะมาเซ้าซี้ผม เอาเวลาไปย้อนดูความเห็นใหม่
มันยังจะเกิดประโยขน์มากกว่าน่ะครับ



ผมบอกคุณไปแล้ว แต่คุณไม่เข้าใจ เหตุเพราะคุณศึกษาธรรมด้วยการท่องจำคำศัพท์
แต่สิ่งที่ผมบอก มันเป็นหลักธรรมแท้ๆ มันเป็นไปตามคำสอนของพระพุทธองค์
ที่กล่าวว่า ต้องทำบัญญัติให้แจ้งโดยปรมัตถ์ พุทธพจน์ สัจฉิกัตถปรมัตถ์

ผลจากการที่แสดงความเห็นเหมือนตักน้ำรดหัวตอครับ ......คุณย้อนผมว่าผมจิ้นเอาเอง
ผมยังสอนคุณเลยครับว่า การสนธนาธรรม ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก
ตอบแล้วก็แล้วกันไป แต่คุณก็พยายาม ให้ผมตอบให้ตรงกับความอยากของคุณให้ได้
แบบนี้เขาเรียกว่าเป็นเอามากน่ะครับ


คุณรำคาญหรือคุณไปไม่ถูกกันแน่ครับ
แล้วเรื่องเห่าหอนนี้ รู้สึกว่าคุณจะเป็นคนประกาศว่า ไม่ไม่สนใจความเห็นผมไม่ใช่หรือครับ
ผมยังอนุโมทนาคุณเลย เมื่อคุณไม่พูดกับผมแล้ว อย่างนี้เสียงนี้ก็คงไม่ใช่
เสียงคุณหรอกครับ คงจะเป็นเสียงเห่าหอนขานรับของสุนัขมั้งครับ


มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องบ้าจี้ตามคุณครับ นักเลงเขาไม่กลัวคนพาลหรอกครับ
คนแบบนี้ปล่อยให้บ้าสักพักเดียวก็หยุดเองครับ



การเป็นคนมีสัจจะวาจา เขาเรียกว่าศักศรีหรือเปล่าครับ
เป็นเช่นนั้นแล้ว ก็อย่ามาถามหาศักศรีกับคนอื่นเลยครับ

ครับ
กระทู้นี้คุณเป็นคนตั้ง
และเป็นการตั้งเพื่อแย้งผมโดยเฉพาะ
ตั้งแต่เริ่มต้นกระทู้มา คุณก็ใส่ผมเป็นชุดๆ ถากถางผมเรื่อยๆมาไม่ใช่หรือครับ

คุณเป็นคนตั้งมาเพื่อด่าผม ผมควรอะไรนักหนาไหมครับ
ผมมีสิทธฺิ์ถามกลับไหมครับว่าที่ด่าๆมาเนี่ยคุณเอามาจากไหน
จนแล้วจนรอดคุณก็หาหลักฐานใดๆมายืนยันไม่ได้
ผมควรอะไรนักหนาไหมครับ




แล้วจริงๆการตั้งกระทู้กล่าวหาคนอื่น โดยหาหลักฐานมายืนยันไม่ได้นีมันถูกต้องไหมครับ
ดผมถามกลับคุณด้วยคำถามสำคัญที่เป็นหัวใจของกระทู้นี้
คือ ไอ้ที่คุณว่าๆผมมาทั้งหมดนั้นน่ะ คุณเอามาจากไหน คุณก็ไม่มีปัญญาหามา
ผมก็บอกถ้าไม่มีปัญญาหามา ก็หยุดยุ่งกับผม ผมรำคาญ
คุณก็ไม่เลิก พอเห็นผมเงียบก็ไล่ด่าไล่แย้งผมมาเรื่อยๆ

มันสิทธิ์ผมไหมครับที่จะว่าคุณกลับ?

ขนาดคุณแย้งประเด็นอื่น ผมยังไม่ว่าอะไร
แต่นี้แย้งในประเด็นที่ผมถามกลับคุณแล้วคุณไม่มีปัญญาตอบเอง
แล้วยังเอามาแย้งผมอีก

มันหน้าด้านไหมครับ

กระทู้ตั้งมาเพื่อแย้งคุณถูกครับ เรื่องถากถางก็ถูกครับ.....แต่คุณก็พอๆกันล่ะครับ
และเรื่องที่บอกตั้งกระทู้มาเพื่อด่าคุณ อันนี้ไม่ใช่ครับ ผมตั้งมาเพื่อที่จะอธิบาย
ธรรมที่คุณกำลังเข้าใจผิด ซึ่งผมก็อธิบายสารพัดจะอธิบายแล้ว แต่คุณดันบอกว่า...ผมจิ้น
ไอ้คำที่กล่าวหาผมว่า.....ผมจิ้นเอาเอง นี่ก็แสดงว่าผมได้ตอบคำถามคุณไปแล้ว
ส่วนเรื่องที่คุณจะไม่เห็นด้วยมันเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ใช่จะมาแก้เกี้ยวแล้วก็พาลพาโลแบบนี้ครับ

อยากบอกความในใจครับ อันที่จริงผมก็ด่าคุณครับ แต่เป็นการด่าในใจ
ไอ้เรื่องที่คุณปรามาสท่านพุทธทาส ทั้งๆที่ไม่เข้าใจความเห็นของท่าน
ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นเหตุให้ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้น คุณเข้าใจมั้ยครับ




"คุณว่าผมไม่มีหลักฐาน คุณว่าผมจิ้นเอาเอง"...มันก็เหมือนคุณนั้นแหล่ะ
ที่ไปปรามาสท่านพุทธทาส มันก็เป็นแสดงอาการจิ้น
ถ้าบรรดาลูกศิษย์ท่านพุทธทาส เขาจะแสดงอาการอย่างคุณบาง คุณว่ามันผิดหรือถูก

สำหรับความเห็น ที่คุณว่าผมจิ้นเอาเอง ผมยึดหลัก ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
นี่เป็นหลักการของสัปปบุรุษครับ สิ่งที่ผมพูดให้ฟังท่านเรียกว่า...ปฏิเวธ
ปฏิเวธก็เป็นผลของการปฏิบัติกับปริยัติ
ปฏิบัติคือการทำให้พุทธพจน์หรือบัญญัติ ให้แจ้งโดยสภาวะหรือปรมัตถธรรม

ส่วนพุทธพจน์หรือบัญญัติ......ก่อนอื่นต้องบอกว่า คุณอย่าคิดว่าพระสูตรที่คุณอ้าง
เป็นปริยัตินะครับ ความเป็นปริยัติแท้ๆก็คือ หลักธรรมครับ
ซึ่งผมก็แสดงให้เห็นว่า ความเห็นของผมเอามาจากหลักธรรมใด
เช่น...ธัมมวิจยะ โยนิโสฯและอื่นๆ บางทีที่ผมเอาพระสูตรมาอ้าง
เป็นเพราะคุณเซ้าซี้ การอ้างพระสูตรมันไม่ช่วยให้ธรรมะกระจ่างขึ้นเลย
เพราะในความเป็นจริงเราต้อง เอาธรรมต่างในพระสูตรมาพิจารณาอีกทีหนึ่ง
ไม่ใช่เอาพระสูตรมาอ้างเป็นนกแก้วนกขุนทองแบบคุณ

และไอ้เรื่องไล่ล่า ผมมาคุณหยุดสร้างเหตุดีกว่าครับ ผมขอตอบสั้นๆว่า
คุณสร้างเหตดีกว่าครับ อะไรเป็นอะไร มันก็เป็นเหตุปัจจัย ผมยึดหลักนี้ครับ
และถ้าคุณอยากเข้าใจ ก็ไปย้อนอ่านที่คุณแสดงความเห็นในลักษณะให้สัจจะว่า
จะไม่สนใจที่จะตอบโต้ผม ผมยังอนุโมทนาให้คุณ และยังบอกตามมรรยาทว่า
ผมจะแสดงความเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ

มันเป็นเพราะคุณขาดสติยั้งคิดครับ ทำให้ตัวเองต้องหมดศักดิ์ศรีไปโดยปริยาย
ดังนั้นกับคำว่า "ด้าน" ของคุณควรใช้กับใครครับ



ไอ้ที่คุณไม่ว่าในประเด็นอื่น เพราะประเด็นอื่น มันพึงเกิดหลังจากคุณให้สัจจ์
คุณยังทนได้ทั้งๆที่คันปากยิบๆๆ แต่หลังจากนั้นใจคุณมันสู้กิเลสไม่ได้
เลยต้องมาแสดงอาการเหมือนคนเสียสติอย่างรุนแรงแบบนี้

ครับ
ผมถึงไม่ยอมรับ แล้วก็ไม่มีใครยอมรับไงครับ

พุทธศาสนานิกายเราเรียกว่าเถรวาทครับ
มีคำสอนพระพุทธเจ้าที่พระอรหันต์500มุขปาฐะกันมาเป็นศาสดา
ไม่ใช่อะไรที่พวกไม่รู้คิดเองเออเองบัญญํติธรรมจากความเข้าใจเองจะมาเปลี่ยนได้
ตัวคุณน่ะมั่วธรรมเยอะแยะ ไอ้ที่แย้งผมมาช่วงหลังๆที่ผมเงียบไม่ตอบน่ะ
ถ้าผมจะตอบก็ตอบได้แต่รำคาญ

อย่ามาทำพูดเรื่องปฏิเวธเลยครับ
บรรลุอริยบุคคลหรือยังครับ ฌาน4 ทำวสีได้หรือยังครับ วิปัสสนาญาณถ่ึงไหนครับ
ถ้าจะโชว์เพาว์ก็บอกมาเลยครับถึงขั้นไหนแล้ว
เดี๋ยวผมถามจี้ status เองว่าใช่จริงหรือเปล่า
อะไรที่ผมถึงผมจี้เอง อะไรที่ผมไม่ถึงเดี๋ยวผมรอคำตอบคุณไปเช็คกับผู้รู้ได้

แค่อ้างคำศัพท์มั่วๆ แล้วจิ้นเอาเขาไม่เรียกปฏิเวธนะครับ
อย่าว่าแต่ระดับเด็กน้อยอย่างคุณเลยครับ
พระปฏิบัติขั้่นสูงอย่างครูบาอาจารย์พระป่า คำสอนท่านก็ลงตัวกับพระไตรปิฏกได้

อย่าจิ้นแล้วมั่วธรรมครับ

ก็ใช่ไง ผมถึงได้ย้ำพูดไปว่า การถกธรรมไม่มีใครผิดใครถูก
และเรื่องการไม่ยอมรับมันเป็นเรื่องปกติ แต่คุณพยายามทำให้มันผิดปกติ
คุณพยายามบังคับ เซ้าซี้ให้ผมแสดงความเห็นให้ตรงใจคุณ
เรื่องราวก่อนๆมันน่าจะจบได้แล้ว ถ้าคุณจะไม่สนใจความเห็นผม ตามที่คุณเคยเอ่ยปากไว้

ความเห็นไหนของคุณ ถ้าเห็นว่าผมไปโต้แย้ง คุณก็ดูให้เป็นเสียงนกเสียงกา มันก็หมดเรื่อง
มิหน่ำซ้ำมันจะไม่ทำให้คุณเสียคำพูดอีกด้วย

ถ้าเอาความจริงมาพูด มันก็แค่คุณไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมาอ้าง
ในตอนแรก คุณก็แก้เกี้ยวว่าผมจิ้นเอาเอง จะไม่ยุ่งด้วย
พอมาเจอผมแย้งในความเห็นถัดๆมา คุณก็แก้เกี้ยวอีก โดยลืมคำพูดตัวว่าจะไม่ยุ่งกับผม
คุณเป็นคนที่ยึดมั่นถือมั่น ชอบขุดเอาอดีตขึ้นมาสร้างเหตุใหม่
เสียสัจจ์กะอีเรื่องขี้ปะติ๋ว



ก็ไอ้พูดพรรณนี้ไง ผมถึงได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้น
คุณเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักวารแบบนี้ใช้ไม่ได้ครับ
พุทธศาสนาในทัศนคติของคุณมันก็ของคุณ
มันไม่ใช่การทีจะโหนเอาพระพุทธเจ้า หรือนิกายที่คุณว่า มาเป็นของตัวเอง
ถ้าขื่นคุณยังเป็นแบบนี้ พอเห็นความเห็นใคร ที่ไม่ตรงใจคุณ
คุณก็จะด่าเขาว่า ดังเช่นครูบาอาจารย์หลายคนที่โดนคุณปรามาส
ผมว่าไม่เฉพาะแต่ท่านพุทธทาส ยังมีอีกหลายท่าน ถ้าคุณไม่ปากแข็งจนเกินไป
ก็จะรู้ว่าคุณเป็นเช่นนั้นจริงๆ



ผมถามคุณจริงๆ จะเอาไงกันแน่ คุณจะยุ่งหรือไม่ยุ่งกับผม
ตั้งสติแล้วก็ตัดสินใจแบบลูกผู้ชาย อย่ามาชักเข้าชักออกแบบนี้ มันเหมือนพวกลักเพศ

ผมจะบอกให้น่ะ ผมได้ทุกเรื่อง เพียงแต่คุณจะเข้าใจสิ่งที่ผมพูดหรือเปล่า
ปะเดี๋ยว เจอคำตอบที่มีตัวหนังสือผิดไปจากที่อ่านมา ก็จะมาบอกว่า....ผมจิ้น
กลับไปตรองให้ดี ถ้าตัดสินใจแน่ชัดแล้ว ก็มาบอกครับ

ท่าจะให้ดี ไปเรียกผู้รู้ของคุณมาคุยกับผมเองก็ได้ครับ
ไอ้คนที่ชอบปรามาสสำนักอื่นแบบคุณ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า คุณเป็นพวกสำนักไหน



คิดอย่างไรแล้วแต่คุณครับ ทางที่ดีคุยกับผมอย่าอ้างคนโน้นคนนี้
มันจะเอาความเสื่อมไปให้ท่านซ่ะเปล่าๆ
จะบอกให้ ผ้าเหลืองผมเกรงใจครับ
แต่เป็นเรื่องพระธรรม ผมไม่กลัวใครอยู่แล้ว

ไม่กลัวใครไม่เป็นไคร อย่างมากก็แค่วิ่งหาพวก แต่ควรกลัวใจตนเองบ้าง คิกๆๆ