ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=46557
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  amazing [ 12 ต.ค. 2013, 14:00 ]
หัวข้อกระทู้:  ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

กรัชกายอ่านตรงนี้แล้วคิดอย่างไร. ภิกษุ ท ! เรายังรู้สึกได้อยู่ซึ่งธรรม ๒ อย่าง คือความไม่รู้จักอิ่ม จักพอ (สันโดษ) ในกุศลธรรมทั้งหลาย และ ความเป็นผู้ไม่ถอยกลับ(อัปปฏิวานี)ในการทำ ความเพียร.
ภิกษุ ท ! เราย่อมตั้งไว้ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับ (ด้วยการอธิษฐานจิต) ว่า "จงเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น กระดูกเท่านั้น, เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือดแห้งไป; ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรรลุได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบากบั่น ของบุรุษ, ยังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี" ดังนี้
ภิกษุ ท ! การตรัสรู้เป็นสิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาท อนุตตรโยคักเขมธรรม ก็เป็น สิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาท.
ภิกษุ ท ! ถ้าแม้พวกเธอ พึงตั้งไว้ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับ (ด้วยการอธิฐานจิต) ว่า "จงเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น กระดูกเท่านั้น, เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือด แห้งไป; ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรรลุได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบาก บั่น ของบุรุษ, ยังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้วจักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี" ดังนี้ แล้วไซร้;
ภิกษุ ท ! พวกเธอก็จักกระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ซึ่งที่สุดแห่ง พรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรอื่นยิ่งกว่า อันเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตรผู้ออก บวชจากเรือนเป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ, ได้ต่อกาลไม่นานในทิฏฐธรรม เข้าถึงแล้ว แลอยู่ เป็นแน่นอน.

.....................................................

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2013, 14:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

นี้อยู่ในสัมมาวายามะ amazing ถ้าคุณยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ ทิศไหนตะวันออก ทิศไหนตะวันตก อยู่ทางไหน แล้วทำแบบยึดมั่นตัวหนังสือเพราะศรัทธาแล้วล่ะ คุณเพียรไปก็มีแต่บ้าๆเท่านั้น

คุณจะเล่นแบบพระพุทธเจ้าคืนวันตรัสรู้เลยเนี่ยะ ถามหน่อยคุณจะเพียรจนเลือดแห้งตายก็ไร้ประโยชน์ มีแต่สุดโต่งข้างอัตตกิลมถาโยค :b32:

เจ้าของ:  amazing [ 12 ต.ค. 2013, 14:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

กรัชกาย เขียน:
นี้อยู่ในสัมมาวายามะ amazing ถ้าคุณยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ ทิศไหนตะวันออก ทิศไหนตะวันตก อยู่ทางไหน แล้วทำแบบยึดมั่นตัวหนังสือเพราะศรัทธาแล้วล่ะ คุณเพียรไปก็มีแต่บ้าๆเท่านั้น

คุณจะเล่นแบบพระพุทธเจ้าคืนวันตรัสรู้เลยเนี่ยะ ถามหน่อยคุณจะเพียรจนเลือดแห้งตายก็ไร้ประโยชน์ มีแต่สุดโต่งข้างอัตตกิลมถาโยค :b32:
บทพระพุทธเจ้าอย่างไรดู. เพื่อประโยชน์ของกุลบุตรผู้ออกบวชนะครับ

ภิกษุ ท ! พวกเธอก็จักกระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ซึ่งที่สุดแห่ง พรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรอื่นยิ่งกว่า อันเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตรผู้ออก บวชจากเรือนเป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ, ได้ต่อกาลไม่นานในทิฏฐธรรม เข้าถึงแล้ว แลอยู่ เป็นแน่นอน.

เจ้าของ:  amazing [ 12 ต.ค. 2013, 14:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

ที่จริงแล้วมีพระสูตรหนึ่งพูดเกี่ยวกับผู้มีจิตหยั่งลงมั่นจะน้อมใจกระทำความเพียรอย่างนี้แต่พอดีระบบมันโหลดไม่ได้ก็เามาให้ดูไม่ได้ใจความเดียวกันนี้

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2013, 14:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

ออกบวชหรือออกเบียด ก็คือกันขอรับ นักบวช ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ตะวันออก ตะวันตกอยู่ทางไหน ต่อให้ทำจนเลือดแห้งตายก็ไร้ประโยชน์ มีแต่จะเอียงสุดข้างอัตตกิลมถาโยค (ตัวอย่างพระรูปหนึงเดินจงกรมจนเท้าแตก พระพุทธเจ้ายังต้องไปเทศน์โปรดเลย) พระพุทธอธิษฐานอย่างนั้น เพราะพระองค์มองเห็นทางและรู้ว่าใกล้จะสุดทางแล้ว จึงอธิษฐานอย่า่งนั้น

อุปมาเหมือนนายช่างเหล็กเจาะเหล็กหนา้ด้วยสว่านดอกเล็กๆ จับด้ามสว่านไ้ด้กดพรวดๆๆๆ ดอกสว่านก็หัก งานก็ไม่สำเร็จ นายช่างต้องดูเหล็กดูดอกสว่าน หใ้เหมาะสมแล้วต้องค่อยๆเจาะ ่ผ่อนสั้นผ่อนยาวผ่อนหนักผ่อนเบา เมื่อรู้ใกล้ทะลุแล้วกดพรืด โอเค งานก็สำเร็จ เครื่องมือก็ไม่หักไม่งอ :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2013, 14:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

amazing เขียน:
ที่จริงแล้วมีพระสูตรหนึ่งพูดเกี่ยวกับผู้มีจิตหยั่งลงมั่นจะน้อมใจกระทำความเพียรอย่างนี้แต่พอดีระบบมันโหลดไม่ได้ก็เามาให้ดูไม่ได้ใจความเดียวกันนี้


อย่าเอาเลยครับ แค่เห็นกรัชกายรูปงามทั้งยามหลับและยามตื่นเห็นแล้ว มองออกหมดครับ amazing น่าศรัทธามากเกิน อ่านพระสูตรแทบจะยกขึ้นบูชา แต่ปัญญายังมาไม่ทัน :b1:

เจ้าของ:  amazing [ 12 ต.ค. 2013, 14:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

กรัชกายพระสุตรก็หามาให้ดูแล้ว. ผมไม่ได้โง่ที่จะทำอะไรอย่างไม่รู้หรอกนะ. บทอธิฐานความเพียรนั้นเข้าเอาไว้ขั้นสุดท้ายจากการที่ได้เรียนรุ้ปริยัติมาพอจนเข้าใจจนเกิดศรัทธาที่ถูกต้อง ความเพียรที่เกิดจึงป็นความเพียรที่ถูกครับ. พระองค์กล่าวไว้หหรือจะเถียง

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2013, 14:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

amazing เขียน:
กรัชกายพระสุตรก็หามาให้ดูแล้ว. ผมไม่ได้โง่ที่จะทำอะไรอย่างไม่รู้หรอกนะ. บทอธิฐานความเพียรนั้นเข้าเอาไว้ขั้นสุดท้ายจากการที่ได้เรียนรุ้ปริยัติมาพอจนเข้าใจจนเกิดศรัทธาที่ถูกต้อง ความเพียรที่เกิดจึงป็นความเพียรที่ถูกครับ. พระองค์กล่าวไว้หหรือจะเถียง


คุณไม่โง่หรอก แต่ศรัทธาล้ำหน้าไปเร็วเกินไป ปัญญาตามไม่ทัน :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2013, 14:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

ตัวอย่างคุณสมบัติของผู้บำเพ็ญเพียร ยังไงไม่สำเร็จ ยังไงสำเร็จ


พุทธพจน์ที่ตรัสเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้มาประกอบการพิจารณาสักเล็กน้อย

“ภิกษุทั้งหลาย คุณสมบัติของผู้บำเพ็ญเพียร (องค์ของผู้มีประธาน) มี ๕ ประการเหล่านี้ ๕ ประการคือ อะไร ? กล่าวคือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้

๑. เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อตถาคตโพธิ ว่าแม้เพราะเหตุผลดังนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นอรหันต์ เป็นสัมมาสัมพุทธะ ฯลฯ เป็นผู้จำแนกแจกธรรม

๒. เป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคน้อย ประกอบด้วยไฟเผาผลาญ ที่สำหรับย่อยอาหารอันสม่ำเสมอ ไม่เย็นนัก ไม่ร้อนนัก พอปานกลาง เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียร

๓. เป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมายา เป็นผู้เปิดเผยตัวตามเป็นจริง ทั้งในพระศาสดา ทั้งในเพื่อนพรหมจารี ผู้เป็นวิญญู

๔. เป็นผู้ระดมความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อยังกุศลธรรมให้ถึงพร้อม มีความเข้มแข็งบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย

๕. เป็นผู้มีปัญญา ประกอบด้วยปัญญาอย่างอริยะ ที่หยั่งถึงความเกิดขึ้นและความดับสลาย ชำแรกกิเลสได้ อันให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ”



“ภิกษุทั้งหลาย ๕ อย่างเหล่านี้ มิใช่สมัยที่เหมาะสำหรับบำเพ็ญเพียร ๕ อย่าง คืออะไร ? กล่าวคือ

๑. ภิกษุเป็นผู้แก่เฒ่า ถูกชราครอบงำ

๒. ภิกษุเป็นผู้เจ็บไข้

๓. สมัยที่มีอาหารขาดแคลน ข้าวไม่ดี หาอาหารยาก ไม่สะดวกที่จะยังชีพด้วยบิณฑบาต

๔. สมัยที่มีภัย มีความเดือดร้อนวุ่นวายโจรผู้ร้ายจากป่ามาปล้นตี ชาวชนบทพากันขึ้นยานพาหนะผันผายย้ายหนี

๕. สมัยที่สงฆ์แตกแยกกัน เมื่อสงฆ์แตกแยกแล้ว ย่อมมีการด่าว่ากัน บริภาษกัน มีการใส่ร้ายและละทิ้งกันและกัน คนที่ยังไม่เลื่อมใส ก็ไม่เลื่อมใส คนบางคนที่เลื่อมใสแล้ว ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นอย่างอื่น



“ภิกษุทั้งหลาย ๕ อย่างเหล่านี้ เป็นสมัยที่เหมาะสำหรับบำเพ็ญเพียร ๕ อย่างคือ อะไร ? กล่าวคือ

๑. ภิกษุยังหนุ่ม ยังเยาว์ มีผมดำสนิท ประกอบด้วยวัยหนุ่มอันเจริญ เป็นปฐมวัย

๒. ภิกษุเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคน้อย ฯลฯ

๓. สมัยที่อาหารพร้อมดี ข้าวดี หาอาหารได้ง่าย สะดวกที่จะยังชีพด้วยการหาบิณฑบาต

๔. สมัยที่มนุษย์ทั้งหลายพร้อมเพรียงกัน ชื่นชมต่อกัน ไม่วิวาทกัน เป็นเหมือนน้ำนมกับน้ำ มองดูกันด้วยสายตาประกอบด้วยความรัก

๕. สมัยที่สงฆ์พร้อมเพรียงกัน ชื่นชมกัน ไม่วิวาทกัน มีอุเทศร่วมเป็นอันเดียวกัน เป็นอยู่ผาสุก เมื่อสงฆ์พร้อมเพรียงกัน ก็ไม่มีการด่าว่ากัน ไม่บริภาษกัน ไม่ใส่ร้ายกัน ไม่ทอดทิ้งกัน คนที่ยังไม่เลื่อมใส ย่อมเลื่อมใส และคนที่เลื่อมใสแล้ว ย่อมเลื่อมใสยิ่งขึ้นไป”

เจ้าของ:  amazing [ 12 ต.ค. 2013, 14:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

กรัชกายหนีการปฏิบัติไม่ได้ เรียนแต่พองามมากก็ไม่เป็นไรถือว่าดีมาก แต่อย่าวลืมปฏิบัติ. อานาปานนะถึงวิมุตเลย amaningขี้เกียจเรียนแล้วเรียนมาหลายปี. ตอนนี้อานาปานล้วนมันสุดยอดมากกรัชกาย

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2013, 18:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

amazing เขียน:
กรัชกายหนีการปฏิบัติไม่ได้ เรียนแต่พองามมากก็ไม่เป็นไรถือว่าดีมาก แต่อย่าวลืมปฏิบัติ. อานาปานนะถึงวิมุตเลย amaningขี้เกียจเรียนแล้วเรียนมาหลายปี. ตอนนี้อานาปานล้วนมันสุดยอดมากกรัชกาย



ก็บอกมาสิขอรับ สุดยอดยังไง เอาชัดๆ :b8: :b8: :b8: :b36:

เจ้าของ:  amazing [ 12 ต.ค. 2013, 19:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกายหนีการปฏิบัติไม่ได้ เรียนแต่พองามมากก็ไม่เป็นไรถือว่าดีมาก แต่อย่าวลืมปฏิบัติ. อานาปานนะถึงวิมุตเลย amaningขี้เกียจเรียนแล้วเรียนมาหลายปี. ตอนนี้อานาปานล้วนมันสุดยอดมากกรัชกาย



ก็บอกมาสิขอรับ สุดยอดยังไง เอาชัดๆ :b8: :b8: :b8: :b36:
บอกไปจะรุ้เหรอปฎิบัติปฎิบัติ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2013, 19:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกายหนีการปฏิบัติไม่ได้ เรียนแต่พองามมากก็ไม่เป็นไรถือว่าดีมาก แต่อย่าวลืมปฏิบัติ. อานาปานนะถึงวิมุตเลย amaningขี้เกียจเรียนแล้วเรียนมาหลายปี. ตอนนี้อานาปานล้วนมันสุดยอดมากกรัชกาย



ก็บอกมาสิขอรับ สุดยอดยังไง เอาชัดๆ :b8: :b8: :b8: :b36:
บอกไปจะรุ้เหรอปฎิบัติปฎิบัติ



รู้ดิขอรับ บอกมาวิธีปฏิบัติ ขึ้นสมองลงตับอะไรรู้หมดแหละ :b1:

เจ้าของ:  amazing [ 12 ต.ค. 2013, 19:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกายหนีการปฏิบัติไม่ได้ เรียนแต่พองามมากก็ไม่เป็นไรถือว่าดีมาก แต่อย่าวลืมปฏิบัติ. อานาปานนะถึงวิมุตเลย amaningขี้เกียจเรียนแล้วเรียนมาหลายปี. ตอนนี้อานาปานล้วนมันสุดยอดมากกรัชกาย



ก็บอกมาสิขอรับ สุดยอดยังไง เอาชัดๆ :b8: :b8: :b8: :b36:
บอกไปจะรุ้เหรอปฎิบัติปฎิบัติ



รู้ดิขอรับ บอกมาวิธีปฏิบัติ ขึ้นสมองลงตับอะไรรู้หมดแหละ :b1:
และกายสังขารดับล่ะเคยยัง

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 12 ต.ค. 2013, 19:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หยั่งลงมั่นมีจิตตั้งไปเพื่อความเพียร

amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกายหนีการปฏิบัติไม่ได้ เรียนแต่พองามมากก็ไม่เป็นไรถือว่าดีมาก แต่อย่าวลืมปฏิบัติ. อานาปานนะถึงวิมุตเลย amaningขี้เกียจเรียนแล้วเรียนมาหลายปี. ตอนนี้อานาปานล้วนมันสุดยอดมากกรัชกาย



ก็บอกมาสิขอรับ สุดยอดยังไง เอาชัดๆ :b8: :b8: :b8: :b36:
บอกไปจะรุ้เหรอปฎิบัติปฎิบัติ



รู้ดิขอรับ บอกมาวิธีปฏิบัติ ขึ้นสมองลงตับอะไรรู้หมดแหละ :b1:
และกายสังขารดับล่ะเคยยัง


ยังขอรับ ดับยังไงอ่ะ :b10:

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/