ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต สอนไว้ดีมากเลยครับ ก็อปมาให้อ่านกัน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=46109 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | PaiKung26 [ 12 ส.ค. 2013, 21:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | สมเด็จพระพุฒาจารย์โต สอนไว้ดีมากเลยครับ ก็อปมาให้อ่านกัน |
กรรมลิขิต... เราทั้งหลายเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติแล้ว ล้วนแต่มีกรรมผูกพันกันมาทั้งสิ้น ผูกพันในความเป็นมิตรบ้างเป็นศัตรูบ้าง แต่ละชีวิตก็ย่อมที่จะเดินไปตามกรรมวิบากของตนที่ได้กระทำไว้ ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป็นเครื่องลิขิต อดีตกรรม ถ้ากรรมดี เสวยอยู่ ปัจจุบันกรรม สร้างกรรมชั่ว ย่อมลบล้างอดีตกรรม กรรมแห่งอกุศล วิบากตน ปัจจุบัน สร้างกรรมดี ย่อมผดุง เรื่องกฎแห่งกรรม ถ้าเป็นชาวพุทธแล้ว เขาถือว่าเป็นกฎแห่งปัจจังตัง ผู้ที่ต้องการรู้ ต้องทำเอง รู้เอง ถึงเอง แล้วจึงจะเข้าใจ นักบุญ... การทำบุญก็ดี การทำสิ่งใดก็ดี ถ้าเป็นการทำตนให้ละทิฏฐิมานะทำเพื่อให้จิตเบิกบาน ย่อมเสวยบุญนั้นในปรภพ มนุษย์ทุกวันนี้ทำแบบมีกิเลส ดังนั้น บางคนนึกว่าเข้าสร้างโบสถ์เป็นหลังๆ แล้วเขาจะไปสวรรค์หรือเปล่า เขาตายไปอาจจะต้องตกนรก เพราะอะไรเล่า เพราะถ้าเขาสร้างด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ เป็นการทำเพื่อเอาบุญบังหน้าในการเสวยความสุขส่วนตัวก็มี บางคนอาจเรียกได้ว่าหน้าเนื้อใจเสือ คือข้างหน้าเป็นนักบุญ ข้างหลังเป็นนักปล้น ละความตระหนี่มีสุข... ดังนั้นบุญที่เขาทำนี้ถือว่า ไม่เป็นสุข หากมาจากการก่อกรรม บุญนั้นจึงมีกระแสคลื่นน้อยกว่าบาปที่เขาทำเอาไว้หากมีใครเข้าใจคำว่า บุญ นี้ดีแล้ว การทำบุญนี้จุดแรกในการทำก็เพื่อไม่ให้เรานี้เป็นคนตระหนี่ รู้จักเสียสละเพื่อความสุขของผู้อื่น ธรรมดาเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมื่อมีทุกข์ก็ควรจะทุกข์ด้วย เมื่อมีความสุขก็ควรสุขด้วยกัน อย่าเอาเปรียบเทวดา... ในการทำบุญ สิ่งที่จะได้ก็คือ ระหว่างเราผู้เป็นมนุษย์เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนี้จะเป็นมงคล ทำให้จิตใจเบิกบานดีนี่คือการเสวยผลแห่งบุญในปัจจุบัน ทีนี้การทำบุญเพื่อจะเอาผลตอบแทนนั้น มนุษย์นี้ออกจะเอาเปรียบเทวดา ทำบุญครั้งใด ก็ปรารถนาเอาวิมานหนึ่งหลังสองหลัง การทำบุญแบบนี้เรียกว่า ทำเพราะหวังผลตอบแทนด้วยความโลภ บุญนั้นก็ย่อมจะไม่มีผล ท่านอย่าลืมว่า ในโลกวิญญาณเขามีกระแสทิพย์รับทราบในการทำของมนุษย์แต่ละคนเขามีห้องเก็บบุญและบาปแห่งหนึ่งอันเป็นที่เก็บบุญและบาปของใครต่อใครและของเรื่องราวนั้นๆ กรรมของใครก็จะติดตามความเคลื่อนไหวของตนๆนั้น ไปตลอดระหว่างที่เขายังไม่สิ้นอายุขัย บุญบริสุทธิ์... การที่สอนให้ทำบุญโดยไม่ปรารถนานั้นก็เพื่อให้กระแสบุญนั้นบริสุทธิเป็นขั้นที่นึ่ง จะได้ตามให้ผลทันในปัจจุบันชาติ แต่ถ้าตามไม่ทันในปัจจุบันชาติ ก็ติดตามไปให้เสวยผลในปรภพ คือ เมื่อสิ้นอายุขัยจากโลกมนุษย์ไปแล้ว ฉะนั้น เขาจึงสอนไม่ให้ทำบุญเอาหน้า ทำบุญอย่าหวังผลตอบแทน สิ่งดีที่ท่านทำไปย่อมได้รับสนองดีแน่นอน สั่งสมบารมี...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับนักปฏิบัติธรรมแล้ว การทำบุญทำทานย่อมเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติจิตให้บรรลุธรรมได้เร็วขึ้นเป็นบารมีอย่างหนึ่ง ในบารมีสิบทัศที่ต้องสั่งสม เพื่อให้สำเร็จมรรคผลนิพพาน คติธรรมคำสอน สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) |
เจ้าของ: | nongkong [ 12 ส.ค. 2013, 21:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จพระพุฒาจารย์โต สอนไว้ดีมากเลยครับ ก็อปมาให้อ่านกัน |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | sirinpho [ 12 ส.ค. 2013, 21:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จพระพุฒาจารย์โต สอนไว้ดีมากเลยครับ ก็อปมาให้อ่านกัน |
ขอน้อมกราบสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ![]() และขออนุโมทนาบุญกับคุณ PaiKung26 ด้วยคะ |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 16 ส.ค. 2013, 00:13 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จพระพุฒาจารย์โต สอนไว้ดีมากเลยครับ ก็อปมาให้อ่านกัน | ||
![]() ![]() ![]() ![]() ขอบคุณที่มา :: เป็นมนุษย์นี้แสนยาก :: http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn03.html ![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | PaiKung26 [ 16 ส.ค. 2013, 00:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จพระพุฒาจารย์โต สอนไว้ดีมากเลยครับ ก็อปมาให้อ่านกัน |
ฟ้าใสใส เขียน: ![]() ![]() ![]() ![]() ขอบคุณที่มา :: เป็นมนุษย์นี้แสนยาก :: http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn03.html ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() สาธุๆครับ ธรรมทานดีจุงเบยย ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |