วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 18:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2013, 17:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


PaiKung26 เขียน:
คือผมขอโทษครับ

เมื่อตะกี้รู้สึกเหมือนโดนว่าว่าทำบุญแล้วหวังผล

มันไม่ใช่อย่างงั้นนะครับ ผมทำบุญทุกครั้งก็สบายใจ ชอบ รู้สึกจรรโลงพระศาสนา

แต่บางครั้งก็นึกขอพรไปสวรร์นิมมานรดีเหมือนในหนังสือที่บอกไว้ตอนหนึ่ง

ว่าถ้าอยากไปสวรรค์ชั้นไหนให้อธิษฐานเหมือนนางมาลาภารีครับ

ขออภัยจริงๆนะครับ Kiss



ทำแล้วสบายใจ ก็ทำไปเถอะ ใยจะไปหวั่นไหว กับคำพูดของผู้อื่นเล่า :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2013, 17:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ค. 2013, 22:08
โพสต์: 92

แนวปฏิบัติ: สมถะกรรมฐาน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: การทำสังฆทาน
ชื่อเล่น: ไผ่
อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
PaiKung26 เขียน:
คือผมขอโทษครับ

เมื่อตะกี้รู้สึกเหมือนโดนว่าว่าทำบุญแล้วหวังผล

มันไม่ใช่อย่างงั้นนะครับ ผมทำบุญทุกครั้งก็สบายใจ ชอบ รู้สึกจรรโลงพระศาสนา

แต่บางครั้งก็นึกขอพรไปสวรร์นิมมานรดีเหมือนในหนังสือที่บอกไว้ตอนหนึ่ง

ว่าถ้าอยากไปสวรรค์ชั้นไหนให้อธิษฐานเหมือนนางมาลาภารีครับ

ขออภัยจริงๆนะครับ Kiss



ทำแล้วสบายใจ ก็ทำไปเถอะ ใยจะไปหวั่นไหว กับคำพูดของผู้อื่นเล่า :b8:



จริงด้วยผมหวั่นไหวต่อคำพูดจริงๆ ขอโทษทุกคนนะครับ

อโหสิกรรมให้ผมด้วยนะครับ s002

อนุโมทนากับความคิดและธรรมทานทุกท่านนะครับ ชอบมากเลย :b35:

.....................................................
อย่าได้เห็นแก่ความสุข สนุกสนานชั่วครู่คราว
เพราะผลกรรมที่ตามมามันสุดแสนจะ
ทุกข์ทรมาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2013, 22:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2013, 17:07
โพสต์: 39

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปลีกวิเวก เขียน:
สวรรค์ชั้นที่ 5
นิมมานรดีเทวภูมิ

เทวภูมินี้ เป็นที่สถิตของปวงเทพเจ้า ผู้มีความยินดีเพลิดเพลินในกามคุณารมณ์
ที่เนรมิตขึ้นตามความพอใจของตนเอง โดยมีเทพเจ้ามเหศักดิ์ ทรงนามว่า สมเด็จท่านท้าวสุนิมมิตเทวาธิราช
ทรงเป็นอธิบดีผู้ปกครอง จึงได้ชื่อว่า นิมมานรดีภูมิ คือ ภูมิเป็นที่อยู่แห่งทวยเทพ
อันมีสมเด็จพระนิมมิตเทวาธิราช ทรงเป็นอธิบดี

ภายในเทพนคร มีปราสาทเงิน ปราสาททอง และปราสาทแก้ว ทั้งมีกำแพงแก้ว กำแพงทอง อันเป็นของทิพย์เป็นวิมานที่อยู่ของเหล่าเทวดา

นอกจากนั้น พื้นภูมิภาคยังมีสภาวะเป็นทองราบเรียบเสมอกัน มีสระโบกขรณี และ สวนอุทยานอันเป็นทิพย์สำหรับเป็นที่เที่ยวเล่นสำราญแห่งเหล่าชาวสวรรค์นิมมานรดีทั้งหลาย
เช่นเดียวกับสมบัติทิพย์ในสวรรค์ชั้นดุสิต ต่างกันแต่ว่าทุกอย่างที่นี่มีสภาวะสวยสดงดงามกว่า
และประณีตกว่าทิพยสมบัติในดุสิตภูมิ

เทพยดาทั้งหลายในสวรรค์ชั้นนี้ มีรูปทรงสวยงามน่าดูชม ยิ่งกว่าชาวสวรรค์ชั้นที่ต่ำกว่าทั้งหลาย
และมีกายทิพย์ ซึ่งมีรัศมีรุ่งเรืองเป็นยิ่งนัก หากเขาเกิดความปรารถนาจะเสวยสุขด้วยกามคุณารมณ์สิ่งใดเขาย่อมเนรมิตเอาได้ตามความพอใจชอบใจแห่งตนทุกสิ่งทุกประการ ไม่มีความขัดข้อง
และเดือดเนื้อร้อนใจในกรณีใด ๆ เลย ปรองดอง รักใคร่ และได้รับความสุขสำราญชื่นบาน ทุกถ้วนหน้าทางไปสวรรค์ชั้นนิมมานรดี

ผู้ที่จำอุบัติในสวรรค์ชั้นนี้ ต้องเพียรบริจาคทานเป็นอันมาก อย่างเสมอต้นเสมอปลาย จิตใจบริสุทธิ์
รักษาศีลไม่ขาดตกบกพร่อง ต้องอุตส่าห์ก่อสร้างกองบุญกุศลให้ยิ่งใหญ่ อบรมจิตใจของตนให้บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่ให้สกปรกลามกมีมลทิน พยายามรักษาศีลไม่ให้ขาด มีใจสมบูรณ์ด้วยศีล ผลวิบากแห่งทานและศีลอันสูงส่งเท่านั้น จึงจะบันดาลให้ไปอุบัติเกิดในสวรรค์ชั้นนี้ได้

ในทานสูตรกล่าวไว้ว่า...
"ผู้ใดทำทานโดยไม่คิดว่าเราหุงหากิน แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น ไม่ได้หุงหากิน
เราจะไม่ให้ทานก็ไม่บังควรอย่างยิ่ง แต่ได้คิดว่าเราจะให้ทานเหมือนอย่างฤาษีทั้งหลาย
ที่ได้กระทำมาในอดีต เมื่อตายลงย่อมไปบังเกิดเป็นเทวดา ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี"

----------------------------------------------------------------------------------------

งั้นสวรรค์ชั้นนี้ก็น่าเบื่อนะซิ.....
อยากได้อะไร..แค่คิดก็ได้ทุกอย่าง....
เทพยาดาสวย...หล่อกันทุกคน.....จนเหมือนกันไปหมด
ปราสาทจะแบบไหนไม่สำคัญ...ประโยชน์เหมือนกันก็ใช้ได้นีนา(สงสัยจิตใจเราจะหยาบน่าดู)
...........
มีคำถามคะ
เมื่อตายไปเกิดเป็นเทวดาชั้นนิมมารนรดี....แล้วใช้ผลบุญจนหมดอายุไขสวรรค์....เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งเรายังจะได้รับอานิสงค์ของการทำทานและรักษาศีลของชาติก่อนรึเปล่า....

มีสวรรค์ชั้นอื่นที่น่าสนใจอีกรึเปล่าคะ.....

แล้วมีไหมพวกที่พอหมดบุญแล้วต้องลงมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
................................. s006 s006 s006
แล้วการไปเกิดสวรรค์--นรก อันนี้คือการรับผลของการกระทำตั้งแต่ตอนยังไม่ตายคือทำไปเรื่อยๆ...หรืออารมณ์ตอนใกล้ตายส่งผลให้ไปเกิดกันแน่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2013, 11:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ถาม จขกท. เพราะอะไำรจึงอยากไปสวรรค์ชั้นนิมมาฯ ครับ :b10: ได้ข่าวว่าที่นั่นมีอะไรถูกใจหรอ :b14:

ใครจะไปสวรรค์ชั้นไหนก็ชั่งเค้าเหอะพี่กรัชกาย ทำบุญหวังไปสวรรค์ถ้าบุญหมดก็ต้องตกสวรรค์อีกอยู่ดี พี่กรัชกายตามคุนน้องไปชั้นดุสิตธานีนะเจ้าค่ะ เพราะเรามีหน้าที่ต้องช่วยเหลือสรรพสัตว์ เราไม่จำเปนต้องเสวยบุญบนสวรรค์แต่บุญนั้นจะเป็นปัจจัยส่งผลเมื่อเราต้องเจอวิบากกรรมตอนจุติเป็นมนุษย์ เราสามารถจุติได้และบำเพ็ญบารมีจนกว่าเราจะนิพพาน :b1:



ทั้งชั้นคงไ่มไหวหรอกที่นี่ แพงอ่ะ ห้องเดียวคืนเป็นหมื่นแล้ว :b32:

อิตานี่เห็นเราเป็นตัวตลกรึไงนะ (หมายถึงดุสิตบุรีพิมผิดเป็นดุสิตธานี555+) สงสัยพี่กรัชกายอยากไปขึ้นสวรรค์กับคุนน้องใช่ไหมหละเจ้าค่ะ :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2013, 11:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


PaiKung26 เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกายตามคุนน้องไปชั้นดุสิตธานีนะเจ้าค่ะ.....:b1:
:b1:

ดุสิตนี่ เป็นชื่อสวรรค์รึเปล่าครับ ??

สวรรค์ชั้นดุสิต มีความกว้างใหญ่ไพศาลมาก มี ท้าวสันดุสิต ซึ่งบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว เป็นผู้ปกครองภพ ที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดุสิตอยู่สูงขึ้นไปจากยอดเขาสิเนรุ อยู่ในอากาศเหนือสวรรค์ชั้นยามา 42,000โยชน์ บนสวรรค์จะไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทำให้ไม่มีเงา ไม่มีมุมมืดบนสวรรค์ อยู่ได้ด้วยความสว่างจากวัตถุสิ่งของต่างๆ เช่น กายของเหล่าเทวดา วิมาน สวน สระ สิ่งแวดล้อมต่างๆมีแต่ความสว่าง จึงไม่ต้องอาศัยดวงอาทิตย์

ลักษณะของสวรรค์ชั้นดุสิต จะไม่ได้กลมอย่างโลกมนุษย์ แต่จะกลมแบบราบ ถ้ามองจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป จะมองเห็นเป็นแสงสว่างนุ่มเนียนตา และถ้ามองจากสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป ก็จะเห็นแสงสว่างนุ่มเนียนตาของสวรรค์ชั้นนิมมานรดี หรือถ้ามองลงไปที่ดาวดึงส์ก็จะเห็นว่า มีขนาดสวรรค์ชั้นดุสิตไม่ต้องอาศัยดวงอาทิตย์เล็กนิดเดียว เพราะสวรรค์ชั้นดุสิตใหญ่กว่า

โครงสร้างของสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานของท้าวสันดุสิต เป็นศูนย์กลางของสวรรค์ชั้นนี้ แล้วแบ่งออกเป็น 4เขต วนโดยรอบวิมานของท้าวสันดุสิต ดังนี้...

เขตที่1.เป็นที่อยู่ของพระอริยเจ้า คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ซึ่งอยู่ชั้นในสุด

เขตที่2.เป็นที่อยู่ของนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ซึ่งวงบุญพิเศษของผู้ที่มีมโนปณิธาน จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ให้หมดจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ก็จะอยู่ในเขตนี้ด้วย

เขตที่3.เป็นที่อยู่ของอนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับวงบุญพิเศษพยากรณ์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังต้องสร้างบารมีอีกมาก

เขตที่4.เป็นที่อยู่ของผู้ที่ทำกุศลมาก และมีกำลังบุญมากพอที่จะได้อยู่สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เป็นเขตทั่วไป นอกเหนือจาก 3เขตแรก

สวรรค์ชั้นดุสิต มีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นอยู่หลายประการ หนึ่งในความพิเศษนั้นก็คือ เป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีเป็นพระสาวก เพื่อตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคต(ตรงนี้แหละค่ะที่ทำให้คุนน้องตัดสินใจเลือกจะไปชั้นนี้เพราะคุณน้องจะตามไปเป็นสาวกของพระศรีอริยะเมตรไตร :b39: )

แล้วทำไม พระบรมโพธิสัตว์หรือบัณฑิตทั้งหลาย จึงปรารถนาที่จะได้มาบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ทั้งๆที่กำลังบุญของแต่ละท่านนั้นมากมาย ปรารถนาที่จะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ เหตุที่ท่านเลือกสวรรค์ชั้นนี้ มีข้อสังเกตอย่างน้อย 3ประการ คือ

1.พระโพธิสัตว์สามารถจุติลงมาได้ตามใจปรารถนา หมายความว่าโดยปกติเทวดามีเหตุแห่งการจุติหลายประการ เช่น หมดบุญก็มี หมดอายุขัยก็มี จุติเพราะความโกรธก็มี แต่เหล่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ลักษณะของสวรรค์ชั้นดุสิต เมื่อจะจุติลงมาสร้างบารมี หรือมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะนั่งทำสมาธิ(Meditation) อธิษฐานจิต สามารถดับวูบลงมาเกิดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ

2.เนื่องจากสวรรค์ชั้นนี้ มีแต่บัณฑิต มีแต่พระบรมโพธิสัตว์ ล้วนแต่มีอัธยาศัยคล้ายคลึงกัน ที่จะฝึกฝนตนเองและช่วยสรรพสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ไม่ประมาทในการดำรงชีวิตเหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ มักจะคบหาบัณฑิต พูดคุยสนทนาธรรมกันเพื่อความเบิกบานใจ และหมั่นไปฟังธรรมในวันพระ ซึ่งท่านท้าวสันดุสิตจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์ ที่มีบุญบารมีมาก มาแสดงธรรมให้ฟัง

3.ขนาดอายุทิพย์ของสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ คือ 4,000ปีทิพย์ ซึ่งไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุข เพราะท่านจะต้องลงมาสร้างบารมีต่อ ถ้ามีอายุขัยนานเกินไปจะทำให้เสียเวลา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2013, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ค. 2013, 22:08
โพสต์: 92

แนวปฏิบัติ: สมถะกรรมฐาน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: การทำสังฆทาน
ชื่อเล่น: ไผ่
อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


ตามความคิดผมนะ เป็นเทวดาชั้นไหนๆก็สามารถสำเร็จเป็นพระอริยบุคคลได้ เช่นท้าวสักกะ หรือเทวดาองค์อื่นๆก็สำเร็จโสดาบันหรือมากกว่านั้นครับ ถ้าเทวดาชั้นนิมมานรดีจะลงมาฟังธรรมบ้างก็ไม่น่าแปลกครับผม onion

.....................................................
อย่าได้เห็นแก่ความสุข สนุกสนานชั่วครู่คราว
เพราะผลกรรมที่ตามมามันสุดแสนจะ
ทุกข์ทรมาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2013, 02:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


PaiKung26 เขียน:
ตามความคิดผมนะ เป็นเทวดาชั้นไหนๆก็สามารถสำเร็จเป็นพระอริยบุคคลได้ เช่นท้าวสักกะ หรือเทวดาองค์อื่นๆก็สำเร็จโสดาบันหรือมากกว่านั้นครับ ถ้าเทวดาชั้นนิมมานรดีจะลงมาฟังธรรมบ้างก็ไม่น่าแปลกครับผม onion


เห็นด้วยครับว่าเทวดาลงมาฟังธรรมได้ แต่ว่ามาฟังธรรมกับใครละครับในเมื่ิอพระพุทธเจ้าก็ปรินิพพานแล้ว พระอนุพุทธะผู้ที่มีญาณอานุภาพสูงสุด หรือพระโมคคัลลานะ ก็นิพพานแล้ว ผู้ใดละครับที่สามารถติดต่อเทวดาได้ เพราะถ้าลำดับผู้ที่มีเลิศทางฤทธิ์รองจากพระพุทธเจ้า ก็ไม่มีใครเทียบพระโมคคัลลานะได้เลย แล้วพระพุทธองค์ต่อไปที่ถูกทำนายก็ยังไม่ถือกำเนิดขึ้นตอนนี้หรือในอนาคตข้างหน้าอีกหลายแสนปี

และมีแต่พระพุทธเจ้าและพระสารีบุตรที่มีปัญญา สามารถกล่าวธรรมให้ผู้ฟังบรรลุธรรมได้ แต่พระสารีบุตรเองก็นิพพานไปแล้วเช่นกัน การบรรลุธรรมของเทวดาจากพระไตรปิฎก ล้วนแต่แต่บรรลุธรรมจากการฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าโดยตรง แต่นะตอนนี้พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ใครเล่าจะสามารถกล่าวธรรมโปรดเทวดาได้

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2013, 09:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


อธรรม เขียน:
ปลีกวิเวก เขียน:
สวรรค์ชั้นที่ 5
นิมมานรดีเทวภูมิ

ในทานสูตรกล่าวไว้ว่า...
"ผู้ใดทำทานโดยไม่คิดว่าเราหุงหากิน แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น ไม่ได้หุงหากิน
เราจะไม่ให้ทานก็ไม่บังควรอย่างยิ่ง แต่ได้คิดว่าเราจะให้ทานเหมือนอย่างฤาษีทั้งหลาย
ที่ได้กระทำมาในอดีต เมื่อตายลงย่อมไปบังเกิดเป็นเทวดา ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี"

----------------------------------------------------------------------------------------
...........
มีคำถามคะ
เมื่อตายไปเกิดเป็นเทวดาชั้นนิมมารนรดี....แล้วใช้ผลบุญจนหมดอายุไขสวรรค์....เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งเรายังจะได้รับอานิสงค์ของการทำทานและรักษาศีลของชาติก่อนรึเปล่า....

มีสวรรค์ชั้นอื่นที่น่าสนใจอีกรึเปล่าคะ.....

แล้วมีไหมพวกที่พอหมดบุญแล้วต้องลงมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
................................. s006 s006 s006
แล้วการไปเกิดสวรรค์--นรก อันนี้คือการรับผลของการกระทำตั้งแต่ตอนยังไม่ตายคือทำไปเรื่อยๆ...หรืออารมณ์ตอนใกล้ตายส่งผลให้ไปเกิดกันแน่

- ลงมาเกิดอีกครั้ง เวลาอยากได้อะไรแล้ว ตั้งความหวัง
ตั้งความปรารถนานั้นๆ แล้วบากบั่นไปจนสำเร็จ คล้ายว่า
สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมา เป็นนิมิตขึ้นมา จากใจด้วย
ความตั้งใจ ด้วยกำลังของตัวเอง ปัจจุบันได้ทำอยู่
อย่างนี้ นั่นแหละเนรมิตเอง ทำเอง สมปรารถนาเอง
ตามที่ตนต้องการ นั่นแหละอานิสงส์ที่เคย ทำเอาไว้

อธรรม เขียน:
มีสวรรค์ชั้นอื่นที่น่าสนใจอีกรึเปล่าคะ.....

- ถัดจากนิมมานรตีภูมิ คือ ปรมินมิตวสวัตตีภูมิที่น่่าสนใจกว่า

เพราะนิมมานรตีภูมิ เนรมิตสิ่งต่างๆ ขึ้นด้วยกำลังของตนเอง
ส่วน ปร= อื่น ปรนิมมิตวสวัตตี ผลบุญที่เกิดขึ้นจากความ
ประสงค์ความต้องการของเรา แต่มีผู้อื่นทำให้ มอบให้
หยิบยื่นให้ แล้วเราได้รับความสุขความสมหวังตามต้องการ
ไม่ต้องลงมือกระทำ ผู้อื่นรู้ใจเราด้วยใจ แล้วทำให้ดังนั้น
ผลบุญ ผลอานิสงส์ใน ปรนิมมิตวสวัตตีภูมิจึงน่าสนใจกว่า

ทั้ง นิมมานรตี และ ปรนิมมิตวสวัตตี ถือเป็น กามอันเป็นทิพย์
คือเลิศ ละเอียด กว่าๆ ใน จาตุมหาราชิกา ตาวติงสา ยามา
และดุสิตาภูมิ เพราะอายุ วรรณะ ยศ ใหญ่กว่า ฯลฯ

อธรรม เขียน:
แล้วมีไหมพวกที่พอหมดบุญแล้วต้องลงมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน

- มีพระสูตร ตรัสไว้ ส่วนมากจุติ(เคลื่อน)จากพรหมจะไป
ปฏิสนธิ(เกิด,เข้าถึง)ความเป็นพรหมอีก ยากกว่า แต่ไป
จุติปฏิสนธิในเทวดา มนุษย์ อบาย มากกว่ามาก

เช่นกัน ถ้าหมดบุญในชั้น กามาวจรภูมิ ในเทวดาภูมิ
ก็จะจุติปฏิสนธิในมนุษย์และอบาย(เตรัจฉาน)มากกว่า
ที่จะได้เกิดเป็นเทวดาอีกมีเพียงส่วนน้อย...

(ต้องต่อบุญ ทำบุญให้เพลิน ถึงจะอายุยืน คนมีฉันทะ
มีนันทิความเพลินในการ เสวยอายุ เข้าถึงภูมิจิตภูมิใจ
อย่างนั้น ย่อมรู้ดี ว่าต้องกลับไป ต้องอุปปัต ต้องเข้าถึง
ในภูมินั้นเพื่อปรารถนาความสุขอย่างนั้นบ่อยๆ เป็นอย่างไร)

อธรรม เขียน:
แล้วการไปเกิดสวรรค์--นรก อันนี้คือการรับผลของการกระทำตั้งแต่ตอนยังไม่ตายคือทำไปเรื่อยๆ...หรืออารมณ์ตอนใกล้ตายส่งผลให้ไปเกิดกันแน่

- การรับผลมีสองอำนาจนำไป ๑.ไปด้วยอำนาจบุญกรรม
ที่กระทำ ๒.ไปด้วยอำนาจปฏิสนธิ(เข้าถึง,เกิด,อุปปัตติ)เอง
เพราะมีเหตุมีปัจจัยเข้ามากระทบ ได้รับผลในอัตตภาพนี้ก็มี
ได้รับผลในอัตตภาพหน้า ที่ยังไม่มา รอโอกาสหน้าก็มี

ผู้ที่ได้รับผลในอัตตภาพในปัจจุบัน พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ
มียศ อำนาจ วาสนา บารมีในปัจจุบันทันตาทันใจเพราะมี
องค์ประกอบเอื้ออำนวยให้ผลในปัจจุบัน กรณีทำบุญเอาไว้
ก็จะต้องรับผลของบุญนั้นๆ ก่อน ต่อเืมื่อ ทุจริตที่ทำไว้
สะสมไว้ บาปที่ทำไว้ รอเวลาให้ผลในอัตตภาพหน้า
ในอนาคตข้างหน้า มีองค์ประกอบ เอื้ออำนวยให้เกิดขึ้น

จากที่เคยมียศอำนาจ วาสนาบารมี ก็จะต้องเื่สื่อมจากยศ
อำนาจตรงนั้น หากมีบาปมีทุจริตมาก ทำอกุศลกรรม
เอาไว้มากเมื่อคราวหมดบุญ ถึงคราวบาปให้ผล ก็หนี
กรรมที่เป็นอกุศลที่ทำเอาไว้ไม่ได้

บางคนตกทุกข์ได้ยาก ในสายตาคนอื่น แต่จิตใจอารมณ์
กับเยือกเย็นสงบสุข กรรมอารมณ์ ส่งท้ายให้ปฏิสนธิ(เข้าถึง)
สวรรค์ทั้งๆ ที่อัตภาพดูน่าจะทุกข์ก็มี

ส่วนคนที่ดูสมบูรณ์เพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่จิตใจ
เศร้าหมอง หาความสุขสงบไม่ได้ กรรมอารมณ์ ส่งท้าย
ให้จิตจุติ(เคลื่อน,ตาย,ดับ)​ไปสู่ ห้วงแห่งความทุกข์
เข้าถึงอบายทั้งๆ ที่อัตตภาพดูน่าจะสุขก็มี ฯลฯ

โดยสรุป ด้วยสอง อำนาจ คือบุญกรรมที่ตนกระทำบ่อยๆ
เป็นอาจิณกรรม ทำเอง จะให้ผลในปัจจุบันและในสัมปรายภพ
(อัตตภาพหน้า)ก็มี และด้วยอำนาจปฏิสนธิจิต ของมรณสันวิถี
(กรรมอารมณ์ กรรมนิมิตารมณ์ คตินิมิตารมณ์) ส่งให้จิตสุดท้าย
ไปสู่ คติทั้งสอง สุคติ(สวรรค์) ทุคติ(นรก)อย่างใดอย่างหนึ่ง
ตามแรงบุญ(สุคติ)ตามแรงบาป(ทุคติ) ตามเหตุตามปัจจัย
ที่ปรุงแต่งและเข้ามากระทบ สมดังพุทธสุภาษิตที่ว่า
เมื่อจิตเศร้าหมองทุคติก็เป็นอันหวังได้ เมื่อจิตไม่เศร้าหมองสุคติ
ก็เ็ป็นอันหวัง เจริญพร.

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2013, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ค. 2013, 22:08
โพสต์: 92

แนวปฏิบัติ: สมถะกรรมฐาน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: การทำสังฆทาน
ชื่อเล่น: ไผ่
อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
PaiKung26 เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกายตามคุนน้องไปชั้นดุสิตธานีนะเจ้าค่ะ.....:b1:
:b1:

ดุสิตนี่ เป็นชื่อสวรรค์รึเปล่าครับ ??

สวรรค์ชั้นดุสิต มีความกว้างใหญ่ไพศาลมาก มี ท้าวสันดุสิต ซึ่งบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว เป็นผู้ปกครองภพ ที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดุสิตอยู่สูงขึ้นไปจากยอดเขาสิเนรุ อยู่ในอากาศเหนือสวรรค์ชั้นยามา 42,000โยชน์ บนสวรรค์จะไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทำให้ไม่มีเงา ไม่มีมุมมืดบนสวรรค์ อยู่ได้ด้วยความสว่างจากวัตถุสิ่งของต่างๆ เช่น กายของเหล่าเทวดา วิมาน สวน สระ สิ่งแวดล้อมต่างๆมีแต่ความสว่าง จึงไม่ต้องอาศัยดวงอาทิตย์

ลักษณะของสวรรค์ชั้นดุสิต จะไม่ได้กลมอย่างโลกมนุษย์ แต่จะกลมแบบราบ ถ้ามองจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป จะมองเห็นเป็นแสงสว่างนุ่มเนียนตา และถ้ามองจากสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป ก็จะเห็นแสงสว่างนุ่มเนียนตาของสวรรค์ชั้นนิมมานรดี หรือถ้ามองลงไปที่ดาวดึงส์ก็จะเห็นว่า มีขนาดสวรรค์ชั้นดุสิตไม่ต้องอาศัยดวงอาทิตย์เล็กนิดเดียว เพราะสวรรค์ชั้นดุสิตใหญ่กว่า

โครงสร้างของสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานของท้าวสันดุสิต เป็นศูนย์กลางของสวรรค์ชั้นนี้ แล้วแบ่งออกเป็น 4เขต วนโดยรอบวิมานของท้าวสันดุสิต ดังนี้...

เขตที่1.เป็นที่อยู่ของพระอริยเจ้า คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ซึ่งอยู่ชั้นในสุด

เขตที่2.เป็นที่อยู่ของนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ซึ่งวงบุญพิเศษของผู้ที่มีมโนปณิธาน จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ให้หมดจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ก็จะอยู่ในเขตนี้ด้วย

เขตที่3.เป็นที่อยู่ของอนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับวงบุญพิเศษพยากรณ์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังต้องสร้างบารมีอีกมาก

เขตที่4.เป็นที่อยู่ของผู้ที่ทำกุศลมาก และมีกำลังบุญมากพอที่จะได้อยู่สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เป็นเขตทั่วไป นอกเหนือจาก 3เขตแรก

สวรรค์ชั้นดุสิต มีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นอยู่หลายประการ หนึ่งในความพิเศษนั้นก็คือ เป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีเป็นพระสาวก เพื่อตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคต(ตรงนี้แหละค่ะที่ทำให้คุนน้องตัดสินใจเลือกจะไปชั้นนี้เพราะคุณน้องจะตามไปเป็นสาวกของพระศรีอริยะเมตรไตร :b39: )

แล้วทำไม พระบรมโพธิสัตว์หรือบัณฑิตทั้งหลาย จึงปรารถนาที่จะได้มาบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ทั้งๆที่กำลังบุญของแต่ละท่านนั้นมากมาย ปรารถนาที่จะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ เหตุที่ท่านเลือกสวรรค์ชั้นนี้ มีข้อสังเกตอย่างน้อย 3ประการ คือ

1.พระโพธิสัตว์สามารถจุติลงมาได้ตามใจปรารถนา หมายความว่าโดยปกติเทวดามีเหตุแห่งการจุติหลายประการ เช่น หมดบุญก็มี หมดอายุขัยก็มี จุติเพราะความโกรธก็มี แต่เหล่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ลักษณะของสวรรค์ชั้นดุสิต เมื่อจะจุติลงมาสร้างบารมี หรือมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะนั่งทำสมาธิ(Meditation) อธิษฐานจิต สามารถดับวูบลงมาเกิดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ

2.เนื่องจากสวรรค์ชั้นนี้ มีแต่บัณฑิต มีแต่พระบรมโพธิสัตว์ ล้วนแต่มีอัธยาศัยคล้ายคลึงกัน ที่จะฝึกฝนตนเองและช่วยสรรพสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ไม่ประมาทในการดำรงชีวิตเหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ มักจะคบหาบัณฑิต พูดคุยสนทนาธรรมกันเพื่อความเบิกบานใจ และหมั่นไปฟังธรรมในวันพระ ซึ่งท่านท้าวสันดุสิตจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์ ที่มีบุญบารมีมาก มาแสดงธรรมให้ฟัง

3.ขนาดอายุทิพย์ของสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ คือ 4,000ปีทิพย์ ซึ่งไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุข เพราะท่านจะต้องลงมาสร้างบารมีต่อ ถ้ามีอายุขัยนานเกินไปจะทำให้เสียเวลา


ที่จริงผมรู้แล้วครับว่าเป็นชื่อสวรรค์ อิอิ // ผมหมายถึงพี่อยากไปสวรรค์เหมือนกันครับ อิอิ

แต่จิตใจพี่บริสุทธิ์ทำเพื่อคนอื่น ถือศีลปฏิบัติธรรมจริงจัง ผมนับถือนะครับ rolleyes

.....................................................
อย่าได้เห็นแก่ความสุข สนุกสนานชั่วครู่คราว
เพราะผลกรรมที่ตามมามันสุดแสนจะ
ทุกข์ทรมาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2013, 16:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=37&t=46050
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว: หลวงพ่อชา สุภทฺโท วัดหนองป่าพง

ฟังดูครับ ท่านเทศน์ไว้หลายเรื่อง

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2013, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


PaiKung26 เขียน:
ที่จริงผมรู้แล้วครับว่าเป็นชื่อสวรรค์ อิอิ // ผมหมายถึงพี่อยากไปสวรรค์เหมือนกันครับ อิอิ

แต่จิตใจพี่บริสุทธิ์ทำเพื่อคนอื่น ถือศีลปฏิบัติธรรมจริงจัง ผมนับถือนะครับ

:b12: แฮะๆคนเดินทางเดินนานๆมันก็เหนื่อยพอเหนื่อยก็รู้สึกหมดแรง รู้สึกท้อ พอเห็นข้างทางเป็นตลาดมีโน่นมีนี่ก็อยากจะแวะเที่ยวบ้าง ตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น เมื่อรู้เมื่อเห็นแล้ว.. อืมไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ก็เดินไปต่อ ตามประสานักเดินทางนั่นแหละ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2013, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ค. 2013, 22:08
โพสต์: 92

แนวปฏิบัติ: สมถะกรรมฐาน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: การทำสังฆทาน
ชื่อเล่น: ไผ่
อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธคุณ เขียน:
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=37&t=46050
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว: หลวงพ่อชา สุภทฺโท วัดหนองป่าพง

ฟังดูครับ ท่านเทศน์ไว้หลายเรื่อง


ขอบคุณ ท่านพุทธคุณ มากนะครับ ได้รู้อะไรเยอะๆเลยครับ

อนุโมทนาบุญครับ onion

.....................................................
อย่าได้เห็นแก่ความสุข สนุกสนานชั่วครู่คราว
เพราะผลกรรมที่ตามมามันสุดแสนจะ
ทุกข์ทรมาน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 203 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร