ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=44754
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 26 ก.พ. 2013, 10:12 ]
หัวข้อกระทู้:  ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

หากมีอาการเจ็บปวดมากกกกกก

หรืออย่างปวดหัว ไปจนถึง ผ่าตัด โรคเก๊า หรือมีโรคอะไรประจำตัว ที่สร้างความทรมานให้กับร่างกายอย่างมาก เราจะภาวนาอย่างไรดี ครับ

เจ้าของ:  Hanako [ 26 ก.พ. 2013, 11:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

การปฏิบัติโดยส่วนตัวฮานาโกะจังยังไม่เก่งมาก
แต่ก็ถือว่า เราแลกเปลี่ยนความรู้กันเพื่อหนุนกันให้ดีขึ้นๆยิ่งขึ้นก็แล้วกันนะคะ :b9:

จริงๆช่วงที่เจ็บป่วยเป็นช่วงที่น่าปฏิบัติมากๆ
เพราะเราจะได้เห็นโทษ เห็นความทุกข์ของร่างกายเราแบบฉบับเต็ม Full HD :b20:

เพื่อนกัลยาณมิตรท่านหนึ่งเคยแนะนำฮานาโกะจังไว้เรื่องการภาวนากายตอนเราเจ็บป่วย
สิ่งที่เราจะได้เห็นกันชัดๆ คือ

๑. เวลาป่วยหนัก...แม้แต่เงินทองก็ไม่อยากได้แล้ว ขอให้หายเจ็บหายป่วยก็พอ
เห็นไหมว่า เอาเข้าจริงๆ เงินทองก็ยังไม่สำคัญกับเราเลย

๒. อาหารอร่อยๆหรูๆก็ไม่อยากไปแล้ว ขอให้แค่ตอนนี้หายเจ็บหายป่วยก็พอ
เห็นไหมว่า อาอหารรสเลิศ ก็ยังไม่มีค่าไปเลย

๓. เราสั่งร่างกายเราได้ไหม
เห็นไหมว่า สั่งไม่ได้เลย เราซะอีกต้องมาลำบากเพราะมัน

๔. ที่ผ่านมาเราดูแลร่างกายอย่างดีใช่ไหม ทำไมมันไม่ดีกับเราบ้างเลย
ทั้งที่เราดูแลมันอย่างดี เช้าอาบน้ำ เย็นอาบน้ำ ประแป้ง แต่งตัว กินอาหารเสริม ฯลฯ
ดูมันทำเราแต่ละอย่าง ให้หิว ให้เจ็บ ให้ป่วย ให้ปวดอึ ปวดฉี่ ให้หนาว ให้ร้อน ดูมันทำเรา
มันเคยดีตอบเราเท่าที่เราดีต่อมันไหมคะ

๕. สุดท้าย ... เราควรจะไปยึดมั่นมันได้ไหมกับร่างกายนี้
มันก่อทุกข์กับเราถึงขนาดนี้ เรายังรักยังหลงมัน ไม่เห็นความสกปรก
ไม่เห็นโรคในตัวมันอีกได้อย่างไร


เมื่อเห็นอย่างนี้ก็ภาวนาใจเราไป อย่าไปเสพติดอาการเจ็บปวดมาก
เจ็บก็เจ็บ อย่าไปร้องไห้กับมัน อย่าไปคิดอะไรกับมัน

เราเคยไม่สบาย แต่ก็ไม่ถึงขั้นโคม่าอาการหนักสาหัสอะไรหรอกนะคะ
แต่เราก็ภาวนาแบบนี้นะ คิดกับร่างกายว่า
ฉันดีกับเธอเต็มที่แล้วนะ แต่ถ้าจะเจ็บไม่หายก็ช่างหัวเธอแล้ว
ฉันจะภาวนามรณํ ๆๆ ต่อแล้วนะ อย่ากวนใจ :b9: :b9: :b9:

เราชอบพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์สิม พุทธาจาโร ท่อนหนึ่งท่านกล่าวว่า
"โรคบางโรคก็รักษาหาย โรคบางโรคก็หายตอนตาย"

ฟังแล้วได้สติดีเลยค่ะ
เพราะว่า ใจเราสำคัญที่สุด อย่าให้มันเสีย
ทุกขณะจิตมีค่า ยิ่งตอนเจ็บตอนป่วย ไม่รู้จะทำยังไงก็ภาวนาพุทโธๆๆไปก็ได้ค่ะ
รักษาใจแยกเอาไว้อีกส่วนหนึ่งจากกาย

ถ้าเราปราบกิเลสไม่ได้....ร่างกายเรายังมีได้อีกนับไม่ถ้วนค่ะ ไม่ต้องกังวลกับมันมาก

:b3: :b46:




เจ้าของ:  Hanako [ 26 ก.พ. 2013, 11:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

อย่างไรก็ตาม
ขอแนะนำให้ศึกษาชีวประวัติของอาจารย์กำพล ทองบุญนุ่มค่ะ
อาจมีแนวทางในการปฏิบัติทางใจได้บ้างนะคะ


http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=44330

เจ้าของ:  เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 26 ก.พ. 2013, 13:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

:b8: Kiss

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 26 ก.พ. 2013, 23:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

choochu เขียน:
หากมีอาการเจ็บปวดมากกกกกก

หรืออย่างปวดหัว ไปจนถึง ผ่าตัด โรคเก๊า หรือมีโรคอะไรประจำตัว ที่สร้างความทรมานให้กับร่างกายอย่างมาก เราจะภาวนาอย่างไรดี ครับ

ให้บอกตัวเองครับว่า....เจ็บนี้...มันเป็นสัญญาณว่าจะตายแล้วนะ

แล้วถามตัวเองครับ...ว่า...เราตายได้มั้ย?

ถ้ามันตอบว่า...ตายได้...ก็ถามมันต่อว่า...ทำไม?

ถ้ามันตอบว่า...ยังตายไม่ได้...ก็ถามมันกลับไปว่า...ไม่อยากตายแล้วห้ามความตายได้มั้ย?

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 26 ก.พ. 2013, 23:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

Hanako เขียน:
ถ้าเราปราบกิเลสไม่ได้....ร่างกายเรายังมีได้อีกนับไม่ถ้วนค่ะ ไม่ต้องกังวลกับมันมาก
:b3: :b46:



แสบ....ได้ใจ...จังเลยฮิ... :b32: :b32:

เจ้าของ:  Hanako [ 27 ก.พ. 2013, 16:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

กบนอกกะลา เขียน:
แสบ....ได้ใจ...จังเลยฮิ...



:b9: ฟังมาจากพระธรรมเทศนาเรื่องหนึ่งค่ะ แต่ว่าจำไม่ถนัดว่า พระอาจารย์รูปใดเทศน์
เลยเอาอ้างอิงไม่ได้ ท่านเล่าถึงพระภิกษุครั้งพุทธกาลว่า
ท่านเดินจงกรมกันจนร่างกายเจ็บปวด เป็นแผล
จำได้ ใจความว่า

"พระสัทธรรมของพระพุทธเจ้านั้นพบยาก
ส่วนร่างกายนั้นถ้าไม่หมดกิเลสมันก็มีใหม่ได้เรื่อยๆ"


จำได้ขึ้นใจเลยค่ะ เตือนสติดีมากๆว่า อย่าลืมการเกิดนั้นมันทุกข์แค่ไหน
แก้ไม่หมดก็ยังต้องเวียนเกิดอยู่อย่างนี้


เขียนๆไปก็นึกถึงโอวาทของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต (วัดป่าสุทธาวาส)
ที่ท่านว่า

“แก้ให้ตกเน้อ แก้บ่ตกคาพกเจ้าไว้ แก้บ่ได้แขวนคอต่องแต่ง
แก้บ่พ้นคาก้นย่างยาย คาย่างยายเวียนตายเวียนเกิด เวียนเอากำเนิดในภพทั้งสาม
ภพทั้งสามเป็นเฮือนเจ้าอยู่”


:b8:


:b48: :b48:

ประวัติและปฏิปทาพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6786

เจ้าของ:  student [ 28 ก.พ. 2013, 11:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

choochu เขียน:
หากมีอาการเจ็บปวดมากกกกกก

หรืออย่างปวดหัว ไปจนถึง ผ่าตัด โรคเก๊า หรือมีโรคอะไรประจำตัว ที่สร้างความทรมานให้กับร่างกายอย่างมาก เราจะภาวนาอย่างไรดี ครับ


เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติโดยส่วนตัวของstudent ที่ตอนนี้มีคำถามทางธรรมอยู่(ขันธ์5)ว่าอารมณ์เรานั้นอยู่ที่ใด(อารมณ์นั้นอยู่ที่ขันธ์5)หนึ่งในนั้น อารมณ์เราอยู่เพราะอาศัยเหตุคือสัญญาขันธ์ใช่หรือไม่ ใช่แต่ผลของธรรมคือธรรมารมณ์ คือหลักการผมจะมีอยู่หลายวิธี การยกเอาสัญญามาเพื่อแสดงเหตุของธรรมก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง เช่น คิดเอาว่าตัวเองกำลังเดินบนมีดคมๆแล้วเกิดบาดแผลลึกที่เท้าจนเห็นเนื้อหนัง กระดูก แล้วเลือด นี่คือมีอารมณ์ที่สัญญาขันธ์ ผลของธรรมคือ เกิดความหวาดเสียว ขนพอง สยอง กลัว แต่ท้ายที่สุดก็จบลงโดยไม่มีอะไร สำรวจดูเท้าก็ไม่ปรากฏว่ามีแผล แล้วทำไมเราจึงเกิดความกลัว และหวาดเสียวขนาดนี้ นี่เป็นแนวทางปฏิบัติอีกแนวของ student

วกกลับมาที่ความเจ็บป่วย ความเจ็บป่วยมีเหตุคือการประชุมกันของธาตุทั้ง4 เพราะอาศัยอาหาร ธาตุจึงยังประชุมกันอยู่ อาการปวดหัว โรคที่เกิดขึ้น คือความแปรปรวนของธาตุ ตามสัจจธรรม ทุกข์ อนิจจัง อนัตตา การมีอารมณ์ที่ความเจ็บปวด เพื่อกำหนดรู้ทุกข์ หากเป็นstudent จะไม่เพ่งลงไปว่าเป็นรูปขันธ์ เพราะเหตุจากสัญญาขันธ์(กาย อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง ศรีษะ เท้า แขน เพราะหลีกเลี่ยงที่จะยึดถือว่านี่แขนเรา นี่หัวเรา นี่เท้าเรา นี่เครื่องในเรา)แต่student จะยึดถือเอา เวทนาขันธ์เป็นอารมณ์ เวทนาขันธ์นั้นแสดงออกมาในลักษณะบีบคั้น และความต่างสภาวะคือ อนัตตา(สมมุติ มีดบาดมือ เป็นลักษณะที่ต่างกันกับ โดนผึ่งต่อย) เมื่อมีเวทนาขันธ์เป็นอารมณ์ ก็เกิดความรู้ ว่านี่คือธรรม ถามว่าเอาอะไรไปรู้ เอาสติไปรู้ครับ(ประคองวิญญาณขันธ์ ณ จุดที่ปวด) ธรรมที่เกิดขึ้น เป็นทุกข์ ให้เข้าไปเห็นสภาวะ(อาการ)แต่อย่าสร้างภาพว่า เป็นแขน ขา หัว เพราะเป็นการยึดถือว่า เป็นเรา เป็นเขา แขนเรา หัวเรา ความปวดเป็นของเรา

หากเพื่อนคนไหนมีแนวทางที่ต่างกันออกไป เอามาแชร์กันนะครับ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 ก.พ. 2013, 12:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

ขันธ์ 5....

เมื่อผัสสะ...วิญญาณรับรู้...แล้วยังรู้เบื้องตนด้วยว่า...ดี..ไม่ดี....เป็นคุณหรือเป็นโทษ

วิญญาณ...สื่อให้เวทนาขันธ์...สร้างเวทนา...สร้างสุขให้เกิดอารมณ์อยากเอามา....สร้างทุกข์ให้เกิดอารมณ์เอาออกไป...สร้างอารมณ์ไม่สุขไม่ทุกข์เพื่อไม่ให้ขันธ์อื่น ๆ ต้องทำงานต่อ

วิญญาณ....สื่อให้สังขาร์ขันธ์...คิด...ว่า...จะทำอะไรต่อไป...หากดีเป็นคุณกับรูปแล้วจะเอามาได้อย่างไร....หากเป็นโทษจะหลีกเลี่ยงอย่างไร...

สัญญาขันธ์....บันทึกทุกอย่าง...ทั้ง.รูปแบบนี้...เป็นคุณเป็นโทษแบบนี้....เวทนาจะเป็นแบบนี้...วิธีการจัดการต่อสิ่งนั้นเป็นแบบนี้

แล้ว..วิญญาณ..ก็สื่อให้รูปขันธ์...แสดงอาการอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาเพื่อให้การนั้นสำเร็จ....เพื่อรูปนี้

อาการของรูปขันธ์...เป็นไปได้หลายอย่างแล้วแต่บุคคล...เช่น

น้ำลายไหล...เมื่อเจอของน่ากิน
กระอักกระอวนอยากอ๊วก...เมื่อเจอของไม่ชอบ
หน้าแดงหูแดง....เพื่อให้คนอื่นรู้ว่า...ฉันโกรธนะ...อย่ามายุ่งกะฉาน
ทำตาปริบ..ปริบ....เพื่อให้ผู้อื่นเห็นใจ...ใจอ่อน...ทำตามที่เราขอร้อง
น้อยใจ...เก็บตัว...ไม่พูดไม่จา....ก็ล้วนอยากให้ผู้อื่นเห็นใจ...สนใจ
บางคนเครียด....มักกินเยอะกว่าปกติ
อยากออกจากห้องประชุม....ทำตัวยุกยิกกระสับกระส่าย
เวลานั้งฟังธรรมะ...หรือกำลังจะเข้าสมาธิได้....มันก็ตัดให้หลับไปซะ...มันกลัวว่าเราจะละรูปเข้านิพพาน..555

ทุกปฏิกิริยา....มันทำเพื่อรูป...เป็นที่สุดของทุกการกระทำ

ผู้มีสติ...จะรู้ว่า....มันล้วนเป็นมายา...เป็นสิ่งสร้างขึ้น...สร้างขึ้นมาด้วยความหลงผิด

ทั้งนั้น..

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 ก.พ. 2013, 15:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

หากมีสติ.....รู้กาย....จะเห็นอะไรน๊า!!!

มีวันหนึ่ง....เจอคุยกะสาวสวย..สเป็กเลย...มือดันยกมาจับติ๋งหูตัวสะงั้น...สติเห็นก้นึกขำ...ใครสั่งมือวะ..อิอิ

ไปปฏิบัติธรรม...ขณะเดินไปตามทางสายตากลับมองซ้ายมองขวาหาคนที่รู้จัก...สติเห็น...เอ็งมองหาคนที่รู้จักเพื่ออะไร?...ยากให้ใคร ๆ ขารู้ว่าเอ็งมาปฏิบัติธรรมหรอ?...

หากเห็นกาย...จะเห็นว่า...หลาย ๆ อย่าง...มันตลกดีเหมือนกัน

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 ก.พ. 2013, 15:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

ช่วงเวลาทำงาน...ง้วง...ง่วง...พอเลิกงาน..ไอ้ที่ง่วงเมื่อตะกี๊หายไปไหนไม่รู้

เราถูกเวทนาหลอก...เป็นประจำแล้วก็อ่อ..ออห่อหมกกะมันเรื่อยเลย..อิอิ

:b12: :b12:

เจ้าของ:  asoka [ 28 ก.พ. 2013, 17:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

choochu เขียน:
หากมีอาการเจ็บปวดมากกกกกก

หรืออย่างปวดหัว ไปจนถึง ผ่าตัด โรคเก๊า หรือมีโรคอะไรประจำตัว ที่สร้างความทรมานให้กับร่างกายอย่างมาก เราจะภาวนาอย่างไรดี ครับ

:b16:
คุณ choochu รู้จักปัจจุบันอารมณ์ไหมครับ?
:b10:
ถ้ารู้จัก ก็จงอยู่กับปัจจุบันอารมณ์นั่นแหละให้ดีๆ......จะเป็นเจ็บปวดแสนสาหัส ก็ให้รู้อยู่กับความเจ็บปวดแล้วมีความสังเกตให้ดีๆว่า เวลาเจ็บปวดสุดๆนี่ ........ใคร?.....เดือดร้อนกันแน่.......
:b10:
ถ้าเจอผู้เดือดร้อนเพราะความเจ็บปวดเป็นปัจจุบันอารมณ์.......จงนิ่งรู้ นิ่งสังเกตผู้เดือดร้อนเพราะความเจ็บปวดเขาจะดิ้นรน สั่งการ ในรูปแบบอารมณ์ต่างๆออกมา

ตามให้ทันปัจจุบันอารมณ์ที่เปลี่ยนไป...แต่สติปัญญาคุ้มครองกายใจไว้ ไม่ให้ทำอะไรไปตามอำนาจความเรียกร้องของ "ผู้เดือดร้อน".....จนความเป็นผู้เดือดร้อนนั้นดับไปต่อหน้าต่อตา......
:b4: :b4:
ถ้าทำได้อย่างนั้น.....โสดาปัตติมรรคญาณ อาจเกิดขึ้นมาได้ทันตอนจิตดวงสุดท้ายของคุณจะดับตาย
หรือบางที่คุณอาจจะหายจากโรคอุปาทานทั้งหมดทั้งปวง

:b8:

เจ้าของ:  เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 01 มี.ค. 2013, 15:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

asoka เขียน:
choochu เขียน:
หากมีอาการเจ็บปวดมากกกกกก

หรืออย่างปวดหัว ไปจนถึง ผ่าตัด โรคเก๊า หรือมีโรคอะไรประจำตัว ที่สร้างความทรมานให้กับร่างกายอย่างมาก เราจะภาวนาอย่างไรดี ครับ

:b16:
คุณ choochu รู้จักปัจจุบันอารมณ์ไหมครับ?
:b10:
ถ้ารู้จัก ก็จงอยู่กับปัจจุบันอารมณ์นั่นแหละให้ดีๆ......จะเป็นเจ็บปวดแสนสาหัส ก็ให้รู้อยู่กับความเจ็บปวดแล้วมีความสังเกตให้ดีๆว่า เวลาเจ็บปวดสุดๆนี่ ........ใคร?.....เดือดร้อนกันแน่.......
:b10:
ถ้าเจอผู้เดือดร้อนเพราะความเจ็บปวดเป็นปัจจุบันอารมณ์.......จงนิ่งรู้ นิ่งสังเกตผู้เดือดร้อนเพราะความเจ็บปวดเขาจะดิ้นรน สั่งการ ในรูปแบบอารมณ์ต่างๆออกมา

ตามให้ทันปัจจุบันอารมณ์ที่เปลี่ยนไป...แต่สติปัญญาคุ้มครองกายใจไว้ ไม่ให้ทำอะไรไปตามอำนาจความเรียกร้องของ "ผู้เดือดร้อน".....จนความเป็นผู้เดือดร้อนนั้นดับไปต่อหน้าต่อตา......
:b4: :b4:
ถ้าทำได้อย่างนั้น.....โสดาปัตติมรรคญาณ อาจเกิดขึ้นมาได้ทันตอนจิตดวงสุดท้ายของคุณจะดับตาย
หรือบางที่คุณอาจจะหายจากโรคอุปาทานทั้งหมดทั้งปวง

:b8:


บางทีมันปวดเล็กๆน้อย ยังทรมาน ถ้าปวดแสนสาหัสนี่ ไม่ต้องพูดถึง คงต้องฝึกต่อไปนี่ละครับ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 01 มี.ค. 2013, 20:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

choochu เขียน:
หากมีอาการเจ็บปวดมากกกกกก

หรืออย่างปวดหัว ไปจนถึง ผ่าตัด โรคเก๊า หรือมีโรคอะไรประจำตัว ที่สร้างความทรมานให้กับร่างกายอย่างมาก เราจะภาวนาอย่างไรดี ครับ

เคยนะครั้งหนึ่ง
เจ็บ อะไรสักอย่างไม่แน่ใจ อยู่ใต้ซี่โครงขวาค่อนไปด้านหลัง
เจ็บจนตัวเย็น
ตอนนั้น
ภาวนาอยู่อย่างเดียว
"นิพพานัง" ๆๆๆ
ประมาณนี้
ถามว่าตอนภาวนา ยังเจ็บไหม
เจ็บอยู่จ้ะ

เจ้าของ:  ยังไม่พ้น [ 01 มี.ค. 2013, 22:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตอนเจ็บป่วยกาย เราจะภาวนา (ปฎิบัติ) อย่างไรดีครับ

อานาปานสติ การรู้ลมหายใจเข้าออก ระงับเวทนาทางกาย หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ เป็น พุทธานุสติ ระลึกคุณพระพุทธองค์

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/