ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=44236
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 05 ม.ค. 2013, 09:39 ]
หัวข้อกระทู้:  หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

อยากถามครับว่า มีความเห็นอย่างไรกับหทยวัตถุ เท่าที่พอจะบอกเกริ่นเล็กๆน้อยๆว่า
หทยวัตถุมันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า.....มโนทวาร

มโนทวารพอให้ความหมายได้ว่า เป็นที่ๆจิตอาศัยเกิด
ไอ้ทวารอื่นๆมันก็ไม่มีปัญหา พอดูออกว่ามันเป็นอะไร
แต่มโนทวารหรือหทยวัตถุนี่ซิ บางท่านก็ว่า คือสมอง
บางท่านก็ว่า มันเป็นหัวใจ
พวกท่านมีความเห็นอย่างไรครับ แต่สำหรับผม ทั้งสมองและหัวใจ
มันเป็นหทยวัตถุหรือมโนทวารทั้งคู่ มันต่างกันตรงที่ความเป็นเหตุปัจจัยครับ

เอาความเห็นคนอื่นก่อน ถ้าไม่มีความเห็นแล้วจะเข้ามาตอบ
ไม่แบ่งเขาแบ่งเราครับ ใครอยากตอบใครอยากด่าก็เข้ามา พี่โฮซะอย่างไม่ถือสาอยู่แล้ว :b13:

เจ้าของ:  nongkong [ 05 ม.ค. 2013, 11:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

มโนทวาร ตามความเข้าใจคุนน้องคือ อาการของจิตสังขารที่ปรุงแต่งขึ้นเมื่อได้รับผัสสะจากทวารทั้ง 6 บางครั้งมโนทวารก็สามารถเกิดเองได้โดยที่ไม่ต้องมีผัสสะเป็นเหตุปัจจัย แต่อาศัย ใจนั่นคือธรรมมารมณ์ปรุงแต่งนึกคิดเรื่องราวขึ้นมา ยกตัวอย่าง นั่งอยู่เฉยๆก็คิดเรื่องนั้นเรื่องนี่ในอดีต นั่นคืออาศัยความทรงจำ(สัญญา)ปรุงแต่งขึ้น นั่นคือจิตสังขารปรุงแต่ง คุนน้องตอบตามที่ตนเองรู้ และปฏิบัติมานะเจ้าค่ะ :b1:

เจ้าของ:  eragon_joe [ 05 ม.ค. 2013, 12:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง


:b12:

เป็นมหาภูตรูป
ที่ทำหน้าที่ดังกล่าว

คือ เป็นการประชุมของธาตุ

:b12:

เขาว่ากันว่า คนที่เดินทางมาอานาปานสติ จะมีโอกาสเห็น หทยรูป
หทัยวัตถุ หรืออะไรประมาณเกี่ยวกับ มโนทวาร มโนธาตุ ได้
เพราะ มี ลมอันละเอียดเป็น นิมิต ที่แทรกซึมไปตามช่องว่าง
ผัสสะอันเนื่องมาจากลมอันละเอียด จะทำให้ รู้

:b12:

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 05 ม.ค. 2013, 13:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

มาบอกสาเหตุที่ตั้งกระทู้ครับ เป็นเพราะถูกปรามาสบ่อยๆว่า
เก่งแต่ทฤษฎี ไปเคยปฏิบัติ ก็เลยอยากให้คนที่เก่งปฏิบัติมาตอบครับว่า

ทั้งสมองและหัวใจ เป็นที่อาศัยทำให้เกิดจิตได้
คนเก่งทฤษฎีไม่รู้หรอกครับ มันต้องคนที่ปฏิบัติ มองเห็นสภาวะธรรม
รู้ปรมัตถ์แท้ๆครับ :b13:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 05 ม.ค. 2013, 15:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

แนะนำทั้งผู้ปริยัติและปฏิบัติ หาเข็ม (เย็บผ้า ไม่มีเข็มก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งก็ได้) มาเล่มหนึ่ง ทิ่มเข้าไปที่แขน จิตก็จะเกิดที่แขน ทิ่มลงไปลึกๆที่ท้อง จิตก็จะเกิดที่ท้อง ฯลฯ ทิ่มเข้าไปใต้ราวนมด้านซ้ายแทงลงไปลึกๆ ให้ถึงหัวใจ จิตก็เกิดที่ตรงนั้นๆ ทิ่มที่หัวกะโหลกให้ทะลุถึงสมอง จิตก็จะเกิดทีนั่น แทงไปตามช่อง (ทวาร) ต่างๆ จิตก็เกิดที่นั่น ทดลองทำดู ดูจิตนะ

ไฟล์แนป:
so555.gif
so555.gif [ 4.35 KiB | เปิดดู 6191 ครั้ง ]

เจ้าของ:  เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 05 ม.ค. 2013, 16:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

nongkong เขียน:
มโนทวาร ตามความเข้าใจคุนน้องคือ อาการของจิตสังขารที่ปรุงแต่งขึ้นเมื่อได้รับผัสสะจากทวารทั้ง 6 บางครั้งมโนทวารก็สามารถเกิดเองได้โดยที่ไม่ต้องมีผัสสะเป็นเหตุปัจจัย แต่อาศัย ใจนั่นคือธรรมมารมณ์ปรุงแต่งนึกคิดเรื่องราวขึ้นมา ยกตัวอย่าง นั่งอยู่เฉยๆก็คิดเรื่องนั้นเรื่องนี่ในอดีต นั่นคืออาศัยความทรงจำ(สัญญา)ปรุงแต่งขึ้น นั่นคือจิตสังขารปรุงแต่ง คุนน้องตอบตามที่ตนเองรู้ และปฏิบัติมานะเจ้าค่ะ :b1:


เห็นด้วยครับ

เจ้าของ:  SOAMUSA [ 05 ม.ค. 2013, 18:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

โฮฮับ เขียน:
มาบอกสาเหตุที่ตั้งกระทู้ครับ เป็นเพราะถูกปรามาสบ่อยๆว่า
เก่งแต่ทฤษฎี ไปเคยปฏิบัติ ก็เลยอยากให้คนที่เก่งปฏิบัติมาตอบครับว่า

ทั้งสมองและหัวใจ เป็นที่อาศัยทำให้เกิดจิตได้
คนเก่งทฤษฎีไม่รู้หรอกครับ มันต้องคนที่ปฏิบัติ มองเห็นสภาวะธรรม
รู้ปรมัตถ์แท้ๆครับ :b13:



คลิ๊ก ดู ส.ค.ส. พระราชทานสมเด็จพระเทพ นะคะ อาจจะให้คำตอบแก่คุณโฮ ได้บ้างนะคะ

http://www.softbizplus.com/our-king/194 ... -card-2013

เจ้าของ:  govit2552 [ 05 ม.ค. 2013, 22:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

หทยวัตถุ เป็นรูป
มโนทวาร เป็นนาม

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 06 ม.ค. 2013, 03:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยครับว่า ถ้าพูดถึงคำศัพท์เหล่านี้ เช่น มโนทวาร...หทยวัตถุ
มโนธาตุ....จิต...มโน...ใจ..ฯลฯ ทุกคนจะงงเกิดความสับสนขึ้นทันที
ไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วมันหมายถึงอะไร บางคนอ้างคัมภีร์แล้วก็ฉอดๆๆไปตามคัมภีร์
ไม่รู้ความหมายที่ตัวพูด บางคนอ้างอรรถกถา แล้วก็โน้น นี่ นั้น
สรุปก็มาแนวเดียวกันกับไข่กับไก่อะไรเกิดก่อน :b32:

ก็อย่างที่ผมว่าไว้เสมอๆว่า อย่าไปลากบัญญัติมาแล้วตั้งหน้าตั้งตาเถียงกันว่าคนนั้นบอกคนนี่บอก
มันต้องหาเหตุปัจจัยที่มา หาได้ก็จะเข้าใจทุกอย่างในโลกนี้ ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้
อะไรทำให้มันเป็นแบบนั้น

พระธรรมทั้ง๘๔oooพระธรรมขันธ์ อยู่ในกายใจเรานี่แหล่ะครับ
มันไม่ได้อยู่ในคัมภีร์หรืออยู่ในพ๊อกเก็ทบุ๊คตามร้านขายหนังสือ

เอาเป็นว่าที่ถูกต้องที่สุดก็คือ มันเกิดอะไรขึ้นที่ใจเรา สิ่งนั้นล่ะคือสิ่งที่ถูกต้อง
คัมภึร์หรือบาลีที่สละสลวย มันไม่ใช่คำตอบ มันเป็นเพียงสิ่งที่เอาไว้แก้เกี่ยว
ปกปิดความไม่รู้ของตน

สิ่งที่พอทำได้นั้นก็คือการเอาพุทธพจน์ มาเทียบเคียง กับความเห็น
ที่เอามาจากกายใจของตน :b13:

เจ้าของ:  student [ 06 ม.ค. 2013, 03:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

ไม่รู้ ว่าใช่หรือปล่าว 2ปีที่แล้วนั่งสมาธิอยู่ในตอนดึก พิจารณาเสียง ก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์แล่นผ่านถนนใกล้ๆบ้าน ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เริ่มสนใจในการพิจารณาธรรมตามความเป็นจริง คุณโฮฮับเคยเข้าไปตอบ เสียงเป็นของจริงเพราะเกิดขึ้นและดับไป (รัศมีของการได้ยินของโสต) แต่มโนได้เกิดขึ้นว่าเป็นเสียงของมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่ความจริง นั่นก็นานมาแล้ว

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 06 ม.ค. 2013, 04:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

เข้าประเด็นกระทู้ เรื่องหทยวัตุครับ คำๆนี้มันมีคำอื่นที่เกี่ยวข้องนั้นก็คือ
มโนทวาร มโนธาตุ ใจและสมอง
เรามีสติมีสมาธิแล้วพิจารณาลงไปก็กายใจเรา จะรู้เห็นถึงสภาวะหรือปรมัตถ์
แล้วเอาสิ่งที่ได้มาใส่ในบัญญัติเหล่านี้ นี่แหล่ะเป็นวิธีที่ถูกต้อง
มันไม่ใช่การเอาบัญญัติมาเป็นที่ตั้ง ต้องเอาอารมณ์เหตุปัจจัยเป็นที่ตั้ง

ว่าแล้วก็จะอธิบายสิ่งที่ผมได้มาถูกผิดก็ไปคิดกันเอาเอง

เรื่องของ...หทยวัตถุ เราให้ความหมายมันว่า ว้ตถุอันเป็นที่ตั้งของมโนทวาร
หทยวัตถุมีสองอย่างนั้นก็คือ.....สมองกับหัวใจ

สมองว่ากันตามจริงแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของมหาภูติรูปสี่ มันจึงเป็นธาตุ
แต่เนื่องด้วยสมองมีเส้นประสาทสมองอยู่ เส้นประสาทสมองเป็นอุปาทายรูป
และยังเป็นมโนทวารเป็นที่รับความคิดความจำ ซึ่งตรงนี่แหล่ะที่ทำให้เกิด ....วิญญาณ
วิญญาณตัวนี้เป็นจิตอย่างหนื่งเรียกว่า.......มโนวิญญาณ

สรุปเรื่องมโนวิญญาณเกิดขี้นได้ต้องอาศัย....สมอง จึงเรียกสมองตามเหตุ
ตามปัจจัยว่า.....สมองเป็นหทยวัตถุ และที่สำคัญอีกอย่าง จิตหรือวิญญาณเกิดจาก...
อุปทายรูป ไม่ใด้เกิดจากมหาภูตรูปหรือธาตุสี่


ที่นี้มาที่หทยวัตถุอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า.....หัวใจ มีบางคนเข้าใจว่า
หัวใจเป็นทวารที่รับธัมมารมณ์ ถ้าเข้าใจแบบนี้ ผมว่าคนๆนั้นสักแต่ว่าอ่านหนังสือ
ไม่เคยพิจารณาธรรมด้วยสติ ธ้มมารมณ์มันเป็นความนึกคิด จินตนาการต่างๆ
หัวใจคนเรามันไม่สามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้
หัวใจมีหน้าที่สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่าง เพี่อให้ชีวิตหรือร่างกายคงอยู่

ถ้าจะพูดหัวใจเป็นหทยวัตถุหรือเป็นมโนทวาร หัวใจก็เป็นที่ให้จิตอาศัยเกิดเช่นกัน
แต่จิตที่เกิดจากหัวใจมีความแตกต่างจากจิตที่เกิดจากสมอง นั้นก็คือ....

จิตที่เกิดจากสมองเป็น....วิถีจิต แต่จิตที่เกิดจากหัวใจเป็น....ภวังคจิต

หัวใจมีหน้าที่สูบฉีดโลหิดเพี่อไปเลี้ยงร่างกายในทุกส่วน เท่ากับว่ารักษาให้ชีวิตคงอยู่
พูดง่ายๆก็คือ รักษาชีวิตก็คือการรักษาภพในภวังคจิตนั้นแหล่ะ
ถ้าสังเกตุให้ดี ในขณะนอนหลับที่เป็นภวังคจิต ทวารทั้งหกที่เป็นอุปาทายรูปไม่ทำงาน
แต่ยังมีทวารอีกทวารหนึ่งที่ยังทำงานอยู่ นั้นก็คือหัวใจ

หัวใจไม่ใช่อุปาทายรูป แต่หัวใจเป็นมหาภูติรูป จึงเรียกจิตนั้นว่า...ภวังคจิต
คือเป็นจิตที่คอยรักษาภพอย่างเดียว ไม่มีจิตที่เรียกว่ามโนวิญญาณ
เราเรียกจิตที่เกิดจากหัวใจว่า...มโนธาตุ :b13:

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 06 ม.ค. 2013, 04:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

student เขียน:
ไม่รู้ ว่าใช่หรือปล่าว 2ปีที่แล้วนั่งสมาธิอยู่ในตอนดึก พิจารณาเสียง ก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์แล่นผ่านถนนใกล้ๆบ้าน ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เริ่มสนใจในการพิจารณาธรรมตามความเป็นจริง คุณโฮฮับเคยเข้าไปตอบ เสียงเป็นของจริงเพราะเกิดขึ้นและดับไป (รัศมีของการได้ยินของโสต) แต่มโนได้เกิดขึ้นว่าเป็นเสียงของมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่ความจริง นั่นก็นานมาแล้ว

ครับเป็นแบบที่คุณว่า ความจริงก็คือเสียง และในความเป็นยิ่งกว่านั้นก็คือ หูครับ
ทวารทั้งหกของคนเรา มันมีประสาทรับรู้อยู่ ในความเป็นจริงแล้วอารมณ์หรือจิต
ที่เกิดจากการกระทบหรือรับรู้แล้วมันไม่แตกต่างกันครับ เช่นเมื่อวิญญาณรับรู้แล้ว
มันก็เกิดเวทนา สัญญาและสังขาร

สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ ตัวทวารนั้นเอง หูย่อมรับรู้เสียง ตาย่อมรับรู้รูป
ใจย่อมรับรู้ความนึกคิด

ในกรณีของคุณ มันเป็นเรื่องของเสียง ความจริงก็คือหู เสียงย่อมดับลงที่หู
เมื่อคุณเอาเสียงมาอยู่ที่ใจ มันย่อมไม่เป็นความจริง เพราะใจรับเสียงไม่ได้
ตัวอย่างอีกตัวอย่าง ถ้าคุณไปอยู่ในสถานที่เงียบๆปราศจากเสียง
ถ้าคุณบอกว่าเสียงเงียบ เสียงของคุณไม่เป็นความจริง เพราะมันไม่เกิดการกระทบขึ้นที่หู
ความจริงที่เกิดก็คือ มันเกิดธัมมารมณ์ขึ้นที่ใจ ความคิดเป็นความจริง
จริงเพราะเกิดความคิดขึ้นจริงๆ

อาจจะฟังแล้วงง มันต้องค่อยๆเทียบเคียงไป ต้องอาศัยเหตุปัจจัยมาร่วมพิจารณาด้วย
อย่าลืมเอากายใจตัวเองเป็นตัวตั้ง เหตุปัจจัยทั้งหมดทั้งมวลมันก็มาจากกายใจตัวเอง
ดูมันแล้วจึงเอามาเทียบเคียงกับพระธรรมครับ :b13:

เจ้าของ:  eragon_joe [ 06 ม.ค. 2013, 14:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

http://www.dharma-gateway.com/ubasika/s ... amat_3.htm

ปรมัตถธรรมสังเขป
โดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์

รูปปรมัตถ์

:b8:

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 06 ม.ค. 2013, 15:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

กรัชกาย เขียน:
แนะนำทั้งผู้ปริยัติและปฏิบัติ หาเข็ม (เย็บผ้า ไม่มีเข็มก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งก็ได้) มาเล่มหนึ่ง ทิ่มเข้าไปที่แขน จิตก็จะเกิดที่แขน ทิ่มลงไปลึกๆที่ท้อง จิตก็จะเกิดที่ท้อง ฯลฯ ทิ่มเข้าไปใต้ราวนมด้านซ้ายแทงลงไปลึกๆ ให้ถึงหัวใจ จิตก็เกิดที่ตรงนั้นๆ ทิ่มที่หัวกะโหลกให้ทะลุถึงสมอง จิตก็จะเกิดทีนั่น แทงไปตามช่อง (ทวาร) ต่างๆ จิตก็เกิดที่นั่น ทดลองทำดู ดูจิตนะ

ซี่ซั่วพูดไปเรื่อย ถามหน่อยตอนที่เราเอาเข็มมาแทงตัวเองแบบนั้น
เราเป็นหุ่นยนต์หรือเปล่า มือเราเอาเข็มมาแทงเอง โดยไม่ต้องอาศัยจิตได้มั้ย
ก่อนที่จะเอาเข็มมาแทง จิตมันเกิดตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว จิตมันเกิดแล้วปรุงแต่งแล้ว
จนเป็น...กายสังขาร

กายสังขารเกิดจาก การที่จิตไปปรุงแต่งรูปกาย ให้กระทำกรรมไปตามเจตนาของจิต
ดังนั้นจิตมันเกิดที่ ใจกับธัมมารมณ์ เมื่อเกิดแล้ว เป็นวิถีจิต เป็นกระบวนการขันธ์
เป็นสังขารที่เรียกว่า....หลงอันมีโลภะเป็นปัจจัยร่วม
ขณะที่แทงตัวเองผลก็คือ จิตเป็นวิบาก อันเป็นผลมาจาก
จิตตัวแรกนั้นก็คือ มโนวิญาณ :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 07 ม.ค. 2013, 04:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หทยวัตถุ งงอีกแล้วล่ะซิพี่น้อง

โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แนะนำทั้งผู้ปริยัติและปฏิบัติ หาเข็ม (เย็บผ้า ไม่มีเข็มก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งก็ได้) มาเล่มหนึ่ง ทิ่มเข้าไปที่แขน จิตก็จะเกิดที่แขน ทิ่มลงไปลึกๆที่ท้อง จิตก็จะเกิดที่ท้อง ฯลฯ ทิ่มเข้าไปใต้ราวนมด้านซ้ายแทงลงไปลึกๆ ให้ถึงหัวใจ จิตก็เกิดที่ตรงนั้นๆ ทิ่มที่หัวกะโหลกให้ทะลุถึงสมอง จิตก็จะเกิดทีนั่น แทงไปตามช่อง (ทวาร) ต่างๆ จิตก็เกิดที่นั่น ทดลองทำดู ดูจิตนะ

ซี่ซั่วพูดไปเรื่อย ถามหน่อยตอนที่เราเอาเข็มมาแทงตัวเองแบบนั้น
เราเป็นหุ่นยนต์หรือเปล่า มือเราเอาเข็มมาแทงเอง โดยไม่ต้องอาศัยจิตได้มั้ย
ก่อนที่จะเอาเข็มมาแทง จิตมันเกิดตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว จิตมันเกิดแล้วปรุงแต่งแล้ว
จนเป็น...กายสังขาร

กายสังขารเกิดจาก การที่จิตไปปรุงแต่งรูปกาย ให้กระทำกรรมไปตามเจตนาของจิต
ดังนั้นจิตมันเกิดที่ ใจกับธัมมารมณ์ เมื่อเกิดแล้ว เป็นวิถีจิต เป็นกระบวนการขันธ์
เป็นสังขารที่เรียกว่า....หลงอันมีโลภะเป็นปัจจัยร่วม
ขณะที่แทงตัวเองผลก็คือ จิตเป็นวิบาก อันเป็นผลมาจาก
จิตตัวแรกนั้นก็คือ มโนวิญาณ :b32:



ท่องไปเรื่อย ไปลองแทงลองทำดูแล้วค่อยมาพูดนะ คือเริ่มดูจิตตั้งแต่เริ่มหยิบเข็ม หรือไม้เสียบลูกชิ้นนะ :b12: ดูแต่ละขณะๆไป หยิบเข็มขึ้นก็รู้ แทงเข้าไปก็รู้ เข้าไปก็รู้ทะลุหัวใจก็รู้ รู้ทุกขณะๆนะครับนะ

ไปลองแทงลองทำดูนะ แล้วจะเห็นจิต :b32: เห็นมโนวิญญาณ มโนธาตุ มโนและศิรกราน ฯลฯ อะไรก็ว่าไป :b14: ธรรมะต้องพิสูจน์ด้วยการทำด้วยการปฏิบัติจริง ไม่ต้องพูดมากนะ :b9: ไปแทงก่อนไป

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/