ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=44166 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | พุทธวจน บางบัวทอง [ 28 ธ.ค. 2012, 10:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงม้าแกลบ ๑ ๓ ชนิด และบุรุษพริก๒ ๓ ชนิด. ภิกษุ ท. ! ม้าแกลบ ๓ ชนิด เป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุ ท. ! ม้าแกลบบางตัวในกรณีนี้ มีความเร็ว ไม่มีสีสวย ไม่มีรูปร่างขึงขัง ; บางตัวมี ความเร็ว มีสีสวย แต่ไม่มีรูปร่างขึงขัง; บางตัวมีความเร็ว มีสีสวย มีรูปร่าง ขึงขัง. ภิกษุ ท. ! นี่แหละ ม้าแกลบ ๓ ชนิด. ภิกษุ ท. ! บุรุษพริก ๓ ชนิด เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุรุษพริกบางคน มีความเร็ว (ชวสมฺปนฺน) แต่ไม่มีผิวพรรณ (น วณฺณสมฺปนฺน) ๑. คำนี้บาลีว่า อสฺสุขลุงฺก เคยแปลกันมาว่าม้ากระจอก แต่เห็นว่าไม่สมกับเค้าเรื่อง เพราะม้ากระจอกขาเขยกวิ่ง ไม่ได้เร็ว และจะมีความสง่าผ่าเผยขึงขังไม่ได้ จึงไม่แปลว่าม้ากระจอก แต่แปลว่า ม้าแกลบ คือม้าพันธุ์เล็กรอง จากม้าพันธุ์สินธพ. ๒. คำนี้บาลีว่า ปุริสขลุงฺก ก็เคยแปลกันมาว่า บุรุษกระจอก ซึ่งไม่เข้ากับเรื่องราวที่แสดง เพราะคนกระจอกงอก ง่อยจะมีลักษณะอย่างนั้นไม่ได้ เชื่อว่าหมายถึงคนร่างเล็กพันธุ์หนึ่ง ซึ่งมีสมรรถนะสูง ในที่นี้จึงแปลว่า คนพริก โดยโวหารในภาษาไทยว่า “ถึงเล็กก็เล็กพริก” ดังนี้. ไม่มีท่าทางสง่าผ่าเผย (น อาโรหปริณาหสมฺปนฺน); บางคนมีความเร็ว มีผิวพรรณ แต่ไม่มีท่าทางสง่าผ่าเผย; บางคนมีความเร็วด้วย มีผิวพรรณด้วย มีท่าทาง สง่าผ่าเผยด้วย. ภิกษุ ท. ! บุรุษพริก มีความเร็ว แต่ไม่มีผิวพรรณ ไม่มีท่าทาง สง่าผ่าเผย นั้นเป็ นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตาม เป็นจริง ว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้” ดังนี้ : นี้เป็นความเร็ว ของเธอ; แต่เมื่อถูกถามปัญหาในอภิธรรมในอภิวินัย ก็นิ่ง ตอบไม่ได้ : นี้เป็นความไม่มีผิวพรรณของเธอ; และเป็นผู้ไม่รวยลาภด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชชบริกขารทั้งหลาย : นี้เป็นความไม่สง่าผ่าเผย ของเธอ. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุรุษพริก ที่มีความเร็ว แต่ไม่มี ผิวพรรณ ไม่มีท่าทางสง่าผ่าเผย. ภิกษุ ท. ! บุรุษพริก มีความเร็ว มีผิวพรรณ แต่ไม่มีท่าทางสง่า ผ่าเผย นั้นเป็ นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็น จริง ว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้, ทุกขนิโรธ เป็น อย่างนี้, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้” ดังนี้ : นี้เป็นความเร็วของ เธอ; และเมื่อถูกถามปัญหาในอภิธรรมในอภิวินัย ก็ตอบได้ ไม่นิ่ง : นี้เป็น ความีผิวพรรณของเธอ; แต่เป็นผู้ไม่รวยลาภด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจยเภสัชชบริกขารทั้งหลาย : นี้เป็นความไม่สง่าผ่าเผยของเธอ. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุรุษพริกผู้มีความเร็ว มีผิวพรรณ แต่ไม่มี ท่าทางสง่าผ่าเผย. ภิกษุ ท. ! บุรุษพริก มีความเร็วด้วย มีผิวพรรณด้วย มีท่าทาง สง่าผ่าเผยด้วย นั้นเป็ นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัด ตามเป็นจริงว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้” ดังนี้ : นี้เป็นความเร็ว ของเธอ ; และเมื่อถูกถามปัญหาในอภิธรรมในอภิวินัย เธอก็ตอบได้ ไม่นิ่ง : นี้เป็นความมีผิวพรรณของเธอ ; และเธอนั้นเป็นผู้รวยลาภด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชชบริกขารทั้งหลาย : นี้เป็นความสง่าผ่าเผย ของเธอ. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุรุษพริกที่มีความเร็วด้วย มี ผิวพรรณด้วย มีท่าทางสง่าผ่าเผยด้วย. ภิกษุ ท.! เหล่านี้แล บุรุษพริก ๓ ชนิด. - ติก. อํ. ๒๐/๓๗๐/๕๘๐. (ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า บุรุษพริกประเภทที่หนึ่งรู้อริยสัจ แต่ไม่อาจตอบปัญหา ในอภิธรรมอภิวินัย และไม่รวยด้วยลาภ. ข้อนี้เป็นเครื่องแสดงอยู่แล้วว่า การรู้อริยสัจนั้น มิได้เนื่องอยู่กับการรู้อภิธรรมอภิวินัยและรวยลาภ). |
เจ้าของ: | world2/2554 [ 28 ธ.ค. 2012, 11:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
จากพระพุทธภาษิตที่ท่านกล่าวมา แสดงว่า บุรุษพริกดังกล่าวข้างต้น ค่อนข้างหายาก มีเป็นส่วนน้อย แต่จะเป็นนอกจากบุรุษพริกทั้ง 3 ประเภท ![]() |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 28 ธ.ค. 2012, 11:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
ภิกษุ ท. คืออะไรครับ |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 28 ธ.ค. 2012, 12:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
พุทธวจน บางบัวทอง เขียน: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ อยากถามจขกทครับ .....มีปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ทำไม่ต้องมีพระพุทธเจ้าครับ ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 28 ธ.ค. 2012, 13:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
โฮฮับ เขียน: พุทธวจน บางบัวทอง เขียน: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ อยากถามจขกทครับ .....มีปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ทำไม่ต้องมีพระพุทธเจ้าครับ ![]() ถามมาได้ผู้รอบรู้ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 28 ธ.ค. 2012, 13:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
choochu เขียน: ภิกษุ ท. คืออะไรครับ ภิกษุ ท. ท. คำนี้ย่อมาจาก ทั้งหลาย แปลเต็มก็แปลว่า ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเห็นคำว่า ภิกษุ ท. ให้รู้ไว้เถอะว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้แสดงธรรม คำว่า ภิกษุ ท. นั้นพระพุทธเจ้าเรียกภิกษุที่กำลังปฏิบัติภาระกิจ เช่น ซักจีวร ล้างบาตร ท่องมนต์ หรือเจริญกัมมฐานอยู่ เป็นต้น ให้มาฟังธรรมที่พระองค์จะแสดงธรรม มาแก้ไขเพิ่มเติม และถ้าเห็นคำว่า สมัยหนึ่ง หรือ ครั้งหนึ่ง หรือ ครั้งนั้น เป็นการแสดงธรรมของ พระสารีบุตร หรือ พระอานนท์ ทั้งสองท่านนี่แหละครับ |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 28 ธ.ค. 2012, 13:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
ลุงหมาน เขียน: โฮฮับ เขียน: พุทธวจน บางบัวทอง เขียน: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ อยากถามจขกทครับ .....มีปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ทำไม่ต้องมีพระพุทธเจ้าครับ ![]() ถามมาได้ผู้รอบรู้ ขอโทษลุงหมานครับ คำพูดผมอาจสูงไป เลยทำให้ลุงหมานไม่รู้เรื่อง มันมีความหมายอย่างนี้ครับ .....รู้อะไรแค่เอาตัวรอด มันก็ไม่จำเป็นต้องแตกฉาน แต่ถ้ารู้แล้วจะเป็นครู มันต้องแตกฉานครับ แบบลุงหมาน เขาเรียกไม่รู้แต่อยากเป็นครูครับ จำเขามาพูดมาสอน พอเขาถามอะไรเข้าหน่อยก็โกรธ พูดจาประชดประชัน เหมือนคุณยายอยากหมาก ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 28 ธ.ค. 2012, 13:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
ลุงหมาน เขียน: choochu เขียน: ภิกษุ ท. คืออะไรครับ ภิกษุ ท. ท. คำนี้ย่อมาจาก ทั้งหลาย แปลเต็มก็แปลว่า ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเห็นคำว่า ภิกษุ ท. ให้รู้ไว้เถอะว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้แสดงธรรม คำว่า ภิกษุ ท. นั้นพระพุทธเจ้าเรียกภิกษุที่กำลังปฏิบัติภาระกิจ เช่น ซักจีวร ล้างบาตร ท่องมนต์ หรือเจริญกัมมฐานอยู่ เป็นต้น ให้มาฟังธรรมที่พระองค์จะแสดงธรรม ตลกดีครับ พระพุทธเจ้าเรียกภิกษุที่กำลัง ซักจีวร ล้างบาตร ลุงหมานจะเอาฮาไปถึงไหนครับ ![]() คำว่าภิกษุ ท. เป็นคำกล่าวกับภิกษุ ที่เป็นสาวกของพระองค์ เหตุที่เรียกภิกษุ ท. เป็นเพราะในที่ๆแห่งนั้น มีภิกษุอยู่รวมกันหลายรูป พระองค์กล่าวโดยไม่จำเพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งครับ ในพระไตรปิฎก ท่านให้ตีความหมายว่า ภิกษุทั้งหลายครับ แต่ภาษามคธหรือบาลี คงไม่ได้บอกว่า ภิกษุ ท หรอกครับ ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 28 ธ.ค. 2012, 15:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
โฮฮับ เขียน: ลุงหมาน เขียน: choochu เขียน: ภิกษุ ท. คืออะไรครับ ภิกษุ ท. ท. คำนี้ย่อมาจาก ทั้งหลาย แปลเต็มก็แปลว่า ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเห็นคำว่า ภิกษุ ท. ให้รู้ไว้เถอะว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้แสดงธรรม คำว่า ภิกษุ ท. นั้นพระพุทธเจ้าเรียกภิกษุที่กำลังปฏิบัติภาระกิจ เช่น ซักจีวร ล้างบาตร ท่องมนต์ หรือเจริญกัมมฐานอยู่ เป็นต้น ให้มาฟังธรรมที่พระองค์จะแสดงธรรม ตลกดีครับ พระพุทธเจ้าเรียกภิกษุที่กำลัง ซักจีวร ล้างบาตร ลุงหมานจะเอาฮาไปถึงไหนครับ ![]() คำว่าภิกษุ ท. เป็นคำกล่าวกับภิกษุ ที่เป็นสาวกของพระองค์ เหตุที่เรียกภิกษุ ท. เป็นเพราะในที่ๆแห่งนั้น มีภิกษุอยู่รวมกันหลายรูป พระองค์กล่าวโดยไม่จำเพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งครับ ในพระไตรปิฎก ท่านให้ตีความหมายว่า ภิกษุทั้งหลายครับ แต่ภาษามคธหรือบาลี คงไม่ได้บอกว่า ภิกษุ ท หรอกครับ ![]() ไอ่เรื่องโง่ๆละก็ไม่มีใครเกิน ยังมีการขยันโง่เสียด้วย |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 28 ธ.ค. 2012, 15:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
โฮฮับ เขียน: ลุงหมาน เขียน: โฮฮับ เขียน: พุทธวจน บางบัวทอง เขียน: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ อยากถามจขกทครับ .....มีปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ทำไม่ต้องมีพระพุทธเจ้าครับ ![]() ถามมาได้ผู้รอบรู้ ขอโทษลุงหมานครับ คำพูดผมอาจสูงไป เลยทำให้ลุงหมานไม่รู้เรื่อง มันมีความหมายอย่างนี้ครับ .....รู้อะไรแค่เอาตัวรอด มันก็ไม่จำเป็นต้องแตกฉาน แต่ถ้ารู้แล้วจะเป็นครู มันต้องแตกฉานครับ แบบลุงหมาน เขาเรียกไม่รู้แต่อยากเป็นครูครับ จำเขามาพูดมาสอน พอเขาถามอะไรเข้าหน่อยก็โกรธ พูดจาประชดประชัน เหมือนคุณยายอยากหมาก ![]() ขยันโง่จริงๆ เขาเรียกว่าถามแบบโง่ๆ |
เจ้าของ: | asoka [ 28 ธ.ค. 2012, 20:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
![]() อ้างคำพูด: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ ![]() แม่นแล้วครับท่านเจ้าของกระทู้..... ![]() เมื่อรู้และเข้าใจซาบซึ้งในอริสัจทั้ง 4 ตีความได้แตกฉาน จนนำการปฏิบัติจริงไปให้ถึง มรค ผล นิพพาน ได้รับความสำราญจากอมตะสุข ก็เพียงพอแล้ว จะเป็นบุรุษพริกคนแรก หรือ ม้าตัวแรกก็ไม่เห็นเป็นไร ... ![]() แต่ขอให้เป็นให้ได้ ไปให้ถึงจริงๆก็พอแล้ว ![]() ![]() ![]() อนุโมทนากับกระทู้ดีๆครับ ![]() ส่วนเรื่องที่ลุงหมานกับลุงโฮ มาแสดงวาทะร่วมก็ขอให้ถือเป็นสีสรรของกระทู้ก็แล้วกันนะครับ ทั้ง 2 ท่านก็คนดี แต่ละนิสัยวาสนาของตนยังไม่ได้ก็จึงมีความเห็นแตกต่างกันไปเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่กำลังเดินทางไปสู่ "ที่สุดของดี" ครับ ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 29 ธ.ค. 2012, 02:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
asoka เขียน: :ส่วนเรื่องที่ลุงหมานกับลุงโฮ มาแสดงวาทะร่วมก็ขอให้ถือเป็นสีสรรของกระทู้ก็แล้วกันนะครับ ทั้ง 2 ท่านก็คนดี แต่ละนิสัยวาสนาของตนยังไม่ได้ก็จึงมีความเห็นแตกต่างกันไปเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่กำลังเดินทางไปสู่ "ที่สุดของดี" ครับ ![]() แหม่! จริตจก้านคุณโสกะนี่เหลือรับประทานจริงๆครับ ดีแล้วล่ะครับ สักวันอาจมีแมวมองมาชวนไปประกวด มิสทิพฟานี่ คำพูด คำจาใช้ได้เลยครับ แต่สำเนียงยังไม่ได้ แบบนี้เขารู้กันหมดว่า เป็นชายแอ็บหญิง ระวังลุงหมานเตะเอานะครับ ขานั้นยิ่งอารมณ์ร้าย ด่าใครที่สาดเสียเทเสียเลยเชี่ยวครับ ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 29 ธ.ค. 2012, 02:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
ลุงหมาน เขียน: ขยันโง่จริงๆ เขาเรียกว่าถามแบบโง่ๆ ลุงหมาน เขียน: ไอ่เรื่องโง่ๆละก็ไม่มีใครเกิน ยังมีการขยันโง่เสียด้วย อวยพรปีใหม่ให้ลุงหมานครับ........ฉลาดจังไอ้เรื่องโง่ๆเนี่ย ![]() หรือจะเป็น ขี้เกียจจังน่ะลุงหมาน เรื่องความฉลาดเนี่ย ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 29 ธ.ค. 2012, 20:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
โฮฮับ เขียน: asoka เขียน: :ส่วนเรื่องที่ลุงหมานกับลุงโฮ มาแสดงวาทะร่วมก็ขอให้ถือเป็นสีสรรของกระทู้ก็แล้วกันนะครับ ทั้ง 2 ท่านก็คนดี แต่ละนิสัยวาสนาของตนยังไม่ได้ก็จึงมีความเห็นแตกต่างกันไปเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่กำลังเดินทางไปสู่ "ที่สุดของดี" ครับ ![]() แหม่! จริตจก้านคุณโสกะนี่เหลือรับประทานจริงๆครับ ดีแล้วล่ะครับ สักวันอาจมีแมวมองมาชวนไปประกวด มิสทิพฟานี่ คำพูด คำจาใช้ได้เลยครับ แต่สำเนียงยังไม่ได้ แบบนี้เขารู้กันหมดว่า เป็นชายแอ็บหญิง ระวังลุงหมานเตะเอานะครับ ขานั้นยิ่งอารมณ์ร้าย ด่าใครที่สาดเสียเทเสียเลยเชี่ยวครับ ![]() ![]() ผมว่าน่าจะเป็นลุงโฮมากกว่าละกระมังที่ต้องระวังลุงหมานเตะเอานะครับ เพราะเห็นแขวะเสียด แทงด้วยปิสุณาวาจาอยู่หลายๆคำ ![]() แต่ดูๆไปหลุงหมานท่านน่าจะไม่เป็นคนที่เตะใครเอาง่ายๆ......ผมสังเกคดูมานานดูเหมือนท่านจะเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี....พูดอะไรสั้นๆแต่กินใจ....จนทำให้คุณโฮต้องเต้นอยู่นี่ไงครับ ![]() ยังไงๆ ก็โชคดีปีใหม่ ใจเป็นสุข.....เมตตา ขอขมาและอโหสิกรรมซึ่งกันและกันส่งเรื่องร้ายๆไปกับปีเก่า รับเอาแต่เรื่องและสิ่งดีๆในปีใหม่ สดชื่นแจ่มใสทั้งโลกและธรรมกันทุกคนดีกว่านะครับ ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 30 ธ.ค. 2012, 05:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผู้รู้อริยะสัจ ไม่จำเป็นต้องแตกฉานอภิธรรมและรวยลาภ |
asoka เขียน: ผมว่าน่าจะเป็นลุงโฮมากกว่าละกระมังที่ต้องระวังลุงหมานเตะเอานะครับ เพราะเห็นแขวะเสียด แทงด้วยปิสุณาวาจาอยู่หลายๆคำ ผมไม่ได้พูดจาแบบคุณโสกะนี่ครับ มันเลยเป็นปิสุณาวาจา ถ้าใช้วาจาที่เคลือบด้วยน้ำลาย อย่างคุณมันคงดีมั้ง คุณโสกะคงคิดว่า น้ำลายตัวเองหอมหวาน แต่ที่ไหนได้ มันมีกลิ่นตุๆๆชนิดน้ำยาล้างห้องน้ำ เอาไม่อยู่ ![]() ปูโถ่! พูดธรรมไม่ต้องเสแสรงก็ได้ ไม่ได้จีบหญิงอยู่นะ แหม่ ! ใช้คำแต่ละคำ....มันลึกซึ้งยิ่งหนัก ![]() asoka เขียน: แต่ดูๆไปหลุงหมานท่านน่าจะไม่เป็นคนที่เตะใครเอาง่ายๆ......ผมสังเกคดูมานานดูเหมือนท่านจะเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี....พูดอะไรสั้นๆแต่กินใจ....จนทำให้คุณโฮต้องเต้นอยู่นี่ไงครับ ![]() มาว่าผมเต้น ตลกจัง ผมก็เป็นของผมอย่างนี้แต่ไหนแต่ไร ไอ้ที่เต้นน่ะ มันคุณ ปากก็ร้องเพลงไทยเดิม แต่แทนที่จะรำดันเต้นเป็นงิ้ว เคยได้ยินมั้ย มือถือสาก ปากถือศีล ถามหน่อยรู้จักด้วยเหรอ ปากร้ายใจดีน่ะ คุณรู้มั้ยมันตรงข้ามกับ ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอ ฮะ.....ฮะ มันลึกซี้งยิ่งนัก ถังขยะใจเอาไม่อยู่ ![]() asoka เขียน: ยังไงๆ ก็โชคดีปีใหม่ ใจเป็นสุข.....เมตตา ขอขมาและอโหสิกรรมซึ่งกันและกันส่งเรื่องร้ายๆไปกับปีเก่า รับเอาแต่เรื่องและสิ่งดีๆในปีใหม่ สดชื่นแจ่มใสทั้งโลกและธรรมกันทุกคนดีกว่านะครับ ![]() ที่ถามว่ารู้จักมั้ย ปากปราศัย น้ำใจเชือดคอ ก็ที่คุณกำลังทำอยู่นี่แหล่ะโสกะเอ้ย ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |