วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 01:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2013, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b33: เขียน:
แต่ในอนาคตนั้นเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง และก็จักไม่มาถึง
เพราะเมื่อจุดที่เราสมมติว่าอนาคตนั้นมาถึงเมื่อไหร่ มันก็จะกลายเป็นปัจจุบันทันที
เช่น วันนี้เป็นวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ เป็นปัจจุบัน
พรุ่งนี้ก็เป็นวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ เป็นอนาคต
พอวันที่ ๑ ในอนาคตมาถึง วันที่ ๑ ก็กลายเป็นปัจจุบันไปเสียแล้วทันที
อนาคตก็ต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ ๒ ต่อไปอีก จึงพูดได้ว่าอนาคตเป็นสิ่งที่มาไม่ถึง
อนาคตเป็นกาลที่ไม่รู้จักมาถึง ชีวิตเราก็ดำเนินไปไม่ถึงก็เป็นไปตามหลักปฏิจจสมุปบาท

พูดธรรมไร้หลักเกณท์แก่นสาร เอาเรื่องอนาคตมาพูดปนกับปฏิจจสมุบาทด้วยขาดความเข้าใจ
หลักปฏิจจสมุบาท พระพุทธองค์ทรงชี้เรื่อง อดีตและอนาคตไว้ว่า.....
ผู้ไม่รู้อดีต ผู้ไม่รู้อนาคตและผู้ไม่รู้ทั้งอดีตและอนาคต เป็นผู้มีอวิชา
และถ้าเป็นผู้ มีวิชชา มันก็ต้องเป็นผู้รู้อดีตรู้อนาคต

ผมถามหน่อย ที่ลุงพูดมามันใช่เรื่องมั้ย มันมีอะไรที่มันเกี่ยวกับพระธรรมที่
พระพุทธเจ้าทรงสอนหรือเปล่า หรืออาศัยพูดไปเรื่อยคนพูดก็ไม่รู้เรื่อง คนฟังก็ไม่รู้เรื่อง
มันเลยสมคล้อยกัน :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2013, 11:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Y10003918-41.jpg
Y10003918-41.jpg [ 19.96 KiB | เปิดดู 1033 ครั้ง ]
โฮฮับ เขียน:
พูดธรรมไร้หลักเกณท์แก่นสาร เอาเรื่องอนาคตมาพูดปนกับปฏิจจสมุบาทด้วยขาดความเข้าใจ
หลักปฏิจจสมุบาท พระพุทธองค์ทรงชี้เรื่อง อดีตและอนาคตไว้ว่า.....
ผู้ไม่รู้อดีต ผู้ไม่รู้อนาคตและผู้ไม่รู้ทั้งอดีตและอนาคต เป็นผู้มีอวิชา
และถ้าเป็นผู้ มีวิชชา มันก็ต้องเป็นผู้รู้อดีตรู้อนาคต

ผมถามหน่อย ที่ลุงพูดมามันใช่เรื่องมั้ย มันมีอะไรที่มันเกี่ยวกับพระธรรมที่
พระพุทธเจ้าทรงสอนหรือเปล่า หรืออาศัยพูดไปเรื่อยคนพูดก็ไม่รู้เรื่อง คนฟังก็ไม่รู้เรื่อง
มันเลยสมคล้อยกัน :b13:

ไม่ยุ่งซักเรื่องจะได้ไหม?

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2013, 13:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b33: เขียน:
โฮฮับ เขียน:
พูดธรรมไร้หลักเกณท์แก่นสาร เอาเรื่องอนาคตมาพูดปนกับปฏิจจสมุบาทด้วยขาดความเข้าใจ
หลักปฏิจจสมุบาท พระพุทธองค์ทรงชี้เรื่อง อดีตและอนาคตไว้ว่า.....
ผู้ไม่รู้อดีต ผู้ไม่รู้อนาคตและผู้ไม่รู้ทั้งอดีตและอนาคต เป็นผู้มีอวิชา
และถ้าเป็นผู้ มีวิชชา มันก็ต้องเป็นผู้รู้อดีตรู้อนาคต

ผมถามหน่อย ที่ลุงพูดมามันใช่เรื่องมั้ย มันมีอะไรที่มันเกี่ยวกับพระธรรมที่
พระพุทธเจ้าทรงสอนหรือเปล่า หรืออาศัยพูดไปเรื่อยคนพูดก็ไม่รู้เรื่อง คนฟังก็ไม่รู้เรื่อง
มันเลยสมคล้อยกัน :b13:

ไม่ยุ่งซักเรื่องจะได้ไหม?

ไม่ได้ครับ แต่แนะนำครับ ถ้าไม่อยากให้ใครยุ่ง
ลุงต้องออกตัวก่อนครับว่า สิ่งที่ลุงโพสไม่ใช่พระธรรมของพระพุทธเจ้า
แต่ถ้าลุงมาอ้างว่าเป็นพระธรรมของพุทธเจ้า ชาวพุทธทุกคนมีสิทธิ์ยุ่งถ้าเขาไม่เห็นด้วย
อีกอย่างเว็บนี้เป็นเว็บสาธารณะ ใครเป็นสมาชิกมีสิทธิ์ที่จะแสดงความเห็น ยิ่งกว่านั้น
ทางเว็บเขาก็อนุญาต ลุงไม่เห็นตรงมุมล่างขวาที่เขาเขียนว่า........อ้างอิงหรือครับ

สิ่งที่ลุงพอจะทำได้ถ้าไม่อยากให้ใครยุ่ง ลุงก็ไปแสดงความเห็นในไดอารี่ส่วนตัวซิครับ
ลุงจะใส่ตัวการ์ตูนโดเรม่อนหรือตัวคิดดี้ก็ไม่มีใครว่าครับ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2013, 14:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


พระบาลีและคำแปล

เหตุปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นเหตุ
อารมฺมณปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นอารมณ์
อธิปติปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นอธิบดี
อนนฺตรปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความติดต่อกันไม่มีระหว่างคั่น
สมนนฺตรปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความติดต่อกันไม่มีระหว่างคั่นที่เดียว
สหชาตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเกิดพร้อมกัน
อญฺญมญฺญปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความแก่กันและกัน
นิสฺสยปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นที่อาศัย
อุปนิสฺสยปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นที่อาศัยที่มีกำลังมาก
ปุเรชาตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเกิดก่อน
ปจฺฉาชาตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเกิดทีหลัง
อาเสวนปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเสพบ่อยๆ
กมฺมปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความปรุงแต่งเพื่อให้กิจต่างๆสำเร็จลง
วิปากปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นวิบาก คือเข้าถึงความสุกและหมดกำลังลง
อาหารปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้นำ
อินฺทฺริยปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ปกครอง
ฌานปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้เพ่งอารมณ์
มคฺคปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นหนทาง
สมฺปยุตฺตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ประกอบ
วิปฺปยุตฺตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ไม่ประกอบ
อตฺถิปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ยังมีอยู่
นตฺถิปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ไม่มี
วิคตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ปราศจากไป
อวิคตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็น ผู้ยังไม่ปราศจากไป

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 136 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร