วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 05:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2013, 08:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญ ก็ส่วน บุญ

นิพพาน ก็ ส่วนนิพพาน รึเปล่าครับ

สองสิ่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า หรือ แยกจากกันโดยสิ้นเชิงครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2013, 10:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


บุญกิริยาวัตถุ ๓

บุญจากการให้ทาน ๑ บุญจากการรักษาศีล ๑ บุญจากการภาวนา ๑

ให้ทาน = ละความตระหนี่ (ความโลภ)
รักษาศีล = ละความไม่สำรวมทางกายวาจา ความพยาบาท เบียดเบียน
ต่อตนเองและคนอื่นๆ (ความโกรธ)
ภาวนา = ทำจิตให้ตั่งมั่น(สมาธิ) ย่อมรู้ตามความเป็นจริง(ปัญญา)
ละความฟุ้งซ่านของจิต ละความลังเลสงสัยความไม่รู้ (ความหลง)


๑. ทำประโยชน์ในปัจจุบันของตนให้เกิด = อาศัยทานศีลเบื้องต้น

๒. ทำประโยชน์ในปัจจุบันและในอนาคต ของตนและผู้อื่นให้เกิด = อาศัยทานศีลภาวนาขั้นโลกียะ ให้ผล ให้วิบากเป็นไปในภูมิ ๓ พูดง่ายๆ ยังข้องเกี่ยวยุ่งเกี่ยวในโลก เป็นปุญญาภิสังขาร ปรุงแต่งในฝ่ายดี หากไม่ทำประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น ไม่ทำทานศีลภาวนาในเบื้องต้น ก็เรียกว่า ทำกำไรยาก ขาดทุนง่าย บุญเป็นการปูทางเอาไว้ สร้างทุนเอาไว้ ทำใจให้สูงกว่า โลภโกรธหลง

แต่เมื่อทำไว้ก็ยึดเอาไว้ไม่ได้ เพราะเป็นของปรุงแต่งของสมมติ แต่ไม่ทำก็ไม่เป็นเบื้องต้นของพรหมจรรย์ ของความสุข ของประโยชน์ตนประโยชน์ผู้อื่น ตลอดจนประโยชน์สูงสุด คือ นิพพาน พ้นจากความปรุงแต่ง ทำความเห็นตรงด้วยการภาวนา ฯลฯ

๓. ทำประโยชน์สูงสุด คือ ละความเห็นผิดในตัวในตน สัตว์บุคคลเราเขา = ทานศีลภาวนาขั้นโลกุตตระ ละวิปลาสธรรม ละความเห็นว่างาม ละความเห็นว่าเที่ยง ละความเห็นว่าสุข ละความเห็นว่าเป็นอัตตา เพื่อทำนิพพานให้แจ้ง จึงต้องอาศัย บุญกิริยาวัตถุ ๓ หรือ ๑๐ ย่อลงคือ ทานศีลภาวนา หรือศีลสมาธิปัญญา เพื่อประโยชน์ในโลกนี้โลกหน้า เพื่อประโยชน์ในปัจจุบันอนาคต เพื่อตนและผู้อื่น โดยรู้ชัดตามความเป็นจริงด้วยปัญญา ต่อเหตุต่อผล

อีกประการ การได้สั่งสมบุญเอาไว้ ได้มีกัลยาณมิตรดี มีตนเป็นที่พึ่งแห่งตนที่ดี
ก็เป็นอุปการะในการชำระ อาสวะกิเลสที่นอนเนืองในจิตใจ มีโอกาสได้ทำบุญใน
เนื้อนาบุญ ได้พบเห็นผู้เจริญ ได้ฟังธรรม ได้ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม นั่นก็เพราะ
ได้สั่งสมบุญเอาไว้ก่อน บุญจึงเป็นอุปการะ เป็นอุปกรณ์ เป็นเครื่องมือ

ยกจิตยกใจให้พร้อม รองรับคุณธรรมที่สูง ในโอกาสต่อๆ ไป เจริญพร.

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2013, 10:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss กระจ่างดีแท้ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2013, 11:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญ = การชำละกิเลส

หมดกิเลส = นิพพาน

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2013, 15:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ใจเราบางครั้งเห็นทุกข์ อยากจะหาทางเข้านิพพาน
แต่พอเห็นสัตว์ ใจก้อคิดว่าอยากจะช่วยพวกเค้าก่อน

ตอนนี้ก้อเลยสะสมบุญ-บารมีไปเรื่อยๆ อย่างน้อยๆถ้าได้เกิดอีก
ก้อขอให้ได้เกิดเป็นคนที่มีร่างกายปกติ เพื่อช่วยสัตว์ทั้งหลายไปทุกๆชาติ

ทุกวันนี้ เวลาที่ทำบุญ-ทาน จะอธิฐาน

"ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้า ทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆไป
ขอให้ข้าพเจ้า ได้พบได้เจอแต่สิ่งที่ดีๆ ทุกข์โศกโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย
อย่าได้มาเบียดเบียนข้าพเจ้าเลย" :b8:

:b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2013, 15:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


choochu เขียน:
บุญ ก็ส่วน บุญ

นิพพาน ก็ ส่วนนิพพาน รึเปล่าครับ

สองสิ่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า หรือ แยกจากกันโดยสิ้นเชิงครับ


:b1:

ถ้าตะกี้ เราได้ทำบุญ
บุญที่เราทำไปตะกี๊ ก็ได้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไปแล้ว
แต่เราอาจจะยังเสวยผลของ บุญ ต่อไปได้สักระยะ
แต่ผลของมันในทุกระยะ ก็เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เช่นกัน

:b1:

เราเกาะบุญ...ไปตลอด...ไม่ได้หรอก
...แต่เกาะบุญ...ก็ดี...ดีกว่าไปเกาะบาป...เน๊อะ
เกาะ เกาะ มันไป
...สักวันเราจะได้แว๊บ ๆ เห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในสิ่งที่เราเกาะ...เอง
ก็ยังคงทำบุญได้นั่นล่ะ ไม่ใช่เลิกทำ
แต่...ใจมันไม่ไปยึดเกาะในสิ่งที่ทำ...
...เช่นเดียวกับที่เราเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในสิ่งอื่น ๆ...
....
การที่ใจปล่อยวางจากบุญ...มันก็เป็นอาการเบาใจอย่างหนึ่งนะ...
มันจะบอกว่าเป็นอาการ สุข ก็ไม่ใช่ เพราะมันเป็นคนละอาการ
มันเป็นอาการที่ปรากฎจากการปล่อย...สุขในบุญ
ซึ่งถ้า สุขในบุญ นั่นถือว่า เป็นสุขแล้ว
สุข เนื่องจากการปล่อยสุขในบุญ ก็นับว่าเป็นสุขยิ่งกว่า...



:b1: :b8: :b8: :b8: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2013, 16:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


choochu เขียน:
บุญ ก็ส่วน บุญ

นิพพาน ก็ ส่วนนิพพาน รึเปล่าครับ

สองสิ่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า หรือ แยกจากกันโดยสิ้นเชิงครับ



เป็นคนละอย่างกัน แต่ ก็เกี่ยวข้องกัน

เหมือนสะพาน กับ พื้นดิน

เป็นคนละอย่างกัน

แต่ก็เกี่ยวข้องกัน

ต้องอาศัยสะพาน เพื่อเดินข้าม

ไปยังพื้นดินอีกฝั่ง :b16:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2013, 09:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ท่านพุทธฏีกาเมตตาตอบไว้ชัดเจนแล้ว

ทาน ศีล ภาวนา (สมาธิ+ปัญญา)...นิพพานเป็นผลที่ได้จากการภาวนา
ธรรมในแต่ละระดับมีความยากง่ายต่างกัน ดังนั้น ผู้เริ่มต้นต้องเริ่มจากธรรมที่ง่ายไปก่อนตามลำดับชั้น
ถ้าจะเปรียบเทียบให้ง่าย ทานศีลเปรียบเสมือนกับเรือ...สมาธิ+ปัญญาเปรียบเสมือนกัปตันที่จะคอยบังคับทิศทางของเรือให้ข้ามทะเลหรือห้วงน้ำแห่งตัณหา..เพื่อไปให้ถึงอีกฝั่งโดยสวัสดิภาพหรือที่เราเรียกกันว่า..นิพพาน... :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2013, 20:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


ึความโลภ บริจาคทาน ละความตะหนี่ในตัวเอง
ความโกรธ ให้เมตตา
ความหลง ให้พิจารณาอสุภะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2013, 06:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


choochu เขียน:
บุญ ก็ส่วน บุญ

นิพพาน ก็ ส่วนนิพพาน รึเปล่าครับ

สองสิ่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า หรือ แยกจากกันโดยสิ้นเชิงครับ


เมื่อทำบาปก็ย่อมได้บาป
เมื่อทำบุญก็ย่อมได้บุญ
พระนิพพานนั้นเป็นสุดยอดของบุญ
ส่วนพระนิพพานเกี่ยวข้องกับบุญ
เพราะอาศัยบุญเป็นพื้นฐานด้วยการเจริญวิปัสสนา
จะเห็นได้ว่า พระอริยบุคคลเบื้องต่ำ ๓
พระนิพพานนั้นยังต้องอาศัยการเจริญวิปัสสนาอยู่
ส่วนพระอริยะเบื้องบน คือพระอรหันต์นั้น สิ้นสุดแล้ว แม้จะทำบุญก็ไม่เป็นบุญ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2013, 09:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


choochu เขียน:
บุญ ก็ส่วน บุญ

นิพพาน ก็ ส่วนนิพพาน รึเปล่าครับ

สองสิ่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า หรือ แยกจากกันโดยสิ้นเชิงครับ
ถ้าท่านหมายความว่าการทำบุญคือการทำทานหรือบริจาคทรัพย์ อันนี้สำคญมากครับ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าถึงสภาวะนิพพาน เพราะจิตที่ตระหนี่นั้นไม่สามารถเข้าถึงธรรมแท้ได้เลย ฉะนั้นการบริจาคทรัพย์เพื่อเป็นทานนั้นมีความสำคัญมากครับ เพราะเป็นการตัดความตระหนี่โดยตรงครับ สิ่งที่นำมาสู่ความสำเร็จได้ทุกอย่าง คือ ศรัทธา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้นะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2013, 16:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


choochu เขียน:
บุญ ก็ส่วน บุญ

นิพพาน ก็ ส่วนนิพพาน รึเปล่าครับ

สองสิ่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า หรือ แยกจากกันโดยสิ้นเชิงครับ

บุญ ก็ส่วนบุญ
นิพพาน ก็ส่วนนิพพาน
มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ก็มี
แยกจากกันโดยสิ้นเชิงก็มี

ถ้าปุญญเจตนา ประกอบขึ้นเพื่อเป็นปัจจัยแก่นิพพาน ก็เกี่ยวกันกับนิพพาน
ถ้าปุญญเจตนา ประกอบขึ้นเพื่อความเป็นอย่างอื่น ก็แยกจากกันอย่างสิ้นเชิง

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2013, 20:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


จะนิพพาน...ต้องอาศัยบุญเป็นบันได

แต่บาปบุญเป็นสมบัติของวัฏฏสงสาร

เมื่อถึงดับขันธปรินิพพาน...ก็สิ้นอำนาจของบาปบุญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2013, 21:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
choochu เขียน:
บุญ ก็ส่วน บุญ

นิพพาน ก็ ส่วนนิพพาน รึเปล่าครับ

สองสิ่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า หรือ แยกจากกันโดยสิ้นเชิงครับ

:b1:
...ตอบว่าแยกจากกันโดยสิ้นเชิงเพราะนิพพานเป็นโลกุตรธรรมคือธรรมที่เหนือโลก...
...ผู้ที่บรรลุพระนิพพานอยู่เหนือบุญและบาป...ไม่ต้องไปรับผลกรรมสืบต่อในชาติหน้า...
...ที่กระทำมาแล้วไม่ว่าบุญหรือบาปก็จะสิ้นสุดในชาติปัจจุบันเพราะหมดสภาพสมมุติ...
...กลับคืนสู่ความเป็นธาตุเดิม...เหลือแต่ธาตุรู้ที่รู้ความจริงและรู้สมมุติ...สิ้นสงสัยคือจิตวิมุติ...
:b16:
...ส่วนบุญก็ส่วนบุญ ขาดอีกอย่างคือบาปก็ส่วนบาป คนละอย่างกัน นี้ก็แยกจากกันโดยเด็ดขาด...
...ก็ทั้งบุญและบาปนี้ก็แยกส่วนกันโดยเด็ดขาด ทั้ง2เป็นโลกียธรรม คือจิตดีกับจิตไม่ดีไม่ถึงวิมุติ...
...เพราะบุญจิตส่วนดีเป็นกุศลธรรมและบาปเป็นจิตส่วนไม่ดีเป็นอกุศลธรรมแยกจากนิพพานเด็ดขาด...
...นิพพานคือจิตหมดกิเลส ส่วนบุญและบาปเป็นจิตที่เต็มไปด้วยกิเลสซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับนิพพาน...
...คือบุญสนับสนุนให้ถึงพระนิพพานได้เร็วกว่า...บาปขัดขวางเป็นเครื่องเนิ่นช้าในการไปถึงนิพพาน...
:b12: :b8:
:b43:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร