วันเวลาปัจจุบัน 30 เม.ย. 2024, 00:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2012, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


พึงรีบเร่งกระทำความดี
และป้องกันจิตจากความชั่ว
เพราะเมื่อกระทำความดีช้าไป
ใจจะกลับยินดีในความชั่ว

ถ้าอาจารย์ไม่ตั้งใจกับลูกศิษย์ ลูกศิษย์โง่อาจจะหลงตัวเองว่าฉลาดได้ งานไม่ดีถ้าเราไปยกย่องเขา เขาไม่เก่งจริงแล้วปล่อยให้ไปอยู่กับนักปราชญ์ผู้รู้ ก็จะถูกดูถูกดูแคลนเอาได้ ( ๙ เรื่องเพื่อความก้าวหน่า - ท่าน ว.วชิรเมธี)

เมื่อบาปยังไม่ส่งผล
คนชั่วก็เห็นว่าเป็นของดี
ต่อเมื่อมันเผล็ดผลเมื่อใด
เมื่อนั้นแหละเขาจึงรู้พิษสงของบาป

ขึ้นชื่อว่าบาปกรรม ไม่ควรดูหมิ่นว่าเล็กน้อย เปรียบเสมือนภาชนะที่เขาเปิดทิ้งไว้กลางแจ้ง
เมื่อฝนตก น้ำฝนหยดเดียวไม่ทำให้ภาชนะเต็มก็จริงอยู่ แต่เมื่อฝนตกบ่อยๆ ภาชนะนั้นย่อม
เต็มแน่ๆ ฉันใด ผู้ทำบาปอยู่แม้ทีละน้อยๆ ย่อมทำกองบาปให้ใหญ่โตขึ้นตามลำดับได้ฉันนั้น

....หลวงปู่ชอบ ฐานสโม


"กาลเวลากับชีวิต"
...ความสงบแห่งท้องทะเลเปรียบเสมือนจิตใจที่ปล่อยวางแล้วและชุ่มเย็น
ความทุกข์ความสุขดูๆไปก็เหมือนน้ำ... มีทั้งขึ้นมีทั้งลง พอถึงที่สุดแล้วก็กลับมาสงบเหมือนเดิม...มันเป็นเช่นนั้นเอง...
*ตามให้รู้ดูให้เป็นใจสบาย*



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2012, 17:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


โลภมาก จะลาภหาย
โกรธมาก จะวุ่นวาย
หลงมาก จะงมงาย
ให้ทานมาก จะอุดมลาภ
รักษาศีลมาก จะมีสุขภาพดี
ภาวนามาก จะทวีความสุข

การปฏิบัติธรรมนั้น ไม่มีโทษ มีแต่คุณ
คือจิตไม่ขุ่นมัว จิตผ่องใส จิตเบิกบาน
จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็มีความสุข ไม่มีความทุกข์
จะเข้าสู่สังคมใด ๆ ก็องอาจกล้าหาญ
การทำความเพียร เมื่อสมาธิเกิดมีขึ้นแล้วจะ...
...ไม่มีความหวั่นไหว ไม่มีความเกียจคร้านต่อการงาน ทั้งทางโลกทั้งทางธรรม
จากนั้นก็เป็นปัญญาที่จะมาเป็นกำลัง เมื่อปัญญาเกิดขึ้นแล้วรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์
จะเรียนทางโลกก็สำเร็จ จะเรียนทางธรรมก็สำเร็จ
พระพุทธเจ้าท่านจึงสั่งสอนอบรม ให้เกิดให้มีขึ้นมาในเบื้องต้นตั้งแต่ศีล
ศีลเป็นที่ตั้งของสมาธิ สมาธิเป็นที่ตั้งของปัญญา
ไม่ว่าศีล สมาธิ ปัญญา เป็นทางแห่งวิมุตติ คือ ความหลุดพ้นด้วยกัน

หลวงปู่ขาว อนาลโยดูเพิ่มเติม



ทางหนึ่งแสวงหาลาภ
ทางหนึ่งไปนิพพาน
รู้อย่างนี้แล้ว ภิกษุพุทธสาวก
ไม่ควรไยดีลาภสักการะ
ควรอยู่อย่างสงบ
คนโง่มัวคิดวุ่นวายว่า
เรามีบุตร เรามีทรัพย์
เมื่อตัวเขาเองก็ไม่ใช่ของเขา
บุตรและทรัพย์จะเป็นของเขาได้อย่างไร


''กระจก'' เจ้าของต้องหมั่นดูแล รักษา ทำความสะอาด เช็ดถู อยู่เป็นประจำ กระจก ถึงจะสะอาดเงางาม เห็นทุกอย่างตามที่เป็นจริง ฉันใด จิต(ใจ) ก็ฉันนั้น เราต้องเอา สติ คอยรักษา (ทวารทั้งหก) ไม่ให้กิเลส ภายนอก ใหลเข้ามาหุ็มเกาะ จิต (ใจ) ภายในได้ แล้วนำเอา พระธรรม คำสอน ของพระตถาคต ถอดถอน อาสวะภายใน ออกให้หมด เมื่อนั้น จิต (ใจ) ก็จะสะอาด บริสุทธิ์ แ่จ่มเเจ้งในธรรม เห็นธรรม ตามที่เป็นจริง เจริญธรรม เจริญใจ แด่ ผู้เห็นภัยทั้งหลาย


ถึงจะอยู่ใกล้บัณฑิต
เป็นเวลานานชั่วชีวิต
คนโง่ก็หารู้พระธรรมไม่
เหมือนจวักไม่รู้รสแกง

สัตว์ทั้งหมดกลัวโทษทัณฑ์
สัตว์ทั้งหมดกลัวความตาย
เปรียบตนเองกับผู้อื่นอย่างนี้แล้ว
ไม่ควรฆ่าเอง ไม่ควรสั่งให้คนอื่นฆ่า

การรักษาศีล สมาธิ ปัญญา...คือวิธีกำจัดอุปสรรคต่างๆ ในการควบคุมรักษาจิตของตน
ให้รอดพ้นจากความนึกชั่ว คิดชั่วทั้งหลาย


การ ทำบุญ ถ้าทำถูกต้องถูกวิธีก็จะได้ผลบุญแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่ถ้าทำผิดวิธีก็จะได้ผลบุญแบบนิดๆ หน่อยๆ ดังเช่นการเทน้ำใส่ตะกร้า
ก็จะได้น้ำแค่นิดหน่อย ผิดกับเทใส่แก้วก็จะได้น้ำแบบเต็มๆ ไม่รั่วหายไปไหน”

นอบน้อม อ่อนน้อม ดังข้าวเต็มรวง
โอ้แนบในทรวง
คุณล้นเต็มดวง เลิศล้ำ
อย่าเด่น อย่าโด่ง ไร้คุณไร้ค่า
อวดเก่งอวดอิง
...เจ้าอย่าเย่อหยิ่งอีกทั้งจองหอง
เด่นดังเด่นได้ ขอเด่นในใจ
แม้นไม่มีใคร รู้ด้วยทั้งผอง
ดังแสงสาดส่องแห่งดวงจันทร์
ทอแสงประกายมิเคยม่นหมอง
ดังเพชรเช่นทอง สูงค่า
ธรรมภูมิดูเพิ่มเติม
กรรมชั่วที่ทำแล้ว ยังไม่ให้ผลทันทีทันใด
เหมือนนมที่รีดใหม่ ๆ ไม่กลายเป็นนมเปรี้ยวในทันที
แต่มันจะค่อย ๆ เผาผลาญผู้กระทำในภายหลัง
เหมือนไฟไหม้แกลบฉะนั้น


“ตัวเรา เปรียบเหมือนต้นไม้ ความยึดถือคือเถาวัลย์ ถ้าเรายินดีในรูป มันก็มัดตา ยินดีในเสียง มันก็มัดหู ยินดีในธัมมารมณ์ มันก็มัดใจ เมื่อเราถูกมัดทั้งหมด เราก็ต้องตาย บางคนตายไม่ทันใจ ยังต้องมัดคอตัวเองก็มี”

...ท่านพ่อลี ธมฺมธโร



กินเพื่ออิ่มปัญหาน้อย กินเพื่ออร่อยปัญหามาก

จะผาสุก หรือ ทุกข์ยาก ก็อยู่ที่การฝืนใจ หรือ ตามใจตนเอง"

หลวงปู่บุญกู้ อนุวัฑฒโน



ถาม: การเปิดเทปธรรมะให้ฟังเมื่อจิตสงบนั้นจะช่วยให้ได้สุคติหรือไม่?

หลวงพ่อ: การเปิดเทปให้ฟังบางทีคนไข้ถ้าตั้งใจจดจ่อฟังก็มีอานิสงส์ให้สุคติได้ แม้ว่าคำ
เตือนเพียงคำเดียวว่า จงทำสติระลึกถึงคุณพระคุณเจ้านะ เพียงแค่นี้เขาระลึกพระพุทโธ
ธัมโม สังโฆ ในขณะนั้นก็สามารถที่จะไปสุคติได้ เช่น มัฏฐกุณฑลี ซึ่งเจ็บป่วยหนัก บิดาเป็น
...คนขี้เหนียว ไม่หายามารักษา พระพุทธเจ้าพิจารณาเห็นแล้วว่า เด็กคนนี้ในวันพรุ่งนี้จะตาย
เมื่อตายลงไปแล้วจะตกนรก พระองค์ก็เสด็จไปโปรด พระองค์ทรงเปล่งรัศมีไปเตือนให้รู้ว่า
พระองค์เสด็จมาโปรด นายมัฏฐกุณฑลีหันกลับมามองดูพระพุทธเจ้าเพียงแว๊บเดียว แล้วก็
เกิดความเลื่อมใสขึ้นมา “โอ้โฮ้ ! พระพุทธเจ้าอัศจรรย์หนอ” แล้วก็ตาย ตายแล้วไปเกิดเป็น
เทพบุตร อันนี้เป็นตัวอย่าง

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ตอบปัญหาธรรมดูเพิ่มเติม



"ระวังให้ดีถ้า ท่านรักใครคิดถึงใครเป็นห่วงใคร ผู้นั้นจะให้โทษแก่ท่าน"

หลวงปู่กินรี จันทิโย


คนพาล เวลาทำชั่ว
หาสำนึกถึงผลของมันไม่
คนทรามปัญญามักเดือดร้อน
เพราะกรรมชั่วของตัว
เหมือนถูกไฟไหม้


เด็กที่ผ่านบทเรียนยากๆได้สำเร็จจะเป็นผู้ใหญ่ที่ฉลาด ผู้ใหญ่ที่ผ่านบทเรียนโหดๆได้โดยดีจะเป็นคนตายที่สบายใจ / ดังตฤณ

ถ้าเรามี "ความจริง" คือ "ธรรมะ" เป็นทรัพย์ของเราแล้ว
ถึงจะมีเงิน ก็ไม่ทุกข์ ไม่มีก็ไม่ทุกข์ เพราะจิตของเราเป็นโลกุตตระแล้ว


อย่าหวั่นอย่าไหวเมื่อใครเขาด่า
อย่าเหนื่อยอย่าล้าเมื่อโลกไม่เห็น
อย่าหยุดอย่าพักถ้ารักจะเป็น
อย่าใจเสาะเต้นแม้เกือบวางวาย






เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2012, 15:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"..ตายเป็นตาย ! ตายเสีย ! เคยตายมากี่กัปป์ กี่กัลป์ เคยตายมากี่ร้อย กี่แสน กี่ล้านครั้ง
กับจะตายเพื่อบูชาธรรม เพื่อยกตัวเองเป็นไรไป.."

พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต
วัดภูสังโฆ จ.อุดรธานี

“ศีลเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง
ความดีทุกอย่างเกิดจากศีล
ความสงบ เยือกเย็น ทุกอย่างเกิดจากสมาธิ
จะละกิเลสได้ด้วยกำลังสติปัญญา”

...หลวงปู่หลวง กตปุญโญ

‎"การดำเนินชีวิตประจำวันบางก็สุข บางก็ทุกข์ มาจากการปรุงแต่งในจิตใจของเราทั้งสิ้น มีใจเป็นประธาน กายเป็นบ่าว ทางพุทธศาสนาหรือหลวงพ่อพุทธทาสท่านเรียกว่า "ปฏืจสมุปบาท 12 มาจากความไม่รู้คือวิชชา การที่เราจะตัดสินใจจะทำอะไรออกมา โดยมีสติสัมมาปรัชญญะเป็นตัวตั้ง คิดอย่างแยบคายคอยๆ คิดโดยใช่เวลาเป็นเครื่องประกอบเข้ามาด้วยจึงจะสำเร็จ กรุงโรมหรือกำแพงเมืองจีนสร้างไม่เสร็จในวันเดียวฉันใด ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกกรณีที่เกิดขึ้นต้องอาศัยเวลาฉันนั้น บางเรื่องก็แก้ไขได้เร็ว บางเรื่องแก้ไขได้ช้า เพราะอยู่ที่เงื่อมปุ๋มชีวิตของแต่ละบุคคลผูกมาเหมือนกัน อยู่ที่การกระทำของแต่ละบุคคลเป็นองค์ประกอบในปัจจุบันด้วย เหมือนดั้งคำว่า กัมมุนา วัตตตีติโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมที่บุคคลได้กระทำ


"เมื่อเราเกิดมาแล้วโยม ก็คือเราตายแล้วนั่นเอง ความแก่กับความตายมันก็คืออันเดียวกันนั่นแหละ เหมือนกับต้นไม้ อันหนึ่งต้น อันหนึ่งปลาย เมื่อมีโคนมันก็มีปลาย เมื่อมีปลายมันก็มีโคน ไม่มีโคน ปลายก็ไม่มี มีปลายก็ต้องมีโคน มีแต่ปลาย โคนไม่มีก็ไม่ได้ มันเป็นอย่างนั้น"
"เพราะฉะนั้น ก็นึกขำเหมือนกันนะ มนุษย์เราทั้งหลาย เมื่อจะตายแล้วก็โศกเศร้า วุ่นวาย นั่งร้องไห้ เสียใจ สารพัดอย่าง หลงไปสิ โยมมันหลงนะ พอคนตายก็ร้องไห้พิไรรำพัน แต่ไหนแต่ไรมา ไม่ค่อยได้พิจารณาให้ชัดแจ้งนะ ความเป็นจริงแล้ว อาตมาขอโทษด้วยนะ อาตมาเห็นว่า ถ้าจะร้องไห้กับคนตายน่ะ ร้องไห้กับคนที่เกิดมาดีกว่า แต่มันกลับกันเสีย ถ้าคนเกิดมาแล้วโยมทั้งหลายก็หัวเราะดีอกดีใจกันชื่นบาน ความเป็นจริงเกิดนั่นล่ะคือตาย ตายนั่นล่ะก็คือเกิด ต้นก็คือปลาย ปลายก็คือต้น"

หลวงพ่อชา สุภัทโท



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2012, 17:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"ที่ถืออยู่มันหนัก" ก็คือความยึดมั่นถือมั่นใน"ตัวตน" ในสิ่งของวัตถุ"ภายนอก"ว่านี้เป็นของๆเราตัวของเรา เราถืออยู่ที่ไหน? ถือที่ "ใจ" ก็ต้อง "วางที่ใจ" รู้ว่านี้เป็น"ทุกข์" ก็ต้องค่อยๆ "ละ" และ "วาง"ครับ นี้คือในทาง"ธรรม" เป็น"นามธรรม"
ถ้าในทางโลก เราถือของอยู่ในมือหนักสิบโล แรกๆไม่หนักหรอกครับ แต่..ถ้าเราถือเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันๆ น้ำหนักก็จะทวีขึ้นหลายเท่า "หนัก" ครับหนักมากหนักน้อยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราถือ รู้ว่าหนักเราคงไม่ถือต่อหรอกครับ ก็ต้อง"วาง"แล้วเราจะเบานี้เป็น"รูปธรรม"
"ที่ถืออยู่มันร้อน" ก็คือ โทสะ โมหะ โลภะ ก็คือรักโลภโกรธหลงความอยากได้อยากมีอยากเป็นเหมือนคนอื่นเขา ยังใจเราให้เราเร่าร้อนเป็นไฟแผดเผาจิตให้ลุ่มหลงร้อนรน ดิ้นรนแสวงหาและ ริษยาไปทั่ว เป็น"นามธรรม"ที่เกิดขึ้นในจิตของเรา
มองให้เห็น"กฏพระไตรลักษณ์" แล้วค่อยๆละและวาง
ใช้"อิทธิบาท4"เป็นความเพียร และใช้"โพชฌงค์7"เป็นตัวแก้ความตรึงความหย่อนของจิตครับ
...ถือนานหนักนาน ถือน้อยหนักน้อย รู้ก่อนวางก่อนไม่หนัก เบาสบายไม่เป็นทุกข์ เพ่งให้เห็นความเกิดดับแห่งจิต แห่งทุกข์ เราก็จะสุขด้วยการ"วาง"
"วาง"ที่ว่าก็คือ"วางจิต"ให้เป็น"อุเบกขา"ครับ รู้สิ่งใดเข้ามาในจิตหรือในชีวิตอย่าเก็บไปคิดให้รกสมองกับทุกๆเรื่องที่ผ่านเข้ามาเราก็จะหนักนะครับ ทุกๆคนล้วนเกิดมาแล้วย่อมมีทุกข์จะยากดีมีจนก็ทุกข์ หากไม่มีทุกข์ไม่มีปัญหา เราก็จะไม่รู้จักเริ่มต้นที่จะเรียนรู้การแก้ไขปัญหา เอาปัญหาที่ผ่านมา มาเป็นบทเรียน ถือว่าเป็นบททดสอบเราและถือว่าเป็นมารมาทดสอบว่าเราจะผ่านได้ไหมจะทำให้มีกำลังใจสู้ต่อครับ "เรา"จะไม่ย้อน"เวลา"กลับไปเพื่อ"แก้ไข" แต่..."เรา"จะใช้"เวลา"ที่เดิน"ต่อไป"เพื่อ"ปรับปรุง"
"วางอดีตไว้ข้างหลัง ทำปัจจุบันให้เกิด เตรียมอนาคตไว้ข้างหน้า และ อย่าเอาอดีตมาคิดให้ทำลายปัจจุบันและทำลายอนาคตนะครับ"

มนุษย์ แปลว่า ใจสูง
หมายถึงมีจิตใจสูงกว่าสัตว์เดรัจฉาน
มนุษย์รู้จักผิดชอบชั่วดี มีหิริโอตตัปปะ
ละอายเกรงกลัวต่อบาป มีศีลธรรม
รักษาศีล 5 ได้ก็เท่ากับรักษาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
...ได้สมบูรณ์

พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

ปล่อย วางให้เป็น จึงจะแบกขึ้นมาใหม่ได้
ผู้ที่ ปล่อยวางหรือแบกภาระได้อย่างสบายใจ
คือผู้ ที่มีความอิสระอย่างแท้จริง


คนเราโดยมากมักนึกว่า
อนาคตจะเป็นอย่างไรเราทราบไม่ได้
แต่ที่จริงเราย่อมจะทราบได้บ้างเหมือนกัน
เพราะอนาคต ก็คือ ผลของการกระทำในปัจจุบัน


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2012, 18:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU1UQTFNemt5Tnc9PQ==&subcatid=
วิภวตัณหา ก่อให้เกิด ภพ

หนุ่มใหญ่โรคร้ายรุมโดดตึกร.พ.ดับ หลังฆ่าตัวตายหลายครั้ง จนต้องมัดกับเตียง

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 24 ต.ค. ร.ต.ต.อนุพงษ์ พวงพี่ ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนไข้ของ ร.พ.บางละมุง กระโดดจากอาคารผู้ป่วยจากชั้นที่ 4 เสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.ต. นพดล อินทุสร รอง สวป.สภ.บางละมุง ที่เกิดเหตุภายในห้องฉุกเฉินพบศพนายสุชาติ บุญสมทบ อายุ 46 อยู่ม.5 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.บางละมุง ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา จากสาเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายตัวเอง ตรวจสอบที่อาคารผู้ป่วยตึกเฉลิมพระเกียรติ ชั้นที่ 4 ภายในห้องผู้ป่วยพบว่านายสุชาติ ได้ลุกลงจากเตียงนอนเพื่อไปที่ระเบียงหลังห้องกระโดดฆ่าตัวตาย



ด้าน ร.ต.ต.อนุพงษ์ กล่าวว่า ผู้ตายเคยคิดที่จะพยายามฆ่าตัวตายหลายหน โดยแพทย์ต้องใช้ผ้ามัดตัวไว้กับเตียง แต่นายสุชาติก็พยายามแก้มัดตลอด ซึ่งก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงกลางวันแพทย์ได้นำนายสุชาติไปรักษาโดยการฉีดยา และนำกลับมาพักที่ห้อง ก่อนมาก่อเหตุจบชีวิตตัวเอง



จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายสุชาติ เคยก่อเหตุใช้อาวุธมีดปาดคอตัวเองมาแล้วเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ภายในบ้านของตัวเอง จนเจ้าหน้าที่ต้องไปเกลี้ยกล่อม และเข้าช่วยเหลือ และนำส่งรักษาตัวที่ ร.พ.บางละมุง เนื่องจากนายสุชาติ เครียดจากปัญหาโรคร้ายที่รุมเร้าตัวเอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้วจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ติดต่อญาติรับทราบเรื่องต่อไป

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2012, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญหา คือ ยาชูกำลังอันวิเศษ ถ้าเราละเลยปัญหาวันนี้
พรุ่งนี้เราก็ต้องละเลยอีก กลายเป็นว่าพวกเราคือตัวปัญหา
ทีนี้จะทำอะไรก็จะมีแต่ปัญหา เหมือนกับการร่อนแป้ง
ถ้าปล่อยให้สมองห่าง ปัญหาห่าง สติห่าง สมาธิห่าง
พอมีทรายตกลงไปในแป้ง เรามาบอกว่ากินทรายเข้าไปแล้วเป็นปัญหา
...ถ้าเครื่องร่อนตามันถี่ มีหรือทรายจะมาปนในแป้งได้

ปัญหาที่แท้จริงนั้น ย่อมไม่เกิดต่อ บุคคลผู้แสนสุขสำราญ
ความเบื่อหน่าย นิพพิทาญาณ เพื่อคลายกำหนัด
ย่อมไปเกิดแก่ชนผู้จมปลักดูเพิ่มเติม


คนเราบางครั้งก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับชีวิต แม้จะมีอำนาจ มีทรัพย์ พรรคพวกบริวารและสติปัญญา เมื่อถูกปกคลุมด้วยความหลงก็มืดมนดุจอยู่ในที่มืด ความรัก ความโลภ ความโกรธทำให้จิตใจมืดมน การทำจิตให้แจ่มใสจึงเป็นวิธีแก้ไขอย่างตรงจุด คนเราจิตมืดบอดด้วยความเห็นผิด คิดผิด จึงมีการกระทำผิด พูดผิด ดำเนินชีวิตในทางผิด ดังนั้น การเจริญสติพัฒนาปัญญาตามแนวไตรสิกขาจึงเป็นมรรควิธีสู่ความสว่างแจ่มแจ้งเปิดดวงตาปัญญาให้เห็นแจ้งตามเป็นจริง


เรื่องที่จะทำให้ถูกใจเรา ทุกอย่างมันไม่มี ถ้าใจเราเลว แต่ว่าถ้าใจเราดีเสียอย่างเดียว ทุกอย่างในโลกมันไม่มีอะไรผิดใจเรา เพราะว่าเราทราบว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา

ธรรมโอวาทหลวงพ่อพระราชพรหมยาน


ความสมดุลย์ ของชีวิต คิดกันบ้าง
อย่าหลงทาง สร้างชีวิต ยึดติดฝัน
ว่าจะต้อง ดีสูงสุด ดุจตะวัน
ดาวเมฆนั้น แสนต่ำต้อย หิ่งห้อยไพร

...ดีที่สุด ที่พึงมี นั้นดีแน่
ขอเพียงแต่ เหมาะกับตน สมสมัย
สุขพอดี ทุกข์พอดี อยู่ที่ใจ
ชีวิตไม่ สมดุลย์ เพราะโลภเกิน

หากมองสูง เกินไป ใจจะพล่าน
หากคิดการ เกินปัญญา จะตื้นเขิน
หากมองต่ำ มีสติ จิตเพลิดเพลิน
จะเจริญ หรือไม่ อยู่ที่มอง

ควรมองสูง มองต่ำ ทั้งมองกลาง
จะเห็นทาง สมดุลย์ ไม่วุ่นสมอง
สุขพอดี ทุกข์พอดี ตามครรลอง
ขอให้ลอง แล้วจะรู้ อยู่สมดุลย์


ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุเหมือนกะว่าพึงเห็นสรีระ ที่เขาทิ้งไว้ ในป่าช้า ตายแล้ววันหนึ่งบ้าง สองวันบ้าง สามวัน บ้าง ที่ขึ้นพอง มีสีเขียวน่าเกลียด


คน ทำไมไม่ใช้ฅน ล่ะ เพราะคน คำๆนี้มันอยากเป็นสัตว์ไง สังเกตเอานะ ค..ควาย น..หนู สามารถทำชั่วได้ทุกๆครั้งชอบทำจิตใจให้สกปรกคิดเเต่เรื่องๆต่ำๆ เเต่ ฅน คิดเเต่เรื่องดีๆอยากมีความตั้งใจทำดี คือ นักบวช


วิธีดับความปรารถนาต้องการ ก็คือ หัดเป็นผู้ให้บ่อยๆ ให้เสมอๆ การให้กับการดับความปรารถนาต้องการจะเกิดขึ้นพร้อมกันเสมอ ถ้าการให้นั้นเป็นการให้เพื่อลดกิเลสคือความโลภในใจตน มิได้เป็นการให้เพื่อหวังผลตอบแทนที่ยิ่งกว่า (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก)


ไฟไหม้จังหวัดสุรินทร์ครั้งใหญ่มีหลายคนสิ้นเนื้อประดาตัว บางคนอาลัยใน จนเสียสติ วนเวียนมาลำเลิกให้หลวงปู่ ว่า อุตสาห์ทำบุญเข้าวัด ปฏิบัติธรรม ทำไมธรรมะไม่ช่วยคุ้มครอง ไฟไหม้บ้านวอดวายหมด เขาเหล่านั้นก็เลิกทำบุญ
(หลวงปู่บอกว่า) ไฟมันก็ทำหน้าที่ของมัน ธรรมะไม่ได้ช่วยใครในลักษณะนั้น ความอันตรธาน ความวิบัติ ความเสื่อมสลาย ความพลัดพรากจากกัน สิ่งเหล่านี้ มันมีประจำโลกอยู่แล้ว ผู้ที่มีธรรมะ ผู้ปฏิบัติ ธรรมะ เมื่อประสบกับ ภาวะเช่นนั้นแล้ว “จะวางใจอย่างไร?” จึงไม่เป็น “ทุกข์” อย่างนี้ตากหาก ไม่ใช่ธรรมะช่วยไม่ให้แก่ ไม่ให้ตาย ไม่ให้หิว ไม่ให้ไฟไหม้ ไม่ใช่อย่างนั้นฯ
(จากหนังสือหลวงปู่ฝากไว้รวบรวมโดยพระโพธินันทมุนี)


เหตุแห่งบุญ 10 ประการ

1.บุญเกิดจาก.....การให้ทาน

2.บุญเกิดจาก.....การรักษาศีล
...
3.บุญเกิดจาก.....การวิปัสสนาภาวนา

4.บุญเกิดจาก.....การบูชาที่ควรบูชา

5.บุญเกิดจาก.....การช่วยเหลือผู้อื่น

6.บุญเกิดจาก.....การแผ่บุญแผ่เมตตา

7.บุญเกิดจาก.....การอนุโมทนาบุญ

8.บุญเกิดจาก.....การฟังธรรม

9.บุญเกิดจาก.....การแสดงธรรม

10.บุญเกิดจาก.....การเห็นถูกเห็นชอบ หรือเห็นความจริงของโลกและชีวิตดูเพิ่มเติม


พระพุทธศาสนา สอนให้คนเข้าใจกรรมนั้น ไม่ได้สอนให้คนกลัวกรรม เป็นทาสของกรรม หรืออยู่ใต้อำนาจกรรม แต่สอนให้รู้จักกรรม ให้ควบคุมกรรมของตนในปัจจุบันกรรมคือการอะไรทุกอย่างที่คนทำอยู่ทุกวันทุกเวลา ประกอบด้วยเจตนา คือความจงใจ วิธีดับความปรารถนาต้องการ ก็คือ หัดเป็นผู้ให้บ่อยๆ ให้เสมอๆ การให้กับการดับความปรารถนาต้องการจะเกิดขึ้นพร้อมกันเสมอ ถ้าการให้นั้นเป็นการให้เพื่อลดกิเลสคือความโลภในใจตน มิได้เป็นการให้เพื่อหวังผลตอบแทนที่ยิ่งกว่า (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆ ปริณายก)




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2012, 21:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J.bmp
B J.bmp [ 360.99 KiB | เปิดดู 3222 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 17:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


การศึกษาทางโลกเป็นการศึกษาที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่การศึกษาทางธรรมคือ การศึกษาทางสิ้นสุด.

ศึกษาทางธรรม ไม่ต้องเดินไม่ต้องวิ่งไม่ต้องลุกก็ศึกษาได้ ถ้าอยากศึกษา เหมือนที่พระคุณเจ้า ธนภทฺโท ภิกฺขุ ท่านบอก นิพานอยู่ทุกที่ ... ธรรมก็อยู่ทุกที่ อยู่ที่เรามอง
“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว เราขอเตือนพวกเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่าสิ่งทั้งปวงมีเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด ”
กระแสน้ำคือตัณหา ไหลไปทุกหนทุกแห่ง
เถาวัลย์คือกิเลส ก็ขึ้นรกไปทั่ว
เมื่อเห็น เถาวัลย์นั้นงอกงามแล้ว
พวกเธอจงตัดรากมันด้วยมีดคือปัญญา

เหมือนกิเลสที่อยู่ในใจเราจะฟุ้ง จะพาเราเลี้ยวลดออกจากความดี เราก็ต้องอาศัยน้ำทิพย์จากพระธรรมสกัดกั้นไว้
« อะไรเป็นแก่นสารในพระพุทธศาสนา »

ลาภสักการะชื่อเสียง เปรียบเหมือน กิ่งไม้ใบไม้

ความสมบูรณ์ด้วยศีล เปรียบเหมือน สะเก็ดไม้
...
ความสมบูรณ์ด้วยสมาธิ เปรียบเหมือน เปลือกไม้

ญาณทัสสนะ หรือ ปัญญา เปรียบเหมือน กะพี้ไม้

อกุปปา เจโตวิมุติ คือ ความหลุดแห่งใจอันไม่กำเริบ เปรียบเหมือน แก่นไม้ดูเพิ่มเติม

คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก..
>>>…มองปัญหาออก..แก้ปัญหาเป็น..
>>>…คิดการใหญ่...ใช้คนเป็น..รู้เห็นตามความถูกต้อง..
>>>…มุ่งปรองดอง...รักษาน้ำใจ..สร้างมิตรภาพ..
>>>…อย่าลืมว่า.. “ยิ่งสูงยิ่งหนาว” ...
>>>…ต้องคิดดี..ทำดี..พูดดี..ทุกที่ทุกเวลา...


คำคมธรรมะ เตือนใจ
การเจริญเมตตากรรมฐาน

การแผ่เมตตาเป็นกรรมฐานอย่างหนึ่ง อยู่ในพรหมวิหาร ๔ และการเจริญกรรมฐานข้อนี้ ทำให้จิตสามารถเป็นสมาธิถึงขั้นฌานได้วิธีการเจริญกรรมฐานข้อนี้ มีความละเอียดอยู่บ้าง

...ในเบื้องต้นนั้น ก็คือ ตั้งจิตเมตตาที่ตนเองก่อน ให้มีเมตตาต่อตนเอง รู้จักรักตนเองก่อน รักตนเอง ก็คือ รู้จักรักไม่ให้ตนเองไปทำสิ่งที่ไม่ดี พูดสิ่งที่ไม่ดี คิดสิ่งที่ไม่ดี แม้จะยังเป็นคนธรรมดาสามัญ แต่ว่าพยายามที่จะคิด พยายามที่จะทำ พยามที่จะพูดให้ตนดี คิดแล้วตัวเองดี ทำแล้วตัวเองดี พูดแล้วตัวเองดี ก็เป็นการเริ่มต้นความปรารถนาดีต่อตนเอง
...
พอเห็นว่า ได้แผ่เมตตาให้แก่ตนเอง แล้วรู้สึกดี ใจสงบนิ่งดี แล้วก็แผ่เมตตาไปยังผู้อื่น ที่เกี่ยวข้องกับตนเองก่อน เช่น มารดาบิดา ผู้มีพระคุณเป็นต้น ขยายกว้างออกไปเรื่อย จนกระทั่งแม้แต่คนที่เป็นศัตรู ก็แผ่เมตตาไปถึง ให้รู้สึกปรารถนาดีต่อเขาเหล่านั้นเป็นที่ตั้ง จนกระทั่งแผ่ไปไม่มีประมาณ ไม่เจาะจงบุคคลใด สิงสาราสัตว์ เทวดาอารักษ์ ตลอดจนพระภูมิเจ้าที่ ก็แผ่เมตตาทั่วไปหมด

การแผ่เมตตากว้างออกไปอย่างนี้ มีคำภาวนาแบบง่ายๆ คือ จะนึกเป็นภาษาบาลี หรือ ภาษาไทยก็ได้ โดยนึกที่ตัวเองว่า
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์ แล้วก็ท่องเรื่อยไป นึกเรื่อยไป นึกในใจเรื่อยไป เมตตากรรมฐาน เป็นกรรมฐานที่สำคัญอย่างหนึ่ง ในบรรดากรรมฐานทั้งหลาย ฝ่ายสมถกรรมฐาน

เหตุที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสกรรมฐานข้อนี้ ก็เพราะมีพระพากันไปเจริญกรรมฐานในป่า แล้วก็ถูกรบกวนจากบรรดาภูตผีปีศาจ ส่งเสียงร้องบ้าง ให้เห็นรูปที่ไม่ดีบ้าง ให้เห็นรูปที่น่ากลัว น่าหวาดเสียบ้าง จนกระทั่งพระไม่สามารถที่จะอยู่ในป่าได้ ก็กลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้า กราบทูลว่าไม่สามารถจะอยู่ป่าได้ จะทำอย่างไร
พระพุทธเจ้าจึงตรัสบอกว่า พวกเธอไม่ได้ถืออาวุธไป ต้องถืออาวุธไปด้วย จึงตรัสบอกเรื่อง เมตตากรรมฐาน ให้เจริญเมตตากรรมฐาน

พระพุทธองค์ทรงสอนให้พระเจริญเมตตากรรมฐาน ถ้าเห็นภูตผีปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัว ก็ให้แผ่เมตตา ได้ยินเสียงที่น่าหวาดเสียว ก็ให้แผ่เมตตา แล้วก็จะหายไปเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พระพุทธองค์ทรงสอนพระ และ บุคคลโดยทั่วไปให้แผ่เมตตา

ที่มา:หนังสือ สมาธิหลักของใจ
สมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ)


เหล่าสัตว์ ติดกับตัณหา
การเสือกกระสน ดุจกระต่ายติดบ่วง
สัตว์ทั้งหลายติดอยู่ในกิเลสเครื่องผูกมัด
ย่อมประสบทุกข์บ่อยๆ ตลอดกาลนาน

ถ้าท้อแท้..หมดหวังในชีวิต..
จงพยายามคิดให้ใจสู้...
อย่าเชื่อว่า...เราทำไม่ได้..ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ..
อย่าท้อแท้..ตราบใดที่เรายังไม่ได้พยายาม..
อย่าสิ้นหวัง...ตราบใดที่เรายังมีกำลังใจ..
...อย่าแพ้ชีวิต...ตราบใดที่ใจของเรายังมีหวัง..
จงอย่าทำลายความหวัง...เพียงเพราะ....
การดูหมิ่นตนเองว่า... “ทำไม่ได้”...


« หัวใจพระพุทธศาสนา ๓ ประการ »

๑. สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง เว้นจากการทำความชั่วทั้งปวง

๒. กุสะลัสสูปะสัมปะทา การทำกุศลให้ถึงพร้อม ได้แก่ การประกอบคุณความดีต่างๆ
...
ให้บริบูรณ์

๓. สะจิตตะปริโยทะปะนัง การชำระจิตให้ผ่องใส ผ่องแผ้ว ปราศจากกิเลสต่างๆ

อันเป็นเหตุทำให้จิตเศร้าหมอง

๑. ทาน ให้ปันสิ่งของของตนแก่ผู้อื่นที่ควรให้ปัน

๒. ปิยวาจา เจรจาด้วยวาจาที่อ่อนหวาน
...
๓. อัตถจริยา ประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น

๔. สมานัตตตา ความเป็นคนมีตนเสมอไม่ถือตัว

คุณทั้ง ๔ อย่างนี้ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจของผู้อื่นไว้ได้

เป็นพระนับถือศีลพระ ยึดพระธรรมวินัยเป็นที่ตั้ง ประเสริฐพระประเสริฐสงฆ์
เป็นคนนับถือศีลคน ยึดพระธรรมเป็นที่ตั้ง ประเสริฐผู้ประเสริฐคน


จงปล่อยวางทั้งอดีตอนาคตและปัจจุบัน
และอยู่เหนือความมีความเป็น
เมื่อใจหลุดพ้นจากทุกอย่างแล้ว
พวกเธอจักไม่เกิดไม่แก่อีกต่อไป

บุคคลไม่ห่างจากธรรม เป็นผู้ปฏิบัติด้วย ศีล มีความสำรวมระวัง มีใจอันตั้งมั่น มีปัญญา ย่อมเป็นที่รัก ของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย


สัตว์ทั้งหลาย มีแต่โสมนัส
ชุ่มชื้นไปด้วยรักเสน่หา
ซาบซ่านในกามารมณ์ทั้งปวง
พวกเขาใฝ่แสวงแต่ความสุขสันต์หรรษา
ก็ต้องเกิดต้องแก่อยู่ร่ำไป


“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว เราขอเตือนพวกเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่าสิ่งทั้งปวงมีเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด ”


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 21:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J 3 sp.bmp
B J 3 sp.bmp [ 360.99 KiB | เปิดดู 3205 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2012, 10:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


อะไรเล่าที่เป็นความสุขที่แท้จริง ?

ทุกคนต้องการความสุขไม่ต้องการความทุกข์ แต่อะไรเล่า เป็นความสุขที่แท้จริงของตัวเรา..

"คิดว่ากินนี่แหละก็พยายามหามาให้มันกิน พอกินมากก็อึดอัด คิดว่านอน ก็นอนจนหลังแข็งไม่สบายอีก คิดว่าเงินทองทรัพย์สมบัติก็ไปหามาใช้จนเต็มที่ ก็ยังไม่สุขอีก"
...
แล้วอะไรเล่าที่เป็นความสุขที่แท้จริง ?

"ความสุขที่แท้จริงนั้นย่อมเกิดจากบุญกุศล คือความสงบที่เกิดขึ้นในจิตใจ พ้นทุกข์โทษความดิ้นรน ไม่มีกระสับกระส่ายเดือดร้อนกระวนกระวาย เพราะฉะนั้น จงพากันตั้งใจประกอบบุญกุศล เพื่อจะเป็นทางที่พ้นไปจากโลกนี้ นั่นแหละจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง"

ท่านพ่อลี ธมฺมธโรดูเพิ่มเติม


‎"อย่าติดดี"

อุบาสกคนหนึ่งเคยศึกษาธรรมะของฝ่ายมหายาน ถามหลวงพ่อชาเรื่องการปฏิบัติว่า “คนที่ปฏิบัติเพื่อเป็นอรหันต์ กับ คนปฏิบัติเพื่อเป็นพระโพธิสัตว์ อันไหนจะดีกว่ากัน อันไหนสูงกว่ากัน”

หลวงพ่อชาตอบว่า “อย่าเป็นอะไรเลย พระอรหันต์ก็อย่าเป็นเลย พระโพธิสัตว์ก็อย่าเป็นเลย แม้พระพุทธเจ้าก็อย่าเป็นเป็นอะไรแล้วก็ต้องเป็นทุกข์ทันที ”
...
อย่าเป็นคนดี ถ้าเป็นคนดีแล้วต้องรำคาญคนที่ไม่ดี ทุกวันนี้คนที่ไม่ดีมากกว่าคนดีเยอะ ไปที่ไหนก็กลุ้มใจ มีแต่ความไม่พอใจ เหมือนกับคนที่ไม่สูบบุหรี่แล้วดูคนอื่นสูบ ก็ไปเทศน์ให้เขาฟัง นี่เรียกว่า “ติดดี” ท่านไม่ให้ติด แม้จะเป็นความดีท่านก็ไม่ให้เราติด เพราะว่าความติดเป็นทุกข์ สร้างความทุกข์แก่ใจ

พระโพธิญาณเถระ (ชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานีดูเพิ่มเติม


‎... สวดมนต์ เป็นยาทา ภาวนา เป็นยากิน ...

.. คำว่า "สวด" เป็นกิริยาของการท่องที่เป็นทำนอง เป็นจังหวะ
.. คำว่า "มนต์" สำหรับชาวพุทธก็คือคำเทศน์ หรือคำสอน
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...
.. คำว่า "สวดมนต์" จึงเป็นเรื่องของการทบทวนคำสอน
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
... สวดมนต์ไปก็ได้ความรู้และความเข้าใจ ในธรรมะ
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพิ่มขึ้น แล้วแน่นอนว่าความสบายใจย่อมเกิดขึ้นมาด้วย
เกิดขึ้นมาจากอานุภาพของธรรมะที่เราสวด และเกิดขึ้นเพราะเรารำลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ยิ่งกว่านั้นในขณะที่กำลังสวดมนต์ใจก็เป็นสมาธิ แต่เป็นสมาธิในระดับตื้น
ไม่ได้เป็นสมาธิในระดับลึกเท่าไร แต่ว่าก็ให้คุณประโยชน์กับใจของเราได้
ในระดับหนึ่ง คือให้ความชุ่มชื่นใจ ให้ความเบิกบานใจ
แล้วก็ได้ความปลื้มปีติที่ว่าเราได้ทบทวนคำสอนธรรมะ ของสมเด็จพ่อของเรา
ด้วยเหตุที่การสวดมนต์สามารถนำความปลื้มปีติใจ นำสมาธิมาให้ในระดับตื้น ท่านจึงได้อุปมาว่าการสวดมนต์เหมือนอย่างกับยาทา
ซึ่งยาทาชนิดนี้ ไม่ใช่ยาทาแบบยาหม่องธรรมดา ๆ แต่ว่าทาแล้ว
ทะลุถึงใจเลยทีเดียว

... ส่วนคำว่า "ภาวนา" หมายถึง การทำสมาธิอย่างต่อเนื่อ
ง ชนิดนั่งสมาธิกันเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือบางทีทำต่อเนื่องเป็นเดือน
เป็นปีกันทีเดียว
หรือเอาเป็นว่าสำหรับนักทำสมาธิโดยทั่ว ๆ ไปแบบชาวโลก ทำสมาธิกัน
แต่ละครั้งก็ประมาณ ๑ ชั่วโมง หรือว่า ๔๕ นาที เป็นอย่างน้อย
ใจก็ดื่มด่ำหยุดนิ่งลงไปที่ศูนย์กลางกายภายในตัว

.. การที่ใจหยุดนิ่งลงไปอย่างนั้น เพราะว่าขณะที่ทำสมาธิเราหลับตา
จึงไม่มีภาพอะไรมารบกวนนัยน์ตา แล้วใจก็รวมอยู่ที่ศูนย์กลางกาย
เมื่อเป็นอย่างนี้ใจจึงหยุดนิ่งได้สนิทกว่าการสวดมนต์
เมื่อใจหยุดใจนิ่งได้สนิทกว่าการสวดมนต์ ความชุ่มชื่นที่เกิดภายในก็ตาม ความสว่างที่เกิดภายในก็ตาม ย่อมมีมากกว่าการที่สวดมนต์

.. ยิ่งกว่านั้น ถ้าทำได้ถูกส่วนจริง ๆ การเห็นธรรมะที่ลึกซึ้ง ก็มีโอกาสเป็นไปได้ในขณะที่ทำภาวนานี่เอง
ปู่ย่าตาทวดของเราจึงได้อุปมาการทำภาวนาอย่างจริงจัง อย่างต่อเนื่องนี้ว่า
เหมือนอย่างกับยากิน คือสามารถแก้ไข้ แก้ปวดได้มากกว่ายาทา

.. แต่อย่างไรก็ตาม เราอย่าไปคิดเปรียบว่าอะไรดีกว่าอะไรเลย เพราะว่าคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่เราจะต้องท่อง เมื่อท่องแล้วก็นำมาตรอง
นำมาใช้เป็นหลักในการทำภาวนา
เมื่อการสวดก็มีความจำเป็น เนื่องจากเป็นยาทาประเภทที่ทาแล้วเข้าไปถึงใจ ส่วนการทำสมาธิก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้น เพราะฉะนั้น ทั้ง ๒ อย่างนี้
ต้องทำควบคู่ไปด้วยกัน

.. ตามวัดวาอารามต่าง ๆ พระท่านตื่นกันตั้งแต่ตี ๔ เพื่อลุกขึ้นมาสวดมนต์ ทบทวนคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สวดมนต์กันเป็นชั่วโมงทีเดียว เสร็จแล้วท่านก็ทำสมาธิของท่านต่อ
เมื่อรู้ เมื่อเห็น เมื่อทราบประโยชน์กันอย่างนี้แล้ว ก็ขอให้พวกเรา แม้อยู่ที่บ้านอย่างน้อยก็ต้องสวดมนต์ก่อนนอน แล้วถ้าตอนเช้าก่อนไปทำงานได้สวดอีกสักรอบหนึ่งก็ยิ่งดี

.. และที่ขาดไม่ได้คือต้องทำสมาธิ เพื่อใจจะได้ใสเต็มที่
เพราะถ้าคืนนี้นอนหลับไปแล้ว ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก ก็จะได้ละโลกไปด้วยใจใส ๆ

ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกันว่า ผู้ที่ละโลกไปขณะใจใส
ย่อมมีสวรรค์หรือสุคติเป็นที่ไป



"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวการกระทำตอบแทนไม่ได้ง่ายแก่ท่านทั้ง ๒ ท่านทั้ง ๒ คือใคร คือ มารดา ๑ บิดา ๑"

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุตรพึงประคับประคองมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง พึงประคับประคองบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง เขามีอายุ มีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี และเขาพึงปฏิบัติท่านทั้ง ๒ นั้นด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการดัด และท่านทั้ง ๒ นั้น พึงถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะบนบ่าทั้งสองของเขานั่นแหละ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนั้น ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย"

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดาในราชสมบัติ อันเป็นอิสราธิปัตย์ ในแผ่นดินใหญ่อันมีรตนะ ๗ ประการมากหลายนี้ การกระทำกิจอย่างนั้น ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย"
...
"ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย"

"ส่วนบุตรคนใดยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้สมาทานตั้งมั่นในศรัทธาสัมปทา
ยังมารดาบิดาผู้ทุศีล ให้สมาทานตั้งมั่นในศีลสัมปทา
ยังมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ ให้สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา
ยังมารดาบิดาทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา"

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล การกระทำอย่างนั้นย่อมชื่อว่าอันบุตรนั้นทำแล้ว และทำตอบแทนแล้ว แก่มารดาบิดา ฯ"

พุทธวจน
(๒๐/๒๗๘) ธรรมะ


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2012, 12:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J 3 sp.bmp
B J 3 sp.bmp [ 360.99 KiB | เปิดดู 3194 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 118 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร