วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 07:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2012, 17:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ดูก่อนอนุรุทธะทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้ฟังว่า ภิกษุ

ชื่อนี้ทำกาละแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ว่า ดำรงอยู่ในอรหัตผล

ก็ท่านนั้นเป็นผู้อันภิกษุนั้นได้เห็นเองหรือได้ยินมาว่า ท่านนั้นเป็นผู้มีศีลอย่าง

นี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีธรรมอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีปัญญาอย่างนี้

บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีวิหารธรรมอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้พ้นวิเศษแล้ว

อย่างนี้บ้าง ภิกษุนั้นเมื่อระลึกถึงศรัทธาศีลสุตะจาคะและปัญญา

ของภิกษุนั้น จะน้อมจิตเข้าไปเพื่อความเป็นอย่างนั้นบ้าง ดูก่อนอนุรุทธะ

ทั้งหลาย ความอยู่สำราญย่อมมีได้แก่ภิกษุ แม้ด้วยประการฉะนี้แล.

ดูก่อนอนุรุทธะทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้ฟังว่า ภิกษุชื่อนี้ทำ

กาละแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ว่า เป็นผู้ผุดเกิดขึ้น จักปรินิพพาน

ในภพนั้น มีอันไม่กลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา เพราะโอรัมภาคิยสังโยชน์ห้า

สิ้นไป ก็ท่านนั้นเป็นผู้อันภิกษุนั้นได้เห็นเองหรือได้ยินมาว่า ท่านนั้นเป็นผู้มี

ศีลอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีธรรมอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีปัญญา

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 396

อย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีวิหารธรรมอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้พ้นวิเศษ

แล้วอย่างนี้บ้าง ภิกษุนั้นเมื่อระลึกถึงศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา

ของภิกษุนั้น จะน้อมจิตเข้าไปเพื่อความเป็นอย่างนั้นบ้าง.

ดูก่อนอนุรุทธะทั้งหลาย ความอยู่สุขสำราญย่อมมีได้แก่ภิกษุ แม้ด้วย

ประการฉะนี้แล ดูก่อนอนุรุทธะทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้ฟังว่า ภิกษุ

ชื่อนี้ทำกาละแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ว่า เป็นพระสกทาคามี

จักมายังโลกนี้คราวเดียวเท่านั้น แล้วทำที่สุดทุกข์ได้ เพราะสังโยชน์สามสิ้นไป

และเพราะราคะ โทสะ และโมหะ เบาบาง ก็ท่านนั้นเป็นผู้อันภิกษุนั้นได้

เห็นเอง หรือได้ยินมาว่า ท่านนั้นเป็นผู้มีศีลอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มี

ธรรมอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีปัญญาอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีวิหาร-

ธรรมอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้พ้นวิเศษแล้วอย่างนี้บ้าง ภิกษุนั้นเมื่อระลึก

ถึงศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญาของภิกษุนั้น จะน้อมจิตเข้าไปเพื่อ

ความเป็นอย่างนั้นบ้าง ดูก่อนอนุรุทธะทั้งหลาย ความอยู่สำราญย่อมมีได้แก่

ภิกษุ แม้ด้วยประการฉะนี้แล ดูก่อนอนุรุทธะทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้

ได้ฟังว่า ภิกษุชื่อนี้ทำกาละแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ว่า เป็น

พระโสดาบันมีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้เป็น

เบื้องหน้า เพราะสังโยชน์สามสิ้นไป ถ้าท่านนั้นเป็นผู้อันภิกษุนั้นได้เห็นเอง

หรือได้ยินมาว่า ท่านนั้นเป็นผู้มีศีลอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีธรรมอย่าง

นี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีปัญญาอย่างนี้บ้าง ว่าท่านนั้นเป็นผู้มีวิหารธรรมอย่าง

นี้บ้าง ภิกษุนั้นเมื่อระลึกถึงศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญาของภิกษุนั้น

จะน้อมจิตเข้าไปเพื่อความเป็นอย่างนั้นบ้าง ดูก่อนอนุรุทธะทั้งหลาย ความอยู่

สำราญย่อมมีได้แก่ภิกษุ แม้ด้วยประการฉะนี้แล.




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2012, 21:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว


.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2012, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


พระอรหันต์ก็เป็นมหากิริยาจิต มี ๘

ดวง คือ

๑. โสมนสฺสสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ .

มหากิริยาจิตที่เกิดพร้อมกับความรู้สึกดีใจ ( แช่มชื่น ) ประกอบด้วยปัญญา

เป็นจิตที่มีกำลัง ( ไม่มีการชักชวน )

๒. โสมนสฺสสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ .

มหากิริยาจิตที่เกิดพร้อมกับความรู้สึกดีใจ ( แช่มชื่น ) ประกอบด้วยปัญญา

เป็นจิตที่มีกำลัง (มีการชักชวน )

๓. โสมนสฺสสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ .

มหากิริยาจิตที่เกิดพร้อมกับความรู้สึกดีใจ ( แช่มชื่น ) ไม่ประกอบด้วยปัญญา

เป็นจิตที่มีกำลัง ( ไม่มีการชักชวน )

๔. โสมนสฺสสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ .

มหากิริยาจิตที่เกิดพร้อมกับความรู้สึกดีใจ ( แช่มชื่น ) ไม่ประกอบด้วยปัญญา

เป็นจิตที่มีกำลัง (มีการชักชวน )

๕. อุเปกฺขาสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ .

มหากิริยาจิตที่เกิดพร้อมกับความรู้สึกเฉยๆ ( ไม่สุขไม่ทุกข์ ) ประกอบด้วย

ปัญญา เป็นจิตที่มีกำลัง (ไม่มีการชักชวน )

๖. อุเปกฺขาสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ .

มหากิริยาจิตที่เกิดพร้อมกับความรู้สึกเฉยๆ ( ไม่สุขไม่ทุกข์ ) ประกอบด้วย

ปัญญา เป็นจิตที่มีกำลัง ( มีการชักชวน )

๗. อุเปกฺขาสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ .

มหากิริยาจิตที่เกิดพร้อมกับความรู้สึกเฉยๆ ( ไม่สุขไม่ทุกข์ ) ไม่ประกอบด้วย

ปัญญา เป็นจิตที่มีกำลัง (ไม่มีการชักชวน )

๘. อุเปกฺขาสหคตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ .

มหากิริยาจิตที่เกิดพร้อมกับความรู้สึกเฉยๆ ( ไม่สุขไม่ทุกข์ ) ประกอบด้วย

ปัญญา เป็นจิตที่มีกำลัง ( มีการชักชวน )



มหากิริยาจิต มีอีกชื่อหนึ่งว่า กามโสภณกิริยาจิต หรือกามาวจรสเหตุ-

กกิริยาจิต ป็นทวิเหตุกะ ๔ ดวง มีเหตุ ๒ ( อโลภเหตุและอโทสเหตุ )

เป็นติเหตุกะ ๔ ดวง มีเหตุ ๓ ( อโลภเหตุ อโทสเหตุ และอโมหเหตุ
ผู้ตั้งอยู่ในเพศคฤหัสถ์นั้นบรรลุพระอรหัตแล้วย่อมบวช หรือปรินิพพานในวันนั้นเอง

แต่ภุมมเทวดายังดำรงอยู่ได้. เพราะเหตุไร. เพราะมีโอกาสที่จะแฝงตัวอยู่ได้.

ในกามภพที่เหลือ พระอริยบุคคล ๓ จำพวกมีพระโสดาบันเป็นต้น ยังดำรงอยู่ได้ใน

มนุษยโลก. ในกามาวจรเทวโลก พระโสดาบันและพระสกทาคามียังดำรงอยู่ได้. แต่

พระอนาคามีและพระขีณาสพจะดำรงอยู่ในกามาวจรเทวโลกนี้ไม่ได้. เพราะเหตุไร.

เพราะที่นั้นมิใช่เป็นที่อยู่ของชนผู้ละอายแล้ว. และที่นั้นมิใช่เป็นที่ปกปิดที่สมควรแก่

วิเวกของพระขีณาสพเหล่านั้น.




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2012, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่อง ความเป็นผู้ตรงคืออย่างไร

ชื่อว่า ตรง (อุชุ) เพราะทำด้วยความไม่อวดดี ชื่อว่า ตรงดี (สุหุชู) เพราะ

ไม่มีมายา. หรือว่า ชื่อว่า ตรง เพราะละความคดทางกายและวาจา ชื่อว่า

ตรงดี เพราะละความคดทางใจ. หรือชื่อว่า ตรง เพราะไม่อวดคุณที่ไม่มี

จริง ชื่อว่า ตรงดี เพราะไม่อดกลั้นต่อลาภที่เกิดเพราะคุณที่ไม่มีจริง. พึง

ชื่อว่าเป็นผู้ตรงและตรงดี ด้วยอารัมมณูปนิชฌาน(สมถภาวนา) และลักขณูป-

นิชฌาน(วิปัสสนาภาวนา)

มหัคคต หมายถึง สภาพธรรมที่ถึงความเป็นใหญ่ ซึ่ง เมื่อพูดถึง มหัคคตะแล้ว จะ

มุ่งหมายถึง จิตและเจตสิกที่เป็นนามธรรม ซึ่ง จิต เจตสิกที่เป็นมหัคคตะ ถึงความ

เป็นใหญ่ คือ ฌานจิต ที่เป็นขั้นรูปฌาน และ อรูปฌาน ถึงความเป็นใหญ่ ด้วยเพราะ

เป็นใหญ่ที่สามารถระงับกิเลสที่เกิดขึ้นในขณะนั้นได้ เพราะฉะนั้น เมื่อถึงคำถามที่

ว่า มหัคคตขันธ์ คืออะไร ตามที่กล่าวแล้วครับว่า มหัคตะ หมายถึง จิต เจตสิกที่ถึง

ความเป็นใหญ่ เพราฉะนั้น มหัคคตขันธ์ จึงหมายถึง ขันธ์ที่เป็น วิญญาณขันธ์และ

เวทนา สัญญา สังขารขันธ์บางประเภทที่เกิดกับ รูปาวจรจิต ๑๕ ดวง และอรูปา

วจรจิต ๑๒ ดวง และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย

ปริตตารัมมณธรรม หมายถึง สภาวธรรมทั้งหลาย ที่กระทำปริตตธรรมให้เป็นอารมณ์

มีอยู่ ซึ่ง ปริตตธรรม คือเป็นสภาพธรรมที่ปรากฏเพียงเล็กน้อยแล้วก็ดับไป แต่จิตก็

ยินดีพอใจติดข้องในปริตตธรรมนั้นอยู่เสมอ เพราะการเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว

ของปริตตธรรมนั้น ๆ จึงดูเสมือนไม่ดับไป ซึ่งปริตตธรรมเป็นชื่อของ กามาวจรธรรม

ทั้งหลาย ได้แก่ กามาวจรจิต ๕๔ เจตสิก ๕๒ และ รูป ๒๘ เพราะฉะนั้น ปริตตารัมม

ณธรรม ที่เป็นธรรมกระทำปริตตธรรมให้เป็นอารมณ์ ก็คือ จิต เจตสิก ที่มีสภาพธรรม

ที่เล็กน้อยเป็นอารมณ์ในขณะนั้นนั่นเอง



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2012, 09:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว


.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2012, 17:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ดูก่อนจุนทะ ข้อนั้นเป็นฐานะที่จะมีได้ คือการที่พวก

ปริพาชกอัญญเดียรถีย์พึงกล่าวอย่างนี้ว่า พวกสมณะศากยบุตร เป็นผู้มี

ธรรมไม่ตั้งมั่นแล้ว. ดูก่อนจุนทะ พวกเธอควรกล่าวกะพวกปริพาชก

อัญญเดียรถีย์ ผู้มีวาทะอย่างนี้ว่า ดูก่อนผู้มีอายุ ธรรมทั้งหลายอันพระ

ผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้ทรงเห็น ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง

แสดงแล้ว ทรงบัญญัติแล้วแก่สาวกทั้งหลาย เป็นธรรมอันพวกสาวกไม่ควร

ก้าวล่วงตลอดชีวิต มีอยู่แล. ดูก่อนผู้มีอายุ เสาเขื่อนหรือเสาเหล็กมีราก

อันลึก ปักไว้ดีแล้ว ไม่หวั่นไหว ไม่สั่นสะเทือน ฉันใด ธรรมทั้งหลาย

อันพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้ทรงเห็น ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทรงแสดงแล้ว ทรงบัญญัติแล้ว แก่สาวกทั้งหลาย เป็นธรรมอันสาวกไม่

ก้าวล่วงตลอดชีวิต ฉันนั้นเหมือนกันแล. ดูก่อนผู้มีอายุ ภิกษุใด เป็น

พระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว มีกิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว

ปลงภาระได้แล้ว บรรลุประโยชน์ตนแล้ว มีสังโยชน์ในภพสิ้นแล้ว เป็น

ผู้พันแล้วเพราะรู้ชอบ ภิกษุนั้นไม่ควรประพฤติล่วงฐานะ ๙ ประการ.

ดูก่อนผู้มีอายุ ภิกษุผู้เป็นขีณาสพ

ไม่ควรจงใจปลงสัตว์จากชีวิต

ไม่ควรถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ ซึ่งนับว่าเป็นขโมย

ไม่ควรเสพเมถุน

ไม่ควรกล่าวคำเท็จทั้งที่รู้

ไม่ควรบริโภคกามที่ทำความสั่งสม เหมือนอย่างตนเป็นผู้ครองเรือนในกาลก่อน

ไม่ควรถึงฉันทาคติ

ไม่ควรถึงโทสาคติ

ไม่ควรถึงโมหาคติ

ไม่ควรถึงภยาคติ.

ดูก่อนผู้มีอายุ ภิกษุใดเป็นพระอรหันตขีณาสพ

อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว มีกิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว

ปลงภาระได้แล้ว บรรลุประโยชน์ตนแล้ว มีสังโยชน์ในภพหมดสิ้นแล้ว

เป็นผู้พันแล้ว เพราะความรู้ชอบ ภิกษุนั้น เป็นผู้ไม่ควรประพฤติล่วง

ฐานะ ๙ ประการเหล่านี้.

ดูก่อนจุนทะ ข้อนั้นเป็นฐานะที่จะมีได้ คือการที่

ปริพาชกอัญญเดียรถีย์ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า พระสมณโคดมปรารภกาลนาน

ที่เป็นอดีต บัญญัติญาณทัสสนะอันหาฝั่งมิได้ แต่หาได้ปรารภกาลนานที่

เป็นอนาคต บัญญัติญาณทัสสนะอันหาฝั่งมิได้ไม่ เพราะเหตุไรจึงทรง

บัญญัติเช่นนั้น การที่ทรงบัญญัติเช่นนั้น เป็นอย่างไรเล่า. พวกปริพาชก

อัญญเดียรถีย์เหล่านั้น ย่อมสำคัญสิ่งที่พึงบัญญัติอันไม่ใช่ญาณทัสสนะ. ซึ่ง

เป็นอย่างอื่นด้วยญาณทัสสนะซึ่งเป็นอย่างอื่น เหมือนคนโง่ ไม่ฉลาด

ฉะนั้น.

ดูก่อนจุนทะ สตานุสาริญาณ ปรารภกาลนานที่เป็นอดีต ย่อม

มีแก่ตถาคต ย่อมระลึกได้ตลอดกาล มีประมาณเท่าที่ตนหวัง และญาณ

อันเกิดแต่ความตรัสรู้ ย่อมเกิดขึ้นแก่ตถาคต เพราะปรารภกาลนานที่เป็น

อนาคตว่า ชาตินี้มีในที่สุด บัดนี้ภพใหม่ย่อมไม่มี ดังนี้.




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2012, 13:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว


.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2012, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรียกนั้น หมายรวมถึง บริษัททั้ง 4

ด้วยครับ ไม่ใช่เพียง พระภิกษุเท่านั้น แต่ที่พระองค์ทรงเรียกดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะ

ด้วยความเป็นใหญ่ในพุทธบริษัท 4 คือ ภิกษุบริษัท จึงตรัสเรียกด้วย ดูก่อนภิกษุ

ทั้งหลาย

ชาคริยานุโยคเป็นไฉน ? ภิกษุในธรรม

วินัยนี้ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากธรรมทั้งหลาย อันเป็นเครื่องกั้นกาง

ด้วยการเดินการนั่งตลอดวัน ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากธรรมทั้งหลาย

อันเป็นเครื่องกั้นกาง ด้วยการเดินการนั่งตลอดปฐมยามแห่งราตรี ย่อม

สำเร็จสีหไสยา (นอนอย่างราชสีห์) โดยข้างเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อม

เท้า มีสติสัมปชัญญะ ใส่ใจถึงสัญญาในความลุกขึ้น ตลอดมัชฌิมยาม

แห่งราตรี กลับลุกขึ้นแล้ว ชำระจิตให้บริสุทธิ์ จากธรรมทั้งหลายอันเป็น

เครื่องกั้นกาง ด้วยการเดิน การนั่ง ตลอดปัจฉิมยามแห่งราตรี พิจารณา

ถึงความอยู่แห่งบุคคลผู้มีราตรีเดียวเจริญ ชื่อว่า ประพฤติในธรรมเป็น

ส่วนสุดรอบคือชาคริยานุโยคในภายใน ย่อมไม่ทำลายชาคริยานุโยคอัน

เป็นเขตแดน นี้ชื่อว่า ธรรมเป็นส่วนสุดรอบคือชาคริยานุโยค เพราะเหตุ

นั้น จึงชื่อว่า ภิกษุ...มีสติ ประพฤติในธรรมเป็นส่วนสุดรอบ

ห้ามบวชคนมีหนี้

ก็โดยสมัยนั้นแล ลูกหนี้คนหนึ่งหนีบวชในสำนักภิกษุ พวก

เจ้าทรัพย์พบแล้ว กล่าวอย่างนี้ว่า ภิกษุรูปนี้คือลูกหนี้ของพวกเราคนนั้น ถ้า

กะไรพวกเราจงจับมัน.

เจ้าทรัพย์บางพวกพูดทัดทานอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายอย่าได้พูดเช่นนี้

เพราะพระเจ้าพิมพิสารจอมเสนามคธราช. ได้มีพระบรมราชานุญาตไว้ว่า

กุลบุตรเหล่าใดบวชในสำนักพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร กุลบุตรเหล่านั้น

ใคร ๆ จะทำอะไรไม่ได้ เพราะธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว จง

ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด.

ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า พระสมณะเชื้อสายพระ-

ศากยบุตรเหล่านี้ มิใช่ผู้หลบหลีกภัย ใคร ๆ จะทำอะไรไม่ได้ แต่ไฉนจึงให้

คนมีหนี้บวชเล่า ภิกษุทั้งหลายกราบทูลความเรื่องนั้นแด่พระผู้พระภาคเจ้า.

พระผู้มีพระภาคเจ้ารับ สั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน

มีหนี้ภิกษุไม่พึงให้บวช รูปใดให้บวชต้องอาบัติทุกกฏ.





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2012, 10:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่า ผู้ไม่สะดุ้ง ความว่า ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้

เป็นผู้สะดุ้ง หวาดเสียว สยดสยอง ภิกษุนั้น ย่อมสะดุ้ง หวาดเสียว

สยดสยองกลัว ถึงความสะดุ้งว่า เราไม่ได้สกุล ไม่ได้หมู่คณะ ไม่ได้

อาวาส ไม่ได้ลาภ ไม่ได้ยศ ไม่ได้สรรเสริญ ไม่ได้สุข ไม่ได้จีวร ไม่

ได้บิณฑบาต ไม่ได้เสนาสนะ ไม่ได้คิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ไม่ได้

บุคคลผู้พยาบาลในคราวเป็นไข้ เราจะไม่เป็นผู้มีชื่อเสียงปรากฏ

ภิกษุในธรรมวินัยนี้

เป็นผู้ไม่สะดุ้ง ไม่หวาดเสียว ไม่สยดสยอง ภิกษุนั้น ย่อมไม่สะดุ้ง

ไม่หวาดเสียว ไม่สยดสยอง ไม่กลัว ไม่ถึงความสะดุ้งว่า

เราไม่ได้สกุล ไม่ได้หมู่คณะ ไม่ได้อาวาส ไม่ได้ลาภ ไม่ได้ยศ

ไม่ได้สรรเสริญ ไม่ได้สุข ไม่ได้จีวร ไม่ได้บิณฑบาต ไม่ได้เสนาสนะ

ไม่ได้คิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ไม่ได้บุคคลผู้พยาบาลในคราวเป็นไข้

เราไม่เป็นผู้มีชื่อเสียงปรากฏ

เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า

ผู้ไม่โกรธ ผู้ไม่สะดุ้ง.
ปุณณสูตร

(ว่าด้วยความเพลิดเพลินทำให้เกิดทุกข์)

[๑๑๒] ครั้งนั้นแล ท่านพระปุณณะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า

ถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระ-

องค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดแสดง

ธรรมแก่ข้าพระองค์โดยย่อที่ข้าพระองค์ได้สดับแล้วพึงเป็นผู้ผู้เดียว หลีก

ออกจากหมู่ ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว อยู่เถิด พระผู้มี-

พระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนปุณณะ รูปที่พึงรู้แจ้งด้วยจักษุ อันน่าปรารถนา

น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัดมีอยู่ ถ้าภิกษุ

ยินดี สรรเสริญ พัวพันรูปนั้น เรากล่าวว่า เมื่อภิกษุนั้นยินดี สรรเสริญ

พัวพันรูปนั้น ความเพลิดเพลิน ก็เกิดขึ้น ดูก่อนปุณณะ เพราะความ

เพลิดเพลินเกิดขึ้นจึงเกิดทุกข์ ฯลฯ ดูก่อนปุณณะ ธรรมที่พึงรู้แจ้ง

ด้วยใจอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวน

ให้กำหนัด มีอยู่ ถ้าภิกษุยินดี สรรเสริญ พัวพันธรรมารมณ์นั้น เรา

กล่าวว่า เมื่อภิกษุนั้นยินดี สรรเสริญ พัวพันธรรมารมณ์นั้น ความ

เพลินก็บังเกิดขึ้น ดูก่อนปุณณะ เพราะความเพลินเกิดขึ้น จึงเกิดทุกข์.

[๑๑๓] ดูก่อนปุณณะ รูปทั้งหลายที่พึงรู้แจ้งด้วยจักษุ อันน่า

ปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด

มีอยู่ ถ้าภิกษุไม่ยินดี ไม่กล่าวสรรเสริญ ไม่พัวพันรูปนั้น เรากล่าวว่า

เมื่อภิกษุนั้น ไม่ยินดี ไม่สรรเสริญ ไม่พัวพันรูปนั้น ความเพลิดเพลิน

ก็ดับไป ดูก่อนปุณณะ เพราะความเพลิตเพลินดับไป ทุกข์จึงดับ ฯลฯ

ดูก่อนปุณณะ ธรรมารมณ์ที่พึงรู้แจ้งด้วยใจ อันน่าปรารถนา น่าใคร่

น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด มีอยู่ ถ้าภิกษุไม่ยินดี

ไม่สรรเสริญ ไม่พัวพันธรรมนั้น เรากล่าวว่า เมื่อภิกษุนั้นไม่ยินดี

ไม่สรรเสริญไม่พัวพันธรรม เรากล่าวว่า เมื่อภิกษุนั้นไม่ยินดี

ไม่สรรเสริญ ไม่พัวพันธรรม นั้น ความเพลินก็ดับไป ดูก่อนปุณณะ

เพราะความเพลิดเพลินดับไป ทุกข์จึงดับ ดูก่อนปุณณะ ด้วยประการฉะนี้

เธอนั้น จึงไม่ห่างไกลจากธรรมวินัยนี้.

[๑๑๔] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว ภิกษุรูปหนึ่งได้

กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ยังไม่

เบาใจในธรรมนี้ เพราะข้าพระองค์ยังไม่รู้ชัดตามความเป็นจริง ซึ่งความ

เกิดความดับ คุณ โทษ และความสลัดออกแห่งผัสสายตนะ ๖ พระผู้มี-

พระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เธอ

ย่อมพิจารณาเห็นจักษุว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตน

ของเรา ดังนี้หรือ.

ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.

พ. ดีล่ะ ภิกษุ ก็ในข้อนี้ จักษุเป็นอันเธอพิจารณาเห็นด้วยดี

ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่

เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ผัสสายตนะที่ ๑ นี้เป็นอันเธอละขาด

แล้วเพื่อไม่เกิดอีกต่อไปด้วยอาการอย่างนี้ ...ฯลฯ...

เธอพิจารณาเห็น ใจ ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่

ใช่ตัวตน ของเรา ดังนี้หรือ.

ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.

พ. ดีละ ภิกษุ ก็ในข้อนั้น ใจ จักเป็นอันเธอพิจารณาเห็นด้วยดี

ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็น

นั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ผัสสายตนะที่ ๖ นี้ จักเป็นอันเธอละขาด

แล้ว เพื่อความไม่เกิดอีกต่อไป ด้วยอาการอย่างนี้

ดูก่อนปุณณะ ดีล่ะ เธออันเรากล่าวสอนแล้วด้วยโอวาทย่อนี้ จักอยู่

ในชนบทไหน?

ท่านพระปุณณเถระทูลว่า พระเจ้าข้า ชนบทชื่อสุนาปรันตะมีอยู่

ข้าพระองค์จักอยู่ในชนทบนั้น.

ว่าด้วยมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทเป็นผู้ดุร้ายเป็นประจำ

[๑๑๕] พ. ดูก่อนปุณณะ พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทดุร้าย

หยาบคายนัก ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจักด่า จักบริภาษเธอ

ในข้อนั้น เธอจักมีความคิดอย่างไร.

ปุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจักด่า

จักบริภาษข้าพระองค์ไซร้ ในข้อนั้น ข้าพระองค์จักมีความคิดอย่างนี้ว่า

มนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทนี้เจริญหนอ เจริญดีหนอ ที่เขาไม่ประหารเรา

ด้วยมือ ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ในข้อนี้ ข้าพระองค์จักมีความคิดอย่างนี้

ข้าแต่พระสุคต ในข้อนี้ ข้าพระองค์จักมีความคิดอย่างนี้.

พ. ดูก่อนปุณณะ ก็ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจักประหาร

เธอด้วยมือเล่า ในข้อนั้น เธอจักมีความคิดอย่างไร.

ปุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจัก

ประหารข้าพระองค์ด้วยมือไซร้ ในข้อนั้น ข้าพระองค์จักมีความคิดอย่างนี้

ว่า พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทเจริญหนอ เจริญดีหนอ ที่เขาไม่

ประหารเราด้วยก้อนดิน ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ในข้อนี้ ข้าพระองค์

จักมีความคิดอย่างนี้ ข้าแต่พระสุคต ในข้อนี้ ข้าพระองค์จักมีความคิด

อย่างนี้.

พ. ดูก่อนปุณณะ ก็ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจักประหาร

เธอด้วยก้อนดินเล่า ในข้อนั้น เธอจักมีความคิดอย่างไร.

ปุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจัก

ประหารข้าพระองค์ด้วยก้อนดินไซร้ ในข้อนั้น ข้าพระองค์จักมีความคิด

อย่างนี้ว่า พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทนี้เจริญหนอ เจริญดีหนอ ที่เขา

ไม่ประหารเราด้วยท่อนไม้ ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ในข้อนี้ ข้าพระองค์

จักมีความคิดอย่างนี้ ข้าแต่พระสุคต ในข้อนี้ ข้าพระองค์จักมีความคิด

อย่างนี้.

พ . ดูก่อนปุณณะ ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจักประหาร

เธอด้วยท่อนไม้เล่า ในข้อนั้น เธอจักมีความคิดอย่างไร.

ปุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจัก

ประหารข้าพระองค์ด้วยท่อนไม้ไซร้ ในข้อนั้น ข้าพระองค์จักมีความคิด

อย่างนี้ว่า พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทนี้เจริญหนอ เจริญดีหนอ ที่เขา

ไม่ประหารเราด้วยศาตรา ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ในข้อนี้ ข้าพระองค์

จักมีความคิดอย่างนี้ ข้าแต่พระสุคต ในข้อนี้ ข้าพระองค์จักมีความคิด

อย่างนี้.

พ. ดูก่อนปุณณะ ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจักประหาร

เธอด้วยศาตรา ในข้อนั้น เธอจักมีความคิดอย่างไร.

ปุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจัก

ประหารข้าพระองค์ด้วยศาตราไซร้ ในข้อนั้น ข้าพระองค์จักมีความคิด

อย่างนี้ว่า พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทนี้เจริญหนอ เจริญดีหนอ ที่เขา

ไม่ปลงเราเสียจากชีวิตด้วยศาตราอันคม ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ในข้อนี้

ข้าพระองค์จักมีความคิดอย่างนี้ ข้าแต่พระสุคต ในข้อนี้ ข้าพระองค์จักมี

ความคิดอย่างนี้.

[๑๑๖] พ. ดูก่อนปุณณะ ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจัก

ปลงเธอเสียจากชีวิตด้วยศาตราอันคมเล่า ในข้อนั้น เรอจักมีความคิด

อย่างไร.

ปุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจัก

ปลงข้าพระองค์เสียจากชีวิตด้วยศาตราอันคมไซร้ ในข้อนั้น ข้าพระองค์

จักมีความคิดอย่างนี้ว่า พระสาวกทั้งหลายของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น

อึดอัดระอาเกลียดชังอยู่ด้วยกายและชีวิต ย่อมแสวงหาศาตราสำหรับปลง

ชีวิตเสีย มีอยู่ ศาตราสำหรับปลงชีวิตที่เราแสวงหาอยู่นั้น เราได้แล้ว

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ในข้อนี้ ข้าพระองค์จักมีความคิดอย่างนี้ ข้าแต่

พระสุคต ในข้อนี้ ข้าพระองค์จักมีความคิดอย่างนี้.

พ. ดีละ ๆ ปุณณะ เธอประกอบด้วยทมะและอุปสมะเช่นนี้ จักอาจ

อยู่ในสุนาปรันตชนบทได้ บัดนี้ เธอย่อมรู้กาลอันควรไปได้.

[๑๑๗] ครั้งนั้นแล ท่านพระปุณณะชื่นชมยินดีพระภาษิตของ

พระผู้มีพระภาคเจ้า ลุกจากอาสนะ ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำ

ประทักษิณแล้ว เก็บเสนาสนะแล้ว ถือบาตรและจีวรหลีกจาริกไปทาง

สุนาปรันตชนบท เมื่อเที่ยวจาริกไปโดยลำดับ ก็บรรลุถึงสุนาปรันตชนบท

ได้ยินว่า ท่านพระปุณณะอยู่ในสุนาปรันตชนบทนั้น ครั้งนั้นแล ใน

ระหว่างพรรษานั้น ท่านพระปุณณะให้ชาวสุนาปรันตชนบทแสดงตนเป็น

อุบาสกประมาณ ๕๐๐ คน ได้ทำวิชชา ๓ ให้แจ้งและปรินิพพานแล้ว

ครั้งนั้นแล ภิกษุมากด้วยกันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ แล้ว

นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่

พระองค์ผู้เจริญ กุลบุตรชื่อว่าปุณณะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนด้วย

พระโอวาทอย่างย่อนั้น ทำกาละแล้ว กุลบุตรนั้นมีคติเป็นอย่างไร มี

อภิสัมปรายภพเป็นอย่างไร

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กุลบุตรชื่อว่าปุณณะ

เป็นบัณฑิต กล่าวคำจริง กล่าวธรรมสมควรแก่ธรรม มิได้ลำบากเพราะเหตุ

แห่งธรรม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กุลบุตรชื่อว่าปุณณะปรินิพพานแล้ว.

สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จลุกขึ้นในเวลาใกล้รุ่งแห่งราตรีเสด็จจงกรม

อยู่ในที่แจ้ง พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นอนาถบิณฑิกคฤหบดีผู้มาแต่ไกล ครั้นแล้ว

เสด็จลงจากที่จงกรมประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ ครั้นแล้วได้ตรัสเรียกอนาบิณฑิก

คฤหบดีว่า มานี่เถิด สุทัตตะ.

ครั้งนั้นแล อนาถบิณฑิกคฤหบดีคิดว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทักเราโดย

ชื่อ จึงหมอบลงแทบพระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า ในที่นั้นเอง

แล้วกราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ พระองค์ประทับอยู่เป็นสุขหรือ

พระเจ้าข้า?

พระผู้มีพระภาคเจ้าตอบว่า

พราหมณ์ ผู้ดับกิเลสเสียได้แล้วไม่ติด

อยู่ในกามทั้งหลาย เป็นผู้เย็น ปราศจาก

อุปธิ ย่อมเป็นสุขเสมอไป ผู้ที่ตัดตัณหา

เครื่องเกี่ยวข้องได้หมดแล้ว กำจัดความ

กระวนกระวายในใจเสียได้ เป็นผู้สงบอยู่

เป็นสุข เพราะถึงสันติด้วยใจ.



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2012, 13:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว


.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2012, 07:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่าน

อนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียก

ภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุด

เบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็น

เครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า บุรุษตัดทอนหญ้าไม้ กิ่ง

ไม้ ใบไม้ ในชมพูทวีปนี้ แล้วจึงรวมกันไว้ ครั้นแล้ว พึงกระทำให้เป็นมัด ๆ ละ

๔ นิ้ว วางไว้ สมมติว่า นี้เป็นมารดาของเรา นี้เป็นมารดาของมารดาของ

เรา โดยลำดับ มารดาของมารดาแห่งบุรุษนั้นไม่พึงสิ้นสุด ส่วนว่า หญ้า ไม้

กิ่งไม้ ใบไม้ ในชมพูทวีปนี้ พึงถึงการหมดสิ้นไป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะ

ว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็น

ที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อม

ไม่ปรากฏ พวกเธอได้เสวยทุกข์ ความเผ็ดร้อน ความพินาศ ได้เพิ่มพูนปฐพี

ที่เป็น ป่าช้า ตลอดกาลนาน เหมือนฉะนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียง

เท่านั้น พอทีเดียวที่จะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด

พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้.





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ร่วมเป็นเจ้าภาพฯบูรณะซ่อมแซมอาคารโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์(วัดคลองแขก)
089-915-7726


ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างมณฑปวัดเกาะแซงใหญ่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพซุ้มพัทธสีมา ผู้มีบุญเป็นเจ้าภาพเพียง๗หลัง
๐๕๔-๕๔๕-๓๑๙


เชิญเป็นเจ้าภาพโคมไฟประดับวิหาร 0818831147


สร้างอาศรมเล็กๆสำหรับภาวนา..
สอบถามรายละเอียด 0856322290



ขอเชิญร่วมก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมและลานจอดรถ วัดระฆังโฆษิตาราม

ขอเชิญร่วมบุญสร้างรูปปั้นหลวงปู่บุญรอด อธิปุญฺโญ
0854511242


งานบุญใหญ่ เบิกพระเนตรพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุด หัวหิน 30 ก.ย. นี้
โทร. 0-3257-1147


ขอเชิญร่วมพิธีเททองหล่อ "พระเจ้าบุญล้น" สูง ๑๒ ศอก
๐๘๗-๓๑๐-๓๔๕๒


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างบุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดประตูชัยอรัญเขต
ชื่อบัญชี นายปิยะกฤต แก้ววิมลและน.ส.สุนันธินีบุญแก้ว
หมายเลขบัญชี 452-6-00989-5 ธนาคารธนชาต
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์


ขอเชิญร่วมสร้างพระพุทธโสธรหล่อด้วยโลหะเงินหน้าตัก5นิ้ว
ธนาคารกรุงไทย
เลขที่บัญชีออมทรัพย์ 066-0-05697-6
นายกุศลมงคล สุวรรณกูฏ



เชิญร่วมสมทบทุนซื้อที่ดิน และสมทบทุนสร้างวิหาร ถวายวัดป่าเหียง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง
084 935 9954


ร่วมเทถนนคอนกรีต และ บูรณะวิหารพระสุพรรณรังษี
ณ.วัดสันติราษฏร์บำรุงวราราม (วัดวังด้ง) ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
087-245-7413


ร่วมสร้างและปิดทองหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์(จำลอง)และถวายฐานประทับ ไว้ที่ศูนย์พุทธศรัทธา
088-5078338


ท่านใดที่สนใจจะเจ้าภาพที่เป็น ” ต้นบุญ” สามารถร่วมบุญได้ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงิน 1 สลึง 1 บาท หรือจะขอเป็นเจ้าภาพสร้างพระ สร้างบุญเฉพาะตัวท่านและครอบครัว องค์ละ 299 บาท สามารถเป็นเจ้าภาพได้ตามจำนวนองค์ตามแรงศรัทธาให้แจ้งความจำนงได้แล้วที่..ผู้ประสานงานโครงการ คุณ ธีร์ ฉลาดแพทย์ 02-9958101 , 089-6656646



ขอเชิญญาติธรรมร่วมสร้างองค์พระจักรพรรดิ์ 108นิ้วพร้อมศาลาประดิษฐาน
080-0769657



ขอเชิญร่วมบุญมหากุศลจัดสร้างพระพุทธรูป “ปางแสดงธรรมจักร”หน้าตัก ๑.๕ เมตร (เนื้อโลหะ)
088-497-2263


กฐินสามัคคี สร้างกุฏิสงฆ์
080-1220801


เชิญร่วมสร้างพระสิงห์หลวงล้านนามหาพุทธชยันตี
081-9981552


โครงการจัดตั้งห้อง RCU โรงพยาบาลศูนย์อุดร - อนุสรณ์ ๑๐๐ ปี หลวงปู่จันทร์ศรี
ธนาคารกรุงไทย สาขาอุดรธานี
- ชื่อบัญชี "หลวงปู่จันทร์ศรี เพื่อหอผู่ป่วยภาวะวิกฤต รพศ.อุดร"
- เลขที่ 401-3-17573-8



ขอเรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ณ.สำนักสงฆ์พุทธบารมีโลกอุดร บ้านในสอย
089-9557371


ขอเชิญบูรณะที่พักสงฆ์ร้างให้เป็นวัด ณ สำนักสงฆ์บ้านจาน อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ


เร่งด่วนที่สุด ถวายปราสาทเฟื้อง ประดับบนกำแพง จัดซื้อมาแล้วยังขาดเจ้าภาพอีก ๑๑ หลัง
๐๘๓-๑๑๔๓๖๘๑


ขอเชิญสร้างบุญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างห้องน้ำวัดน้ำไคร้
0845556231


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพเครื่องทรงจักรพรรดิ์ทองคำสมเด็จองค์ปฐมทองคำหน้าตัก 9 นิ้ว
081-190-1125


ขอเชิญร่วมบุญถวาย หลวงพ่อรวย วัดตะโก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๓๙ น (ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒)
วัตถุประสงค์ : สร้างศาลาจัตุรมุขกลางสระน้ำและศูนย์เรียนรู้วัดตะโก


ขอเชิญร่วมวิหารทานกฐินศาลา 22 พ.ย. 55
โทร 087-1741571


เชิญร่วมสร้างห้องน้ำ/กุฏิสงฆ์/ศาลาปฏิบิติธรรมและทอดกฐิน ณศูนย์ธรรมจักรนันทบุรีน่าน
090-0563220



21ตค.ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายพระพุทธรูปปางประทานพร(ยืน)สูง2.07ม.ณ วัดสันปู่ลื้อ เชียงใหม่
081-1121358


เชิญร่วมสร้างพระพุทธชยันตรีวิสาขะมงคลโสภิต สูง9เมตร ณ วัดพระยืน ลำพูน
089-6355-438



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสบทบทุนจัดสร้างสมเด็จองค์ปฐมต้นพุทธวงศ์ ขนาดหน้าตัก ๘ ศอก
๐๘๙ – ๗๑๙ – ๘๒๗๙


ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญใส่บาตรพระกรรมฐาน 15 รูป

ทำบุญไถ่ชีวิตโค-กระบือถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันแม่-วันพ่อแห่งชาติ
ทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างอาคารผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ตึกสงฆ์อาพาธ ศูนย์ฟอกไต ร.ร.เด็กเล็กก่อนวัยเรียน

ณ บ้านเลขที่ 1805/11 ซ.จรัญฯ 57 แยก 3 -7 (ซ.วัดรวกบางบำหรุ)ถ.จรัญฯ บางพลัด กทม

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2555 เวลา 7.30 น



ขอเชิญร่วมแรง ร่วมใจ สร้างวิหารทาน ทำบุญสร้างพระอุโบสถ วัดหนองซอ
081-1958927


เชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อปูกระเบื้องสำนักสงฆ์ บ้านหนองม่วง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ***
โอนปัจจัยได้ที่ ธนาคาร ไทยพาณิชย์
สาขากุดบาก
เลขที่บัญชี 754-217251-9
คุณ ศรชัย ตามประสี


ขอเชิญเป็นเจ้าภาพประตูอุโบสถสแตนเลสติดกระจก
08-6100-2195

ปลดทุกข์เขา ปลดทุกข์เรา ; เิชิญร่วมบุญสร้างห้องน้ำ วัดเขาบุญมีดาราราม
สามารถร่วมบุญบริจาคได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาราชวัตร
บัญชีเลขที่ 130 223907 6
ชื่อนายศุภธัช กิจวรชัย


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิปางเปิดโลก และพระปางลีลา
08-5037-0370


"โครงการถวายพุทธปฏิมาสถิต ณ ไตรโลกธาตุ"
085-1338285

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบายศรีในพิธีบวงสรวงงานปั้นหลวงพ่อทันใจ
๐๕-๔๕๔-๕๓๑-๙


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพจัดหาพระประธานถวายวัดศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์ 403-576356-2<O
ธนาคารกรุงเทพ สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์ 052-0-38824-0<O </O
ชื่อบัญชี นายสรศาสตร์ สุขเจริญสิน



ขอเชิญร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพซื้อสีทากุฎิวัดโนนดั่ง จ.ศรีสะเกษ(ขาด 4,000บาท)
087-9609715


ปูทางชีวิตสร้างทางธรรม:ร่่่วมถวายปูนถุง ทำลานเดินจงกลมเพื่อทางชีวิตที่ราบรื่น
๐๘๒ ๓๕๘๕๖๐๙


มหากุศลขอเชิญสาธุชนร่วมพัฒนาวัดตาลสุวรรณถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
๐๘๔-๘๑๗-๕๒๔๘<O </O



ด่วน ร่วมบริจาคสร้างพระสีวลี องค์ที่ 3 ณ.วัดอู่ตะเภา กรุงเทพมหานคร
สอบถามเพิ่มเติม <O </O
เรื่องการบริจาคและองค์พระ เบิร์ด (บัวผลิหน่อ) 085-361-4989<O </O
เรื่อง สถานที่วัดอู่ตะเภา คุณวิษณุ 081-837-9030<O </O

สร้างทางบุญเทถนนปูนเข้าวัด
08 07417059


กฐิน วัดป่าภูผาสูง0816239846

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีมหาบารมีพุทธชยันตรี ๒,๖๐๐ ปี๒,๖๐๐ กองกองละ๑๙๙ บาท
โทร.๐๘๐๑๓๒๓๕๑๒

บอกบุญวัดสันติวนาราม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ยังไม่มีเจ้าภาพจองกฐิน
๐๘ - ๙๘๕๐ – ๔๖๐๖

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ประจำปี ๒๕๕๕
ณ วัดสระสองตอน ตำบลเพนียด อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรีเพื่อสมทบทุนก่อสร้างเสนาสนะและก่อสร้างศาลาการเปรียญ<O </O 081-9978999


ขอเชิญทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนซ่อมแซมศาลาการเปรียญ ณ วัดบ้านจาน
089-104882-0

เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ อันเชิญ "พระสิวลี" ขึ้นแท่น วัดหินโค้ง ระยอง
โทร. 081-2794666


เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสร้างศาลาธรรมสังเวช วัดป่าอัมพวโนทยาราม
โทร.๐๘๕-๑๙๘-๒๙๑๑


ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี “บัณฑิตบำรุงธรรม”กับนักศึกษา พืชศาสตร์ มทร.ตะวันออก
0895360501


ขอเชิญร่วมงานทำบุญทอดกฐินสามัคคี วัดชัยมงคล (วังมุย) ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ประจำปี ๒๕๕๕
วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. เพื่อสมทบทุนในการก่อสร้างเจดีย์(ไชยมงคลเจดีย์ศรีหริภุญชัย) เฉลิมฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน และ ผ้าป่าสามัคคี ณ. วัดนางตะเคียน (ยักษ์แม่ใหญ่)
085-1770878




ร่วมบุญผลิตสื่อธรรม และสารคดีชุด 'ตามรอยพระอรหันต์' ต้นบุญ 10 บาท/แผ่น (ปิดร่วมบุญ 3 ต.ค.)
ธ.กรุงไทย
ชื่อบัญชี น.ส.กมลชนก สุภาวงษ์
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 980-3-24026-9
สาขา มศว ประสานมิตร


เชิญร่วมบุญกตัญญูตาทานบุพเปตพลี
081-9981552


รวบรวมกฐิน มากกว่า 500 วัด ที่บัญชีเดียว
หมดเขต 25 ต.ค. 2555
เลขที่บัญชีผู้รับโอน 403-4-53871-0
ธนาคารผู้รับโอน ธ.ไทยพาณิชย์ - SCB
ชื่อบัญชีผู้รับโอน SUPAKRIT SAWA


ขอเชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดถ้ำชัยมงคล (ภูลังกา) จ.บึงกาฬ
วันที่ ๓-๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕



เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมกันทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
http://www.pra-arjarntuey.com/


เชิญร่วมทำบุญทอดกฐิน วัดถ้ำแสงธรรม (ภูลังกา)
https://www.facebook.com/pages/Watthams ... 0099520254


ร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทาน (ถ้ำนารายณ์) ในงานครบรอบมรณภาพหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ปีที่ ๒๐
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์
สาขา ย่อยเทสโก้โลตัส จรัญสนิทวงศ์
ชื่อบัญชี ฉัตติพา กาญจนโสภา
เลขที่บัญชี ๑๙๒-๒๑๑๓๔๑-๔
( 192-211341-4 )

ร่วมบุญได้ถึงวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๕



มีข่าวสารงานบุญทอดผ้าป่าสามัคคีตั้งกองทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรมากบอก
082-4448270


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบุญกฐินสามัคคีประจำปี ๒๕๕๕
เพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถหลังใหม่
http://www.watsawangarom-klongkaek.com/


กำหนดการทอดกฐิน แห่งวัดถ้ำแสงธรรม (ภูลังกา) และ ปู่ฤาษีเกศแก้ว
http://www.watthamsaengdham.com/donation


รถตู้หารเฉลี่ย เดินทางทอดกฐินวัดบุญญาวาส จ.ชลบุรี 18 พย 55
086 511 7545


ร่วมกุศลบริจาคผ้าห่มกัหนาวแด่พระสงฆ์ วัดวังพุไท
ชื่อ บัญชี โครงการผ้าห่มกันหนาวร่วมใจ ถวายพระสงฆ์ไทยทั่วหล้า
ธนาคาร กสิกรไท สาขาบางลำพู
เลขที่บัญชี 008-2-39393-7


กำหนดการปี พ.ศ.2555 ทอดกฐินวัดป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต‏
http://www.luangta.com/


ขอเชิญสมทบทุนบุญกฐินประทานสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
โทร.๐๘ ๒๓๕๘ ๕๖๐๙


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2012, 13:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว


.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2012, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้

พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับ

แล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่พิจารณาเห็นแม้สังโยชน์อันหนึ่งอย่างอื่น

ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ผู้ประกอบแล้วแล่นไป ท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนาน เหมือน

สังโยชน์ คือ ตัณหานี้เลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายผู้ประกอบด้วย

สังโยชน์ คือ ตัณหาย่อมแล่นไป ท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนาน.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า

บุรุษ ผู้มีตัณหาเป็นเพื่อน


ท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนาน ย่อมไม่ก้าวล่วงสงสาร

อันมีความเป็นอย่างนี้และความเป็นอย่างอื่นไปได้

ภิกษุรู้ตัณหาซึ่งเป็นแดนเกิดแห่งทุกข์นี้

โดยความเป็นโทษแล้ว

เป็นผู้ปราศจากตัณหา ไม่ถือมั่น

มีสติ พึงเว้นรอบ

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า

ได้สดับมาแล้ว ฉะนั้นแล.

บทว่า อิตฺถภาวญฺญถาภาวํ ได้แก่ความเป็นอย่างนี้ และความเป็น

อย่างอื่น ชื่อว่า อิตฺถภาวญฺญถาภาโว. สงสาร ชื่อว่า อิตฺถภาวญฺญถาภาโว

เพราะอรรถว่า สงสารมีความเป็นอย่างนี้และความเป็นอย่างอื่น. ในบทนั้น

ความเป็นอย่างนี้ คือ ความเป็นมนุษย์. ความเป็นอย่างอื่น คือ ที่อยู่ของ

สัตว์นอกจากความเป็นมนุษย์นั้น. หรือว่าความเป็นอย่างนี้ ได้แก่ อัตภาพ

ปัจจุบันของเหล่าสัตว์นั้น ๆ. ความเป็นอย่างอื่น ได้แก่อัตภาพอนาคต. หรือว่า

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 114

อัตภาพอื่นมีรูปอย่างนี้ ชื่อว่า อิตถการะ ไม่มีรูปอย่างนี้ ชื่อว่า อัญญถาภาวะ.

บุรุษผู้มีตัณหาเป็นเพื่อน ย่อมไม่ก้าวล่วงสงสารอันมีความเป็นอย่างนี้ และ

ความเป็นอย่างอื่นนั้น คือ ลำดับ ขันธ์ ธาตุ อายตนะไปได้.

บทว่า เอตมาทีนวํ ญตฺวา ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ แปลว่า

ภิกษุรู้ตัณหาอันเป็นแดนเกิดแห่งทุกข์นี้ โดยความเป็นโทษ ความว่า ภิกษุรู้

ตัณหาอันเป็นแดนเกิด คือ เป็นเหตุเกิดแห่งวัฏทุกข์ทั้งสิ้นนี้ อธิบายว่า

รู้โดยความเป็นโทษ. อีกอย่างหนึ่ง บทว่า เอตมาทีนวํ ญตฺวา ได้แก่

รู้โทษ คือ ความชั่วร้ายอันจะไม่ทำให้ก้าวล่วงสงสารตามที่กล่าวแล้วนั้นไปได้.

บทว่า ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ ได้แก่ รู้ตัณหาว่าเป็นเหตุให้เกิดวัฏทุกข์

โดยนัยที่กล่าวแล้ว.

บทว่า วีตตณฺโห อนาทาโน สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช แปลว่า

ภิกษุ เป็นผู้ปราศจากตัณหา ไม่ถือมั่น มีสติ พึงเว้นเสีย ความว่า ภิกษุ

กำหนดรู้ด้วยปริญญา ๓ อย่างนี้ เจริญวิปัสสนาไปปราศจากตัณหาตามลำดับ

มรรค ชื่อว่า เป็นผู้ปราศจากตัณหา คือ มีตัณหาพ้นไปแล้ว โดยประการ

ทั้งปวงด้วยมรรคอันเลิศ ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ถือมั่น เพราะไม่มีแม้อะไร ๆ ใน

อุปาทาน ๔ เพราะปราศจากตัณหานั้น หรือเพราะไม่มีการยึดถือ อันได้แก่

ปฏิสนธิต่อไป ชื่อว่า เป็นผู้มีสติ เพราะทำอย่างมีสติในที่ทั้งปวง ด้วยมีสติ

ไพบูลย์ เป็นผู้กำจัดกิเลสได้แล้ว พึงเว้น คือ พึงประพฤติ หรือพึงออกไป

จากความเป็นไปของสังขารด้วยขันธปรินิพพาน.

จบอรรถกถากามสูตรที่๕





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2012, 21:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว


.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2012, 17:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


บทว่า ปรทตฺตูปชีวี ได้แก่ บรรพชิต จริงอยู่ บรรพชิตนั้น

เว้นน้ำและไม้สีฟันแล้ว ย่อมเข้าไปอาศัยอาหารที่เหลืออันผู้อื่นให้เป็นอยู่

เพราะฉะนั้น จึงเรียกว่า ปรทัตตูปชีวี.

ดูก่อนพราหมณ์ ทานนั้น ย่อมสำเร็จผลแก่สัตว์ผู้ตั้งอยู่ในปิตติวิสัยใด ปิตติวิสัย

นั้นแล เป็นฐานะดังนี้. ทักษิณาที่สำเร็จผลในฐานะนั้น อันต่างโดยประเภทมีขุปปิปา

สิกเปรต วันตาสาเปรต ปรทัตตูปชีวีเปรตและนิชฌามตัณหิกเปรต เป็นต้น ก็

ตรัสว่า ย่อมสำเร็จผลโดยฐานะเหมือนผู้ให้กหาปณะ ในโลกเขาก็เรียกกันว่า ผู้

นั้น ให้กหาปณะ ฉะนั้น.
เมื่อบุคคลให้ทาน กระทำการบูชาด้วยของหอมเป็นต้น แล้วให้ส่วนบุญว่า ขอส่วน

บุญ จงมีแก่บุคคลชื่อโน้น หรือว่า ขอส่วนบุญจงมีแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ดังนี้

พึงทราบว่า เป็นบุญกิริยาวัตถุอันเกิดแต่การให้ส่วนบุญ.
จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้

พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับ

มาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเทศนา ๒ ประการ

ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมมีโดยปริยาย ๒ ประการเป็นไฉน คือ

ธรรมเทศนาประการที่ ๑ นี้ว่า เธอทั้งหลายจงเห็นบาปโดยความเป็นบาป

ธรรมเทศนาประการที่ ๒ แม้นี้ว่า เธอทั้งหลายครั้นเห็นบาปโดยความเป็นบาปแล้ว

จงเบื่อหน่าย จงคลายกำหนัด จงปลดเปลื้องในบาปนั้น

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ธรรมเทศนา ๒ ประการนี้ ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

ย่อมมีโดยปริยาย.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนี้

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า

เธอจงเห็นการแสดงโดยปริยายของ

พระตถาคต พระพุทธเจ้าผู้อนุเคราะห์สัตว์ทุกหมู่เหล่า

ก็ธรรม ๒ ประการ พระตถาคต พระพุทธเจ้า

ผู้อนุเคราะห์สัตว์ทุกหมู่เหล่าประกาศแล้ว.

เธอทั้งหลายผู้ฉลาดจงเห็นบาป จงคลายกำหนัดในบาปนั้น

เธอทั้งหลายผู้มีจิตคลายกำหนัดจากบาปนั้นแล้ว

จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น

ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.

ปริยายศัพท์ในบทว่า ปริยาเยน นี้ มาในความว่า เทศนาในบทมี

อาทิว่า มธุปิณฺฑิกปริยาโย เตฺวว นํ ธาเรหิ ท่านจงทรงจำเทศนานั้นไว้ว่า

เป็นมธุปิณฑิกปริยายเทศนา ดังนี้ . มาในความว่า เหตุในบทมีอาทิว่า อตฺถิ

เขฺวส พฺราหฺมณ ปริยาโย เยน มํ ปริยายน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย

อกิริยวาโท สมโณ โคตโม ดูก่อนพราหมณ์ เหตุนี้มีอยู่แล เมื่อจะกล่าว

กะเราโดยชอบด้วยเหตุ พึงกล่าวว่า สมณโคดม

เป็นอกิริยวาท (วาทะว่าไม่เป็นอันทำ) ดังนี้.

มาในความว่า วาระในบทมีอาทิว่า

กสฺส นุ โขอานนฺท อชฺช ปริยาโย ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ ดูก่อนอานนท์

วันนี้ถึงวาระของใครจะสอนภิกษุณีทั้งหลาย ดังนี้. ก็ในที่นี้ สมควรทั้งในวาระ

ทั้งในเหตุ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้น ธรรมเทศนา ๒ อย่าง ของตถาคต

ย่อมมีขึ้นโดยเหตุ และโดยวาระตามสมควร ดังนี้ นี้เป็นอธิบายในบทนี้.

จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้า บางครั้งทรงจำแนกกุศลธรรมและอกุศลธรรม

ตามสมควรแก่อัธยาศัยของเวไนยสัตว์ โดยนัยมีอาทิว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล

ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ

ธรรมเหล่านี้ควรเสพ ธรรมเหล่านี้ไม่ควรเสพ ดังนี้ ทรงแสดงให้รู้โดย

ไม่ปนอกุศลธรรมเข้ากับกุศลธรรม ทรงแสดงธรรมว่า พวกเธอจงเห็นบาป

โดยความเป็นบาป. บางครั้งทรงประกาศโทษ โดยนัยมีอาทิว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ปาณาติบาตที่บุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ให้เป็นไปในนรก

ให้เป็นไปในกำเนิดเดียรัจฉาน ให้เป็นไปในเปรตวิสัย ปาณาติบาตที่เบากว่า

บาปทั้งปวง ทำให้มีอายุน้อย ดังนี้ ทรงให้พรากจากบาปด้วยนิพพิทาเป็นต้น

ทรงแสดงธรรมว่า พวกเธอจงเบื่อหน่าย จงคลายกำหนัด ดังนี้.

บทว่า ภวนฺติ ได้แก่ ย่อมมี คือ ย่อมเป็นไป. บทว่า ปาปํ

ปาปกโต ปสฺสถ ความว่า พวกเธอจงเห็นธรรมอันลามกทั้งปวง โดยเป็น

ธรรมลามก เพราะนำสิ่งไม่เป็นประโยชน์ และทุกข์มาในปัจจุบันและอนาคต.

ในบทเหล่านั้น บทว่า นิพฺพินฺทถ ความว่า พวกเธอเห็นโทษมีอย่างต่างๆ

กัน โดยนัยมีอาทิว่า บาปชื่อว่าเป็นบาป เพราะเป็นของลามก โดยความ

เป็นของเลวส่วนเดียว ชื่อว่า เป็นอกุศล เพราะเป็นความไม่ฉลาด ชื่อว่า

เป็นความเศร้าหมอง เพราะทำจิตที่เคยประภัสสร และผ่องใสให้พินาศจาก

ความประภัสสรเป็นต้น ชื่อว่า ทำให้มีภพใหม่ เพราะทำให้เกิดทุกข์ในภพบ่อยๆ

ชื่อว่ามีความกระวนกระวาย เพราะเป็นไปกับด้วยความกระวนกระวาย คือ

ความเดือดร้อน ชื่อว่า มีทุกข์เป็นวิบาก เพราะให้ผลเป็นทุกข์อย่างเดียว ชื่อว่า

เป็นเหตุให้มีชาติ ชรา และมรณะต่อไป เพราะทำให้มีชาติ ชรา และมรณะ

ในอนาคตตลอดกาลนานไม่มีกำหนด สามารถกำจัดประโยชน์สุขทั้งหมดได้

และเห็นอานิสงส์ในการละบาปนั้นด้วยปัญญาชอบ จงเบื่อหน่าย คือ ถึงความ

เบื่อหน่ายในธรรมอันลามกนั้น เมื่อเบื่อหน่ายพึงเจริญวิปัสสนาแล้วจงคลาย

กำหนัด และจงปลดเปลื้องจากบาปนั้นโดยความเป็นบาป ด้วยบรรลุอริยมรรค

หรือจงคลายกำหนัดด้วยการคลายอย่างเด็ดขาด ด้วยมรรค แต่นั้นจงปลดเปลื้อง

ด้วยปฏิปัสสัทธิวิมุตติด้วยผล.

อีกอย่างหนึ่ง บทว่า ปาปํ ได้แก่ ชื่อว่า บาป เพราะเป็นของลามก.

ถามว่า ท่านอธิบายไว้อย่างไร. ตอบว่า ชื่อว่า บาป เพราะเป็นสิ่งน่ารังเกียจ

คือ พระอริยะเกลียดโดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นต้น ยังสัตว์ให้ถึง

ทุกข์ในวัฏฏะ. ถามว่า ก็บาปนั้นเป็นอย่างไร. ตอบว่า เป็นธรรมชาติทำให้

เกิดในภูมิ ๓ พวกเธอเห็นบาปโดยความเป็นบาป มีเนื้อความตามที่กล่าวแล้ว

เจริญวิปัสสนาโดยนัยมีอาทิว่า โดยความเป็นของไม่เที่ยง โดยความเป็นทุกข์

โดยความเป็นโรค โดยความเป็นลูกศร โดยความเป็นของชั่ว โดยความ

เบียดเบียน ดังนี้ จงเบื่อหน่ายในบาปนั้น. บทว่า อยมฺปิ ทุติยา ได้แก่

ธรรมเทศนาประการที่ ๒ นี้ เป็นการเลือกปฏิบัติจากธรรมนั้น อาศัยธรรมเทศนา

ประการที่ ๑ อันแสดงถึงสิ่งไม่เป็นประโยชน์และความฉิบหายโดยความแน่นอน.

พึงทราบอธิบายในคาถาทั้งหลายดังต่อไปนี้. บทว่า พุทฺธสฺส ได้แก่

พระสัพพัญญพุทธเจ้า. บทว่า สพฺพภูตานุกมฺปิโน ได้แก่ พระพุทธเจ้า

ผู้อนุเคราะห์สัตว์ทั้งหมดด้วยมหากรุณา. บทว่า ปริยายวจนํ ได้แก่ การกล่าว

คือ การแสดงโดยปริยาย. บทว่า ปสฺส คือ ทรงร้องเรียกบริษัท. ท่านกล่าว

หมายถึง บริษัทผู้เป็นหัวหน้า. แต่อาจารย์บางพวกกล่าวว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า

ได้ตรัสว่า ปสฺส หมายถึงพระองค์เท่านั้น. บทว่า ตตฺถ ได้แก่ ในบาปนั้น.

บทว่า วิรชฺชถ ความว่า พวกเธอจงละความกำหนัด. บทที่เหลือมีนัย

ดังได้กล่าวแล้วนั่นแล.





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 93 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร