ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

น่าขำทำไปได้
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=42880
หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  bigtoo [ 06 ส.ค. 2012, 03:29 ]
หัวข้อกระทู้:  น่าขำทำไปได้

ความร่ำรวยบางอย่างนี้ข้าพเจ้ารู้สึกขำมากเลย มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เป็นความฉลาดหรือความโง่ของมนุษย์กันแน่ (มันต้องมีฝั่งที่โง่และฝั่งที่ฉลาด )มีกาแฟ :b38: บางยี่ห้อแค่ผ่านลำไส้ ผ่านทวารสัตว์เดรัชฉานก็มีมูลค่าแก้วเป็นพันๆ ทำมูลค่าได้เป็นพัๆหมื่นๆล้าน เพียงแค่สร้างความสงสัยให้กับมนุษย์ได้ก็เท่านั้นเอง และมนุษย์ก็มักจะหาเวลาพิสูจน์เพื่อความหายสงสัยกันเสมอๆ ที่กล่าวมามิได้มีเจตนากล่าวว่าร้ายต่อบุคคลใด เพียงแต่ยกตัวอย่างบางตัวอย่างเพื่อให้ผู้ที่อ่านได้พิจารณาในแง่มุมหลายๆแง่มุมก็เท่านั้น เพราะตัวข้าพเจ้าเองก็เคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน และมันก็คงเป็นสิทธิแต่ละบุคคลที่จะใช้ชีวิต คงมิกล้าล่วงไปคิดตำหนิดผู้ใด ขำๆนะ อย่าคิดมากนะครับ! :b12: :b34: :b34: :b34: :b19:

เจ้าของ:  govit2552 [ 07 ส.ค. 2012, 04:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

กาแฟอะไรเหรอ

เจ้าของ:  bigtoo [ 07 ส.ค. 2012, 05:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

govit2552 เขียน:
กาแฟอะไรเหรอ
มันมีกาแฟ ซึ่งชะมดมันกินเมล็ดกาแฟเข้าไปแล้วถ่ายออกมาก็เป็นเมล็ดกาแฟนั้นแหละ แต่คนเอามาขายกิโลเป็นแสนๆเลยครับ ไม่บอกยี่ห้อนะครับ :b38:

เจ้าของ:  ขณะจิต [ 08 ส.ค. 2012, 08:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

ความชื่นชมกำหนัดในผัสสะนั้น ย่อมมีในหมู่ชนทั่วไปที่ยังข้องอยู่ เขาย่อมขวนขวายตามอำนาจแห่งความกำหนัดนั้นที่นำทุกข์น้อย ทุกข์ใหญ่มาสู่เขาเสมอ

สำหรับหมู่นักปฏิบัติย่อมมีความเบาบางในความยินดีในรสต่างๆ ย่อมอยู่สบายโดยใช้ต้นทุนเพียงน้อยนิดในโลกนี้

วันก่อนข้าพเจ้าดูทีวี ยังคิดว่าคนมีอาชีพเป็นกุ๊ก เชฟทำอาหารทำใมยังมีคนจ้างด้วยค่าตัวแพงๆเป็นล้านๆ กว่าหมอที่รักษาโรค กว่าผู้เผยแพร่ธรรมะ กว่าครูที่ให้ความรู้ แสดงว่าคนจำนวนมากให้ความสำคัญกับเพียงรสอร่อยที่ชั่วคราว มากกว่าธรรมะ ความรู้ และสุขภาพ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกนี้จะหมุนไปทางใด :b42:

เจ้าของ:  bigtoo [ 08 ส.ค. 2012, 09:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่ดีนั้นย่อมเกิดแก่ผู้ที่มีบุญวาสนา ก็เป็นเหตุปัจจัยที่สมควรแก่คนที่เขาสะสมทำความดีมา ส่วนใครจะยึดไม่ยึดนั้นก็ต้องอาศัยโพธิปัญญาของพระพุทธองค์ เป็นตัวชี้แนะตามวาระโอกาสที่เกิดแก่บุคคล(ที่เรียกว่าธรรมมะจัดสรร)ผมเองไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสเข้ามาเดินสายธรรมเลยก็ว่าได้ มันอยู่คนละโลกเลย ทำไมเราถึงได้รู้จักธรรมมะ

ทำไมชีวิตเราต้องไปเรียนรู้เรื่องราวต่างๆมากมาย มากมายจนเรากล้าพูดเลยว่ามากจริงๆ รู้จักชีวิตทุกมุมทั้งด้านมืดด้านสว่างของคน รู้จักการใช้ชีวิตของมนษุย์ด้วยตัวเองเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นกับตัวเราเป็นความรู้ที่เกิดขึ้นกับตนเองรู้ความรู้สึกนั้นๆจริง จนเข้าใจว่าโลกมันก็เป็นอย่างนี้แหละ ดี ชั่ว ประปนกันอยู่อย่างนี้ไปตลอดกาล

ส่วนการที่จะออกจากวงจรชีวิตจะต้องเห็นโทษ เบื่อหน่าย ทั้งดีและไม่ดี มันก็เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ทำความดี แต่การออกจากวงจรชีวิตนั้นมิได้ออกง่ายๆเพียงใช่แค่ความคิดเท่านั้น ความคิดนั้นมันอาจจะสำคัญมาก เพราะมันเป็นก้าวแรกของการจะพาตัวออกเดินบนเส้นทางความพันทุกข์

พระองค์ทรงค้นพบทางก็รวบรวม ข้อวัตร ข้อปฎิบัติ ที่เหมาะสมแก่การพ้นทุกข์ ถ้าธรรมมะมันง่ายขนาดนั้น พระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ทำไมพระองค์ไม่ทรงกลับไปปกครองบ้านเมืองตามปกติ พระองค์ทรงสร้างบริษัทของพระองค์ เพื่อเป็นเส้นทางแห่งการส่งเสริมการบรรลุถึงความพ้นทุกข์ วางกฎทั้งลด ทั้งละ ทั้งเลิก ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นสิ่งที่เอื้อแก่การพ้นทุกข์จะทำไปทำไม ทำเพื่ออะไร มันเป็นการขัดเกลาโดยตรง

*ความอยากความไม่อยากทั้งหลาย*( จำเป็นต้องละเพราะเป็นตัณหาเป็นต้นเหตุ)
ส่วนสามัญลักษณะนั้นเราเป็นพระปัญญาที่พระองค์ทรงประจักษ์แจ้งตามความจริงขั้นสูงสุด พระองค์ก็ทรงนำมาแสดงให้เราทราบเพื่อให้เราเป็นความรู้ เพื่อให้เราปฎิบัติเข้าถึงสภาวะเหล่านั้นก็เพื่อความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ก็จะได้ลด ละเลิก เลิกไม่ยึดมั่นถือมั่น(ไม่ยึดมั่นถือมั่นหมายความว่าไม่เสพเพราะไม่ยึดมั่น* มิได้หมายความว่าเสพแบบไม่ยึดมั่น* ถ้าเสพแบบไม่ยึดมั่นถือมั่นได้ พระองค์ก็คงไม่ต้องสอนให้เราลด ละ เลิก พระองค์ก็ทรงกับไปเสพทุกอย่างแบบไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ!จริงมั้ย)

ผมยากให้พิจารณาตรงนี้ให้มาก และทุกวันนี้มีหลายสำนักปฎิบัติแบบง่ายๆสบายๆมันก็ถูกใจผู้ปฎิบัตินะซิ (อย่าลืมนะพยามารก็เปิดสำนักเป็นเหมือนกันนะครับโปรดระวังสักนิด ด้วยความปรารถนาดีครับ) bigtoo :b45: :b45: :b45:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 08 ส.ค. 2012, 20:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

เห็นกันหลายที่มาก....ทั้งเปิดโดยฆราวาส...หรือ...โดยพระสงฆ์บ้าง....อยู่ในตึกบ้าง....อยู่ในบ้านบ้าง...เป็นรีสอร์ทบ้าง....เปิดแอร์บ้าง...เปิดพัดลมบ้าง....เชิญพระสงฆ์องค์ชีมาเทศน์บ้าง....เชิญฆราวาสมาสนทนาธรรมบ้าง....พูดผิดมากกว่าถูก..หรือจะพูดถูกมากกว่าผิดบ้าง....ถูกใจใครบ้าง...ไม่ถูกใจใครบ้าง....อย่างน้อย....ก็คงจะมีกุศลเจตนาอยู่บ้างละ...

ผมขออนุโมทนาสาธุ....กับกุศลเจตนานั้น...

ส่วน..ควรไม่ควรตรงไหน...ก็มาถกธรรมกัน..เพื่อพัฒนาปัญญาของตน(คนที่มาถกนั้นแหละ)

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 08 ส.ค. 2012, 20:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

bigtoo เขียน:


ผมยากให้พิจารณาตรงนี้ให้มาก และทุกวันนี้มีหลายสำนักปฎิบัติแบบง่ายๆสบายๆมันก็ถูกใจผู้ปฎิบัตินะซิ (อย่าลืมนะพยามารก็เปิดสำนักเป็นเหมือนกันนะครับโปรดระวังสักนิด ด้วยความปรารถนาดีครับ) bigtoo :b45: :b45: :b45:


ที่ว่าง่าย ๆ สบาย ๆ มันเป็นยังงัยหรอ?

อะทิเช่น......

เจ้าของ:  bigtoo [ 08 ส.ค. 2012, 20:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:


ผมยากให้พิจารณาตรงนี้ให้มาก และทุกวันนี้มีหลายสำนักปฎิบัติแบบง่ายๆสบายๆมันก็ถูกใจผู้ปฎิบัตินะซิ (อย่าลืมนะพยามารก็เปิดสำนักเป็นเหมือนกันนะครับโปรดระวังสักนิด ด้วยความปรารถนาดีครับ) bigtoo :b45: :b45: :b45:


ที่ว่าง่าย ๆ สบาย ๆ มันเป็นยังงัยหรอ?

อะทิเช่น......
ผมไม่ได้ไปตำหนิเขานะครับ เป็นห่วงพวกเรานะ ที่ง่ายๆนะเคยสนทนากับหลายที่ก็ฟังอย่างเดียวไม่โต้ตอบหรอก คนเรามันต่างความเห็นกัน ก็เตือนๆกันก็เท่านั้น มักจะเห็นว่าดูจิต ทำอะไรได้ทุกอย่าง ไม่ต้องลดล่ะอะไร ปล่อยวางทุกอย่าง ถ้ามันง่ายขนาดนั้นมันก็ดีเนาะ พระองค์คงสั่งสอนเราแล้วล่ะ เอ่อ หรือว่าเขาไปไกลกว่าเราแล้วก็ไม่รู้ :b9: :b9:

เจ้าของ:  <ตะวัน> [ 08 ส.ค. 2012, 21:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

ขณะจิต เขียน:
ความชื่นชมกำหนัดในผัสสะนั้น ย่อมมีในหมู่ชนทั่วไปที่ยังข้องอยู่ เขาย่อมขวนขวายตามอำนาจแห่งความกำหนัดนั้นที่นำทุกข์น้อย ทุกข์ใหญ่มาสู่เขาเสมอ

สำหรับหมู่นักปฏิบัติย่อมมีความเบาบางในความยินดีในรสต่างๆ ย่อมอยู่สบายโดยใช้ต้นทุนเพียงน้อยนิดในโลกนี้

วันก่อนข้าพเจ้าดูทีวี ยังคิดว่าคนมีอาชีพเป็นกุ๊ก เชฟทำอาหารทำใมยังมีคนจ้างด้วยค่าตัวแพงๆเป็นล้านๆ กว่าหมอที่รักษาโรค กว่าผู้เผยแพร่ธรรมะ กว่าครูที่ให้ความรู้ แสดงว่าคนจำนวนมากให้ความสำคัญกับเพียงรสอร่อยที่ชั่วคราว มากกว่าธรรมะ ความรู้ และสุขภาพ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกนี้จะหมุนไปทางใด :b42:





ตะวัน เขียน :

...........นักปฏิบัติย่อมอยู่สบายโดยใช้ต้นทุนเพียงน้อยนิดในโลกนี้...........
Kiss Kiss Kiss ยอมรับว่าเป็นวรรคทองเลยครับอันนี้ Kiss Kiss Kiss


วันก่อนข้าพเจ้าดูทีวี ยังคิดว่าคนมีอาชีพเป็นกุ๊ก เชฟทำอาหารทำใมยังมีคนจ้างด้วยค่าตัวแพงๆเป็นล้านๆ กว่าหมอที่รักษาโรค กว่าผู้เผยแพร่ธรรมะ กว่าครูที่ให้ความรู้
ไม่ใช่มีแต่กุ๊กเน้อครับ ยังมี พวกนักฟุตบอลค่าตัวเป็นพันๆล้าน ดาราฮอลลีวู๊ด นักกอล์ฟ และอีกเพียบ
ผมว่าถึงเวลาต้องตัดเงินเดือนพวกนี้ได้แล้วนะ เอาไปเพิ่มให้อาชีพที่ทำคุณประโยชน์จะดีกว่า

เจ้าของ:  <ตะวัน> [ 08 ส.ค. 2012, 21:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

ท่าน bigtoo เขียน:


ถ้าเสพแบบไม่ยึดมั่นถือมั่นได้ พระองค์ก็คงไม่ต้องสอนให้เราลด ละ เลิก พระองค์ก็ทรงกับไปเสพทุกอย่างแบบไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ!จริงมั้ย)


ตะวัน เขียน:

เห็นด้วยอย่างยิ่งเน้อ ท่าน bigtoo
พวกที่ชอบ...แนวเสพแบบไม่ยึดมั่นถือมั่น...เนี่ย
คงเป็นพวก เมียก็จะเอา นิพพานก็จะไป นะผมว่า

เคยได้ยินหลวงปู่ชา สุภัทโท ท่านว่าให้พวกที่ชื่นชอบแนวเสพแบบไม่ยึดมั่นนี้อยู่นะ
ผมจำไม่ได้ทุกคำแต่เป็นในความหมายทำนองนี้ว่า

ถ้าท่านกินเกลือทั้งกระสอบได้โดย...ไม่เค็ม...เลยสักนิด
ผมก็จะเชื่อท่านว่า ท่านปล่อยวางไม่ยึดมั่นถือมั่นได้แล้วจริงๆ


อะไรทำนองนี้แหละครับ
เอาไปพิจารณาดูเน้อ ท่านนักเสพแบบไม่ยึดมั่นถือมั่นทั้งหลาย

เจ้าของ:  bigtoo [ 08 ส.ค. 2012, 21:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

<ตะวัน> เขียน:
ท่าน bigtoo เขียน:


ถ้าเสพแบบไม่ยึดมั่นถือมั่นได้ พระองค์ก็คงไม่ต้องสอนให้เราลด ละ เลิก พระองค์ก็ทรงกับไปเสพทุกอย่างแบบไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ!จริงมั้ย)


ตะวัน เขียน:

เห็นด้วยอย่างยิ่งเน้อ ท่าน bigtoo
พวกที่ชอบ...แนวเสพแบบไม่ยึดมั่นถือมั่น...เนี่ย
คงเป็นพวก เมียก็จะเอา นิพพานก็จะไป นะผมว่า

เคยได้ยินหลวงปู่ชา สุภัทโท ท่านว่าให้พวกที่ชื่นชอบแนวเสพแบบไม่ยึดมั่นนี้อยู่นะ
ผมจำไม่ได้ทุกคำแต่เป็นในความหมายทำนองนี้ว่า

ถ้าท่านกินเกลือทั้งกระสอบได้โดย...ไม่เค็ม...เลยสักนิด
ผมก็จะเชื่อท่านว่า ท่านปล่อยวางไม่ยึดมั่นถือมั่นได้แล้วจริงๆ


อะไรทำนองนี้แหละครับ
เอาไปพิจารณาดูเน้อ ท่านนักเสพแบบไม่ยึดมั่นถือมั่นทั้งหลาย
เขาอาจจะหลุดพ้นแล้วมั้ง55555

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 08 ส.ค. 2012, 21:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

bigtoo เขียน:
ผมไม่ได้ไปตำหนิเขานะครับ เป็นห่วงพวกเรานะ ที่ง่ายๆนะเคยสนทนากับหลายที่ก็ฟังอย่างเดียวไม่โต้ตอบหรอก คนเรามันต่างความเห็นกัน ก็เตือนๆกันก็เท่านั้น มักจะเห็นว่าดูจิต ทำอะไรได้ทุกอย่าง ไม่ต้องลดล่ะอะไร ปล่อยวางทุกอย่าง ถ้ามันง่ายขนาดนั้นมันก็ดีเนาะ พระองค์คงสั่งสอนเราแล้วล่ะ เอ่อ หรือว่าเขาไปไกลกว่าเราแล้วก็ไม่รู้ :b9: :b9:


น้ำเชี่ยว...อย่าเอาเรือไปขวาง...ฟัง ๆ..ไปก่อน

หลวงพ่อจรัญ......ท่านสอนว่า....ถูกใจก่อนถูกต้อง...

คือพูดถูกใจก่อน...แล้วเขาจะฟัง

พอเขาฟัง....จึงค่อยพูดอันที่ถูกต้อง

(ซึ่งไม่ใช่นิสัยของผมเลยย...พับผ่าซิ)

เจ้าของ:  <ตะวัน> [ 08 ส.ค. 2012, 21:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

ขอ ก๊อปฯ เอาไปใส่ในกระทู้...ไว้คุยธรรมะ....
ของผมหน่อยเน้อท่าน Bigtoo
อย่าหาว่า ผมละเมิดลิขสิทธิ์ เลยนะ

เจ้าของ:  bigtoo [ 08 ส.ค. 2012, 21:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
ผมไม่ได้ไปตำหนิเขานะครับ เป็นห่วงพวกเรานะ ที่ง่ายๆนะเคยสนทนากับหลายที่ก็ฟังอย่างเดียวไม่โต้ตอบหรอก คนเรามันต่างความเห็นกัน ก็เตือนๆกันก็เท่านั้น มักจะเห็นว่าดูจิต ทำอะไรได้ทุกอย่าง ไม่ต้องลดล่ะอะไร ปล่อยวางทุกอย่าง ถ้ามันง่ายขนาดนั้นมันก็ดีเนาะ พระองค์คงสั่งสอนเราแล้วล่ะ เอ่อ หรือว่าเขาไปไกลกว่าเราแล้วก็ไม่รู้ :b9: :b9:


น้ำเชี่ยว...อย่าเอาเรือไปขวาง...ฟัง ๆ..ไปก่อน

หลวงพ่อจรัญ......ท่านสอนว่า....ถูกใจก่อนถูกต้อง...

คือพูดถูกใจก่อน...แล้วเขาจะฟัง

พอเขาฟัง....จึงค่อยพูดอันที่ถูกต้อง

(ซึ่งไม่ใช่นิสัยของผมเลยย...พับผ่าซิ)
ถ้าเป็นคนอื่นก็ฟังได้สบายไม่โต้อยู่แล้ว แต่ถ้าคนในครอบครัวใครมาหย่อนอย่างนี้โดนเทศน์แน่ๆ :b12:

เจ้าของ:  ขณะจิต [ 08 ส.ค. 2012, 21:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: น่าขำทำไปได้

s007 ธรรมช่างยุติธรรมจริงๆ ลงทุนเท่าไดได้เท่านั้น ไม่ขาดไม่เกิน Onion_no

หน้า 1 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/