ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ธรรมมะในใจ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=42452
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  JANDHRA [ 22 มิ.ย. 2012, 10:00 ]
หัวข้อกระทู้:  ธรรมมะในใจ

พระธรรมประดุจดังประทีป

.. เมื่อปัญญาเกิดขึ้น ก็ขับไล่อวิชชา คือความไม่รู้ออกไปจากจิต เสมือนบุรุษผู้มีจักษุตามประทีปในที่มืด เพื่อยังแสงสว่างให้เกิดขึ้นในที่มืดอย่างนั้น พระธรรมนี้อ้ศจรรย์ยิ่งนัก แม้ผู้เป็นมิจฉาทิฏฐินำมากล่าวตู่อยู่ เพื่อผลแห่งลาภ สักการะ อำนาจ สุข สรรเสริญแล้ว บัณฑิตทั้งหลายย่อมมองเห็นชัดแจ้ง ประดุจผู้ร้ายยืนถือประทีปให้มองเห็นตนเองอย่างนั้น..

.. พระธรรมเป็นของงดงาม ทรงคุณค่า ผู้ปฏิบัติด้วยความเคารพ ย่อมได้รับความสุขสงบเป็นกำไร มีสวรรค์แลนืพพานเป็นทางพึงหวังได้ คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายคือ การทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใสนั้น แม้เป็นเพียงประโยคสั้นๆ เท่านั้น แต่สามารถสรุปจุดมุ่งหมายของการศึกษาพระธรรมได้เป็นอย่างดี แม้ว่าหากผู้ใดไม่อาจสามารถจะศึกษาพระไตรปิฏกได้ทั้งหมด หรือหากว่ามีความสูญหายไปของพระธรรมคำสั่งสอนที่จักต้องเป็นไปตามกาลเวลา แต่หากยังมีผู้กระทำความดีอยู่ ทั้งทางกาย วาจา และใจ ละเว้นความชั่วทั้งทางกาย วาจาและใจ หมั่นขัดเกลาจิตใจให้ใสสะอาดอยู่เป็นนิจ หนทางเพื่อไปสู่พระนิพพานก็ย่อมมองเห็นได้ไม่ยากนัก..

..พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ได้ตกทอดมายังปัจจุบันนี้ มิได้เกิดขึ้นจากการรักษาไว้ด้วยการจารเก็บไว้ มิได้เกิดขึ้นเพราะการปกป้องประดุจมารดาผู้รักษาครรภ์ มิได้เกิดขึ้นด้วยเพราะการทรงจำอันเยี่ยม แต่หากเกิดจากการประพฤติปฏิบัติจนรู้ได้ด้วยตัวเอง ถึงความสุขสงบอันมีอยู่จริง ความทุกข์อันมาจาก ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ความไม่ประสบกับสิ่งที่พอใจ เป็นสิ่งที่ควรกำหนดรู้ การละสิ่งที่ท่ำให้เกิดทุกข์อย่างนั้นจึงควรศึกษากระทำความเข้าใจให้แจ้งชัด การตามศึกษาให้รู้ว่านี่คือวิธีการละทุกข์จึงควรทำให้มาก และจงเดินไปตามทางแห่งวิธีที่กำหนดไว้ว่านี่คือทางดับทุกข์ให้สม่ำเสมอ .. เมื่อทุกข์ด้บ สุขก็เกิดขึ้น ความสงบเยือกเย็น ยังใจให้ผ่องใสก็ตามมา..

.. พระธรรมนี้ จึงจะถูกรักษาไว้ได้ ด้วยวิธีการอันถูกต้อง และงดงาม สมควรจักกล่าวได้ว่าผู้รักษาธรรม ย่อมประพฤติธรรม และธรรมก็ย่อมรักษา ผู้ประพฤติธรรมเสมอ.. วิธีรักษาพระธรรมด้วยวิธีอื่นนอกนี้ ย่อมไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร แม้แต่ตัวผู้เฝ้ารักษาพระธรรมอยู่ นอกจากไม่ได้ลิ้มรสอันเลิศแห่งพระธรรมแล้ว ยังเป็นเพียงแต่ผู้รับจ้างเฝ้าพระธรรม และไม่อาจพ้นไปจากวัฏสงสารได้ พระธรรมนี้ แม้ไม่ได้มีผู้รักษาอยู่ ก็บริสุทธิ์งดงามรอเวลาอันถึงแล้วของสัตตบุรุษมาเผยแผ่ มาจำแนก มาบอกสอนให้กับเหล่าเวไนยสัตว์มาเหมือนครั้งก่อนๆ เคยเกิดขึ้นด้วยเหตุใด สืบเนื่องเป็นไปอยู่ด้วยปัจจัยใด เพื่อผลอันใด มาในปัจจุบันนี้ก็อย่างนั้น แม้สัตตบุรุษในกาลข้างหน้า ก็ย่อมเป็นไปด้วยอย่างนี้ๆ หาเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ไม่..

.. พระธรรมนี้ประดุจดังประทีป เป็นของอัศจรรย์ ให้ความงดงาม ยังผู้ประพฤติให้ควรค่าแก่การเคารพอันสมควรแก่ธรรม มีทางอันบริสุทธิ์ สะอาดอันเหล่าพระอริยะทั้งหลายผู้ได้ล่วงหน้าได้กระทำทางให้มีอยู่ เป็นพระธรรมคำสั่งสอนให้จงประพฤติปฏิบัติตาม..เป็นทางไกลอันสะอาด พ้นจากขวากหนามไม่เร่าร้อน เหมือนทางของเหล่ามิจฉาทิฏฐิ อันเป็นผู้ไม่สะอาด เมื่อจะแวดล้อมอยู่ ก็่ย่อมแวดล้อมอยู่ด้วยแต่ของไม่สะอาด รกชัฎ .. ผู้ปรารถนาจะรักษาพระธรรม ด้วยว่าเป็นผู้เคารพพระธรรม ปรารถนาจะศึกษาให้พบหนทางกำจัดอวิชชา ล่วงพ้นจากความสงสัยเสียได้แล้ว.. จึงควรรักษาพระธรรม..ด้วยการประพฤติธรรมเถิด ฯ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/