ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เดจาวู ป๊าดถิโท่! นึกว่ารถเกาหลี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=42422
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 18 มิ.ย. 2012, 11:39 ]
หัวข้อกระทู้:  เดจาวู ป๊าดถิโท่! นึกว่ารถเกาหลี

พวกท่านเชื่อไหม ตอนผมได้ยินชื่อ เดจาวูในเว็บธรรมะใหม่ๆ ผมคิดว่า มันเป็นชื่อ..
ยี่ห้อรถเกาลี ก็แปลกใจทำไมถึงเอาเรื่องรถมาคุยในเว็บธรรมะ ตอนแรกก็คิดว่า
เดียวนี้เขากำลังฮิตเรื่องที่เกี่ยวกับเกาหลี มันอาจหาเรื่องโยงไปหาเองก็ได้

ไหนลองเขาไปดูซิ ที่ไหนได้มันเป็นภาษาฝรั่งเศส ลองเสิทไปดูคำแปล
เขาก็อธิบายไว้ชนิดที่ไม่กระจ่าง ลองเอาบ้างส่วนในวิกิพีเดียมาให้ดูครับ..

"เดฌาวูว์ (ฝรั่งเศส: déjà vu, แปลว่า เคยเห็น) คำว่าเดจาวูได้บันทึกขึ้นมาจาก
นักจิตวิทยาชาวฝรั่งเศส Emile Boirac (1851–1917) ในหนังสือชื่อ L'Avenir des sciences psychiques
เป็นอาการที่รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งพบครั้งแรกนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดมาแล้ว
แต่จำไม่ได้ว่าเกิดขึ้นในฝันหรือในอดีต เป็นประสบการณ์ทางจิต ที่เกิดได้กับทุกคน
และทุกเวลา เกิดได้แม้กระทั่งในเวลาตื่นโดยเราอาจจะคิดว่าเราเพ้อฝันไป เดจาวู (DEJA VU)

ดจาวู (DEJA VU) แปลว่า เคยได้พบเห็นมาแล้ว คำว่าเดจาวูได้บันทึกขึ้นมาจาก
นักจิตวิทยาชาวฝรั่งเศส Emile Boirac (1851–1917) ในหนังสือ L'Avenir des sciences
psychiques (แปลว่า อนาคตของวิทยาศาสตร์จิตวิทยา) เคยไหม "รู้สึกเคยผ่านมาแล้ว"
ญาณพิเศษ ทุกคนมี..ชาติก่อน, โลกคู่ขนาน, พลังจิต หรือรู้สึกไปเอง เดจาวู ไม่ใช่เรื่องใหม่
เป็นปรากฏการณ์ที่มนุษยชาติพบพาน ทุกเพศวัย ทุกชนชาติแห่งหน คำอธิบายที่เรามักอ้างให้ตัวเอง
คือ "คิดไปเองน่า" เราคิดไปเองจริงหรือ ?"

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80% ... 7%E0%B9%8C

มารู้อีกที่อ๋อมันเป็นภาษาฝรั่งเศส เอาล่ะมันจะเป็นภาษาอะไรไม่สำคัญ
สิ่งที่น่าสนใจมันอยู่ที่ การอธิบายความของสิ่งที่เรียกว่า"เดจาวู"ครับ

นักจิตวิทยาชาวฝั่งเศสคนนี้ ไม่รู้ว่าแกเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยหรือเปล่า
ถ้าผมวิจารณ์ก็ขอบอกว่าไม่ได้เรื่องครับ ยิ่งถ้าเป็นหมอที่เกี่ยวกับจิตล่ะก็ยิ่งไม่ได้ความ
แกบอกอาการที่เรียกว่า "เดจาวู"ได้ แต่พออธิบายอาการนั้นว่าเกิดจากอะไร
เล่นบอกมาตั้งเยอะ เหมือนกับหาใครอยากรู้ก็ไปหาเอาเอง ฉันไม่สน

เป็นนักวิทยาศาสตร์จะบอกผลงานการวิจัยอะไร มันต้องฟันธงลงไปเลยครับ
เป็นหมอก็เช่นกัน ไม่ใช่มาวินิฉัยโรคตามอาการ แล้วบอกคนไข้
ไม่แน่ใจว่า คนไข้มีเนื้องอกที่กระเพาะหรือตับ หรืออาจเป็นที่ลำไส้
เอาเป็นว่าอวัยวะที่สงสัยหมอจะผ่าให้หมด แบบนี้มันไม่ได้ครับ

เป็นหมอเป็นนักวิทยาศาสตร์ ทำแบบที่ผมเกริ่นกล่าวมามันใช้ได้ที่ไหนครับ
แต่ผมไม่ได้เป็นหมอและไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ สามารถทำได้ครับ
ผิดถูกมันเป็นแค่ความเห็น ใครอ่านก็เป็นหน้าที่ที่ตัวเองจะพิจารณา
ถ้าสังเกตุดูผมตั้งกระทู้ ผมจะติดเรทให้ตัวเองเสมอครับ


เพื่อนๆอาจคิดว่าที่ติดเรทอาจเป็นเรื่องการพิจารณความคิดเห็น
ใช่ครับ แต่มันยังมีอีกครับ นั้นก็คือ...
กระทู้ผมแสดงกิริยาหรือพูดจาได้ทุกอย่าง ผมขออย่างเดียวครับ
พวกที่ชอบแสดงเป็นผู้ดีแปดสาแหรก หลอกแม้กระทั้งตัวเองว่า
เป็นคนดีอยู่ในศีล รับไม่ได้กับการพูดของคนอื่น ขอล่ะครับ
อย่าเข้ามาแสดงความเห็น ไม่ใช่จะกลัวอะไรหรอกครับ ก็แค่ไม่อยากให้
กระทู้ผมไปจบที่ผู้ดูแลครับ

เออ! พูดถึงผู้ดูแลเดี๋ยวนี้ผมมีความรู้สึกว่า ดูดีเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
แถมมีเมตตาด้วยครับ รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่เหมือนเมื่อก่อน
เอากระทู้ลงถังขยะลูกเดียว แถมแบนสมาชิกเป็นว่าเล่น
เมื่อก่อนหายใจไม่ทั่วท้องเดียวนี้สบายใจขึ้นครับ..พูดจริงๆไม่ได้โม้ :b32:

เนื้อหาข้างบนดูวกวนไปสักหน่อย ไม่มีอะไรครับ
อยากระบายแฝงครับ ก็เหมือนโฆษณาแฝงนั้นแหล่ะครับ เนื้อหาจริงไว้จะเข้ามาต่อครับ :b13:

เจ้าของ:  nongkong [ 18 มิ.ย. 2012, 17:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เดจาวู ป๊าดถิโท่! นึกว่ารถเกาหลี

เคยดูหนังฝรั่งเรื่อง เดจาวู ที่เดลเซล วอชิงตันเล่นรึป่าว นั่นแหละทฤษฎี เดจาวู ของนักวิทยาศาสตร์(มั้ง)
แต่อย่าว่าแต่ในหนังเลย คุนน้องยังเคยรู้สึกเลยว่าเคยไปในที่ ที่เรารู้สึกคุ้นเคย เหมือนเคยไปมาหลายครั้งแล้ว(ในฝัน)
ว่าแต่พี่โฮมีจุดประสงค์อะไร เกี่ยวกับเดจาวูหรือเจ้าค่ะ คุนน้องก็เคยสงสัยเกี่ยวกับเดจาวูตอนเข้ามาศึกษาเวปธรรมมะตอนแรก เคยจะตั้งกระทู้ถามเหมือนกันนะว่า เชื่อทฤษฎีเรื่องเดจาวูกันบ้างไหม :b43:
http://www.youtube.com/watch?v=WdmLYzloNys(มีภาพตัวอย่างประกอบ :b9: )

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 18 มิ.ย. 2012, 23:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เดจาวู ป๊าดถิโท่! นึกว่ารถเกาหลี

แต่ก่อน..อาการแบบที่ว่านี้...ผมเป็นบ่อย..มาก...โดยเฉพาะตอนเด็ก..ๆ ..วัยสะรุ่น..
พอทำงานอาการก็เป็นน้อยลง...

มันเหมือนว่า....เราเคยผ่านเหตุการณ์นี้มากก่อน...ไม่ใช่ว่านานมากจนเป็นเหมือนชาติก่อนนะ....มันเหมือนเราเจอมาก่อนแล้ว...อย่างนี้..แหละ..เป๊ะเลย...ทั้งคำพูดคำจาท่าทางอาการยืนหรือเดินหรือหันหน้าไปเห็น...

ตอนเด็ก ๆ เคยอ่านหนังสืออะไรก็ไม่รู้..เขาว่า...คนเราจะจำอะไรไม่ได้ละเอียดมากนักหรอก...จะจำได้เพียงภาพโครงร่าง...ราง ๆ...พอมีเหตุการณ์ใหม่...โครงอันเลือนรางอันนั้นมันทับซ้อนพอดีกับเหตุการณ์ใหม่...ทำให้เรารู้สึกว่า...เราได้เคยผ่านเหตุการณ์มาแล้ว....

ตอนนั้นผมก็เชื่อ..นะ

แต่ตอนนี้...ถ้ามีโอกาสก็จะพิสูจน์ความเห็นนี้อีกที

เพราะแต่ก่อน...กระผมเคยเชื่อนักจิตวิทยาจนทำให้ผมมีกรรมจากการปรามาสมาจนถึงทุกวันนี้..

เรื่องสะกดจิตหมู่....

ตอนเป็นเด็ก....น้องสาวไปทำสมาธิในกลุ่มนักเรียนพุทธศาสนา...แล้วมีน้องผมคนเดียว...ที่ได้เห็นนรก...น้องกลับมาเล่าให้ฟัง....ผมก็ว่าถูกคนนำทำสมาธิสะกดจิตหมู่แล้วละ...เพราะเพิ่งอ่านหนังสือมานี้เอง

กรรมอันนั้น...ผมยังระลึกได้..ถึงทุกวันนี้

ไม่แน่ว่า....ที่เรายังตาถั่วอยู่...อาจเพราะกรรมอันนี้..ก็เป็นได้ :b6:
นี้แหละ...ไปเชื่อดีนัก..ไอ้นักวิทยาศาสตร์... :b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 19 มิ.ย. 2012, 03:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เดจาวู ป๊าดถิโท่! นึกว่ารถเกาหลี

เรื่องของเดจาวู มันก็เป็นเรื่องของจิต เรื่องของธรรมชาติไม่ใช่การระลึกชาติ
อาจเรียกว่าคุณสมบัติของจิตก็ได้ เรื่องแบบนี้พระพุทธองค์ก็สอน กล่าวไว้ใน
ธรรมนิยามเพียงแต่ไม่ได้ชี้ลงไปตรงๆ มันเป็นเพียงจิตและสมาธิเท่านั้น

มันเกี่ยวข้องกับกระบวนการขันธ์ ที่สำคัญก็คือสติ
ความหมายของสติคือ การระลึกรู้

สติทำงานด้วยการไประลึกรู้สัญญา และสัญญาก็คือความจำได้หมายรู้
ความหมายก็คือ จำอดีดได้

การทำงานของกระบวนการขันธ์มีดังนี้ ผัสสะ-วิญาณ-เวทนา-สัญญา-สังขาร

ในที่นี้จิตของผู้มีลักษณะเดจาวู ในขณะที่จิตทำงานมาถึงสังขารขันธ์
สังขารขันธ์ตัวนั้นจะเป็น สติ

ถ้าสติไประลึกรู้อดีตตามปกติธรรมดา ก็คงไม่เกิดเดจาวูที่ว่า
แต่ด้วยการที่สติที่เกิดเป็นสติที่ฉับไว ไประลึกรู้สัญญาหรือกระบวนการขันธ์
ที่พึ่งดับไปตรงหน้า ความหมายก็คือเอาปัจจุบันมาเป็นอดีตหรือการไปจำได้หมายรู้
สภาวะที่พึ่งดับไป

จิตหรือกระบวนการขันธ์เกิดดับรวดเร็ว สภาวะก็เกิดจากกระบวนการขันธ์
เมื่อเกิดสภาวะขึ้นและดับไปสติไประลึกรู้ มันทำให้เกิดกระบวนการขันธ์
ไปรู้กระบวนการขันธ์ตัวที่พึ่งดับไป โดยมีสติที่พี่งดับไปเช่นกัน เป็นเหตุปัจจัย

สติเป็นตัวระลึกรู้อดีต แต่สติของเดจาวูไประลึกรู้อดีตที่พึ่งดับไปสดๆร้อน
จึงทำให้คิดว่า สิ่งที่เห็นหรือรู้มันเคยเกิด แต่ไม่ใช่มันเป็นปัจจุบันนั้นแหล่ะ
เพียงแต่จิตหรือกระบวนการขันธ์มันเกิดดับรวดเร็ว มันจึงเป็นรู้อดีตของปัจจุบัน
เหตุการณ์แบบนี้ทำให้เรามีอาการ เหมือนฝัน เหมือนเคยเกิดขึ้น
บางทีทำให้รู้สึกว่า มีเราสองคนที่ซ้อนกันอยู๋ เหมือนอีกคนกำลังมองดูอีกคนอยู่


สติในลักษณะของเดจาวูนี่แหล่ะ เป็นสติของบุคคลที่จะมีสัมมาทิฐิในภายภาคหน้า
มันติดอยู่ตรงที่ยังไม่ได้สัมผัสไตรลักษณ์ และสิ่งที่กางกันไม่ให้เห็นไตรลักษณ์
นั้นก็คือ ยังไม่รู้ถึงความเป็นทุกข์ ความหมายของการรู้ทุกข์ไม่ใช่แค่การอ่านการฟัง
จากคนอื่นว่าทุกข์เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้

ความหมายของการรู้ทุกข์ ก็คือ เป็นทุกข์แล้วจำได้ว่า อารมณ์เป็นทุกข์มีลักษณะอย่างไร :b13:

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 20 มิ.ย. 2012, 04:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เดจาวู ป๊าดถิโท่! นึกว่ารถเกาหลี

โฮฮับ เขียน:
สติในลักษณะของเดจาวูนี่แหล่ะ เป็นสติของบุคคลที่จะมีสัมมาทิฐิในภายภาคหน้า
มันติดอยู่ตรงที่ยังไม่ได้สัมผัสไตรลักษณ์ และสิ่งที่กางกันไม่ให้เห็นไตรลักษณ์
นั้นก็คือ ยังไม่รู้ถึงความเป็นทุกข์ ความหมายของการรู้ทุกข์ไม่ใช่แค่การอ่านการฟัง
จากคนอื่นว่าทุกข์เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้

ความหมายของการรู้ทุกข์ ก็คือ เป็นทุกข์แล้วจำได้ว่า อารมณ์เป็นทุกข์มีลักษณะอย่างไร :b13:

เมื่อรู้แล้วว่า ในสิ่งที่เรียกว่า"เป็นทุกข์" มีลักษณะอย่างไร
ความหมายก็คือจำสภาวะที่เป็นทุกข์ได้ มันก็จะเป็นสัญญา

ต่อเมื่อวันใดเกิดสภาวะเป็นทุกข์ขึ้น สติที่เป็นลักษณะของเดจาวู
ก็จะไปดึงสัญญาทุกข์ตัวเก่ามาเปรียบเทียบกับทุกข์ในปัจจุบัน

ลักษณะแบบนี้เรียกว่า การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปผลของปรากฎการนี้
จะทำให้เห็น อนิจัง ทุกขังและอนัตตา

ถ้าเปรียบกับอริยสัจจ์สี่ เท่ากับรู้ ทุกข์และสมุทัยแล้วครับ :b13:

เจ้าของ:  nongkong [ 20 มิ.ย. 2012, 17:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เดจาวู ป๊าดถิโท่! นึกว่ารถเกาหลี

เป็นอะไรที่ซับซ้อน ยากแก่การทำความเข้าใจเพราะสภาวะของจิตที่เป็นเดจาวู บางครั้งก็อธิบายยาก
อ่านที่พี่โฮอธิบาย ก็สรุปให้ง่ายแก่ความเข้าใจของตัวเอง ลองพิจารณาดูนะ..
จิตที่มีลักษณะเป็นเดจาวู คือจิตที่เก็บรวบรวมสภาวะการเกิดๆดับๆของจิตไว้ในความจำ(สัญญา)ตัวความจำนี่แหละ ถ้าจะเปรียบเทียบตามหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ เมมโมรี่ที่เก็บรวบรวมข้อมูล แล้วเอาออกมาประมวลผล แต่มีข้อสังเกตุตรงที่ จิตของมนุษย์ไม่สามารถจะเอาสภาวะการเกิดดับของจิตที่เป็นสัญญาดึงออกมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือพูดง่ายๆไม่สามารถประมวลผลออกมาได้ เกิดการติดขัด ไม่สามารถจำได้หรือจำได้บ้าง(เพราะมันมะใช่คอมพิวเตอร์มันคือจิต) เพราะว่าจิตของเราเวียนว่ายตายเกิดมาหลายภพหลายชาติ สัญญาที่เป็นหน่วยความจำก็จะถูกบัณทึกทับซ้อนกันเรื่อยๆๆ จนไม่สามารถจำเหตุการณ์ในอดีตได้ ยกเว้นจิตที่มีคุณสมบัติที่เรียกว่าเดจาวูนี่แหละ ที่ไปเจอเหตุการณ์หรืออะไรที่มีสภาวะคล้ายคลึงกับสัญญา(ที่เราบันทึกไว้ในเมมโมรี่) จิตก็จะทำงานเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ดึงข้อมูลออกมาจากฮาสดิส แล้วประมวลผลว่า สภาวะที่เกิดกับเราตอนนี้เหมือนเราเคยรู้สึก เคยสัมผัส หรือเคยเป็นมาก่อนแล้ว..
แล้ว ตัวสัญญา นี่แหละที่เป็นตัวเก็บรวบรวมข้อมูลการกระทำของ จิตที่เป็นกุศลกรรมและอกุศลกรรมเพื่อส่งต่อไปจิตดวงใหม่และส่งต่อไปจิตดวงใหม่เรื่อยๆส่งผลเป็นวิบากกรรม ตามมา เกิดภพเกิดชาติ ไม่มีที่สิ้นสุด หรือเรียกว่า วัฏสงสาร
อ่านแล้วก็พิจารณา เพราะบางครั้งคนที่ไม่เคยเจอสภาวะเดจาวูอาจจะไม่เข้าใจ หรือกล่าวว่า มันพูดบ้าอะไรของมัน เอาเป็นว่า มันเป็นปัตตัจตัง :b12:
:b44: :b44:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/