ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=42321
หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  ขณะจิต [ 05 มิ.ย. 2012, 22:38 ]
หัวข้อกระทู้:  เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

ขอถามว่าเราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกันหนอ เพราะเมื่อคิดได้ก็มีกาย-ใจนี้แล้ว กาย-ใจไม่เที่ยงไม่ถาวร เกิดมาไม่นานก็หายไป แล้วจะมีทำไมกัน :b23:

เจ้าของ:  ฝึกจิต [ 05 มิ.ย. 2012, 23:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

ผมว่าต้องถามว่า
โง่ สิ่งใด อะไร อยู่หนอ จึงหยั่งลงสู้การเกิด มามีกาย-ใจ นี้อีก หนอ
:b8:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 06 มิ.ย. 2012, 00:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

เราตั้งใจเกิด....

ไม่ได้เกิดแบบไม่ตั้งใจ....

ปัญหาคือ....เดิมเราตั้งใจเกิดเพื่ออะไร?

ไอ้ที่ไม่รู้...เพราะขันธ์ 5 มันครอบหัวเราอยู่

จะรู้ได้...ต้องลองโผล่หัวออกจากขันธ์ทั้ง 5 ดู

เจ้าของ:  ฝึกจิต [ 06 มิ.ย. 2012, 00:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

กบนอกกะลา เขียน:
เราตั้งใจเกิด....

ไม่ได้เกิดแบบไม่ตั้งใจ....

ปัญหาคือ....เดิมเราตั้งใจเกิดเพื่ออะไร?

ไอ้ที่ไม่รู้...เพราะขันธ์ 5 มันครอบหัวเราอยู่

จะรู้ได้...ต้องลองโผล่หัวออกจากขันธ์ทั้ง 5 ดู


ผมว่า
อาจจะไม่ตั้งใจเกิด แต่มีเหตุปัจจัยให้เกิด หรือหากตั้งใจเกิด ก็เพื่อ แค่ให้ได้เกิด ไม่ได้เพื่อสิ่งใด้หลังจากเกิด หรือ ตั้งใจเกิด เพื่อสิ่งที่หลังจากเกิด แต่จำไม่ได้เพราะ ได้เกิด
หากไม่รู้ลองดูนี้ครับ
ภวสูตร

[๕๑๗] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึง
ที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้
ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า ภพ ภพ ดังนี้
ภพย่อมมีได้ด้วยเหตุเพียงไร พระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรอานนท์
ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในกามธาตุจักไม่มีแล้ว กามภพพึงปรากฏบ้างหรือหนอ ท่าน

พระอานนท์ทูลว่า ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า ฯ


พ. ดูกรอานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณชื่อว่าเป็น
พืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง เจตนา ความปรารถนาประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุ
อย่างเลวของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วย
ประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก ดูกรอานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผล
ให้ในรูปธาตุจักไม่มีแล้ว รูปภพพึงปรากฏบ้างหรือหนอ ฯ

อา. ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า ฯ


พ. ดูกรอานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณชื่อว่าเป็น
พืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง เจตนา ความปรารถนาประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุ
อย่างกลางของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วย
ประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก ดูกรอานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้
อรูปธาตุจักไม่มีแล้ว อรูปภพพึงปรากฏบ้างหรือหนอ ฯ

อา. ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า ฯ


พ. ดูกรอานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณชื่อว่าเป็น
พืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง เจตนา ความปรารถนาประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุ
อย่างประณีตของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ
ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก ดูกรอานนท์ ภพย่อมมีได้
ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล ฯ


:b8:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 06 มิ.ย. 2012, 00:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

ฝึกจิต เขียน:

พ. ดูกรอานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณชื่อว่าเป็น
พืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง
เจตนา ความปรารถนาประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุ
อย่างประณีตของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ
ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก ดูกรอานนท์ ภพย่อมมีได้
ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล ฯ


:b8:


ชัด...เจน...ดี

ผมถาม...ถึง...เรา..ๆ

ผมไม่คิดว่า....ผู้ที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา...และ...เชื่อในพระธรรมคำสอน....ไม่ใช่พวกชิงหมาเกิด...แน่..แน่

แล้ว...เรา ๆ ดำลงมาหาอะไร?

แต่หากจะว่ากันโดยทั่ว ๆ ไป.แล้ว...

ทุกดวงจิตเกิดมา.....หา..สุข

โดยดูจากสิ่งที่ประพฤติปฏิบัติกัน...ในทุกขณะจิต

สุข....คำเดียว...
(มีต่อ)

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 06 มิ.ย. 2012, 01:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

เพราะ....สุข...คำเดียว....

ปัจจัย 4...คืออย่างแรก...เพื่อทำให้ร่างกายอยู่ได้นานที่สุด...เพราะคิดว่า..ยื่งนานก็ยื่งสุข...

ลาภ..ยศ..สรรเสริญ...ก็เพื่อสุข

เสื่อมลาภ...เสื่อมยศ..นินทา...ก็ไม่เอา...เพราะมันไม่สุข

โกงกินคอรัปชัน...เอาเปรียบเหยียบหัวคน...หากรู้ว่าที่สุดเป็นทุกข์แล้วมันไม่ทำหรอก...ที่ทำเพราะคิดว่ามันจะได้สุข...มันถึงทำ

พอมีความรู้มีสติปัญญาขึ้นมาหน่อย....ก็เริ่มสังเกตุ...สุข...ข้างต้นมันเป็นเวทนา..เป็นเพียงความรู้สึก...เดียวมันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา...เลยไปหาสุข..อันที่ยิ่งกว่าความรู้สึก....ก็เลยพยายามฝ่าด่านเวทนาออกไป....เลยเข้าป่าเป็นโยคะโยคีฤาษีชีไพร....ทำฌานทำสมาบัติ...ใจนิ่งสงบพ้นจากเวทนา...ก็พอใจ....เป็นเทวดาเป็นพรหม...ก็ว่าสุข

นี้...ก็เพื่อ..สุข

แต่....สิทธัตถะมหาโพธิสัตว์....จบสมาบัติ8...แล้ว..ก็ยังเห็นว่า...ยังสุขไม่จริง....เพราะออกจากสมาบัติแล้ว....ยังทุกข์ได้อีก.....ทรงคิดว่า...สุขจริงต้องไม่เปลี่ยนแปลง....จึงออกมาค้นหาโมกขธรรมต่อ..

นี้ก็เพื่อ..สุข....ความจริงที่ไม่แปรเปลี่ยนไปมาอีก

แล้วจึงพบ...

นิพพานัง...ปรมัง....สุขัง

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 06 มิ.ย. 2012, 01:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

อยากสุข....แค่ในโลกมนุษย์....ก็หากันไป....ลาภ..ยศ..สรรเสริญ...สุข

อยากสุข...ในโลกนี้และโลกหน้า...ก็อย่าทำชั่ว..ให้เกรงกลัวต่อการทำบาป...ทำใจสงบให้ฌานสมบัติ

อยากสุขอย่างยิ่ง.....ก็ทำ..มรรค 4 ผล 4...นิพพาน 1 ให้แจ้ง

:b8:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 06 มิ.ย. 2012, 01:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  คนธรรมดาๆ [ 06 มิ.ย. 2012, 02:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

โค้ด:
ทุกดวงจิตเกิดมา.....หา..สุข


:b8: :b8: :b8:

ทุกคนก็หาสุขกันทั้งนั้น ประโยชน์อะไรเล่าจะเกิดจากการหยิบยื่นทุกข์ให้กัน

ขอให้ทุกท่านพบเจอความสุขตามที่ทุกท่านปรารถนา

เจ้าของ:  Rosarin [ 07 มิ.ย. 2012, 16:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

Kiss
ขณะจิต เขียน:
ขอถามว่าเราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกันหนอ เพราะเมื่อคิดได้ก็มีกาย-ใจนี้แล้ว กาย-ใจไม่เที่ยงไม่ถาวร เกิดมาไม่นานก็หายไป แล้วจะมีทำไมกัน :b23:

:b12:
...เราเกิดมามีกาย-ใจ...อย่างแรกก็เพื่อมา แก่ เจ็บ และตาย แบบโลกทั่วๆไปเค้าเป็นกัน...
...อย่างที่สองซึ่งสำคัญกว่าก็คือการแสวงหาสัจจธรรมเพื่อการหลุดพ้นออกจากกองทุึกข์...
...โดยการเดินทางในสังสารวัฏแบบทวนกระแสโลก...นำชีวิตเข้าสู่ทางธรรมก่อนสิ้นลมค่ะ...
:b44: :b43:
:b55:

เจ้าของ:  ขณะจิต [ 07 มิ.ย. 2012, 23:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

กบนอกกะลา เขียน:
เพราะ....สุข...คำเดียว....

ปัจจัย 4...คืออย่างแรก...เพื่อทำให้ร่างกายอยู่ได้นานที่สุด...เพราะคิดว่า..ยื่งนานก็ยื่งสุข...

ลาภ..ยศ..สรรเสริญ...ก็เพื่อสุข

เสื่อมลาภ...เสื่อมยศ..นินทา...ก็ไม่เอา...เพราะมันไม่สุข

โกงกินคอรัปชัน...เอาเปรียบเหยียบหัวคน...หากรู้ว่าที่สุดเป็นทุกข์แล้วมันไม่ทำหรอก...ที่ทำเพราะคิดว่ามันจะได้สุข...มันถึงทำ

พอมีความรู้มีสติปัญญาขึ้นมาหน่อย....ก็เริ่มสังเกตุ...สุข...ข้างต้นมันเป็นเวทนา..เป็นเพียงความรู้สึก...เดียวมันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา...เลยไปหาสุข..อันที่ยิ่งกว่าความรู้สึก....ก็เลยพยายามฝ่าด่านเวทนาออกไป....เลยเข้าป่าเป็นโยคะโยคีฤาษีชีไพร....ทำฌานทำสมาบัติ...ใจนิ่งสงบพ้นจากเวทนา...ก็พอใจ....เป็นเทวดาเป็นพรหม...ก็ว่าสุข

นี้...ก็เพื่อ..สุข

แต่....สิทธัตถะมหาโพธิสัตว์....จบสมาบัติ8...แล้ว..ก็ยังเห็นว่า...ยังสุขไม่จริง....เพราะออกจากสมาบัติแล้ว....ยังทุกข์ได้อีก.....ทรงคิดว่า...สุขจริงต้องไม่เปลี่ยนแปลง....จึงออกมาค้นหาโมกขธรรมต่อ..

นี้ก็เพื่อ..สุข....ความจริงที่ไม่แปรเปลี่ยนไปมาอีก

แล้วจึงพบ...

นิพพานัง...ปรมัง....สุขัง



:b1: ก่อนรู้จักศาสนา ตั้งแต่เด็กมาก็ไขว่คว้าหาแต่สุข

ผ่านสุขแต่กลับกลายเป็นทุกข์มามากมายจึงเริ่มรู้ว่า มันบังคับเอาตามใจไม่ได้

เมื่อมารู้จักพุทธศาสนา ก็เริ่มศรัทธา เพราะสุขจากสมาธิและความสงบ

แต่มันก็ ไม่ยั่งยืนยังเปลี่ยนแปรได้

ก็หวังไว้ว่านิพพานอันสูงสุด อันดับทุกข์สิ้นเชิงนั่นแหละเป็นเป้าหมายสุดท้าย

แต่ถ้าไม่รู้จักพุทธศาสนา ก็คงไขว่คว้าหาสุขเรื่อยไปจนตายอย่างคนอื่นๆเขา

คิดเห็นคล้ายๆกันเลยครับท่านกบ :b43:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 08 มิ.ย. 2012, 01:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

:b8: :b8: :b8:
สิ่งไร..ไร...ได้มา...ล้วนมีปรารถณาเป็นเบื้องต้น

เจ้าของ:  govit2552 [ 08 มิ.ย. 2012, 06:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

ผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า เราจักบัญญัติการมา การไป จุติ อุปบัติ
หรือความเจริญงอกงามไพบูลย์แห่งวิญญาณ เว้นจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร ข้อนี้ไม่เป็น
ฐานะที่จะมีได้.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0

เจ้าของ:  ฝึกจิต [ 08 มิ.ย. 2012, 07:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

ขอบคุณครับ
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ขณะจิต [ 08 มิ.ย. 2012, 17:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เราเกิดมามีกาย-ใจเพื่ออะไรกัน

พูดเท่าไหร่ เหล่าคนจำนวนมากที่ไขว่หาสุขในโลก ที่ยังไม่เห็นทุกข์แลต้องการความดับทุกข์

คงไม่สนใจศาสนาจริงๆ แลเข้าถึงวิธีปฏิบัติได้ ย่อมถือศาสนาแต่ปากเท่านั้นเอง

ต้องขออนุโมทนากับผู้ที่ ถูกความทุกข์ขบกัดจนเข็ดหลาบ จนแสวงหาความดับทุกข์

ขอกราบงามๆให้ความทุกข์สักพันครั้งที่สอนให้ข้าพเจ้าเข็ดหลาบ

กับความจริงว่าทุกสิ่งล้วนถือเอาไม่ได้นาน ทุกข์แท้ ทุกข์แท้ :b8:


:b1:เอ? แล้วอย่างนี้มีเหตุผลอื่นไหมหนอ ที่ทำให้คนเข้ามาสู่ศาสนา นอกจากความปรารถนาดันทุกข์ :b10:

หน้า 1 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/