ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=41712 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | tonnk [ 09 เม.ย. 2012, 22:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอกธัมมาทิบาลี อัจฉราสังฆาตวรรคที่ ๖ อรรถกถาอัจฉราสังฆาตวรรคที่ ๖ วันนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงดำรงอยู่ในกิจนี้นี่แหละ ทรงตรวจดูสัตว์โลก ก็ได้ทรงเห็นเหตุนี้ว่า เมื่อเราจาริกไปในมหาโกสลรัฐ แสดงสูตรหนึ่งเปรียบเทียบด้วยกองเพลิง ภิกษุ ๖๐ รูปจักบรรลุพระอรหัต ภิกษุประมาณ ๖๐ รูปจักรากเลือด ภิกษุประมาณ ๖๐ รูปจักสึกเป็นคฤหัสถ์. บรรดาภิกษุเหล่านั้น พวกภิกษุผู้จักบรรลุพระอรหัตได้ฟังพระธรรมเทศนาอย่างใดอย่างหนึ่ง จักบรรลุได้ทีเดียว. ก็พระผู้มีพระภาคเจ้ามีพระประสงค์จะเสด็จจาริกไปเพื่อสงเคราะห์ภิกษุนอกจากนี้ จึงตรัสว่า อานนท์ เธอจงบอกแก่ภิกษุทั้งหลาย. พระเถระไปตามบริเวณแล้วกล่าวว่า ผู้มีอายุ พระศาสดามีพระประสงค์จะเสด็จจาริกเพื่อสงเคราะห์มหาชน ผู้ประสงค์จะไปตามเสด็จก็จงพากันมาเถิด. ภิกษุทั้งหลายมีใจยินดีเหมือนได้ลาภใหญ่ คิดว่า เราจักได้ชมพระสรีระมีวรรณเพียงดังทองคำ ได้ฟังธรรมกถาอันไพเราะของพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้แสดงธรรมแก่มหาชน ผู้ที่มีผมขึ้นยาวก็ปลงผม มีบาตรถูกสนิมจับก็จับระบมบาตร มีจีวรหมองก็ซักจีวร ต่างเตรียมจะตามเสด็จ. พระศาสดาแวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ที่กำหนดจำนวนไม่ได้ ออกจาริกไปยังโกศลรัฐ วันหนึ่งๆ เสด็จจาริกไป ๑ คาวุต ๒ คาวุต ๓ คาวุตและโยชน์หนึ่งเป็นอย่างยิ่ง ตามลำดับแห่งคามและนิคม ทอดพระเนตรเห็นต้นไม้มีโพรงต้นใหญ่แห่งหนึ่งถูกไฟไหม้ลุกโพลง ทรงดำริว่า เราจะทำต้นไม้นี้แลให้เป็นวัตถุเหตุตั้งเรื่อง แสดงธรรมกถาประคับด้วยองค์ ๗ จึงงดการเสด็จ เสด็จเข้าไปยังโคนไม้ต้นหนึ่ง ทรงแสดงอาการจะประทับนั่ง. พระอานนทเถระทราบพระประสงค์ของพระศาสดา คิดว่า ชะรอยว่าจักมีเหตุแน่นอน พระตถาคตไม่เสด็จต่อไปแล้วจะหยุดประทับนั่งเสียโดยเหตุอันไม่สมควรหามิได้ จึงปูลาดสังฆาฏิ ๔ ชั้น. พระศาสดาประทับนั่งแล้วตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา ตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงดูกองไฟใหญ่โน้น แล้วทรงแสดงอัคคิขันโธปมสูตร. ก็เมื่อตรัสไวยากรณ์นี้อยู่ ภิกษุประมาณ ๖๐ รูปรากเลือด. ภิกษุประมาณ ๖๐ ลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์. ภิกษุประมาณ ๖๐ รูปมีจิตไม่ยึดมั่นก็หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย. ก็เพราะได้ฟังไวยากรณ์นั้น นามกายของภิกษุประมาณ ๖๐ รูปก็กลัดกลุ้ม เมื่อนามกายกลัดกลุ้ม กรัชกายก็รุ่มร้อน เมื่อกรัชกายรุ่มร้อน โลหิตอุ่นที่คั่งก็พุ่งออกจากปาก. ภิกษุ (อีก) ประมาณ ๖๐ รูปคิดว่าการประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ตลอดชีวิตในพระพุทธศาสนา ทำได้ยากหนอ แล้วพากันลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์. ภิกษุประมาณ ๖๐ รูปส่งญาณมุ่งตรงต่อเทศนาของพระศาสดา ก็บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา. บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุเหล่าใดรากเลือด ภิกษุเหล่านั้นต้องอาบัติปาราชิก ภิกษุเหล่าใดสึกเป็นคฤหัสถ์ ภิกษุเหล่านั้นพากันย่ำยีสิกขาบทเล็กน้อย. ภิกษุเหล่าใดบรรลุพระอรหัต ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์แล. พระธรรมเทศนาของพระศาสดา เกิดมีผลแม้แก่ภิกษุ ๓ จำพวกดังกล่าวนี้. ถามว่า พระธรรมเทศนาเกิดมีผลแก่ภิกษุผู้บรรลุพระอรหัตยกไว้ก่อน อย่างไรจึงเกิดมีผลแก่ภิกษุนอกนี้? แก้ว่า ก็ภิกษุแม้เหล่านั้น ถ้าไม่ได้ฟังธรรมเทศนากัณฑ์นี้ไซร้ เป็นผู้ประมาท ไม่พึงอาจละฐานะได้ แต่นั้นบาปของภิกษุเหล่านั้นกำเริบขึ้น จะพึงทำเธอให้จมลงในอบายถ่ายเดียว แต่ฟังเทศนากัณฑ์นี้แล้ว เกิดความสังเวช ละฐานะ ตั้งอยู่ในภูมิแห่งสามเณร บำเพ็ญศีล ๑๐ ประกอบขวนขวายในโยนิโสมนสิการ บางพวกเป็นพระโสดาบัน บางพวกเป็นพระสกทาคามี บางพวกเป็นอนาคามี บางพวกบังเกิดในเทวโลก. พระธรรมเทศนาได้มีผลแม้แก่ภิกษุผู้ต้องอาบัติปาราชิกด้วยอาการอย่างนี้. ฝ่ายภิกษุนอกนี้ ถ้าไม่พึงได้ฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้ไซร้ เมื่อกาลล่วงไปๆ ก็จะพึงต้องอาบัติสังฆาฑิเสสบ้าง ปาราชิกบ้าง ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้แล้ว คิดว่า พระพุทธศาสนาช่างขัดเกลาจริงหนอ พวกเราไม่สามารถจะบำเพ็ญข้อปฏิบัตินี้ตลอดชีวิตได้ จำเราจักลาสิกขา บำเพ็ญอุบาสกธรรม จักพ้นจากทุกข์ได้ ดังนี้แล้ว จึงพากันสึกไปเป็นคฤหัสถ์. ชนเหล่านั้นตั้งอยู่ในสรณะ ๓ รักษาศีล ๕ บำเพ็ญอุบาสกธรรม บางพวกเป็นพระโสดาบัน บางพวกเป็นสกทาคามี บางพวกเป็นอนาคามี บางพวกบังเกิดในเทวโลกแล. พระธรรมเทศนาได้มีผลแม้แก่ภิกษุเหล่านั้น ด้วยอาการอย่างนี้. อนึ่ง หมู่เทพได้ฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้แล้ว ได้เที่ยวไปบอกแก่ภิกษุทั้งหลายผู้ไม่ได้ฟังทุกรูปทีเดียว. ภิกษุทั้งหลายฟังแล้วคิดว่า ท่านผู้เจริญ การประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ตลอดชีวิตในพระพุทธศาสนาทำได้ยาก. ภิกษุ ๑๐ รูปบ้าง ๒๐ รูปบ้าง ๖๐ รูปบ้าง ๑๐๐ รูปบ้างบอกลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์ไปทันที. http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=52 |
เจ้าของ: | tonnk [ 09 เม.ย. 2012, 22:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
พระพุทธเจ้าท่านรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าท่านเทศน์ ภิกษุ ๖๐ จะต้องอ้วกเป็นเลือด อีก ๖๐ จะต้องสึก อีก ๖๐ จะพ้นทุกข์ ท่านรู้ว่ามีภิกษุที่ต้องอ้วกเป็นเลือด แต่ท่านก็ยังไปเทศน์ เพราะว่ามีภิกษุที่จะพ้นทุกข์รอท่านอยู่ นี่ก็เรียกว่าการร่อน ร่อนเอาคนดีไปนิพพาน ใครมีสาระจึงจะทนอยู่ในธรรมวินัยได้ เหมือนตอนที่มหาพรหมอาราธนาพระพุทธเจ้าว่า สัตว์ที่มีทุลีในตาน้อยก็มี มิได้ทูลว่าโปรดเที่ยวสั่งสอนสัตว์รื้อสัตว์ทั้งหมดเถิด พระพุทธเจ้าก็พิจารณาถึงบัวสี่เหล่า แต่ท่านเอาแค่สามเหล่า อันสุดท้ายท่านทิ้งเพราะเอาไม่ไหวมันมืดบอดเกินไป ท่านทั้งหลายก็จงอย่าคิดว่าจะให้คนมาฟังตามพระศาสดาบัญญัติมากนักเลย เพราะว่าบัวเหล่าที่สี่นั้นมี รอให้เขาสร้างอินทรีย์บารมีให้แก่กล้าก่อนจึงจะไปได้ สำหรับพวกที่อาบัติปาราชิก ถ้าบวชเป็นสามเณร ก็บรรลุมรรคผลได้ สำหรับพวกที่ชอบย่ำยีสิกขาบทเล็กน้อย ถ้าไม่คิดแก้ไขให้ดีขึ้นในการรักษาสิกขาบท ก็ให้สึกออกมาแล้วรักษาศีล ก็ได้บรรลุมรรคผลเช่นเดียวกัน เมื่อผู้ใดรู้แล้วหรือเทพองค์ใดได้ยิน ให้รีบนำสูตรนี้ไปบอกภิกษุทั้งหลายด้วย. |
เจ้าของ: | อยู่กับความมืด [ 10 เม.ย. 2012, 01:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
ทำไมไม่ไปบวชเองเลยละ...ถ้าแก่เกินจะบวชก็ให้ลูกชายไปบวชก็ได้นิ....คงช่ายศาสนาได้เยอะ...มาบ่นๆๆๆแต่ในนี้จะช่วยอะไรได้..... ว่าจะไม่ยุ่งด้วยแล้วนะ...... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 10 เม.ย. 2012, 01:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
![]() ![]() ![]() ธรรม...ว่าไม่ยุ่ง แต่กิเลส...มันยุ่ง....นะ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 10 เม.ย. 2012, 03:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
อยู่กับความมืด เขียน: ทำไมไม่ไปบวชเองเลยละ...ถ้าแก่เกินจะบวชก็ให้ลูกชายไปบวชก็ได้นิ....คงช่ายศาสนาได้เยอะ...มาบ่นๆๆๆแต่ในนี้จะช่วยอะไรได้..... ว่าจะไม่ยุ่งด้วยแล้วนะ...... ![]() ![]() "มืด"ไปว่าคุณต๊องแกแบบนี้ เดี๋ยวแกก็ไม่ช่วยค่ารถกลับวัดหรอก ![]() |
เจ้าของ: | อยู่กับความมืด [ 10 เม.ย. 2012, 12:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
เมิงบอกว่าเมิงเก่งนักหนาชอบเอาพระไตรปิฏกมาอ้าง...กูมีอะไรจะถามหลายอย่าง...แต่แม่งถามแล้ว...เมิงไม่เคยตอบ...หรือเมิงไง่ตอบไม่ได้ว่ะ....ต้องขอภัยทุกท่านที่ใช่คำไม่สุภาพ...แต่คุยกับไอหมอนี้คุยด้วยเหตุผล...มันไม่ฟังหรอก....ต้องคุยด้วยภาษาชั้นต่ำๆๆ.....คนต่ำๆอย่ามันสักวันมันคงโดนเหมือนพระเทวทัต....อ่อไม่ต้องหว่างหรอกว่าที่กูว่าเมิงแล้วกูจะบาป...เพราะอย่าไงชะกูด่าสัตว์เดรฉานยังบาปมากกว่าด่าคนอย่างเมิงเลย.... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 10 เม.ย. 2012, 14:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
ต่ำ...ยังงัยหรอ... ![]() เขาตายไป..จึงไปนรก แต่เรา...กำลังตกนรกอยู่นี้เซ่... ![]() ![]() ![]() ไม่รู้สึก.... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | asoka [ 10 เม.ย. 2012, 14:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
![]() สาธุ อนุโมทนากับคุณ tonnk ที่บอกทางออกให้กับภิกษุที่ต้องอาบัติปาราชิกและสังฆาทิเสส เฉพาะภิกษุที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ถ้าอยู่กรรมอยู่มานัติถูกต้องตามพระวินัยก็แก้ไขได้ไม่ต้องสึกครับ สาธุอนุโมทนากับท่่านผู้อยู่ในความมืด ที่จะได้เรื่องที่ "ขัดใจ" ไปเป็นเครื่องมือ "ขัดใจ" ให้ขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องตามโอวาทปาติโมกข์ข้อที่ 3 ได้สำเร็จในชาตินี้นะครับ ![]() |
เจ้าของ: | อยู่กับความมืด [ 10 เม.ย. 2012, 16:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
ด่วนๆๆๆต้องการเต้นเอาปฏิบัติธรรมที่เขาใหญ่ ผู้ใดมีจิตศรัทธาจะถวายติดต่อที่เบอร์ 0823484571.... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อยู่กับความมืด [ 10 เม.ย. 2012, 16:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
ด่วนๆๆๆต้องการเต้นเอาปฏิบัติธรรมที่เขาใหญ่ ผู้ใดมีจิตศรัทธาจะถวายติดต่อที่เบอร์ 0823484571 |
เจ้าของ: | นายฏีกาน้อย [ 10 เม.ย. 2012, 19:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
- กฏกติกาบอร์ด http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=11&t=39777 |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 11 เม.ย. 2012, 02:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
อยู่กับความมืด เขียน: เมิงบอกว่าเมิงเก่งนักหนาชอบเอาพระไตรปิฏกมาอ้าง...กูมีอะไรจะถามหลายอย่าง...แต่แม่งถามแล้ว...เมิงไม่เคยตอบ...หรือเมิงไง่ตอบไม่ได้ว่ะ....ต้องขอภัยทุกท่านที่ใช่คำไม่สุภาพ...แต่คุยกับไอหมอนี้คุยด้วยเหตุผล...มันไม่ฟังหรอก....ต้องคุยด้วยภาษาชั้นต่ำๆๆ.....คนต่ำๆอย่ามันสักวันมันคงโดนเหมือนพระเทวทัต....อ่อไม่ต้องหว่างหรอกว่าที่กูว่าเมิงแล้วกูจะบาป...เพราะอย่าไงชะกูด่าสัตว์เดรฉานยังบาปมากกว่าด่าคนอย่างเมิงเลย.... ![]() ![]() พี่มืดด่าใครหรา ![]() อยู่กับความมืด เขียน: ด่วนๆๆๆต้องการเต้นเอาปฏิบัติธรรมที่เขาใหญ่ ผู้ใดมีจิตศรัทธาจะถวายติดต่อที่เบอร์ 0823484571.... ![]() ![]() เป็นพระจะเอ๊าเต็นไปทำอะหยังก้า! จะเอาไปกางนอนกินลมชมวิวหรืองัย อ้างว่าจะปฏิบัติธรรมก็เอามุ้งเอากลดไปก็พอ ไปเอาที่วัดโน้นเยอะแยะไป ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ไปขอเทศบาลก็ได้ อย่ามาเรี่ยไรในนี้ มันผิดกฎหมายเขาห้ามพระเรี่ยไรไม่รู้เหรอ ผิดพระวินัยเอาเรื่องไม่ได้ ผิดกฎหมายเอาเรื่องได้นะ จะบอกให้ แนะนำให้สึกออกมาทำงานพอได้ค่าเต็นแล้วค่อยไปบวชต่อก็ไม่เชื่อ ![]() |
เจ้าของ: | อยู่กับความมืด [ 11 เม.ย. 2012, 07:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
โฮฮับ เขียน: อยู่กับความมืด เขียน: เมิงบอกว่าเมิงเก่งนักหนาชอบเอาพระไตรปิฏกมาอ้าง...กูมีอะไรจะถามหลายอย่าง...แต่แม่งถามแล้ว...เมิงไม่เคยตอบ...หรือเมิงไง่ตอบไม่ได้ว่ะ....ต้องขอภัยทุกท่านที่ใช่คำไม่สุภาพ...แต่คุยกับไอหมอนี้คุยด้วยเหตุผล...มันไม่ฟังหรอก....ต้องคุยด้วยภาษาชั้นต่ำๆๆ.....คนต่ำๆอย่ามันสักวันมันคงโดนเหมือนพระเทวทัต....อ่อไม่ต้องหว่างหรอกว่าที่กูว่าเมิงแล้วกูจะบาป...เพราะอย่าไงชะกูด่าสัตว์เดรฉานยังบาปมากกว่าด่าคนอย่างเมิงเลย.... ![]() ![]() พี่มืดด่าใครหรา ![]() อยู่กับความมืด เขียน: ด่วนๆๆๆต้องการเต้นเอาปฏิบัติธรรมที่เขาใหญ่ ผู้ใดมีจิตศรัทธาจะถวายติดต่อที่เบอร์ 0823484571.... ![]() ![]() เป็นพระจะเอ๊าเต็นไปทำอะหยังก้า! จะเอาไปกางนอนกินลมชมวิวหรืองัย อ้างว่าจะปฏิบัติธรรมก็เอามุ้งเอากลดไปก็พอ ไปเอาที่วัดโน้นเยอะแยะไป ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ไปขอเทศบาลก็ได้ อย่ามาเรี่ยไรในนี้ มันผิดกฎหมายเขาห้ามพระเรี่ยไรไม่รู้เหรอ ผิดพระวินัยเอาเรื่องไม่ได้ ผิดกฎหมายเอาเรื่องได้นะ จะบอกให้ แนะนำให้สึกออกมาทำงานพอได้ค่าเต็นแล้วค่อยไปบวชต่อก็ไม่เชื่อ ![]() รายละเอียดสินค้า ปัญหา หนึ่งของการใช้กลดก็คือ ต้องมีต้นไม้อยู่ใกล้ๆให้ขึงเชือกได้ หากเป็นที่โล่งอาจจะกางกลดได้ลำบาก สูนย์บริขารธุดงค์จึงหาทางออกนี้ด้วยการออกแบบ เต็นท์โดม วิปัสนา โครงไฟเบอร์ขึ้นมา เต็นท์แบบนี้ไม่ต้องปักเสา แบบเต็นท์สามเหลี่ยม จึงสามารถกางได้บนพื้นปูนได้ ด้วยโครงที่เป็นไฟเบอร์ทำให้น้ำหนักเบา พกพาพาสะดวก มีประตูขนาดใหญ่2ประตู2สองหน้าต่าง ระบายอากาศได้ดี สามารถกันฝนได้ถึง2,000มิลลิเมตรนอกจากนี้ที่ประตูทั้ง2ด้านยังมีกันสาดยื่นออกมาสำหรับนั่งฉันอาหาร เต็นท์โดมวิปัสนาใหญ่มีขนาด 150x210x1560ซ.ม ราคา3,000บาท http://www.toodong.com/product/13020/เต็นท์โดม-วิปัสนา-ใหญ่.html |
เจ้าของ: | อยู่กับความมืด [ 11 เม.ย. 2012, 07:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
เรานี้เป็นพระที่แย่จิงๆจากบ้านมาก้นานจะกลับไปเยือมก้ไม่มีค่ารถ จะออกธุดงก็ไม่มีปัจจัยซื้อบริขาร มีท่านใดจิตศรัทธาจะมาถวายเราไหมเนี่ย...... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | โฮฮับ [ 11 เม.ย. 2012, 14:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาบัติปาราชิกยังพอแก้ไขได้ |
อยู่กับความมืด เขียน: [รายละเอียดสินค้า ปัญหา หนึ่งของการใช้กลดก็คือ ต้องมีต้นไม้อยู่ใกล้ๆให้ขึงเชือกได้ หากเป็นที่โล่งอาจจะกางกลดได้ลำบาก สูนย์บริขารธุดงค์จึงหาทางออกนี้ด้วยการออกแบบ เต็นท์โดม วิปัสนา โครงไฟเบอร์ขึ้นมา เต็นท์แบบนี้ไม่ต้องปักเสา แบบเต็นท์สามเหลี่ยม จึงสามารถกางได้บนพื้นปูนได้ ด้วยโครงที่เป็นไฟเบอร์ทำให้น้ำหนักเบา พกพาพาสะดวก มีประตูขนาดใหญ่2ประตู2สองหน้าต่าง ระบายอากาศได้ดี สามารถกันฝนได้ถึง2,000มิลลิเมตรนอกจากนี้ที่ประตูทั้ง2ด้านยังมีกันสาดยื่นออกมาสำหรับนั่งฉันอาหาร เต็นท์โดมวิปัสนาใหญ่มีขนาด 150x210x1560ซ.ม ราคา3,000บาท http://www.toodong.com/product/13020/เต็นท์โดม-วิปัสนา-ใหญ่.html พี่มืดนี่ไม่รู้เรื่องเลย เขามีเหล็กตะขอไว้ยึดกับพื้นดิน แล้วเอาเชือกที่ผูกกลดขึงกับตะขอ ไปธุดงค์นะไม่ใช่ไปปิกนิก จะเอาแต่สะดวกสบาย ธุดงค์ประสาอะไรไปอยู่บนพื้นปูน แล้วเขาห้ามเข้าชายคาบ้านหรืออาคารรู้หรือเปล่า จะขี้จะเยี่ยว(ขอโทษ) จะอุจาระปัสสาวะ ก็ต้องไปชายทุ่งชายป่าห้ามเข้าส้วม เราว่ามันชักจะไปกันใหญ่แล้ว อะไรกันนี่ มีศูนย์บริการธุดงค์ด้วย อยากจะบ้าตายกับพี่มืดจริงๆ ![]() อยู่กับความมืด เขียน: เรานี้เป็นพระที่แย่จิงๆจากบ้านมาก้นานจะกลับไปเยือมก้ไม่มีค่ารถ จะออกธุดงก็ไม่มีปัจจัยซื้อบริขาร มีท่านใดจิตศรัทธาจะมาถวายเราไหมเนี่ย...... ![]() ![]() ตาเอี่ยม วัดไร่ขิง ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |