ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
หาใจให้เจอ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=41701 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 08 เม.ย. 2012, 08:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | หาใจให้เจอ |
หาใจให้เจอ ดีกว่าเที่ยวหาวัตถุ "สิ่งอันประเสริฐที่มีอยู่เฉพาะหน้าแล้วไม่สนใจ กลับไปหวังไกลถึงสิ่งที่เป็นเพียงการกล่าวถึง เป็นลักษณะของคนไม่เอาไหนเลย... ก็ในเมื่อมรรคผลนิพพานในศาสนาสมณโคดมในปัจจุบันนี้ ยังมีอยู่อย่างสมบูรณ์ กลับเหลวไหลไม่สนใจ เมื่อถึงศาสนาพระศรีอาริย์ก็ยิ่งเหลวไหลมากกว่านี้อีก" "คนเราทุกวันนี้ เป็นทุกข์เพราะความคิด" ครูบาอาจารย์ที่มีคุณธรรมท่านกล่าวไว้ดีแล้ว ก็ควรน้อมนำมาใส่ตน เพื่อสับเปลียนพฤติกรรมที่เลวทรามภายในตนให้หมดไปก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อเปลียนพฤติกรรมภายในตนได้แล้วดีแล้ว ย่อมจะเห็นผู้อื่นหรือสิ่งอื่นดีหมด ที่เป็นทุกข์กันทุกวันนี้เพราะภายในมันเสีย ทำให้มองดูภายนอกเสียไปด้วย เพราะเหตุว่าภายในมันเสียนั่นเอง รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ อันจะต้องกระทบและสัมผัสกับทวารทั้งทั้ง 6 ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มีทั้งดีและไม่ดี ตามผลของกรรมที่กระทำไว้ในอดีต ที่ส่งผลมาเป็นปัจจุบัน อาจถามว่าแก้อย่างไร ก็ขอบอกว่าแก้ที่จิตที่ขณะกระทบกับ รูปารมณ์ สัททารมณ์ คัณทารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ ธรรมารมณ์ เหล่านี้เท่านั้น (ไม่ต้องมุ่งหวังจะต้องไปแก้กันที่คน) บางคนอาจหยิบยืมคำสอนของครูบาอาจารย์เที่ยวยื่นให้ผู้อื่นทำดี ก็มุ่งหวังว่าจิตใจเราจะได้ดีไปด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับแก้ที่ สิ่งภายนอกที่จะมากระทบกับจิตเพื่อให้จิตเรารับแต่สิ่งดีๆ เพื่อเป็นที่ชอบใจของกิเลสตัณหาภายในนั่นเอง เมื่อถูกใจกิเลสตัณหาก็ยิ่งทวีมากขึ้น "เราจะลดหรือเราจะเพิ่ม" เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้ศึกษามาจึงเห็นประโยชน์ นำมาประยุกต์ใช้กับปัจจุบันได้อย่างมีความสุข เมื่อปัจจุบันดี อนาคตก็ย่อมดี ไม่ต้องคำนึงถึงอดีตมันเป็นสิ่งที่ปวดร้าวเสียมากกว่า มิหนำซ้ำก็ยังแก้ไขก็ไม่ได้ด้วย |
เจ้าของ: | นายฏีกาน้อย [ 08 เม.ย. 2012, 17:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หาใจให้เจอ |
อนุโมทนาสาธุโยมลุงหมาน ^^ |
เจ้าของ: | ขณะจิต [ 08 เม.ย. 2012, 18:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หาใจให้เจอ |
![]() ใจเป็นผู้รู้ทุกข์ จิตจึงต้องแสวงหาทางดับทุกข์ ไม่ว่าคนชาติใดก็ต้องทุกข์ เพราะเราเป็นผู้ไม่ปรารถนาความทุกข์ แม้เราเกิดในศาสนาอื่น ก็คงหาทางดับทุกข์ตามแนวทางของศาสนานั้นๆ แต่เป็นความประเสริฐที่เราเกิดเป็นชาวพุทธ จึงขอดับตามวิถีพุทธ ถ้าถามว่าจะดับเมื่อไรนั้น ก็ขอตอบว่า ดับในทุกข์ขณะที่ทุกข์เกิด ไม่ใช่ไปดับในวัดในวาหรืออนาคตกาลข้างหน้าโน้น เมื่อดับไปๆดูไป จึงรู้ว่าทุกข์มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา คิดผิดเป็นทุกข์ คิดถูกจึงไม่ทุกข์ เมื่อไม่ทุกข์จึงเป็นสิ่งที่เราเรียกว่าสุข ที่จริงแล้วคือความไม่ทุกข์ แต่ความทุกข์ของกาย-ใจ รูปนาม ก็เป็นความทุกข์ของมัน เป็นสภาพธรรมธรรมดาตามกฏอิทัปปัจจยตาแห่งสังขาร เป็นสภาวะธรรมดาของสังขาร ที่อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เมื่อยังเกิดอยู่ เกาะเกี่ยวกับสังขารอยู่ย่อมทุกข์อยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สภาพนั้นคือสภาพธรรมดาแห่งสังขาร จนกว่าจะละความเห็นผิดว่าสังขาร(กาย-ใจ)เป็นตนแล้ว ออกจากความยึดถือในสังขารแล้ว สลัดคืนแล้วซึ่งธรรมชาติแห่งความยึดถือนั้น ก็ถึงภาวะแห่งวิสังขาร ที่ปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้อีกต่อไปนั่นแหละ จึงถึงที่สุดกัน ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 21 พ.ค. 2018, 17:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หาใจให้เจอ |
หาใจให้เจอ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |