วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 08:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 74 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2012, 22:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2012, 23:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
การได้พบกัลยาณมิตรหรือบัณฑิตผู้รู้จริงถึงจริงแล้วได้รับความรู้ที่ถูกต้องแท้จริงจากท่านมาลงมือประพฤติปฏิบัติด้วยวิริยะ อุตสาหะอย่างเยี่ยมยอด ย่อมจะทำให้ได้ถึงธรรมบรรลุธรรมอย่างรวดเร็ว

พึงดูตัวอย่างท่านอุปติสสะ ตอนพบพระอัสชิ

ท่านพาหิยะ ที่รบเร้าขอเข้าเฝ้าพระมหากัลยาณมิตร พระมหาบัณฑิตในเวลาอันจวนแจ
:b8:

tongue อันนี้เกจเลยเจ้าค่ะ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2012, 23:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:

คุณพี่อยากรู้มั้ยว่า ทำไมคุนน้องตัดกิเลส จาก รัก โลภ โกรธ ลง ให้เบาบางลงได้ เพราะชะตากรรมชีวิตคุนน้องเองค่ะ เค้าคงลิขิตใว้แล้ว สามีคุนน้องรถคว่ำเสียชีวิตค่ะ...เพราะเกิดมาชะตาอาภัพแต่เด็กเป็นปัจจัย
ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย เราก็ไม่เจอความจริง ที่เรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เจ้าค่ะ :b8:
ปล.ตอนนี้ครองตัวเป็นโสด หมดสิ้นกาม ราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้ามเลยเจ้าค่ะ แต่ ต่อไปก็ไม่รู้นะเจ้าค่ะตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ กิเลศ มันผุดขึ้นในใจได้ทุกเมื่อ เราจึงต้องอยู่ในความไม่ประมาทจะดีที่สุด :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 05:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จำชื่อเพลง จำชื่อคนร้องไม่ได้ แต่จำเนื้อได้ท่อนนึง "ตัดกิเลส เหลือ แต่ ตัณหา ไม่ปรารถนาสิ่งใด" :b10: :b14: :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 09:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปลายทางของความอยากบรรลุอยู่ที่ไหน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 11:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:


คะ คุณ bbby สมัยที่พระสิทธัตถะ ยังไม่ทรงออกผนวช พระองค์ก็เป็นคนธรรมดานี่แหละค่ะ
ยังทรงตรสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้เลย คนธรรมดาอย่างเราแค่เรียนรู้จากพระองค์อีกที คงจะพอเข้าใจ
ได้บ้างแหละนะคะ เรื่องการบรรลุธรรมก็เช่นกัน ดิฉันเชื่อว่าไม่มีพระอาจารย์ท่านใดสามารถเข้าใจ
ธรรมได้หมดรู้แจ้งแทงตลอดทุกเรื่องจนจบสิ้นกระบวนธรรม คงจะบรรลุเป็นเรื่องๆ ไปน่ะค่ะ

คำอธิบาย: "คนธรรมดา" คนที่เกิดมาอยู่ในสภาวะ และ สถานะของมนุษย์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องศักดินานะคะ


แก้ไขล่าสุดโดย หญิงไทย เมื่อ 08 เม.ย. 2012, 11:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


หญิงไทย เขียน:
bbby เขียน:
สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:


คะ คุณ bbby สมัยที่พระสิทธัตถะ ยังไม่ทรงออกผนวช พระองค์ก็เป็นปุถุชนคนธรรมดานี่แหละค่ะ
ยังทรงตรสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้เลย คนธรรมดาอย่างเราแค่เรียนรู้จากพระองค์อีกที คงจะพอเข้าใจ
ได้บ้างแหละนะคะ เรื่องการบรรลุธรรมก็เช่นกัน ดิฉันเชื่อว่าไม่มีพระอาจารย์ท่านใดสามารถเข้าใจ
ธรรมได้หมดรู้แจ้งแทงตลอดทุกเรื่องจนจบสิ้นกระบวนธรรม คงจะบรรลุเป็นเรื่องๆ ไปน่ะค่ะ

เจ้าชายสิทธัตถะบารมีเยอะเจ้าค่ะ เพราะชาติก่อนเกิดเป็นพระเวสสันดร บริจาคทาน (บารมี 30ทัศ) พระเวสสันดรเลยเป็นพระโพธิสัตย์ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 12:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
bbby เขียน:
สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:

คุณพี่อยากรู้มั้ยว่า ทำไมคุนน้องตัดกิเลส จาก รัก โลภ โกรธ ลง ให้เบาบางลงได้ เพราะชะตากรรมชีวิตคุนน้องเองค่ะ เค้าคงลิขิตใว้แล้ว สามีคุนน้องรถคว่ำเสียชีวิตค่ะ...เพราะเกิดมาชะตาอาภัพแต่เด็กเป็นปัจจัย
ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย เราก็ไม่เจอความจริง ที่เรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เจ้าค่ะ :b8:
ปล.ตอนนี้ครองตัวเป็นโสด หมดสิ้นกาม ราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้ามเลยเจ้าค่ะ แต่ ต่อไปก็ไม่รู้นะเจ้าค่ะตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ กิเลศ มันผุดขึ้นในใจได้ทุกเมื่อ เราจึงต้องอยู่ในความไม่ประมาทจะดีที่สุด :b16:

สวัสดีครับคุณ nongkong :b8:
ขอผมทักอะไรคุณ nongkong สักหน่อยนะครับ....ที่บอกว่าสิ้นกามราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้าม...ตรงนี้พิจารณาให้ดีๆนะครับ...กามราคะมันก็มีหลายอย่างอยู่นะครับ...แต่เมื่อดับมันดับพร้อมกันหมดนะครับ...แต่ถ้ายังมีตัวไหนที่ยังไม่ดับอยู่...ก็แสดงว่ามันยังไม่ได้ดับจริงซักตัว...เราแค่ข่มมันไว้ต่างหากครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 13:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
nongkong เขียน:
bbby เขียน:
สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:

คุณพี่อยากรู้มั้ยว่า ทำไมคุนน้องตัดกิเลส จาก รัก โลภ โกรธ ลง ให้เบาบางลงได้ เพราะชะตากรรมชีวิตคุนน้องเองค่ะ เค้าคงลิขิตใว้แล้ว สามีคุนน้องรถคว่ำเสียชีวิตค่ะ...เพราะเกิดมาชะตาอาภัพแต่เด็กเป็นปัจจัย
ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย เราก็ไม่เจอความจริง ที่เรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เจ้าค่ะ :b8:
ปล.ตอนนี้ครองตัวเป็นโสด หมดสิ้นกาม ราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้ามเลยเจ้าค่ะ แต่ ต่อไปก็ไม่รู้นะเจ้าค่ะตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ กิเลศ มันผุดขึ้นในใจได้ทุกเมื่อ เราจึงต้องอยู่ในความไม่ประมาทจะดีที่สุด :b16:

สวัสดีครับคุณ nongkong :b8:
ขอผมทักอะไรคุณ nongkong สักหน่อยนะครับ....ที่บอกว่าสิ้นกามราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้าม...ตรงนี้พิจารณาให้ดีๆนะครับ...กามราคะมันก็มีหลายอย่างอยู่นะครับ...แต่เมื่อดับมันดับพร้อมกันหมดนะครับ...แต่ถ้ายังมีตัวไหนที่ยังไม่ดับอยู่...ก็แสดงว่ามันยังไม่ได้ดับจริงซักตัว...เราแค่ข่มมันไว้ต่างหากครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

อ่านดีๆ ดิฉันบอกว่า รัก โลภ โกรธ หลง เบาบาง แต่ไม่มีความอยากในกาม ราคะ ซึ่ง คนที่เข้าถึงแก่นธรรมพูดแค่นี้ก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าหมายความว่าอะไร อุตส่า ปล. คือไม่มีความร้สึกทางเพศ ไม่อยากเพราะอะไรก็รู้ได้ด้วยปัตจัตตังของตน เพราะคนที่รักไปสู่สุขคติแล้ว เข้าใจป่าวเจ้าคะ ท่านลูกพระป่า ที่ท่านมะเข้าใจเพราะท่านยังไม่เข้าถึงธรรมปกิจสุปปบาท คนที่ตัดกิเลศได้หมดคือ พระอรหันต์เจ้าค่ะ คุนลูกพระป่า :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 13:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
nongkong เขียน:
bbby เขียน:
สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:

คุณพี่อยากรู้มั้ยว่า ทำไมคุนน้องตัดกิเลส จาก รัก โลภ โกรธ ลง ให้เบาบางลงได้ เพราะชะตากรรมชีวิตคุนน้องเองค่ะ เค้าคงลิขิตใว้แล้ว สามีคุนน้องรถคว่ำเสียชีวิตค่ะ...เพราะเกิดมาชะตาอาภัพแต่เด็กเป็นปัจจัย
ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย เราก็ไม่เจอความจริง ที่เรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เจ้าค่ะ :b8:
ปล.ตอนนี้ครองตัวเป็นโสด หมดสิ้นกาม ราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้ามเลยเจ้าค่ะ แต่ ต่อไปก็ไม่รู้นะเจ้าค่ะตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ กิเลศ มันผุดขึ้นในใจได้ทุกเมื่อ เราจึงต้องอยู่ในความไม่ประมาทจะดีที่สุด :b16:

สวัสดีครับคุณ nongkong :b8:
ขอผมทักอะไรคุณ nongkong สักหน่อยนะครับ....ที่บอกว่าสิ้นกามราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้าม...ตรงนี้พิจารณาให้ดีๆนะครับ...กามราคะมันก็มีหลายอย่างอยู่นะครับ...แต่เมื่อดับมันดับพร้อมกันหมดนะครับ...แต่ถ้ายังมีตัวไหนที่ยังไม่ดับอยู่...ก็แสดงว่ามันยังไม่ได้ดับจริงซักตัว...เราแค่ข่มมันไว้ต่างหากครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

อ่านดีๆ ดิฉันบอกว่า รัก โลภ โกรธ หลง เบาบาง แต่ไม่มีความอยากในกาม ราคะ ซึ่ง คนที่เข้าถึงแก่นธรรมพูดแค่นี้ก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าหมายความว่าอะไร อุตส่า ปล. คือไม่มีความร้สึกทางเพศ ไม่อยากเพราะอะไรก็รู้ได้ด้วยปัตจัตตังของตน เพราะคนที่รักไปสู่สุขคติแล้ว เข้าใจป่าวเจ้าคะ ท่านลูกพระป่า ที่ท่านมะเข้าใจเพราะท่านยังไม่เข้าถึงธรรมปกิจสุปปบาท คนที่ตัดกิเลศได้หมดคือ พระอรหันต์เจ้าค่ะ คุนลูกพระป่า :b32:

สวัสดีครับคุณ nongkong :b8:
ต้องขออภัยที่ผมไม่เข้าใจความหมายที่คุณต้องการจะสื่อก่อนหน้านี้...เพราะตัวหนังสือที่คุณเขียนมันไม่ได้บอกว่า กามราคะเบาบาง แต่คุณเขียนว่า หมดสิ้นกามราคะ...คุณไม่ได้เขียนว่าไม่มีความรู้สึกทางเพศ แต่คุณเขียนว่า ไม่สนใจเพศตรงข้าม...มันเหมือนจะคล้ายๆกันแต่มันหมายความต่างกันมากเลยนะครับ...กามราคะนี้แยกออกมาแล้วมี 5 อย่างนะครับ...เอาเฉพาะส่วนที่หลงกันมากที่สุดคือ รูปราคะนี้ก็ไม่ได้หมายความแค่ความสัมพันธ์หญิงชายแล้ว...จึงได้ทักว่าให้พิจารณา กามราคะของกามคุณ 5 ให้ดีครับ...ผมคงไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้นะครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
nongkong เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
nongkong เขียน:
bbby เขียน:
สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:

คุณพี่อยากรู้มั้ยว่า ทำไมคุนน้องตัดกิเลส จาก รัก โลภ โกรธ ลง ให้เบาบางลงได้ เพราะชะตากรรมชีวิตคุนน้องเองค่ะ เค้าคงลิขิตใว้แล้ว สามีคุนน้องรถคว่ำเสียชีวิตค่ะ...เพราะเกิดมาชะตาอาภัพแต่เด็กเป็นปัจจัย
ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย เราก็ไม่เจอความจริง ที่เรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เจ้าค่ะ :b8:
ปล.ตอนนี้ครองตัวเป็นโสด หมดสิ้นกาม ราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้ามเลยเจ้าค่ะ แต่ ต่อไปก็ไม่รู้นะเจ้าค่ะตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ กิเลศ มันผุดขึ้นในใจได้ทุกเมื่อ เราจึงต้องอยู่ในความไม่ประมาทจะดีที่สุด :b16:

สวัสดีครับคุณ nongkong :b8:
ขอผมทักอะไรคุณ nongkong สักหน่อยนะครับ....ที่บอกว่าสิ้นกามราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้าม...ตรงนี้พิจารณาให้ดีๆนะครับ...กามราคะมันก็มีหลายอย่างอยู่นะครับ...แต่เมื่อดับมันดับพร้อมกันหมดนะครับ...แต่ถ้ายังมีตัวไหนที่ยังไม่ดับอยู่...ก็แสดงว่ามันยังไม่ได้ดับจริงซักตัว...เราแค่ข่มมันไว้ต่างหากครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

อ่านดีๆ ดิฉันบอกว่า รัก โลภ โกรธ หลง เบาบาง แต่ไม่มีความอยากในกาม ราคะ ซึ่ง คนที่เข้าถึงแก่นธรรมพูดแค่นี้ก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าหมายความว่าอะไร อุตส่า ปล. คือไม่มีความร้สึกทางเพศ ไม่อยากเพราะอะไรก็รู้ได้ด้วยปัตจัตตังของตน เพราะคนที่รักไปสู่สุขคติแล้ว เข้าใจป่าวเจ้าคะ ท่านลูกพระป่า ที่ท่านมะเข้าใจเพราะท่านยังไม่เข้าถึงธรรมปกิจสุปปบาท คนที่ตัดกิเลศได้หมดคือ พระอรหันต์เจ้าค่ะ คุนลูกพระป่า :b32:

สวัสดีครับคุณ nongkong :b8:
ต้องขออภัยที่ผมไม่เข้าใจความหมายที่คุณต้องการจะสื่อก่อนหน้านี้...เพราะตัวหนังสือที่คุณเขียนมันไม่ได้บอกว่า กามราคะเบาบาง แต่คุณเขียนว่า หมดสิ้นกามราคะ...คุณไม่ได้เขียนว่าไม่มีความรู้สึกทางเพศ แต่คุณเขียนว่า ไม่สนใจเพศตรงข้าม...มันเหมือนจะคล้ายๆกันแต่มันหมายความต่างกันมากเลยนะครับ...กามราคะนี้แยกออกมาแล้วมี 5 อย่างนะครับ...เอาเฉพาะส่วนที่หลงกันมากที่สุดคือ รูปราคะนี้ก็ไม่ได้หมายความแค่ความสัมพันธ์หญิงชายแล้ว...จึงได้ทักว่าให้พิจารณา กามราคะของกามคุณ 5 ให้ดีครับ...ผมคงไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้นะครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

:b8: เจ้าค่ะ ดิฉันก็อธิบายแบบคร่าวๆเลยทำให้ตีความหมายผิด เพราะไม่ค่อยได้เปิดตำรา เน้นปฏิบัติเลยยังไม่เข้าถึงปริญัติ พูดง่ายๆคือไม่มีความรู้สึกอะไรต่อเพศตรงข้ามเลยปล่อยวาง คืออันนี้พิจารณาขันธ์5แล้วหมดอารมณ์หมดความอยากต่อรูปลักษณ์เพราะดิฉันเข้าใจธรรมชาติที่เรียกว่าไตรลักษณืแล้วเจ้าค่ะ ขออภัยเจ้าค่ะท่านลูกพระป่าที่ทำให้เข้าใจผิด tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
nongkong เขียน:
bbby เขียน:
สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:

คุณพี่อยากรู้มั้ยว่า ทำไมคุนน้องตัดกิเลส จาก รัก โลภ โกรธ ลง ให้เบาบางลงได้ เพราะชะตากรรมชีวิตคุนน้องเองค่ะ เค้าคงลิขิตใว้แล้ว สามีคุนน้องรถคว่ำเสียชีวิตค่ะ...เพราะเกิดมาชะตาอาภัพแต่เด็กเป็นปัจจัย
ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย เราก็ไม่เจอความจริง ที่เรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เจ้าค่ะ :b8:
ปล.ตอนนี้ครองตัวเป็นโสด หมดสิ้นกาม ราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้ามเลยเจ้าค่ะ แต่ ต่อไปก็ไม่รู้นะเจ้าค่ะตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ กิเลศ มันผุดขึ้นในใจได้ทุกเมื่อ เราจึงต้องอยู่ในความไม่ประมาทจะดีที่สุด :b16:

สวัสดีครับคุณ nongkong :b8:
ขอผมทักอะไรคุณ nongkong สักหน่อยนะครับ....ที่บอกว่าสิ้นกามราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้าม...ตรงนี้พิจารณาให้ดีๆนะครับ...กามราคะมันก็มีหลายอย่างอยู่นะครับ...แต่เมื่อดับมันดับพร้อมกันหมดนะครับ...แต่ถ้ายังมีตัวไหนที่ยังไม่ดับอยู่...ก็แสดงว่ามันยังไม่ได้ดับจริงซักตัว...เราแค่ข่มมันไว้ต่างหากครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

อ่านดีๆ ดิฉันบอกว่า รัก โลภ โกรธ หลง เบาบาง แต่ไม่มีความอยากในกาม ราคะ ซึ่ง คนที่เข้าถึงแก่นธรรมพูดแค่นี้ก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าหมายความว่าอะไร อุตส่า ปล. คือไม่มีความร้สึกทางเพศ ไม่อยากเพราะอะไรก็รู้ได้ด้วยปัตจัตตังของตน เพราะคนที่รักไปสู่สุขคติแล้ว เข้าใจป่าวเจ้าคะ ท่านลูกพระป่า ที่ท่านมะเข้าใจเพราะท่านยังไม่เข้าถึงธรรมปกิจสุปปบาท คนที่ตัดกิเลศได้หมดคือ พระอรหันต์เจ้าค่ะ คุนลูกพระป่า :b32:


คงจะอายุเลย ๕๕ ปีแล้วกระมัง หรือไม่ก็โม้ซะไม่มี อิ อิ อิ
อนึ่ง พระอรห้นต์ ไม่ได้ตัดกิเลสขอรับ แต่ขจัดกิเลสขอรับ เพราะตราบใดที่ยังอยู่บนโลกมนุษย์ กิเลสย่อมเกิดในตัวได้ตลอดเวลา ด้วยเหตุที่กิเลสสามารถเกิดขึ้นได้นั่นแหละ บุคคลผู้บรรลุธรรมตั้งแต่ชั้น โสดาบันเป้นต้นไป ก็จะปรากฏ ฉัพพรรณรังสี เพราะการขจัดกิเลส ก็คือ การขับดันเอา คลื่นความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ตั้งแต่ชั้นหยาบ ไม่จนถึงชั้นละเอียดออกจากร่างกาย และด้วยเหตุที่ คลื่นความคิด อารมณ์ ความรู้สึก เป็นคลื่นไฟฟ้า เวลาขับดันออกมา หรือขจัดออกจากร่างกายจึงเปล่งเป็นแสงสีแตกต่างกันไป ทางพุทธศาสนาเรียกว่า ฉัพพรรณรังสี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 20:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
nongkong เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
nongkong เขียน:
bbby เขียน:
สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้นั้นสะสมมาหลายชาติค่ะ
แล้วปถุชนคนที่ยังอยู่ในโลกของกิเลส-ตัณหา จะมีด้วยเหรอค่ะ ที่จะบรรลุธรรมได้
ขนาดตัดกิเลสรัก-โลภ-โกรธ-หลงนี่ยังยากเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b43:

คุณพี่อยากรู้มั้ยว่า ทำไมคุนน้องตัดกิเลส จาก รัก โลภ โกรธ ลง ให้เบาบางลงได้ เพราะชะตากรรมชีวิตคุนน้องเองค่ะ เค้าคงลิขิตใว้แล้ว สามีคุนน้องรถคว่ำเสียชีวิตค่ะ...เพราะเกิดมาชะตาอาภัพแต่เด็กเป็นปัจจัย
ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย เราก็ไม่เจอความจริง ที่เรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เจ้าค่ะ :b8:
ปล.ตอนนี้ครองตัวเป็นโสด หมดสิ้นกาม ราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้ามเลยเจ้าค่ะ แต่ ต่อไปก็ไม่รู้นะเจ้าค่ะตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ กิเลศ มันผุดขึ้นในใจได้ทุกเมื่อ เราจึงต้องอยู่ในความไม่ประมาทจะดีที่สุด :b16:

สวัสดีครับคุณ nongkong :b8:
ขอผมทักอะไรคุณ nongkong สักหน่อยนะครับ....ที่บอกว่าสิ้นกามราคะ ไม่สนใจเพศตรงข้าม...ตรงนี้พิจารณาให้ดีๆนะครับ...กามราคะมันก็มีหลายอย่างอยู่นะครับ...แต่เมื่อดับมันดับพร้อมกันหมดนะครับ...แต่ถ้ายังมีตัวไหนที่ยังไม่ดับอยู่...ก็แสดงว่ามันยังไม่ได้ดับจริงซักตัว...เราแค่ข่มมันไว้ต่างหากครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

อ่านดีๆ ดิฉันบอกว่า รัก โลภ โกรธ หลง เบาบาง แต่ไม่มีความอยากในกาม ราคะ ซึ่ง คนที่เข้าถึงแก่นธรรมพูดแค่นี้ก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าหมายความว่าอะไร อุตส่า ปล. คือไม่มีความร้สึกทางเพศ ไม่อยากเพราะอะไรก็รู้ได้ด้วยปัตจัตตังของตน เพราะคนที่รักไปสู่สุขคติแล้ว เข้าใจป่าวเจ้าคะ ท่านลูกพระป่า ที่ท่านมะเข้าใจเพราะท่านยังไม่เข้าถึงธรรมปกิจสุปปบาท คนที่ตัดกิเลศได้หมดคือ พระอรหันต์เจ้าค่ะ คุนลูกพระป่า :b32:


คงจะอายุเลย ๕๕ ปีแล้วกระมัง หรือไม่ก็โม้ซะไม่มี อิ อิ อิ
อนึ่ง พระอรห้นต์ ไม่ได้ตัดกิเลสขอรับ แต่ขจัดกิเลสขอรับ เพราะตราบใดที่ยังอยู่บนโลกมนุษย์ กิเลสย่อมเกิดในตัวได้ตลอดเวลา ด้วยเหตุที่กิเลสสามารถเกิดขึ้นได้นั่นแหละ บุคคลผู้บรรลุธรรมตั้งแต่ชั้น โสดาบันเป้นต้นไป ก็จะปรากฏ ฉัพพรรณรังสี เพราะการขจัดกิเลส ก็คือ การขับดันเอา คลื่นความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ตั้งแต่ชั้นหยาบ ไม่จนถึงชั้นละเอียดออกจากร่างกาย และด้วยเหตุที่ คลื่นความคิด อารมณ์ ความรู้สึก เป็นคลื่นไฟฟ้า เวลาขับดันออกมา หรือขจัดออกจากร่างกายจึงเปล่งเป็นแสงสีแตกต่างกันไป ทางพุทธศาสนาเรียกว่า ฉัพพรรณรังสี
ดิฉันไม่เข้าใจอ่างง :b10: ปล.ดิฉัน อายุ27 มากล่าวตุ่ว่าดิฉัน55 แล้วดิฉันก็หน้าตาดีเพราะบารีเยอะ :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันยังปฏิบัติมะถึงเลยท่านจ่า เอาไว้ก่อนค่อยเป็นค่อยไป :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2012, 22:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่พี่ sriariya ทักว่าคงอายุเลย 55 ปี คงหมายถึงวัยทอง น่ะครับ :b1: ถ้าคุณ nongkong อายุ 27 เราก็อายุใกล้ๆกันสินะครับ...ดีใจที่เห็นคนวัยใกล้ๆกันหันมาสนใจธรรม..


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 74 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 149 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร