ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=41596
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  พุทธคุณ [ 24 มี.ค. 2012, 22:35 ]
หัวข้อกระทู้:  เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา

รูปภาพ



จำทุยได้ไหมเจ้านาย ทุยเองไง จำได้ไหมว่าครั้งนึงทุยเคยไถนาปลูกข้าวให้เจ้านายและครอบครัวของเจ้านายกิน เจ้านายมีข้าวกิน เอาข้าวไปขาย มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวก็เพราะว่าทุยช่วยเจ้านายปลูกข้าว

ในยามที่เจ้านายเหงา ว้าเหว่ ทุยก็คอยเป็นเพื่อน ปลอบใจพอให้นายได้คลายเหงา ถึงทุยจะพูดไม่ได้ แต่ทุยก็ส่งเสียง มอมอ และส่งสายตามองเจ้านายด้วยความอ่อนโยนเพื่อให้เจ้านายรู้ว่าทุยรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเจ้านายและเป็นทุกข์ไปกับเจ้านายด้วยและสื่อเป็นนัยๆว่าทุยเองก็เห็นใจและเป็นห่วงเจ้านายเช่นกัน

ในยามที่เจ้านายเป็นทุกข์ร้อน ขาดแคลน ไม่มีอาหารพอประทังชีวิต ทุยและเพื่อนๆพวกพ้องของทุย ยอมเสียสละเลือดเนื้อ เอาตัวเองไปให้เขาฆ่า เพื่อนำเงินมาให้เจ้านายได้ใช้จ่ายหรือแม้แต่ยอมเสียสละเนื้อหนังร่ายกายของทุยเองให้เจ้านายได้กินประทังชีวิต

จนกระทั่งวันนี้ที่เจ้านายหลงลืมทุยไป เพราะเจ้านายไปมีกิ๊กใหม่ชื่อน้อง KUBOTA ดาราสาวสวยที่นำเข้าจากเมืองนอก ทำให้เจ้านายไม่รักทุยเหมือนเดิมอีกต่อไป

ทุยมารำพันให้เจ้านายฟังในวันนี้ ทุยไม่ได้ต้องการมาทวงบุญคุณจากเจ้านาย แต่ทุยอยากขอร้องให้เจ้านายโปรดเห็นใจรับเลี้ยงทุยไว้เหมือนเดิมได้มั๊ยนาย อย่าปล่อยให้ทุยและเพื่อนพ้องของทุยต้องสูญพันธ์ไปเลยนะนาย

โปรดอย่าลืมทุยและทอดทิ้งทุยเลยนะนาย คิดถึงทุยบ้างนะนาย ยังไงทุยก็ยังไถนาได้อยู่นะ ถึงจะช้าไปหน่อย แต่ทุยก็ไม่พ่นควันพิษอย่างน้อง KUBOTA เขานะนาย ทุยกินแต่หญ้าริมทาง ริมท้องทุ่ง อุจจาระของทุยก็เป็นปุ๋ยบำรุงพืชได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อปุ๋ยเคมีราคาแพงๆ ที่เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อดินและธรรมชาติทำให้สิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ในดิน ในท้องทุ่งนาตายกันหมด อีกทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ในท้องนาก็ลดลง อาหารก็ขาดแคลนลงเรื่อยๆ ผู้คนแย่งกันกินแย่งกันใช้ เพราะสารพิษในปุ๋ยเคมีที่นายชอบใช้ไงล่ะนาย ส่วนทุยนั้นนายจะเรียกใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้ แถมใช้งานได้ฟรีๆ ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย ไม่เคยดื้อ ไม่เคยเถียงเจ้านายเนื่อยใจ ทำให้เจ้านายมีแต่กำไร ไม่มีขาดทุน เพราะเจ้านายมีต้นทุนและแรงงานอย่างทุยไงล่ะนาย

แต่น้องKUBOTA กินน้ำมันลิตรละตั้งหลายบาท วันหนึ่งๆกินได้ตั้งหลายลิตร น้อง KUBOTA กินจุกว่าทุยตั้งมากมายนะนาย เอาข้าวไปขายก็ขาดทุนเข้าเนื้อ เพราะทุนหมดไปกับค่าอาหารน้อง KUBOTA ซึ่งมีราคาแพงมากๆ แต่กระนั้นถึงทุยจะดียังไง แต่เจ้านายก็ยังตัดใจทิ้งทุยได้ลงคอ แล้วหันไปโอ๋ เอาอกเอาใจน้อง KUBOTA โดยไม่แยแสแม้แต่จะชายหางตามามองทุยเลย ทุกวันนี้พวกพ้องของทุยใกล้สูญพันธ์เต็มที เพราะไม่มีใครต้องการทุยอีกแล้ว ไม่มีใครเหลียวแลทุยอีกแล้ว ฮือๆๆ เจ้านายโปรดอย่าใจร้ายกับทุยเลย ฮือๆๆๆๆ เลี้ยงทุยไว้ดูเล่นก็ยังดีนะนาย


บางครั้งคนเราก็มีสิ่งดีๆ อยู่รอบตัวเรามากมายนะครับ แต่เรากลับมองข้ามไปให้ความสำคัญกับสิ่งใหม่ที่เข้ามากระทบผัสสะ จนทำให้เราหลงระเริงไปชั่วครู่ ชั่วขณะ ถ้าหาทางออกไม่ได้ก็จะติดอยู่ชั่วชีวิต พอมารู้ตัวอีกครั้งว่าเราได้สูญเสียอะไรไปบ้างในระหว่างที่เราหลงระเริงไปนั้น มารู้ตัวอีกทีก็อาจจะสายเกินไปก็ได้นะครับ แต่พระพุทธองค์ทรงดำรัสไว้ว่า ทุกสิ่งนั้น ไม่มีอะไรที่สายเกินไปสำหรับการเริ่มต้น องค์คุลีมาลทำบาปมากมายด้วยความเข้าใจผิด แต่ก็ยังกลับตัวและเริ่มต้นใหม่ องค์คุลีมารยังโชคดีที่ยังมีชีวิต ทำให้มีโอกาศกลับตัว แต่ถ้าหากเราไม่มีโอกาสที่จะมีชีวิตแล้วล่ะ เราจะทำยังไงดีล่ะ

วันนี้เราลองมองสำรวจตัวเองหรือยังว่าเราหลงลืมอะไรไปบ้างหรือเปล่า หากเราหาพบแล้วในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่นี้ เราก็มีโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่ได้นะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดี ราตรีสวัสดิ์ครับ พี่น้องชาวพุทธทั่วประเทศไทย

เจ้าของ:  จางบาง [ 26 มี.ค. 2012, 20:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา

เจ้าทุยยุคใหม่ หากหามาใช้มันคงตายแน่ เพราะเดี๋ยวนี้ไถนาไถไร่กันเป็นคราวละ100ไร่บ้าง
กว่าร้อยบ้าง หย่อนกว่าร้อยนิดหน่อยบ้าง ประชากรยุคใหม่ ทุยทั้งหลายคงไถนาให้ไม่ทัน

เมื่อก่อนเขาทำนาไว้กินกันปีต่อปี เหลือจากกินก็เอาไปขาย
เดี๋ยวนี้ เขาทำนาไว้ขาย เหลือจากขาย ก็เก็บไว้กิน บางบ้านก็ไม่เก็บไว้กิน ขายจนหมด
ได้เงินมาก็ยังไม่พอกิน และต้องซื้อข้าวเขากิน ..

s004

เจ้าของ:  พุทธคุณ [ 28 มี.ค. 2012, 21:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา

จางบาง เขียน:
เจ้าทุยยุคใหม่ หากหามาใช้มันคงตายแน่ เพราะเดี๋ยวนี้ไถนาไถไร่กันเป็นคราวละ100ไร่บ้าง
กว่าร้อยบ้าง หย่อนกว่าร้อยนิดหน่อยบ้าง ประชากรยุคใหม่ ทุยทั้งหลายคงไถนาให้ไม่ทัน

เมื่อก่อนเขาทำนาไว้กินกันปีต่อปี เหลือจากกินก็เอาไปขาย
เดี๋ยวนี้ เขาทำนาไว้ขาย เหลือจากขาย ก็เก็บไว้กิน บางบ้านก็ไม่เก็บไว้กิน ขายจนหมด
ได้เงินมาก็ยังไม่พอกิน และต้องซื้อข้าวเขากิน ..

s004


s005 การเร่งรีบทุกเวลา ทุกนาทีนี่มันเหนื่อยนะครับ โดยเฉพาะยุคนี้เป็นยุคโลกาวิบัติ(ผมพิมพ์ไม่ผิดหรอกครับ) ทุกสิ่งทุกอย่าเป็นเงินเป็นทองไปหมด คุณครับ เคนเห็นชาวนาซื้อข้าวกินหรือเปล่าครับ นี่ขนาดปลูกเอวยังต้องไปซื้อเขากินก็คิดดูว่ายุคนี้มันขาดแคลนขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ มันแคยังไม่ขึงขั้นเหมือนกับประเทศ(จำชื่อไม่ได้ ที่มีแต่คนตัวผอมๆ อดข้าวอดน้ำจนแห้งกรอบเลยน่ะ) เท่านั้นเอง แต่ก็ไม่แน่นะ สมัยนี้ยิ่งขาดแคลนอาหาร ยังมีคนพากันกินทิ้งๆขว้างๆ ก็ไม่แน่ว่าต่อไปอาจ้ป็นอย่างนั้นก็ได้นะ

แต่ก็สงสารควายนะครับ ถ้าใครเคยใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าทุย จะรู้ว่าพวกมันน่ารักแล้วก็นิสัยดีมากๆ เลยครับ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 มี.ค. 2012, 23:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา

ข้าวเปลือก 100 กก. สีมาเป็นข้าวสารได้ 55 กก. โดยประมาณ

หากไปสีโรงสีประจำหมู่บ้าน..หรือ..ตำบล...จะถูกหักข้าวส่วนหนึ่ง...ใจดีก็หัก 1-2 กก....บวกค่าสี..อีก 25 บาท...เหลือข้าวสารหัก ๆ ..53 กก...กับเสียเงินอีก 25 บาท

หากไปเจอ..โรงสีใจร้าย....ก็ถูกหักข้าวสาร 3-5 กก...เหลือข้าวสารหัก ๆ..50 กก....กับเสียเงินค่าสี 25 บาท

หากขายข้าวเปลือก 100 กก. ได้เงิน 2000 บาท...ไปซื้อข้าวสารเกรด A สวย ๆ กิโลละ 36 บาท ได้ข้าว ..55 กก...แถมไม่ต้องเสียค่าสีข้าวอีก 25 บาท

หากชาวนาท่านใดไม่ชอบทานข้าวหอมมะลิ...แต่ชอบทานข้าวขาว...เงิน 2000 บาท ...ไปซื้อข้าวขาวเกรด A สวย ๆ ..กิโลละ..27 บาท....ได้ข้าวสาร 74 กก....และไม่ต้องเสียค่าสีข้าวอีก 25 บาท


ชาวนา...เลยขายข้าวเอาเงินไปซื้อข้าวสาร....กิน... :b12: :b12:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 28 มี.ค. 2012, 23:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา

ถ้าเอาข้าวเปลือก 100 กิโลก มาสีเป็นข้าวกล้อง ก็จะได้ประมาณ 70 กิโล พร้อมด้วยปลายข้าว2 กิโล
ถ้าเจอโรงสีไม่ค่อยเก่ง ก็จะได้ข้าวกล้องประมาณ 68 กิโล
ทานข้าวกล้องกันดีกว่า ไม่ขาดทุนมากกันเท่าไร

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 มี.ค. 2012, 23:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา

ความรู้...ความชำนาญ...และ..ความสามารถ...ฝึกสัตว์...มาไถ่นาได้

ความจริงเป็นเรื่อง...มหัศจรรย์...ต้องหาทางรักษา...ความรู้นี้ใว้...เพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างแท้จริง

ชาวนาที่คลุกคลีอยู่กับวัวกับควาย....เขาจะใช้มันตามกำลังของมัน...ไม่ฝืน...เพราะเขาเลี้ยงมันมากับมือ....มันมีความผูกพัน....การใช้มันไถ่นาจึงไม่ใช่การทรมานสัตว์อย่างที่หลาย ๆ คนอาจจะคิด...

คนมีข้าวกินมีเงินใช้..สมบูรณ์พูนสุข

วัวควาย..ก็กินดีอยู่ดี

มอร์....มอร์.... :b1: :b1:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 มี.ค. 2012, 23:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา

เช่นนั้น เขียน:
ถ้าเอาข้าวเปลือก 100 กิโลก มาสีเป็นข้าวกล้อง ก็จะได้ประมาณ 70 กิโล พร้อมด้วยปลายข้าว2 กิโล
ถ้าเจอโรงสีไม่ค่อยเก่ง ก็จะได้ข้าวกล้องประมาณ 68 กิโล
ทานข้าวกล้องกันดีกว่า ไม่ขาดทุนมากกันเท่าไร


ต้องไปซื้อโรงสี...มาสีเอง...แล้วละ :b16:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 29 มี.ค. 2012, 08:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา

ที่สมมุติหรือบัญญัติเรียกกันว่า "มนุษย์" หรือ "คน" เป็นต้นเนี่ย สภาวะแท้ๆของมันคือธรรมชาติหรือเป็นส่วนหนึ่งในธรรมชาติ

แต่มนุษย์มีเจตนาเป็นต้นซึ่งเป็นนามธรรมที่ซับซ้อนมากๆ จึงทำให้มนุษย์หลงตนคิดไปว่า ตัวเองอยู่เหนือธรรมชาติ จึงพากันทำลายสภาพแวดล้อม เมื่อสภาพแวดล้อมเสียสมดุลธรรมชาตินั้นก็กลับมาทำลายมนุษย์เอง




เจ้าของ:  กิมเฮง บัวขาว [ 29 มี.ค. 2012, 20:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงทุยรำพัน ถึงคืนวันเก่าๆที่ปลายท้องทุ่งนา

onion onion onion

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/