ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เทวดาเตือนภิกษุ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=41326
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  tonnk [ 27 ก.พ. 2012, 20:42 ]
หัวข้อกระทู้:  เทวดาเตือนภิกษุ

วิเวกสูตรที่ ๑
[๗๖๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้-
สมัยหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่ง พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่ง ในแคว้นโกศล
สมัยนั้นแล ภิกษุรูปนั้น พักผ่อนกลางวัน ตรึกอกุศลวิตกลามกอิงอาศัยเรือน ฯ
[๗๖๒] ครั้งนั้น เทวดาที่สิงอยู่ในป่านั้น มีความเอ็นดูใคร่ประโยชน์
แก่ภิกษุนั้น หวังจะให้เธอสลดใจ จึงเข้าไปหาแล้วกล่าวกะเธอด้วยคาถาว่า
ท่านใคร่วิเวก จึงเข้าป่า ส่วนใจของท่านแส่ซ่านไปภายนอก
ท่านเป็นคน จงกำจัดความพอใจในคนเสีย แต่นั้น ท่าน
จักเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความกำหนัด ท่านมีสติ ละ
ความไม่ยินดีเสียได้ เราเตือนให้ท่านระลึกถึงธรรมของ
สัตบุรุษ ธุลีคือกิเลสประดุจบาดาลที่ข้ามได้ยาก ได้แก่ความ
กำหนัดในกามอย่าได้ครอบงำท่านเลย นกที่เปื้อนฝุ่น ย่อม
สลัดธุลีที่แปดเปื้อนให้ตกไป ฉันใด ภิกษุผู้มีเพียร มีสติ
ย่อมสลัดธุลีคือกิเลสที่แปดเปื้อนให้ตกไป ฉันนั้น ดังนี้
ลำดับนั้น ภิกษุนั้นเป็นผู้อันเทวดานั้นเตือนให้สังเวช ถึงซึ่งความสลดใจ
แล้วแล ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 389&Z=6405

อุปัฏฐานสูตรที่ ๒
[๗๖๓] สมัยหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่ง พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่งในแคว้น
โกศล สมัยนั้นแล ภิกษุรูปนั้น ไปนอนหลับในที่พักกลางวัน ฯ
[๗๖๔] ครั้งนั้น เทวดาที่สิงอยู่ในป่านั้น มีความเอ็นดูใคร่ประโยชน์
แก่ภิกษุรูปนั้น หวังจะให้เธอสลดใจจึงเข้าไปหาแล้วได้กล่าวกะเธอด้วยคาถาว่า
ท่านจงลุกขึ้นเถิดภิกษุ ท่านจะต้องการอะไรด้วยความหลับ
ท่านผู้เร่าร้อนด้วยกิเลส อันลูกศรคือตัณหาเสียบแทง ดิ้นรน
อยู่ จะมัวหลับมีประโยชน์อะไร ท่านออกจากเรือนบวชด้วย
ความเป็นผู้ไม่มีเรือนด้วยศรัทธาใด ท่านจงเพิ่มพูนศรัทธานั้น
เถิด อย่าไปสู่อำนาจของความหลับเลย ฯ
[๗๖๕] คนเขลาหมกมุ่นอยู่ในกามารมณ์เหล่าใด กามารมณ์
เหล่านั้น ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ความหลับจะแผดเผาบรรพชิต
ผู้พ้นแล้ว ผู้ไม่เกี่ยวข้องในกามารมณ์ซึ่งยังสัตว์ให้ติดอยู่ได้
อย่างไร เพราะกำจัดฉันทราคะเสียได้ และเพราะก้าวล่วง
อวิชชาเสียได้ ญาณนั้นเป็นของบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ไฉนความ
หลับจะแผดเผาบรรพชิตได้ ความหลับจะแผดเผาบรรพชิต
ผู้ไม่มีโศก ไม่มีความแค้นใจ เพราะทำลายอวิชชาเสียด้วย
วิชชา และเพราะอาสวะสิ้นไปหมดแล้วอย่างไรได้ ความ
หลับจะแผดเผาบรรพชิตผู้ปรารภความเพียร ผู้มีตนอันส่งไป
แล้ว ผู้บากบั่นมั่นเป็นนิตย์ ผู้จำนงพระนิพพานอยู่อย่าง
ไรได้ ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 406&Z=6426

อานันทสูตรที่ ๕
[๗๗๑] สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์ พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่งใน
แคว้นโกศล สมัยนั้นแล ท่านพระอานนท์ เป็นผู้มากไปด้วยการรับแขกฝ่าย
คฤหัสถ์เกินเวลาอยู่ ฯ
[๗๗๒] ครั้งนั้นแล เทวดาผู้สิงอยู่ในแนวป่านั้น มีความเอ็นดู ใคร่
ประโยชน์แก่ท่านพระอานนท์ ใคร่จะให้ท่านสังเวชจึงเข้าไปหาถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว
ได้กล่าวกะท่านด้วยคาถาว่า
ท่านเข้าไปสู่ที่รกคือโคนต้นไม้แล้ว จงใส่ใจถึงพระนิพพาน
โคตมะ ท่านจงเพ่งฌาน อย่าประมาท ถ้อยคำที่สนทนา
ของท่านจักทำอะไรได้ ฯ
ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์ เป็นผู้อันเทวดานั้นให้สังเวช
ถึงซึ่งความสลดใจแล้วแล ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 457&Z=6468

วัชชีปุตตสูตรที่ ๙
[๗๘๓] สมัยหนึ่ง ภิกษุวัชชีบุตรรูปหนึ่ง พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่ง
ใกล้เมืองเวสาลี สมัยนั้นแล วาระแห่งมหรสพตลอดราตรีทั้งปวงย่อมมีในเมือง
เวสาลี ฯ
[๗๘๔] ครั้งนั้นแล ภิกษุนั้นได้ฟังเสียงกึกก้องแห่งดนตรี อันบุคคลตี
และบรรเลงแล้วในเมืองเวสาลี คร่ำครวญอยู่ ได้ภาษิตคาถานี้ในเวลานั้นว่า
เราเป็นคนๆ เดียวอยู่ในป่า ประดุจท่อนไม้ที่เขาทิ้งแล้วในป่า
ฉะนั้น ใครจะเป็นผู้ลามกกว่าเราในราตรีเช่นนี้หนอ ฯ
[๗๘๕] ลำดับนั้น เทวดาผู้สิงอยู่ในแนวป่านั้น มีความเอ็นดู ใคร่
ประโยชน์แก่เธอ ใคร่จะยังเธอให้สลดจึงเข้าไปหาจนถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าว
กะเธอด้วยคาถาว่า
ท่านเป็นคนๆ เดียวเท่านั้นอยู่ในป่า ประดุจท่อนไม้ที่เขาทิ้ง
แล้วในป่าฉะนั้น เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมากย่อม
รักท่าน ประดุจสัตว์นรกรักผู้ที่จะไปสวรรค์ ฉะนั้น ฯ
ลำดับนั้นแล ภิกษุนั้นเป็นผู้อันเทวดาให้สังเวชถึงซึ่งความ
สลดแล้วแล ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 515&Z=6530

เจ้าของ:  คนธรรมดาๆ [ 27 ก.พ. 2012, 21:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เทวดาเตือนภิกษุ

ขอบคุณครับ :b8:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 27 ก.พ. 2012, 21:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เทวดาเตือนภิกษุ

สงสัย...เทวดาท่านเป็นอริยะบุคคล s006

เจ้าของ:  din [ 27 ก.พ. 2012, 22:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เทวดาเตือนภิกษุ

ท่านทำถูกแล้วครับที่นำข้อความมาลงตรงๆ หากว่าขอรบกวนคุณต้นสรุปประเด็นที่ต้องการนำเสนอด้วยครับ เพื่อที่จะได้เกิดการสนทนาธรรมแลกเปลี่ยนกันของท่านต่างๆ เพื่อจะได้เป็นการสนทนาธรรมกันตามการ

เจ้าของ:  tonnk [ 28 ก.พ. 2012, 13:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เทวดาเตือนภิกษุ

din เขียน:
ท่านทำถูกแล้วครับที่นำข้อความมาลงตรงๆ หากว่าขอรบกวนคุณต้นสรุปประเด็นที่ต้องการนำเสนอด้วยครับ เพื่อที่จะได้เกิดการสนทนาธรรมแลกเปลี่ยนกันของท่านต่างๆ เพื่อจะได้เป็นการสนทนาธรรมกันตามการ

ใครๆก็เตือนกันได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์อริยะหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเทวดาที่เป็นอริยะหรือไม่ ก็เตือนกันได้ถ้าการเตือนนั้นชอบธรรมตามกฎตามเกณฑ์ ผู้ที่เตือนนั้นต้องรู้มิใช่เตือนมั่ว หรือมาด้วยอารมณ์อาฆาต

เพราะการกล่าวธรรมจะใช้อารมณ์อาฆาตพยาบาทไม่ได้ การกล่าวธรรมนั้นต้องอาศัยเมตตา. :b48:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/