ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40847 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 21 ม.ค. 2012, 17:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
ผมคิดว่าน่าจะใช้ได้ถ้า สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ เพราะผัสสะ เป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา ( ความรู้สึก ) เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิด ตัณหา ( ความทะยานอยาก ) เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิด อุปาทาน ( ความยึดถือมั่นว่าเป็นตัวตน ของตน ) เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิด ภพ ( ความมีแห่งความรู้สึกว่าเป็นตัวตน ) เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดชาติ ( ความรู้สึกเป็นตัวตนสมบูรณ์ ) และเพราะชาติเป็นปัจจัย จึงเกิดความเห็นแก่ตัว และความทุกข์ต่างๆตามมา ดังนั้นถ้าจะเริ่มดับทุกข์ จึงต้องเริ่มที่ผัสสะ ตามคำกลอนของท่านพุทธทาส ครับ ความทุกข์ เกิดที่จิต เพราะเห็นผิด เรื่องผัสสะ ความทุกข์ จะไม่โผล่ ถ้าไม่โง่ เรื่องผัสสะ ความทุกข์ เกิดไม่ได้ ถ้าเข้าใจ เรื่องผัสสะ ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 ม.ค. 2012, 19:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
แล้วจะพิสูจน์...ความคิดนี้อย่างไรดีละ... เคยลองบ้างรึยัง?...เล่าให้ฟังบ้างซิ เดียวจะมีคนไม่เคยลอง...แต่นึก ๆ เอาจากหลักวิชาการ...เข้ามาบอกว่า...เป็นไปไม่ได้... ฮิ..ฮิ..ฮิ.. ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 21 ม.ค. 2012, 21:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
กบนอกกะลา เขียน: แล้วจะพิสูจน์...ความคิดนี้อย่างไรดีละ... เคยลองบ้างรึยัง?...เล่าให้ฟังบ้างซิ เดียวจะมีคนไม่เคยลอง...แต่นึก ๆ เอาจากหลักวิชาการ...เข้ามาบอกว่า...เป็นไปไม่ได้... ฮิ..ฮิ..ฮิ.. ![]() อิอิ งั๊นเอาวิชาการไปก่อนละกัน Quote Tipitaka: สติสูตร
[๑๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อสติสัมปชัญญะไม่มี หิริและโอตตัปปะ ชื่อว่ามีเหตุอันบุคคลผู้มีสติและสัมปชัญญะวิบัติกำจัดเสียแล้ว เมื่อหิริและ โอตตัปปะไม่มี อินทรียสังวรชื่อว่ามีเหตุอันบุคคลผู้มีหิริและโอตตัปปะวิบัติกำจัด เสียแล้ว เมื่ออินทรียสังวรไม่มี ศีลชื่อว่ามีเหตุอันบุคคลผู้มีอินทรียสังวรวิบัติ กำจัดเสียแล้ว เมื่อศีลไม่มี สัมมาสมาธิชื่อว่ามีเหตุอันบุคคลผู้มีศีลวิบัติกำจัด เสียแล้ว เมื่อสัมมาสมาธิไม่มี ยถาภูตญาณทัสนะชื่อว่ามีเหตุอันบุคคลผู้มีสัมมา- สมาธิวิบัติกำจัดเสียแล้ว เมื่อยถาภูตญาณทัสนะไม่มี นิพพิทาวิราคะชื่อว่ามีเหตุอัน บุคคลผู้มียถาภูตญาณทัสนะวิบัติกำจัดเสียแล้ว เมื่อนิพพิทาวิราคะไม่มี วิมุตติญาณ- ทัสนะ ชื่อว่ามีเหตุอันบุคคลผู้มีนิพพิทาวิราคะวิบัติกำจัดเสียแล้ว เปรียบเหมือน ต้นไม้มีกิ่งและใบวิบัติแล้ว แม้กะเทาะของต้นไม้นั้น ย่อมไม่บริบูรณ์ แม้เปลือก แม้กะพี้ แม้แก่นของต้นไม้นั้นก็ย่อมไม่บริบูรณ์ ฉะนั้น ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อสติสัมปชัญญะมีอยู่ หิริและโอตตัปปะชื่อว่ามี เหตุสมบูรณ์ ย่อมมีแก่บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยสติและสัมปชัญญะ เมื่อหิริและ โอตตัปปะมีอยู่ อินทรียสังวรชื่อว่ามีเหตุสมบูรณ์ ย่อมมีแก่บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วย หิริและโอตตัปปะ เมื่ออินทรียสังวรมีอยู่ ศีลชื่อว่ามีเหตุสมบูรณ์ ย่อมมีแก่ บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยอินทรียสังวร เมื่อศีลมีอยู่ สัมมาสมาธิชื่อว่ามีเหตุสมบูรณ์ ย่อมมีแก่บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยศีล เมื่อสัมมาสมาธิมีอยู่ ยถาภูตญาณทัสนะชื่อว่า มีเหตุสมบูรณ์ ย่อมมีแก่บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยสัมมาสมาธิ เมื่อยถาภูตญาณทัสนะ มีอยู่ นิพพิทาวิราคะชื่อว่ามีเหตุสมบูรณ์ ย่อมมีแก่บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยยถาภูตญาณ- ทัสนะ เมื่อนิพพิทาวิราคะมีอยู่ วิมุตติญาณทัสนะชื่อว่ามีเหตุสมบูรณ์ ย่อมมีแก่ บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยนิพพิทาวิราคะ เปรียบเหมือนต้นไม้ที่มีกิ่งและใบสมบูรณ์ แม้กะเทาะของต้นไม้นั้นก็ย่อมบริบูรณ์ แม้เปลือก แม้กะพี้ แม้แก่นของต้นไม้นั้น ก็ย่อมบริบูรณ์ ฉะนั้น ฯ |
เจ้าของ: | govit2552 [ 21 ม.ค. 2012, 21:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดชาติ ( ความรู้สึกเป็นตัวตนสมบูรณ์ ) และเพราะชาติเป็นปัจจัย จึงเกิดความเห็นแก่ตัว และความทุกข์ต่างๆตามมา เป็นการตีความ เอาเอง เป็น สัทธรรมปฏิรูป เป็น เนื้องอก ที่ต้องตัดทิ้ง ลุกลามไปทั่ว ด้วยสิ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 21 ม.ค. 2012, 21:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
ฝึกจิต เขียน: ผมคิดว่าน่าจะใช้ได้ถ้า สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ ![]() ![]() แค่ สติ มา จริง ๆ ก็แทบจะไม่ต้องเรียกหาอะไร สังเกตดี ๆ แค่ มีสติ กุศลธรรมต่าง ๆ ก็ปรากฎตามมาทันที เรามีความเห็นมาอย่างนั้น มันเป็น automatic ของมันอย่างนั้น ก็คิด ๆ อยู่ว่า น่าจะมี สติสูตร ที่จะชี้นัยไปในลักษณะที่เราเข้าใจ และก็มี จริง ๆ เพราะพอมี สติ ปึ๊ดขึ้นมา สำนึกในธรรมอันเป็นกุศลจะปรากฎตามมา ทุกที (และก็มีความลึกซึ้งไปเป็นลำดับ ๆ เอง) จิต สติ(เจตสิก)นี้ เหมือนเขาไม่ได้เป็นตามใจใคร คือ ถ้าเขาปรากฎ เขาเป็นเช่นนั้น ![]() ![]() ![]() ส่วนกรณี สติใช้ปัญญา น่าจะเป็นการเจริญสัญญา ตามกรณี คิริมานนทสูตร ![]() |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 21 ม.ค. 2012, 21:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
govit2552 เขียน: เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดชาติ ( ความรู้สึกเป็นตัวตนสมบูรณ์ ) และเพราะชาติเป็นปัจจัย จึงเกิดความเห็นแก่ตัว และความทุกข์ต่างๆตามมา เป็นการตีความ เอาเอง เป็น สัทธรรมปฏิรูป เป็น เนื้องอก ที่ต้องตัดทิ้ง ลุกลามไปทั่ว ด้วยสิ คุณโกวิทครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจ ช่วยอธิบายด้วยนะครับ ขอบคุณครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 ม.ค. 2012, 21:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
eragon_joe เขียน: อิอิ งั๊นเอาวิชาการไปก่อนละกัน Quote Tipitaka: สติสูตร ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อสติสัมปชัญญะมีอยู่ หิริและโอตตัปปะชื่อว่ามี เหตุสมบูรณ์ ย่อมมีแก่บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยสติและสัมปชัญญะ เมื่อหิริและ โอตตัปปะมีอยู่ อินทรียสังวรชื่อว่ามีเหตุสมบูรณ์ อะ....จึ้ยยย.... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 ม.ค. 2012, 21:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
ฝึกจิต เขียน: govit2552 เขียน: เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดชาติ ( ความรู้สึกเป็นตัวตนสมบูรณ์ ) และเพราะชาติเป็นปัจจัย จึงเกิดความเห็นแก่ตัว และความทุกข์ต่างๆตามมา เป็นการตีความ เอาเอง เป็น สัทธรรมปฏิรูป เป็น เนื้องอก ที่ต้องตัดทิ้ง ลุกลามไปทั่ว ด้วยสิ คุณโกวิทครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจ ช่วยอธิบายด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ![]() ....( ความรู้สึกเป็นตัวตนสมบูรณ์ ).... ....จึงเกิดความเห็นแก่ตัว .... เป็นต้น... ![]() |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 21 ม.ค. 2012, 22:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
กบนอกกะลา เขียน: แล้วจะพิสูจน์...ความคิดนี้อย่างไรดีละ... เคยลองบ้างรึยัง?...เล่าให้ฟังบ้างซิ เดียวจะมีคนไม่เคยลอง...แต่นึก ๆ เอาจากหลักวิชาการ...เข้ามาบอกว่า...เป็นไปไม่ได้... ฮิ..ฮิ..ฮิ.. ![]() คืออย่างนี้ครับคุณกบ ผมนั่งสมาธิ แล้วพิจารณาเรื่องกามมารมณ์ ที่ผมลดลงได้เยอะแล้ว แต่ไม่หมดสักที(กับภรรยาตัวเองนะครับไม่เคยผิดศิล)โดยใช้หลักไตรลักษณ์ สู่ความไม่ยึดมั่นถือมั่น แต่ก็มีคำถามกลับว่าแล้วถ้าผมโสด มีผู้หญิงอื่น ที่ไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่มีสามี ตัวเปล่า แล้วมามี* กับเราโดยต่างฝ่าย ไม่ยึดมั่นถือมั่นในอีกฝ่าย มันผิดมั้ย เพราะสุดท้ายเราก็ปล่อยวางได้ ไม่มีทุกข์เกิด แถมมีสุขด้วย จึงโทรถามเพือนที่ปฎิบัติทางสาย หลวงพ่อฤษีลิงดำ มานาน ได้คำตอบว่า เพราะตอนมี* จะทำให้ไม่มีสติ สมาธิ และปัญญาในขณะนั้น และ ฌาน ก็กลับเสื่อมถอยลงด้วย จึงได้คำตอบในใจว่า การจะละสิ่งนี้ได้คงต้องมีสติอยู่ใน ปัจจุบันขณะ ตลอดเวลา และจำเรื่องผัสสะได้จึงหาข้อมูลมาจากการฟัง ท่านพุทธทาส และ อ.ท่านอื่น และทดลองปฎิบัติ และผลที่ได้มันได้ผลดีกับทุกๆเรื่อง ทั้งเรื่องกิน กาม เกียรติ และ เกลียด ด้วย (ใช่รวมกับการปล่อยวางที่ใช้กับ อดีตและอนาคต)แต่ที่ทำยากมากคือ ตัวแดงๆ ใหญ่ นั้นแหละครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 ม.ค. 2012, 22:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
eragon_joe เขียน: ฝึกจิต เขียน: ผมคิดว่าน่าจะใช้ได้ถ้า สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ ![]() ![]() แค่ สติ มา จริง ๆ ก็แทบจะไม่ต้องเรียกหาอะไร สังเกตดี ๆ แค่ มีสติ กุศลธรรมต่าง ๆ ก็ปรากฎตามมาทันที เรามีความเห็นมาอย่างนั้น มันเป็น automatic ของมันอย่างนั้น ก็คิด ๆ อยู่ว่า น่าจะมี สติสูตร ที่จะชี้นัยไปในลักษณะที่เราเข้าใจ สติ...ก็ไม่ได้มีอย่างเดียว..มิจฉาก็มี...สัมมาก็มี ในสัมมา...ก็มีคุณภาพไม่เหมือนกัน..มีมหาสติ...อีกเป็นต้น การมีสติใช้ปัญญา...น่าจะเป็นการฝึกหัด...กำหนดว่า..เมื่อไปเจออะไรมาอย่างหนึ่ง...ก็ให้จิตนึกถึงบทธรรมอะไรสักอย่างหนึ่ง... เช่น...เจอคนสวยคนหล่อ...ตั้งจิตให้นึกถึงอสุภะ...ให้ได้ทุกครั้ง... เจอคนหนุ่มคนสาว...ตั้งจิตให้นึกถึงความแก่..ความเจ็บ...ความตาย...ให้ได้ทุกครั้ง ตอนแรก ๆ ...จะเป็นความตั้งใจ...จงใจ...นึกถึงสัญญา...ธรรมดา ๆ แต่หากเมื่อเวลามันเป็นเอง...บทธรรมนั้น ๆ มันจะสอนใจเราได้ลึกซึ้ง...มาก..อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เคยได้ยินมาว่า...คนทั้งคนเดินผ่านมา...พระท่านยังเห็นเป็นแค่โครงกระดูก eragon_joe เขียน: ส่วนกรณี สติใช้ปัญญา น่าจะเป็นการเจริญสัญญา..... ![]() ช่ายยยย...เลย...ตอนมันยังไม่เป็นเอง |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 21 ม.ค. 2012, 22:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
กบนอกกะลา เขียน: eragon_joe เขียน: ฝึกจิต เขียน: ผมคิดว่าน่าจะใช้ได้ถ้า สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ ![]() ![]() แค่ สติ มา จริง ๆ ก็แทบจะไม่ต้องเรียกหาอะไร สังเกตดี ๆ แค่ มีสติ กุศลธรรมต่าง ๆ ก็ปรากฎตามมาทันที เรามีความเห็นมาอย่างนั้น มันเป็น automatic ของมันอย่างนั้น ก็คิด ๆ อยู่ว่า น่าจะมี สติสูตร ที่จะชี้นัยไปในลักษณะที่เราเข้าใจ สติ...ก็ไม่ได้มีอย่างเดียว..มิจฉาก็มี...สัมมาก็มี ในสัมมา...ก็มีคุณภาพไม่เหมือนกัน..มีมหาสติ...อีกเป็นต้น การมีสติใช้ปัญญา...น่าจะเป็นการฝึกหัด...กำหนดว่า..เมื่อไปเจออะไรมาอย่างหนึ่ง...ก็ให้จิตนึกถึงบทธรรมอะไรสักอย่างหนึ่ง... เช่น...เจอคนสวยคนหล่อ...ตั้งจิตให้นึกถึงอสุภะ...ให้ได้ทุกครั้ง... เจอคนหนุ่มคนสาว...ตั้งจิตให้นึกถึงความแก่..ความเจ็บ...ความตาย...ให้ได้ทุกครั้ง ตอนแรก ๆ ...จะเป็นความตั้งใจ...จงใจ...นึกถึงสัญญา...ธรรมดา ๆ แต่หากเมื่อเวลามันเป็นเอง...บทธรรมนั้น ๆ มันจะสอนใจเราได้ลึกซึ้ง...มาก..อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เคยได้ยินมาว่า...คนทั้งคนเดินผ่านมา...พระท่านยังเห็นเป็นแค่โครงกระดูก eragon_joe เขียน: ส่วนกรณี สติใช้ปัญญา น่าจะเป็นการเจริญสัญญา..... ![]() ช่ายยยย...เลย...ตอนมันยังไม่เป็นเอง ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 ม.ค. 2012, 23:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
น้านงั้ย...เอาเข้าแล้ว... ฝึกจิต เขียน: คืออย่างนี้ครับคุณกบ ผมนั่งสมาธิ แล้วพิจารณาเรื่องกามมารมณ์ ที่ผมลดลงได้เยอะแล้ว แต่ไม่หมดสักที(กับภรรยาตัวเองนะครับไม่เคยผิดศิล)โดยใช้หลักไตรลักษณ์ สู่ความไม่ยึดมั่นถือมั่น ตอนมันลด...ดีใจตัวลอย...ตั้งใจจะสอยเจ้าปฏิฆะต่อ พอตอนมันกำเริบ...ทุกข์ใจทุกวันคืน.. ![]() ![]() สมถะ...สมถะ...สมถะ...พอสิ้นฤทธิ...ก็เบ่งบาน กิเลสมันหลอกเรา...นะนี้...มันอ๋อยเหยื่อ...มันว่าเราดีขึ้นนะนี้...มีไปเถอะ...มีไปเถอะ...x กะภรรยาได้...ไม่ผิดศีล.... (มีศีลได้..ก็ให้มีศีลไป...แต่..ไม่มีสมาธิ..ไม่มีปัญญา..ก็ฆ่าเราไม่ได้...มันหัวเร้อ..คิก..คิก..คิก) กิเลสมันจะหลอกเราเป็นขั้น ๆ ให้เราอยู่กับที่ไม่ก้าวต่อ.. อ้างคำพูด: แต่ก็มีคำถามกลับว่าแล้วถ้าผมโสด มีผู้หญิงอื่น ที่ไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่มีสามี ตัวเปล่า แล้วมามี* กับเราโดยต่างฝ่าย ไม่ยึดมั่นถือมั่นในอีกฝ่าย มันผิดมั้ย เพราะสุดท้ายเราก็ปล่อยวางได้ ไม่มีทุกข์เกิด แถมมีสุขด้วย จึงโทรถามเพือนที่ปฎิบัติทางสาย หลวงพ่อฤษีลิงดำ มานาน ได้คำตอบว่า เพราะตอนมี* จะทำให้ไม่มีสติ สมาธิ และปัญญาในขณะนั้น และ ฌาน ก็กลับเสื่อมถอยลงด้วย คนที่ไม่มีคนปกครองเลย..ไม่มีนะจ๊ะ ![]() หากมาในเรื่องสมาธิธรรม....กามราคะเจริญมาก...ทางเข้าสมาธิมันจะแคบลง...เด้อ... มันเป็นเช่นนี้เอง... ![]() อ้างคำพูด: จึงได้คำตอบในใจว่า การจะละสิ่งนี้ได้คงต้องมีสติอยู่ใน ปัจจุบันขณะ ตลอดเวลา จงมีสติ..ปัญญา..รักษาใจ... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 21 ม.ค. 2012, 23:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
กบนอกกะลา เขียน: น้านงั้ย...เอาเข้าแล้ว... ฝึกจิต เขียน: คืออย่างนี้ครับคุณกบ ผมนั่งสมาธิ แล้วพิจารณาเรื่องกามมารมณ์ ที่ผมลดลงได้เยอะแล้ว แต่ไม่หมดสักที(กับภรรยาตัวเองนะครับไม่เคยผิดศิล)โดยใช้หลักไตรลักษณ์ สู่ความไม่ยึดมั่นถือมั่น ตอนมันลด...ดีใจตัวลอย...ตั้งใจจะสอยเจ้าปฏิฆะต่อ พอตอนมันกำเริบ...ทุกข์ใจทุกวันคืน.. ![]() ![]() แต่ผมเฉยๆๆมากกว่าครับ ไม่ได้ดีใจ หรือ เสียใจเลย และผมก็ฝึกไปเรื่อยๆไม่ได้รีบเร่งด้วย หาข้อมูลมาวิเคราะห์ตอนทำสมาธิไปเรื่อยๆจนจะแน่ใจว่ามั่นแน่อยู่ในจิตแล้ว ครับ ได้คำตอบแล้วก็ไม่ได้ยึดไว้ใดๆทั้งสิ้น เพียงต้องกางแผนที่ดูให้แน่ใจว่ามาถูกทางแล้วไปต่อ จบที่ปล่อยว่างทุกสิ่ง รวมทั้งนิพพานก็ปล่อยวางเสีย อย่าเชื่อจนกว่าจะรู้แจ้งแทงตลอดด้วยตนเอง ครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 ม.ค. 2012, 00:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
ฝึกจิต เขียน: กบนอกกะลา เขียน: น้านงั้ย...เอาเข้าแล้ว... ฝึกจิต เขียน: คืออย่างนี้ครับคุณกบ ผมนั่งสมาธิ แล้วพิจารณาเรื่องกามมารมณ์ ที่ผมลดลงได้เยอะแล้ว แต่ไม่หมดสักที(กับภรรยาตัวเองนะครับไม่เคยผิดศิล)โดยใช้หลักไตรลักษณ์ สู่ความไม่ยึดมั่นถือมั่น ตอนมันลด...ดีใจตัวลอย...ตั้งใจจะสอยเจ้าปฏิฆะต่อ พอตอนมันกำเริบ...ทุกข์ใจทุกวันคืน.. ![]() ![]() แต่ผมเฉยๆๆมากกว่าครับ ไม่ได้ดีใจ หรือ เสียใจเลย และผมก็ฝึกไปเรื่อยๆไม่ได้รีบเร่งด้วย หาข้อมูลมาวิเคราะห์ตอนทำสมาธิไปเรื่อยๆจนจะแน่ใจว่ามั่นแน่อยู่ในจิตแล้ว ครับ ได้คำตอบแล้วก็ไม่ได้ยึดไว้ใดๆทั้งสิ้น เพียงต้องกางแผนที่ดูให้แน่ใจว่ามาถูกทางแล้วไปต่อ จบที่ปล่อยว่างทุกสิ่ง รวมทั้งนิพพานก็ปล่อยวางเสีย อย่าเชื่อจนกว่าจะรู้แจ้งแทงตลอดด้วยตนเอง ครับ ผมว่า...ตัวเอง...... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 ม.ค. 2012, 00:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติใช้ปัญญา เอาวิชชาแทรกเข้าผัสสะ |
นอกเรื่องนิดหนึ่ง... ![]() ปล่อยวางนิพพาน... ยังไม่ถึงที่...ก็ให้ถือใว้ก่อนอย่ารีบปล่อย... ไม่งั้นพระท่านคงไม่สอน...อุปสมานุสติกรรมฐาน เมื่อถึงที่แล้วค่อยปล่อย...มันถึงจะเข้าเป้า... ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |